ต้องเริ่มอย่างไร? มือใหม่เรียนภาษาจีน
หนีห่าว! น้อง ๆ ชาวDek-D ทุกคนค่ะ ไหนใครเป็นสาวกซีรีส์บ้างคะ? ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์จีน เกาหลี แต่ถ้าพูดถึงซีรีส์จีน เกาหลี ภาษาที่สามก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ อย่างหนึ่ง สำหรับการทำงาน และเรียนในปัจจุบัน แล้วภาษาที่สามที่น้อง ๆ นึกถึงมีอะไรกันบ้างคะ? วันนี้พี่มีทริคการอ่านภาษาจีน และการเรียนภาษาจีนมาฝากน้อง ๆ กันค่ะ

แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักภาษาจีน เรามาดูกันก่อนว่า ภาษาจีนแตกต่างกับภาษาไทยของเราอย่างไร? ภาษาไทยนั้นมีตัวพยัญชนะ มีตัวสระที่เราสามารถนำมาผสม และสามารถสะกดเพื่อออกเสียงได้ แต่ภาษาจีนจะเป็นคำ ๆ ซึ่งถ้าหากเราไม่คุ้นเคยหรือเคยผ่านตาในคำนั้น ๆ มาเราจะไม่สามารถอ่านหรือรู้ความหมายคำนั้น ๆ ได้ ดังนั้นภาษาจีนจึงมี “พินอิน” เพื่อช่วยในการออกเสียงตัวอักษรจีน

1. รู้จัก “pīnyīn”
พินอินคืออะไร?
พินอิน คือ ระบบการถอดเสียงภาษาจีน พินอินจะถูกเขียนแทนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ และมีสัญลักษณ์แทนเสียงหรือวรรณยุกต์คล้ายกับภาษาไทย เพื่อช่วยถอดเสียงจากคำภาษาจีน และสามารถออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งพินอินยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้ชาวต่างชาติที่เริ่มเรียนภาษาจีนเป็นภาษาที่สองหรือสาม สามารถออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้องมากขึ้น พินอินจะแบ่งเป็นพยัญชนะ และสระ ดังนี้
พยัญชนะ
พยัญชนะจะเหมือนภาษาอังกฤษ แต่ออกเสียงต่างกัน พยัญชนะทั่วไปของภาษาจีนจะมีทั้งหมด 21 ตัว ดังนี้
พยัญชนะกึ่งสระ
พยัญชนะกึ่งสระ มี 2 ตัวดังนี้
สระเดี่ยว
สระเดี่ยวแบ่งเป็น 6 ตัว ดังนี้
สระประสม
สระประสมแบ่งเป็น 30 ตัว ดังนี้
วรรณยุกต์
วรรณยุกต์จะถูกเติมอยู่ด้านบนของสระ เมื่อผู้อ่านพบวรรณยุกต์จะทำให้สามารถออกเสียงคำภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง โดยเสียงของวรรณยุกต์มีดังนี้
เสียง 1 ā เสียงสูงราบ เช่น bā (ปา)
เสียง 2 á เสียงขึ้นสูง เช่น bá (ป๋า)
เสียง 3 ǎ เสียงต่ำแล้วขึ้น เช่น bǎ (ป่า)
เสียง 4 à เสียงลงต่ำ เช่น bà (ป้า)
กฎการออกเสียงวรรณยุกต์
เสียง 3 ǎ
- เสียง 3 อยู่ติดกันทั้ง 2 พยางค์ เราจะเปลี่ยนเสียงพยางค์แรกเป็นเสียง 2
- เสียง 3 อยู่ติดกันทั้ง 3 พยางค์ โดย 2 พยางค์แรกเป็นคำเดียวกัน เราจะเปลี่ยน 2 พยางค์แรกเป็นเสียง 2
- เสียง 3 อยู่ติดกันทั้ง 3 พยางค์ โดยพยางค์ที่ 2-3 เป็นคำเดียวกัน เราจะเปลี่ยนพยางค์ตรงกลางเป็นเสียง 2
น้อง ๆ สามารถฟังการออกเสียงจากพินอินได้ที่นี่
2. จำจีนจากภาพ
