CALLMEZIZ

[JLS03] Secret Mission! ภารกิจลับ ส่งต่อรักไปถึงเธอ

ภารกิจของฉันคือตามหาคนที่ขโมยเอกสารลับ เขา...บุคคลปริศนาเป็นคนที่ขโมยเอกสารลับไปและเขาก็เป็นผู้กุมความลับของฉันด้วย นั่นทำให้ฉันยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง เพราะเราทำสัญญาด้วยกัน...ความลับแลกความลับ

0%
VOTE
ตอนก่อนหน้า

ตอนที่ 2/7 :: “อย่าพยายามขัดคำสั่งฉันนะ ขอเตือนไว้ก่อน”

ตอนถัดไป



CHAPTER : 2

 “อย่าพยายามขัดคำสั่งฉันนะ ขอเตือนไว้ก่อน

 

 

จะสั่นทำไมเนี่ยฉันพูดพร้อมกับตบต้นขาตัวเองอย่างแรงเพื่อให้มันหยุดสั่น ไม่งั้นฉันคงก้าวไปไหนต่อไม่ได้สักที

ตอนนี้ฉันกำลังยืนหอบหนังสือเล่มหนาประมาณห้าเล่มไว้อยู่พร้อมกับฝ่ามือที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มือและขาสั่นเหมือนเจ้าพ่อประทับร่างยังไงยังงั้นแหละ

ฉันโดนใช้ให้เอาหนังสือไปเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ความจริงฉันจะนอนเฉยๆ แล้วตามหาแค่เอกสารให้เพชรก็ได้นะ แต่หลังจากที่ฉันได้รับจดหมายแปลกๆ จากคนแปลกๆ มันทำให้ฉันตระหนักได้ว่า…งานนี้ไม่หมูอย่างที่คิด ฉันอาจจะหาไม่เจอก็ได้ ฉันก็เลยมาทำงานที่ห้องสมุดไปด้วยในระหว่างที่หาเอกสารลับอะไรนั่น

บอกตามตรงนะ…เอกสารคืออะไรฉันยังไม่รู้เลย แล้วฉันจะตามหาเจอได้ยังไงล่ะ -_- รู้อย่างนี้ยอมล้างห้องน้ำซะก็จบ

นี่! เด็กห้องหนึ่งทำไมไม่เอาหนังสือไปเก็บล่ะ ยืนอยู่ได้!” บรรณารักษ์ผู้หญิงที่เป็นรุ่นพี่ม.6 หันมาตวาดใส่ฉันเสียงดัง

นอกจากอาจารย์ประจำห้องสมุดที่ฉันต้องคอยรับมือแล้ว ยังมีรุ่นพี่ม.6 ที่อยู่ชมรมห้องสมุดมาคอยจับผิดฉันอีก ปกติชีวิตฉันก็ยุ่งยากพอแรงแล้วนะ นี่ยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกให้ตาย!

ค่าาา! จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะฉันตอบกลับไป แล้วค่อยๆ ก้าวเดินไปทางชั้นหนังสือ ยิ่งใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น

ฉันมองชั้นหนังสือมากกว่ายี่สิบตู้ที่ตั้งเรียงกันอย่างสวยงาม แต่สำหรับฉันมันเหมือนเปลวไฟร้อนๆ ที่กำลังรอแมงเม่าอย่างฉันบินเข้าไป ตอนนี้ฉันสั่นไปทั้งตัว แต่ที่หนักสุดก็คงจะเป็นขานี่แหละ ฉันก้าวเดินแต่ละก้าวลำบากมาก ฉันจะเข้าไปได้ยังไง T^T!!

