น้องๆ เคยสงสัยมั้ยว่า........ ทําไมเวลาที่อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ หรือตอนหน้าหนาว ถอดถุงเท้าหรือเสื้อไหมพรมแล้วมีเสียงดังเป๊าะแป๊ะ ?? แต่ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติประจำปี 2551 ที่ผ่านมา บริเวณชั้น 1 อาคารอำนวยการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มีพี่วัยโจ๋ อดีตผู้แทนประเทศไทยฟิสิกส์โอลิมปิก อาสาเป็นวิทยากร เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนมองฟิสิกส์เป็นเรื่องใกล้ตัว
ช่วงจัดงานดังกล่าวทั้งสองหนุ่มกลับมาเมืองไทยในช่วงปิดภาคเรียนพอดี น้องๆ ที่มาร่วมงานจึงได้รับความรู้จากพี่ๆ มาไขความลับถึงหลักการเกิดไฟฟ้าสถิต ปรากฏการณ์ที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากัน ปกติจะแสดงในรูปการดึงดูด การผลักกัน และเกิดประกายไฟ
ในฤดูหนาวความชื้นในอากาศจะต่ำมาก การเกิดไฟฟ้าสถิตบนผิวหนังจะเกิดขึ้นง่ายมาก ดังนั้น เมื่อเกิดการสัมผัสกับวัสดุประเภทตัวนำจะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไปยังตัวนำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการสะดุ้ง นอกจากนั้นยังสามารถทำความเสียหายให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่อยากให้เกิดไฟฟ้าสถิตเราต้องควบคุมอุณหภูมิร่างกายหรือวัสดุต่างๆ ให้เท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด เพื่อให้เห็นการเกิดไฟฟ้าสถิตชัดเจนมากขึ้น เทียมและ ตี๋ ใช้ "เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสถิตแวนเดอร์แกรฟฟ์" (Van de Graaff Genera tor) เป็นอุปกรณ์สาธิตให้น้องๆ ที่ร่วมกิจกรรมได้เห็นและทดลองทำด้วยตัวเองเครื่องแวนเดอร์ แกรฟฟ์เป็นอุปกรณ์ที่สร้างไฟฟ้าสถิต โดยใช้หลักการการขัดถูของวัตถุทำให้เกิดประจุไฟฟ้าสถิตขึ้น
จากนั้นสายพานที่มีประจุเป็นบวกเคลื่อนเข้าไปใกล้หวีโลหะด้านบน ซึ่งต่ออยู่กับตัวนำทรงกลมกลวง ทำให้อิเล็กตรอนจากหวีโลหะด้านบนกระโดดมายังสายพาน ประกอบกับการเสียดสีระหว่างสายพานกับแท่งทรงกระบอกบนทำให้ทรงกระบอกบนมีประจุเป็นบวก และสายพานมีประจุเป็นลบ ทำให้สายพานที่วิ่งผ่านทรงกระบอกบนมีประจุลบ ผลจากข้างต้นทำให้ทรงกลมกลวงสเตนเลสมีประจุไฟฟ้าบวกกระจายอยู่ทั่วทั้งผิวทรงกลม กระบวนการจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปิดสวิตช์ เมื่อเปิดเครื่องแวนเดอร์แกรฟฟ์ วิทยากรวัยโจ๋ขอให้น้องๆ มาเป็นอาสาสมัครลองใช้มือจับที่ตัวนำทรงกลมกลวงทำด้วยสเตนเลส พบว่าเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานผมบนศีรษะจะชี้ฟูตั้งขึ้น เป็นที่ตลกขบขันของเพื่อนๆ ผู้ชม (55555 เป็นพี่ก็คงขำอ่ะ เอิ๊กๆ) การเกิดผมชี้ฟูนี้พี่ตี๋อธิบายให้น้องๆ ฟังว่า "เมื่อเราเอามือไปสัมผัสกับผิวทรงกลมสเตนเลส จากนั้นเปิดสวิตช์เครื่องแวนเดอร์แกรฟฟ์ อิเล็กตรอนจากตัวเราจะวิ่งไปยังผิวทรงกลม ทำให้ร่างกายเรามีประจุบวก เมื่อประจุบวกอยู่ใกล้ประจุบวกจะเกิดแรงผลัก แรงผลักระหว่างประจุจึงส่งผลให้เส้นผมเราซึ่งมีน้ำหนักเบามากชี้ฟูแยกออกจากกัน" เทียมกล่าวว่า ไม่ว่าสาขาวิชาใดก็ตามเมื่อเรียนมาแล้วควรเชื่อมโยงในชีวิต ประจำวันให้ได้ ไม่อย่างนั้นเรียนไปก็เปล่าประโยชน์ เด็กๆ ชั้นประถมศึกษาที่เรียนวิทยาศาสตร์แบบมองไม่ค่อยเห็นภาพ หากได้ทดลอง ได้เรียนรู้เรื่องใกล้ตัว จะทำให้เห็นว่าหลักการที่เขาได้เรียนนั้นเป็นจริงอย่างไร" โว้ว...โว้ว... วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุกจริงๆ นะ น้องๆ ว่ามั้ย? พี่ปาล์มขอบคุณเรื่องจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด ขอบคุณภาพประกอบจาก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
4 ความคิดเห็น
กับลูกแก้วพลาสม่ามันเหมือนกันไหมครับ เครื่องแวนเดอร์แกรฟ จะถ่ายเทประจุบวกไปให้ผู้สัมผัส แล้วลูกแก้วพาสม่าจะถ่ายเทประจุบวกเหมือนกันรึป่าวครับ
ขอบคุณ