ตัวอักษรภาษาจีนดั้งเดิมมักจะมีวิธีการจำเป็นรูปภาพ โดยอิงจากรูปร่างของสิ่งนั้น ๆ ตัวภาษาจีนที่เป็นรูปภาพส่วนมากมักเป็นคำนาม และคำที่สามารถเจอได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เนื่องจากคำนามเป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของภาพได้ง่าย โดยการจำจากภาพจะต้องอาศัยจินตนาการในการช่วยจำ และมองตัวภาษาจีนให้เป็นไปตามภาพนั้น
ตัวอย่าง
- 水 น้ำ
- 木 ต้นไม้
- 山 ภูเขา
- 月 พระจันทร์
- 火 ไฟ
3. รู้จักการผสมคำและส่วนประกอบของภาษาจีน
ภาษาจีนบางตัวจะมีการผสมรวมกันของคำ เพื่อให้ได้เป็นคำใหม่ หรือคำที่มีความหมายไปในทิศทางเดียวกันกับคำที่นำมาประกอบเข้าด้วยกัน ดังนั้นถ้าหากเรารู้ส่วนประกอบของแต่ละคำจะทำให้สามารถเข้าใจที่มาและรากของคำนั้น ๆ
ตัวอย่าง
- (森 ป่า) เป็นการนำคำว่า 木 ที่แปลว่าต้นไม้ มารวมกันเนื่องจากป่า คือสถานที่ที่มีต้นไม้จำนวนมากอยู่รวมกัน
- (您 คุณ, ท่าน) เป็นการนำคำว่า 你 ที่แปลว่าคุณ และ 心 แปลว่าหัวใจ มารวมกัน ใช้พูดคุยกับบุคคลที่เคารพ คนอาวุโสกว่า เปรียบเสมือนว่าอยู่ในใจ
4. ฝึกคัดภาษาจีน
การฝึกคัดตัวอักษรจีนเป็นประจำจะทำให้สามารถจำตัวอักษรจีนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากมีความคุ้นเคย และได้เจอผ่านตาอยู่บ่อยครั้ง โดยการฝึกคัดภาษาจีนจะต้องมีการเขียนตามลำดับขีดของภาษาจีนที่ถูกต้อง ดังนั้นการฝึกทบทวนการการคัดเป็นประจำจึงช่วยให้ทำให้เราคุ้นเคยมากขึ้น และเป็นการจำแบบระยะยาวนั่นเอง และนอกจากช่วยจำแล้วการฝึกคัดยังทำให้เราสามารถสามารถจำส่วนประกอบแยกของคำนั้น ๆ ว่ามีส่วนประกอบของคำใดที่นำมาประกอบกันแล้วได้เป็นคำใหม่
น้อง ๆ สามารถดูลำดับขีดภาษาจีนได้ที่นี่
5. แฟลชการ์ดช่วยจำ
การใช้แฟลชการ์ดในการช่วยจำคำศัพท์ภาษาจีน แฟลชการ์ดจะเป็นกระดาษที่ด้านหน้าจะเป็นคำศัพท์ภาษาจีน ด้านหลังจะเป็นพินอินและคำแปล โดยเราสามารถออกแบบรูปแบบของแฟลชการ์ดได้ตามสะดวก อาจจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ของคำ เช่น หมวดคำนาม หมวดคำกริยา เป็นต้น หรืออาจจะใช้แอปพลิเคชันในการทำแฟลชการ์ดแทนการใช้กระดาษ โดยเราสามารถใช้แฟลชการ์ดได้ทุกที่ และสามารถเปิดทบทวนได้ตลอดเวลา เช่น ขณะนั่งพักเที่ยง หรือนั่งรออาหาร เราสามารถหยิบแฟลชการ์ดขึ้นมาเพื่อทบทวนคำศัพท์ได้ตลอดเวลา
6. ซีรีส์ช่วยฟัง
วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่คนส่วนมากนิยมใช้ในการฝึกภาษา โดยการดูหนังหรือซีรีส์จะช่วยฝึกทักษะในการฟัง ทำให้เราสามารถฝึกการจับใจความโดยอาจเริ่มจากประโยคง่าย ๆ หรือการฝึกออกเสียงตามเจ้าของภาษา เพื่อช่วยให้ออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง เราสามารถเริ่มจากการเลือกซีรีส์เรื่องโปรดมาหนึ่งเรื่อง และลองฝึกฟังโดยอาจจะจับจากคำหรือประโยคพื้นฐานที่สามารถพบได้บ่อย เป็นต้น
10 ประโยค เอาตัวรอดเมื่อเที่ยวจีน!!!