เดี๋ยวพี่มานะ ฝากหน่อยเสียงของบรรณารักษ์ผู้หญิงคนเดิมดังขึ้นจากทางเคาน์เตอร์ เธอหันไปพูดกับไต้ฝุ่นด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้ม ต่างจากที่พูดกับฉันมาก

หลังจากที่มีเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินออกไปจากห้องสมุด ฉันก็รีบหันขวับไปมองที่เคาน์เตอร์ พบว่ามีเพียงไต้ฝุ่นนั่งอยู่คนเดียว เวลานี้เป็นเวลาเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้น เลยไม่มีใครเข้าห้องสมุดตอนนี้เท่าไหร่ ฉันก็มีเรียนนะ…แต่เพราะมันเป็นวิชาเคมีที่ฉันเกลียดมากๆ ฉันเลยโดดมาช่วยงานเก็บชั่วโมงดีกว่า

โชคดีที่ห้องสมุดที่นี่มีเคาน์เตอร์ที่กว้างพอสมควร ฉันเลยใช้เป็นที่หลบภัยได้ ไม่อยากจะคิดภาพว่าถ้าเคาน์เตอร์ที่นี่แคบจะเป็นยังไง คงไม่มีที่ปลอดภัยสำหรับฉันในห้องสมุดนี้เลย

ฉันรีบเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์โดยไม่หันไปมองชั้นหนังสือข้างหลัง ฉันพยายามก้าวเดินให้ได้ด้วยขาที่สั่นระรัวและมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ

ตึง!

ฉันวางหนังสือห้าเล่มเอาไว้ที่เคาน์เตอร์ตรงหน้าไต้ฝุ่นแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มโชว์ลักยิ้มให้ฉัน ก่อนจะก้มหน้าลงไปทำงานต่อ

หลังจากที่ได้เจอเขาที่ห้องสมุดวันนั้น เวลาเดินผ่านกัน เขามักจะยิ้มทักทายฉันเสมอ จนฉันก็แอบคิดว่าตลอดระยะเวลาที่เราห่างกันไป ไต้ฝุ่นอาจจะพยายามยิ้มให้ฉันก็ได้ แต่ฉันไม่ได้สนใจ เลยมองไม่เห็นเอง แล้วอีกอย่าง ฉันก็มักจะหมกตัวอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่โรงอาหาร ส่วนไต้ฝุ่นก็เอาแต่ซ้อมว่ายน้ำอยู่ที่ชมรม (อันนี้เขาบอกฉันเองนะ ไม่ได้ไปตามสืบ ._.) เราเลยไม่ค่อยได้เจอกัน

นี่! นายฉันเรียกเขา เราเปลี่ยนงานกันทำไม่ได้เหรอ หนังสือพวกนี้หนักจะตายฉันพูดต่อ

ฉันเป็นนักกีฬา ยกของหนักไม่ได้ เขาตอบกลับมานิ่งๆ และคำตอบของเขาให้ทำเขาดูเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาก -_- (ประชด)

แต่ฉันปวดไหล่จะตายแล้วนะ!” ฉันบอกก่อนจะทุบไหล่ตัวเองให้เขาดู

ถ้างั้นยิ่งไม่ได้เลย ถ้าฉันปวดไหล่ขึ้นมา ฉันก็อดลงแข่งว่ายน้ำน่ะสิ

ใจร้าย!

ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน ไม่ทำแล้วฉันบอกก่อนจะสะบัดหน้าหนีไต้ฝุ่น

ฉันต้องหาวิธีเอาหนังสือไปเก็บแบบไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงตายในที่แคบนั่น ไม่มีวิธีอื่นนอกจากจ้างรุ่นน้องให้เอาเข้าไปเก็บให้แล้วล่ะ แต่ต้องระวังรุ่นพี่บรรณารักษ์กับอาจารย์บรรณารักษ์ให้ดีๆ -_-

อะไร แค่นี้ก็อู้งานแล้วเหรอไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับแค่นหัวเราะออกมา ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะยะ ฉันกำลังเครียดอยู่เนี่ย!

เปล่าสักหน่อยฉันรีบตอบกลับไป

ยังมีหนังสืออีกตั้ง…” เขาพูดไว้เท่านั้น ก่อนจะก้มลงไปมองกองหนังสือที่วางอยู่ที่พื้นด้านใน อีกเกือบสามสิบเล่มเลยนะ

ให้ตาย!

