ชาวโลกเค้าอ่านอะไรกัน? 10 หนังสือมาแรงแห่งปี 2025 จาก Google Year in Search

ใครที่ตั้งโกลไว้ตอนต้นปีว่าจะอ่านหนังสือเดือนละเล่ม ตอนนี้อ่านจบสักเล่มยังน้า? ถ้าอ่านไม่จบก็ไม่เป็นไร ปีหน้าเอาใหม่~ 

วันนี้ One Next Class #ชีวิตติดเรียนรู้ ขอแวะมาป้ายยา 10 หนังสือเล่มดังที่ติดท็อปฮิตจากการค้นหาบน Google ‘Year in Search 2025’ ซึ่งสะท้อนเทรนด์และรสนิยมการอ่านของผู้คนทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายแนวมาก ทั้งนิยายดราม่า โรแมนติก แฟนตาซี ระทึกขวัญ เสียดสีสังคม วรรณกรรมคลาสสิก เรียกว่ามีครบรส! 

ใครที่อยากหาหนังสืออ่าน ตามไปดูกันดีกว่าว่า 10 หนังสือที่ถูกค้นหามากที่สุดในปี จะมีเรื่องไหนที่เราเคยอ่าน หรือมีสตอรี่น่าสนใจให้เก็บเข้ากองดองเพิ่มบ้าง 

Google Year in Search คือการสรุปเทรนด์คำค้นหายอดนิยมของผู้ใช้งาน Google จากทั่วโลกในแต่ละปี ซี่งสะท้อนความสนใจ วัฒนธรรม และเหตุการณ์ที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นข่าว บุคคล บันเทิง และไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

10 หนังสือติดอันดับบน Google Year in Search 2025

• ผู้เขียน: Jeff Kinney
• แปลไทย: อาร์.เค. (สำนักพิมพ์แก้วกานต์)

เริ่มต้นอันดับ 10 ด้วยหนังสือแนวไดอารี่ภาพผสมตัวอักษร ที่เล่าเรื่องชีวิตประจำวันสุดป่วนของ “เกร็ก เฮฟลีย์” ที่เขียนระบายว่าแต่ละมื้อแต่ละเดย์ได้เจออะไรมาบ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เหตุการณ์วุ่นๆ ผ่านมุมมองเด็กๆ โดยปัจจุบันซีรีส์ Diary Of A Wimpy Kid ออกมาแล้วกว่า 20 เล่มทั่วโลก (แม้ว่าฉบับแปลไทยจะยังออกไม่ครบ) และนอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และแอนิเมชันด้วยนะ เรียกว่าเป็นอีกเล่มที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อ่านตามได้ง่ายๆ (+เหมาะกับการฝึกภาษาด้วย)

……….

• ผู้เขียน: Andrzej Sapkowski
• แปลไทย: ต้องตา สุธรรมรังษี (แพรวสำนักพิมพ์)

สายแฟนตาซีที่อยากอ่านแบบมาราธอน ต้องปักหมุดที่มหากาพย์ “The Witcher” โดย Andrzej Sapkowski  ซึ่งเล่าเรื่องราวผ่านตัวละคร “เกรอลท์แห่งริเวีย” ในโลกที่เต็มไปด้วยสงคราม เวทมนตร์ และการเมือง โดยปัจจุบัน (ธันวาคม 2025) ได้ออกมาให้อ่านแล้วถึง 8 เล่ม นอกจากนี้ยังต่อยอดไปสู่วิดีโอเกมและซีรีส์บน Netflix ด้วยนะ 

……….

• ผู้เขียน: George Orwell
• แปลไทย: สุมาลี บำรุงสุข (สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์)

อีกเล่มที่ขึ้นหิ้งและถูกพูดถึงบ่อยๆ อย่าง ‘Animal Farm’ โดย George Orwell นักเขียนผู้เชี่ยวชาญการวิพากษ์อำนาจรัฐ ก็ยังไม่เคยหายไปไหนจากแวดวงนักอ่านด้วยเนื้อหาที่เป็นแนวเสียดสีการเมือง เล่าเรื่องราวการปฏิวัติที่เริ่มต้นด้วยอุดมการณ์เท่าเทียม แต่ค่อยๆ กลายเป็นเผด็จการ ผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์ในฟาร์ม เรียกว่าเป็นอีกเล่มที่อ่านง่าย แต่แฝงนัยทางการเมืองและสังคมอย่างเจ็บแสบ 

……….

• ผู้เขียน: Stephen King
• แปลไทย: โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล (แพรวสำนักพิมพ์)

ต่อกันที่ ‘IT’ นิยายสยองขวัญระดับตำนาน จาก Stephen King เจ้าพ่อสาย Horror ที่เชื่อว่าทำเอาหลายๆ คนหลอนตัวตลกและลูกโป่งสีแดงไปสักพักแน่นอน โดยเนื้อเรื่องเล่าถึงกลุ่มเด็กในเมืองที่ต้องเผชิญกับตัวตลกที่ชื่อว่า “เพนนีไวส์” และบาดแผลในวัยเด็กที่ตามหลอกหลอนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่ก็เพราะความสยองขวัญนี้นี่แหละ ที่ทำให้หลายๆ คนติดใจทั้งนิยายและภาพยนตร์ทั้งสองภาคของลุงคิงเขาเลย (อ่านรีวิวที่นี่)

……….