| 1. อันนี้ราคาเท่าไหร่? | 这个要多少钱? | zhège yào duōshǎo qián? |
| 2. อันนี้ลดราคาได้อีกไหม? | 可以打折吗? | kěyǐ dǎzhé ma? |
| 3. ฉันจ่ายด้วยเงินสด | 我用现金支付。 | wǒ yòng xiànjīn zhīfù。 |
| 4. ขอโทษนะคะ สนามบินไปทางไหน? | 请问,飞机场在那里? | Qǐngwèn,fēijī chǎng zài nàlǐ? |
คำศัพท์สำหรับการเดินทาง - สถานีรถไฟ - สถานีรถไฟใต้ดิน - รถเมล์ - แท็กซี่ - ตั๋ว - เลี้ยวซ้าย - เลี้ยวขวา - ตรงไปข้างหน้า |
- 火车站 - 地铁站 - 公共汽车 - 出驻车 - 票 - 往左拐 - 往右拐 - 往前走 |
- huǒchē zhàn - dìtiě zhàn - gōnggòng qìchē - chū zhù chē - piào - wǎng zuǒ guǎi - wǎng yòu guǎi - wǎng qián zǒu |
5. ขอโทษ - ไม่เป็นไร (ใช้เมื่อมีคนขอโทษ) | 对不起 - 没关系 。 | duì bu qǐ。 - méi guānxi。 |
| 6. ฉันเข้าใจแล้ว | 明白了。 | míngbai le。 |
| 7. ฉันจองห้องพักไว้ | 我已经预定了。 | wǒ yǐjīng yùdìngle。 |
| 8. คุณมีห้องว่างไหม? | 你还有空房吗? | nǐ hái yǒu kòng fáng ma? |
| 9. เช็คเอาท์ | 我准备退房了。 | wǒ zhǔnbèi tuì fángle。 |
| 10. ยังมีที่นั่งว่างไหม? (ใช้สำหรับจองร้านอาหาร) | 请问,还有空座位吗? | Qǐngwèn,háiyǒu kòng zuòwèi ma? |
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับทริคการเริ่มต้นเรียนภาษาจีน? การเรียนภาษาให้สามารถเข้าใจหรือจำได้อย่างแม่นยำนั้น ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการทบทวนคำศัพท์ และการฝึกฝนอย่างเป็นประจำ เพื่อสามารถจำได้อย่างระยะยาว และครั้งหน้าพี่จะมีทริคอะไรมาฝากน้อง ๆ อีกบ้าง อย่าลืมรอติดตามกันนะคะ และใครมีทริคเรียนจีนแบบไหนกันบ้างมาแชร์กันได้ที่ด้านล่างคอมเมนต์เลยค่ะ
ข้อมูลจากhttps://resources.allsetlearning.com/chinese/pronunciation/Pinyin_charthttp://courseware.npru.ac.th/admin/files/20170116094740_.pdfhttps://klix.kmitl.ac.th/wp-content/uploads/2022/04/Script--.pdfhttps://www.arsomsiam.com/pinyin/https://www.learningeast.com/1https://www.learningstudio.info/chinese-tone-change-rules/
0 ความคิดเห็น