อยากอุทานเป็นคำหยาบภาษาอินเดียจริงๆ บรรณารักษ์ห้องสมุดมีหน้าที่จัดเรียงหนังสืออย่างเดียวหรือไง ฉันก็ทำอย่างอื่นได้เหมือนกันนะ ให้ฉันสอนรุ่นน้องเรื่องทศนิยมดิวอี้อะไรก็ได้ ฉันทำได้หมดทุกอย่าง ยกเว้นล้างห้องน้ำกับจัดหนังสือน่ะ -_-

ฉันเหนื่อยแล้วนะ!” ฉันตอบกลับไป

เดินไปครึ่งทางแล้วเดินกลับมาเนี่ยนะเหนื่อยแล้ว?ไต้ฝุ่นเลิกคิ้วถาม

ฉันหรี่ตามองเขาที่นั่งอยู่ด้านใน แน่นอนสิ! หน้าที่ของเขาคืออะไร คือการเช็คหนังสือที่เข้ามาใหม่และโละออก นั่งอยู่หน้าคอมตลอดเวลา ไหนงานใช้แรงนั่งกดๆ แป้นพิมพ์ตลอดเนี่ย เหนื่อยมากมั้ยคะ -_-!

แต่ฉันยกต่อไม่ไหวแล้ว T^T!” ฉันพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้

ถ้างั้นเดี๋ยวฉันเอาไปเก็บเองก็ได้ ถือไปทีละสามสี่เล่มก็คงไม่เป็นไรไต้ฝุ่นพูดโดยไม่ได้มองหน้าฉัน แต่ประโยคนั้นของเขาทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาทันที

กลับคำทันมั้ย...จริงๆ แล้วเขาก็เป็นสุภาพบุรุษอยู่นั่นแหละ ._.

พูดจริงเหรอ O_O” ฉันถามพร้อมกับยื่นตัวเข้าไปหาเขา

ถ้าเธอไม่ทำก็คงไม่มีใครทำแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันโดนด่าขึ้นมาทำไง

ถ้าเป็นฉันโดนด่านี่ว่าไปอย่าง แต่ลูกรักอย่างไต้ฝุ่นจะโดนด่าหรือไง ไม่โดนด่าแถมยังไม่ต้องทำงานอีกด้วย สุดท้ายงานพวกนี้ก็จะวนกลับมาหาฉัน -_-                                                                                                                       

งั้นให้ฉันเช็คหนังสือแทนนายดีมั้ย จะได้ไม่ดูเหมือนว่าฉันเอาเปรียบนายน่ะ

ไม่เป็นไรหรอก เธอพึ่งมาคงไม่รู้ว่าหนังสือแต่ละหมวดมันมีกี่เล่ม ถ้าจะให้ฉันสอนก็คงเสียเวลาอีกไต้ฝุ่นพูดจบก็ยิ้มให้ฉันอีกครั้ง

ทำไมเขาถึงน่ารักขนาดนี้นะ…-///-

ฉันทำได้เพียงยิ้มตอบกลับเขาไป แอบรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่โยนงานให้เขาทำทั้งหมด แต่ถ้าจะให้ฉันยกหนังสือไปเก็บอีกก็คงไม่เอาอยู่ดี ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ยอมเสี่ยงตายในชั้นหนังสือนั่นเด็ดขาด!

ระหว่างที่ฉันกำลังยืนมองไต้ฝุ่นทำงานเพลินๆ พลันสายตาฉันก็หันไปเจอกระเป๋าสะพายของตัวเองที่ฉันเปิดอ้าเอาไว้ พอลองสังเกตด้านในดูดีๆ ก็พบกับหนังสือเคมีเล่มหนา แต่มันไม่ได้มีแค่หนังสือเคมีอย่างเดียว มันเหมือนมีอะไรบางอย่างสอดอยู่ในหนังสือด้วย

ลางสังหรณ์ของฉันเริ่มบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องดี…

หลังจากที่ฉันยืนมองกระเป๋าได้ประมาณห้านาที ไต้ฝุ่นก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจและยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ แล้วหยิบหนังสือที่ฉันวางเอาไว้ก่อนหน้านี้เดินไปทางชั้นหนังสือ