• ผู้เขียน: Mary Shelley
• แปลไทย: ประสิทธิ์ ตั้งมหาสถิตกุล (สำนักพิมพ์สมมติ)

วรรณกรรมคลาสสิกแนวโกธิค-วิทยาศาสตร์ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในต้นแบบไซไฟยุคแรกๆ! โดยเล่าถึงเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์หนุ่ม “วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์” ที่คิดค้นการนำชิ้นส่วนศพมาประกอบกันและฟื้นคืนชีพ สะท้อนความน่าสะพรึงกลัว ความเจ็บปวด แต่ก็ทำให้เราได้เข้าใจคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เรียกได้ว่าเป็นอีกเล่มที่อยู่มาทุกยุค และก็ยังคงได้รับความนิยม รวมถึงถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่เรื่อยๆ มีให้ดูหลายเวอร์ชันเลยค่ะ 

……….

• ผู้เขียน: Freida McFadden
• แปลไทย: ณัฐมน เอกนันท์ (สำนักพิมพ์ Words)

นิยายระทึกขวัญแนวจิตวิทยาที่โด่งดังใน Booktok จากปลายปากกา Freida McFadden นักเขียนสายหักมุม ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้งานใหม่มาเป็นแม่บ้านในคฤหาสน์หรู แต่เบื้องหลังบ้านหลังนี้กลับเต็มไปด้วยความลับ ความแปลกประหลาด (และประสาทแดก) 

ใครอยากอ่านแบบฉ่ำๆ ก็แนะนำเก็บให้ครบเซ็ต “The Housemaid Series” เลยค่ะ เพราะต่อจากเล่มนี้จะมี The Housemaid’s Secret และ The Housemaid Watching บอกเลยว่าใครชอบอ่านแนวระทึกใจต้องชอบชุดนี้แน่นอน (เรียกได้ว่าทุกหน้าพลิกกระดาษเต็มไปด้วยความหวาดระแวงสุดๆ) 

……….

• ผู้เขียน: Jenny Han // เจ้าของผลงาน To All the Boys I’ve Loved Before (แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก)
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

เล่มต่อมาเป็นนวนิยายแนว Coming of Age โรแมนติก อบอุ่นปนเศร้า เคล้าบรรยากาศฤดูร้อนของเด็กวัยรุ่น  เล่าถึงเรื่องราวรักวุ่นๆ ของ “เบลลี่” ที่เริ่มโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง มาพร้อมกับความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงสไตล์วัยรุ่นยุคใหม่ที่เน้นคุยไม่เน้นคบ ว่าแต่ซัมเมอร์ในครั้งนี้จะเป็นยังไง แนะนำให้อ่านแบบ nonstop  ภาคต่ออีก 2 เล่ม (It’s Not Summer Without You และ We’ll Always Have Summer) ซึ่งบอกเลยว่าเข้มข้นไม่แพ้กัน  

……….

• ผู้เขียน: Navessa Allen
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

ต่อกันที่อันดับ 3 กับนิยายดาร์กโรแมนซ์-ทริลเลอร์ เล่มเปิดของชุด “Into Darkness” ที่บอกเลยว่าเนื้อเรื่องดาร์กสมชื่อจริงๆ ด้วยเรื่องราวของความหลงใหลที่เริ่มต้นจากแรงดึงดูด ก่อนจะค่อยๆ เผยด้านมืดของตัวละครและเกมอำนาจระหว่างคนสองคน ซึ่งในชุดยังมีต่ออีก 2 เล่ม คือ Caught Up และ Game On ด้วย // กระซิบว่าใครอยากลองอ่านให้เช็ก Trigger Warning ก่อนสักนิดนะ เพราะเรื่องเขาค่อนข้างดาร์กเลยล่ะ

……….

• ผู้เขียน: Rebecca Yarros
• ภาษาอังกฤษ #รอติดตามแปลไทย

มาถึงอันดับ 2 ซึ่งถูกอกถูกใจคอแฟนตาซีโรแมนซ์สุดๆ กับนิยายชุด “The Empyrean Series” ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกมา 2 เล่ม ได้แก่ Fourth Wing และ Iron Flame โดยเรื่องราวในครั้งนี้จะพาไปท่องโลกการต่อสู้และสงคราม ผ่านตัวละคร “ไวโอเล็ต ซอร์เรนเกล” ที่มาพร้อมความท้าทายใหม่ๆ และบททดสอบที่โหดขึ้นกว่าที่เคยอีกด้วย 

……….

• ผู้เขียน: Colleen Hoover
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

และก็มาถึงอันดับ 1 ของปีนี้ กับนิยายโรแมนติกดราม่าจากปลายปากกานักเขียนเจ้าของผลงานชื่อดัง ที่มีผลงานขึ้นแท่น Best Seller มากมาย (อาทิ It Ends With Us, Verity) โดยคราวนี้ “Regretting You” มาพร้อมกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของแม่ลูกจากเคยรักและเข้าใจกันดี แต่กลับต้องสั่นคลอนหลังการสูญเสียของคนในครอบครัวที่เปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาล แต่ก็ทำให้เข้าใจว่า “แม้ชีวิตจะฉุดคุณลง แต่สุดท้ายความรักจะดึงคุณกลับมา” 

ต้องบอกว่าพล็อตคือเหมือนไม่มีอะไรซับซ้อน แต่หลายคนรีวิวว่าอ่านแล้ววางไม่ลงเลยค่ะ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้ขึ้นแท่นเบอร์ 1 แถมยังถูกนำมาสร้างภาพยนตร์ในชื่อ “Regretting You รอยรักปมร้าว” ซึ่งได้รับความสนใจจนกวาดรายได้ไปมากมายอีกด้วย

________________________________