เก็บหนังสือเหรอ!” ฉันตะโกนถามไล่หลังเขา

ใช่เขาหันมาตอบพร้อมกับพยักหน้า แล้วเดินหายเข้าไปในชั้นหนังสือ

พอเห็นว่าเขาหายไปแล้ว ฉันจึงเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ แล้วหยิบหนังสือเคมีออกมาจากกระเป๋า พอได้ลองจับๆ ดูแล้ว หนังสือเคมีมันตุงๆ เหมือนมีอะไรสอดไว้ข้างในจริงๆ ด้วย

หวืดดด~

ฉันค่อยๆ กรีดหนังสือไปทีละหน้า จนกระทั่งซองจดหมายสีแดงเลือดหมูตกลงมาจากหนังสือเคมี ฉันมองซองสีจดหมายสีแดงที่ตกอยู่ตรงปลายเท้า ก่อนจะถอนหายใจออกมา

จะเล่นแบบนี้จริงๆ ใช่มั้ย ฉันไม่สนุกด้วยแล้วนะ

ฉันหยิบซองจดหมายสีแดงขึ้นมาพลิกดู ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซองยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม ฉันนั่งยองๆ ลงด้านหลังเคาน์เตอร์และแกะออกเพื่อดูด้านใน

 

ออทั่ม

            หน้าที่ของเธอคือทำลายเอกสารลับ

            อย่าพยายามขัดคำสั่งฉันนะ ขอเตือนไว้ก่อน

ผู้หวังดี

 

เฮ้! จะให้ฉันทำลายก็เอาเอกสารลับมาให้ฉันสิยะ!

ฉันจะตอบกลับจดหมายนี้ได้ยังไง? เขาสั่งให้ฉันทำลายเอกสาร ทั้งๆ ที่เอกสารยังอยู่ในมือเขาเนี่ยนะ? แต่ก็มีอีกอย่างที่ฉันมั่นใจ...เขาต้องการให้ฉันเป็นแพะ ถ้าถูกจับได้ว่าทำลายเอกสาร คนที่ซวยก็คงไม่พ้นฉัน

ตึกๆ

เสียงฝีเท้าของไต้ฝุ่นดังขึ้น ฉันจึงรีบยัดจดหมายลงไปในกระเป๋าและปิดซิบเสร็จสรรพ ไต้ฝุ่นเดินมาถึงเคาน์เตอร์และก้มหน้ามามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะยกหนังสือมาวางไว้บนเคาน์เตอร์หนึ่งเล่ม

มีอะไรหรือเปล่าฉันถามเงยหน้าขึ้นไปถาม

มีคนคืนหนังสือมาผิดน่ะ หนังสือเล่มนี้ไม่มีรหัสของห้องสมุดตอนรับมาก็ไม่ได้ดูด้วยสิเขาพูดพร้อมกับหยิบแฟ้มจดบันทึกยืม-คืนหนังสือขึ้นมาเปิดดู

เขาอยากบริจาคหรือเปล่าฉันถาม

ไม่ใช่มั้ง

เดี๋ยวนะ...ในห้องสมุดนี้มีฉันกับไต้ฝุ่นแค่สองคนเหรอ? งั้นก็แปลว่าไต้ฝุ่นอาจจะเป็นผู้หวังดี!

ฉันเงยหน้ามองไต้ฝุ่นที่ยืนอยู่ด้านนอก เป็นไปได้มั้ยว่าตอนที่ฉันหันหลังอยู่ เขาแอบเอาจดหมายไปใส่ไว้น่ะ? จะบอกว่าเป็นรุ่นพี่ก็คงจะไม่ใช่ เพราะเธอไม่ได้อยู่ในเคาน์เตอร์เลยตั้งแต่ฉันมา หรือจะเป็นไต้ฝุ่นจริงๆ

แต่มันก็เป็นไปได้ว่าจดหมายอยู่ในกระเป๋าฉันก่อนที่ฉันจะมาห้องสมุด

ให้ตายเถอะ! ถ้าฉันรู้ว่าเอกสารนั่นคืออะไร ฉันก็คงตอบได้แล้วล่ะว่าเป็นไต้ฝุ่นหรือไม่ใช่ อย่างน้อยฉันก็จะได้รู้ว่าผู้หวังดีขโมยเอกสารลับไปทำไม

แอดดด~

ออทั่มอยู่มั้ยเสียงห้าวๆ ของใครบางคนที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดีดังขึ้น แต่น้ำเสียงและคำพูดคำจาเหมือนจะมาหาเรื่องกันเลยแฮะ -_-

อยู่ครับเสียงไต้ฝุ่นตอบกลับไปนิ่งๆ ตามแบบฉบับของเขา

ฉันค่อยๆ โผล่หัวขึ้นมาสบตากับผู้หญิงคนที่มาใหม่ เธอยืนมองฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่เมื่อไหร่ที่เธอมีเรื่องจะคุยกับฉัน นั่นหมายความว่าฉันจะโดนด่า

ฉันอยู่นี่...ฉันพูดขึ้น ก่อนจะยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้ เธอเป็นหัวหน้าห้องของฉันเอง

หาตั้งนาน เธอทำให้ฉันไม่ได้เรียนเคมี รู้ตัวหรือเปล่า!” เธอพูดพร้อมกับทำหน้าดุๆ ส่งมาให้ฉัน

ทำไมต้องอยากเรียนเคมีขนาดนั้นด้วย...เคมีมันสนุกตรงไหนกัน -_-!

แล้วเธอตามหาฉันทำไมล่ะ มีเรื่องอะไร

ฉันถูกเรียกไปห้องปกครอง และอาจารย์ฝากนี่มาให้เธอเธอพูดพร้อมกับยื่นซองสีขาวมาให้ฉัน

อย่าบอกนะว่าฉันโดนทำโทษอีกรอบน่ะ -_- ช่วงนี้ฉันยิ่งแต่ดวงไม่สมพงษ์กับจดหมายอยู่ด้วย

ฉันเปิดจดหมายแล้วหยิบกระดาษที่อยู่ด้านในออกมาดู เป็นกระดาษแผ่นเดียวที่ดูเหมือนให้กรอกประวัติส่วนตัวลงไป หลังจากนั้นฉันก็เลื่อนสายตาไปอ่านที่หัวกระดาษ

โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ไทย-อเมริกา

ฉันอ่านหัวข้อตัวใหญ่ที่เด่นชัดก่อนจะเบิกตาโพลง นี่มันเป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่ฉันกำลังรออยู่เลยนี่!

เพราะพ่อกับแม่ของฉันมาหาไม่ได้และไม่ค่อยให้ไปหา ฉันเลยพยายามหาทุนที่แลกเปลี่ยนระหว่างไทยและอเมริกามากมาย ไปสอบแข่งก็บ่อย แต่ฉันก็ไม่ชอบภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เวลาสอบก็มักจะตกตลอด เลยไม่เคยได้ทุนเลยสักครั้ง ทุนนี้เป็นทุนของเด็กที่พฤติกรรมดีเท่านั้น

แต่ฝ่ายปกครองเลือกฉันเนี่ยนะ? ทั้งๆ ที่ฉันโดนเรียกไปทำโทษบ่อยขนาดนั้นอ่านะ เป็นไปไม่ได้ -_-

ให้ฉันเหรอแน่ใจเหรอฉันถามเพื่อความแน่ใจ

ใช่ อาจารย์กำชับว่าต้องเป็นเธอเท่านั้น

ฉัน…จะได้ไปหาพ่อกับแม่แล้ว!!

ฉันจะได้ไปจริงๆ ใช่มั้ย…อาจารย์คงไม่เปลี่ยนใจหรอกใช่มั้ย -_-

แต่ถ้าเธอไม่ตกลง อาจารย์บอกว่า…”

ตกลง!” ฉันรีบตอบกลับไปทันที มีหรือที่ฉันจะพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปน่ะ นี่เป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้เจอพ่อกับแม่แล้วนะ

ได้ทุนแล้วก็อย่าสร้างปัญหานักล่ะ เป็นเวรทำความสะอาดก็หัดไปทำซะบ้างนะหัวหน้าห้องพูดจบแล้วก็เดินออกไปทันที

ฉันมองกระดาษในมือด้วยความตื่นเต้น ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเลือกให้เข้าทำงานที่นาซ่าเลย

ขอโทษอาจารย์ฝ่ายปกครองที่หนูเคยแอบด่าตอนทำโทษหนูเรื่องสีผมนะคะ ขอบคุณมากค่ะ…รักอาจารย์ที่สุดเลยยย ><

หือ...ได้ทุนด้วยนี่ ดีใจด้วยนะไต้ฝุ่นยื่นหน้าเข้ามาดูกระดาษในมือของฉัน ก่อนจะพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มมาให้

เป็นเรื่องธรรมดาของคนเก่งอ่านะฉันพูดด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ที่สุด นั่นทำให้ไต้ฝุ่นหลุดขำออกมา

ตอนนี้ฉันคงยิ้มหน้าบานเท่ากะละมังแล้วล่ะ แต่ไม่เป็นไร...ก็คนมันมีความสุขนี่หน่า

ออทั่ม!” ในขณะที่ฉันกำลังจะก้มลงไปหยิบกระเป๋า ไต้ฝุ่นก็เรียกฉันเสียงดัง จนฉันต้องวางกระเป๋าแล้วเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเขา

มีอะไรเหรอฉันถาม

มีอะไรติดหัวเธอน่ะเขาพูดพร้อมกับชี้มาบนหัวของฉัน

เรื่องแค่นี้จะเสียงดังทำไม -_-” ฉันตอบไป แล้วพยายามคลำบนหัวเพื่อหาสิ่งที่ติดอยู่

ไม่ใช่ตรงนั้น ซ้ายอีกๆ

ตรงนี้เหรอ

ขึ้นไปอีกนิด...

ถึงยัง

ไม่ใช่ ต้องซ้ายกว่านี้มานี่! เดี๋ยวเอาออกให้ในที่สุดเขาก็หมดความอดทนและเดินอ้อมเข้ามาในเคาน์เตอร์ทันที

ฮะ…O_O!” ฉันก้าวเท้าถอยหลังเล็กน้อยตอนที่เขาก้าวเข้ามาประชิดตัว แต่ก็ถูกเขาดึงให้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ เหมือนเดิม

เขาหยิบมือของฉันที่จับหัวตัวเองอยู่ออก แล้วกดหัวของฉันให้ก้มลงนิดหน่อย ตอนนี้เราอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร เราอยู่ใกล้กันจนหน้าของฉันจะชนกับแผงอกของเขาอยู่แล้ว

เขาหยิบอะไรบางอย่างออกจากหัวของฉัน แล้วสางผมที่มันยุ่งๆ ให้ ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาที่กำลังส่งยิ้มมาให้ พออยู่ใกล้กันขนาดนี้ มันทำให้ฉันได้เห็นลักยิ้มสองข้างของเขาได้อย่างชัดเจน...รอยยิ้มของเขามีพลังทำลายล้างมหาศาลจริงๆ

ก็แค่กระดาษ...ตอนแรกนึกว่าเหาซะอีกไต้ฝุ่นพูดขำๆ พร้อมกับโชว์กระดาษในมือให้ฉันดู

อยากจะด่าเขาเหมือนกันนะ มาหาว่าฉันมีเหาได้ไง...แต่ตอนนี้ฉันกำลังเขินที่เราได้อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ เลยต้องเก็บอาการของตัวเองเอาไว้

เอ่อ...ขอบใจฉันตอบกลับไปแล้วก้มหน้างุด เพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศไว้ไม่ให้เขาเห็น

ไต้ฝุ่นก้มหน้ามองคอของฉัน ก่อนจะยื่นมือเข้ามาดึงผมสีบลอนด์ทองที่ถูกซ่อนไว้ข้างในออกมา เขามองเส้นผมในมืออย่างพิจารณา แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉัน

ทำทำไมเขายัดเส้นผมของฉันเอาไว้ตามเดิม โดยที่ฉันทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งๆ หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ จะแหกกฎทั้งที...ทำทั้งหัวเลยสิ!

จริงๆ ฉันมีเหตุผลที่ทำสีผมนะ เป็นเหตุผลที่ไม่กล้าบอกใคร

“…” ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

เมื่อกี้ที่มือของเขาสัมผัสโดนต้นคอของฉันด้วย นั่นทำให้ฉันชาวาบไปหมด ต้นคอถือเป็นจุดอ่อนของฉันเลยนะ และเขาก็ดันจับโดนไปถึงสองรอบ!

เดี๋ยวฉันเอาหนังสือไปเก็บก่อนนะว่าแล้วก็หอบหนังสือเดินจากไปทันที

ฉันตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติให้กลับมา ก่อนจะก้มลงเก็บกระเป๋าอีกครั้ง ฉันต้องไม่คิดเรื่องที่เขาจับโดนคอฉันสิ ต้องไม่คิดสิ ตอนนี้เขาเป็นผู้ต้องสงสัยนะ!

ฉันหยิบซองสีขาวมาเพื่อเก็บใบสมัครเป็นนักเรียนทุน แต่พอฉันเปิดซองออก นั่นทำให้ฉันเห็นอะไรบางอย่างที่ชาตินี้ไม่ขอเจออีก ซองจดหมายสีแดง...

จดหมายสีแดงมาพร้อมกับจดหมายของห้องปกครองเหรอ? งั้นก็แสดงว่าผู้หวังดีอาจจะไม่ใช่ไต้ฝุ่น แต่อาจจะเป็นหัวหน้าของฉัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นใครสักคนที่จับกระเป๋าฉันและจับจดหมายจากห้องปกครองด้วย

อาจจะอยู่ได้ ฉันล่ะเกลียดคำว่าอาจจะที่สุด! มันเป็นคำที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย ฟังแล้วดูสิ้นหวังมาก

ช้าง! งานช้าง!

แต่ผู้หวังดีไม่ต้องรักฉันขนาดนี้ก็ได้นะ...ใจคอจะส่งจดหมายมาให้ฉันหลอนวันล่ะสองรอบเลยเหรอ -_- ฉันพึ่งอ่านจดหมายฉบับแรกไปเมื่อห้านาทีที่แล้วเองนะ

ฉันเก็บใบสมัครใส่ซองสีขาวเรียบร้อย ก่อนจะหยิบซองสีแดงออกมาแล้วยืดตัวขึ้นไปมองไต้ฝุ่น พอเห็นว่าเขากำลังมีความสุขในการจัดหนังสือ ฉันจึงเปิดซองจดหมายออกอย่างไม่รีรอ

ฉันมองความพ่ายแพ้ของตัวเองที่ถูกแนบมากับจดหมาย คราวนี้มันไม่ได้มีแค่กระดาษสีดำเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น มันยังมีรูปภาพขนาดเท่าฝ่ามือแนบมาด้วย พอฉันหงายรูปภาพนั้นขึ้นมาดู ทำให้ฉันอยากจะทึ้งหัวตัวเองเป็นร้อยๆ ครั้ง อยากจะหายไปจากตรงนี้เป็นล้านๆ รอบ

รูปนั้นเป็นรูปที่มาจากกล้องวงจรปิด เป็นรูปที่มีผู้หญิงคนหนึ่ง สวมกางเกงยีนกับเสื้อยืด สวมแจ็คเก็ตหนังสีดำทับและใส่ผ้าปิดปาก เธอกำลังปีนเข้าไปในห้องวิทยาศาสตร์ แน่นอน…ผู้หญิงในรูปคือฉันเอง

ฉันรีบเก็บรูปลงไปในซองจดหมาย และหยิบกระดาษสีดำขึ้นมาอ่าน

 

ออทั่ม

            ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่ของโรงเรียน

            ของขวัญจากฉันให้เธอ สู้ต่อไปนะ J

ผู้หวังดี

 

ฉันกำจดหมายด้วยมือที่สั่นเทา ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาดที่ตัวเองเคยสร้างเอาไว้ได้ แต่ถ้าอยากจะลงโทษฉัน ช่วยทำครั้งเดียวให้มันจบได้มั้ย จะทรมานใจฉันด้วยจดหมายบ้าๆ นี่ไปถึงไหน

                ตอนนี้ฉันมีสองทาง คือเพชรและผู้หวังดี แต่ฉันมองไม่เห็นทางไหนที่สว่างกว่ากันเลย ทั้งสองทางมีอนาคตที่ริบหรี่ของฉันเหมือนกัน อยู่ที่ว่าฉันฉลาดพอที่จะเลือกมั้ย

แต่ยังไง...ฉันจะไม่ยอมพลาดทุนนี้เด็ดขาด!

...................................

8 ความคิดเห็น

  • 1
  1. #1 ploypetchh (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 20:27:32
    ผู้หวังดีใจร้าย~~ อยากรู้จังว่าจะเป็นใคร
    #1
  2. #2 aomamtnp2544 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 20:27:38
    ลงตอนที่2แล้วววว ><!!!

    รักเลย
    #2
  3. #3 Marshmallows. (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 21:26:50
    โอโห...อ่านจบแล้วเกินคาดเลย ทึ่งกับการเรียงเหตุการณ์แล้วปิดจบมากๆ
    มันเรียงร้อยเข้ากันไปหมด และทำให้รู้สึกตื่นเต้นด้วย นางเอกมีแรงบีบมากขึ้นไปอีก
    แบบนี้ยิ่งตอนต่อๆ ไป ต้องยิ่งพีคมากขึ้นๆ นะ เอาใจช่วยนะน้องเอ๊ยยยยยยยย TwT/

    ฉากหยิบเหา เอ๊ย กระดาษเนี่ย บรรยายช้าๆ ดีเนาะ รู้สึกเป็นาพสโลว์เลย
    แต่ถ้าขยี้อีกนิดจะได้ใจพี่มาก 55555 เพราะมโนว่าเขาคือนัมจู เพราะฉะนั้นอยากได้อีกค่ะ

    นางเอกมีปมเยอะดีจัง ชีวิตนางดูแบบ ต้องสู้นะ
    สู้วววว 555555
    #3
  4. #4 snsdsaizaza (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 22:53:29
    โอ้ยยย ชอบอ่านัมจูหยิบเหา 😄❤
    #4
  5. #5 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 07:54:11
    นัมจู แอร้ยยย ชอบตอนหยิบเหา เอ้ย หยิบกระดาษออกจากหัว กะตอนที่ดึงปลายผมออกมาดู
    มันมีความตะมุตะมิ งุงิเบาๆ >.< ตกลงผู้หวังดีนี่เป็นผีใช่มั้ย แอบส่งจดหมายเก่งเหลือเกิน (ฮา)
    สู้ๆๅ กะตอนต่อไป รออ่านละง้าบบ
    #5
  6. #6 Lokkkkkk (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 10:55:16
    รออ่านตอนต่อไปนะครับ
    #6
  7. #7 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-20 00:19:42
    เรียงลำดับเรื่องน่าสนใจดีนะคะ
    บทสนทนาธรรมชาติดีด้วย พี่ชอบที่นางเอกกับไต้ฝุ่นไม่ได้จี๊จ๋ากันตั้งแต่เริ่ม มันให้เวลาตัวละครได้เป็นตัวของตัวเองก่อนจะมาพัฒนาความสัมพันธ์กัน ที่อยากคอมเม้นเพิ่มเติมก็คือเรื่องคำบรรยายที่บางทีก็ไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ เหมือนว่ายังมีรายละเอียดที่ขาดหรือเกินในบางช่วง แก้โดยการอ่านทวนหลายๆ รอบหน่อย ส่วนไหนที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ตัดออกไป ส่วนไหนที่ว่าคาดก็ใส่ แล้วก็อีกจุดคือคาแรคเตอร์นางเอกไม่นิ่งเลย เหมือนตอนนี้ยังไม่มีนิสัยอะไรชัดเจนที่บ่งบอกว่าจะเป็นคนกล้าขโมยข้อสอบจริงๆ เรื่องนี้ถ้าเราเพิ่มได้มันจะเป็นเสน่ห์ของตัวละครนะ

    ลองดู รออ่านตอนต่อไปค่ะ
    #7
  8. #8 wrkn085 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-20 14:24:14
    สู้ๆน้าาาเย้
    #8
  • 1

แสดงความคิดเห็น