ภารกิจของฉันคือตามหาคนที่ขโมยเอกสารลับ เขา...บุคคลปริศนาเป็นคนที่ขโมยเอกสารลับไปและเขาก็เป็นผู้กุมความลับของฉันด้วย นั่นทำให้ฉันยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง เพราะเราทำสัญญาด้วยกัน...ความลับแลกความลับ
ตอนที่ 7/7 :: “จริงๆ แล้วเอกสารลับน่ะ มันคือ...”
“จริงๆ แล้วเอกสารลับน่ะ มันคือ...”
‘คนในชมรมว่ายน้ำรู้กันหมดแหละว่าใครโกงประวัติ แค่ไม่มีใครอยากพูดเฉยๆ แต่คนเริ่มไม่พอใจตอนที่โค้ชประจำชมรมยกเลิกโปรแกรมแข่งทั้งหมด แล้วเหลือไว้แค่โปรแกรมแข่งของคนที่โกงประวัติอ่ะ’
นั่นคือสิ่งที่ใบชาบอกฉันในคืนนั้นและมันทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไปเลย ที่ฉันสงสัยว่าเป็นไต้ฝุ่นก็เพราะว่าเขายังคงไปซ้อมว่ายน้ำอยู่เรื่อยๆ ฉันจำได้ว่าเขาเคยบอกว่าซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน ถ้าโปรแกรมแข่งโดนยกเลิกหมดแล้ว เขาจะไปซ้อมว่ายน้ำทำไม...นอกจากเขาจะยังมีโปรแกรมแข่งอยู่
“ออทั่ม...หน้าฉันมีอะไรติดอยู่เหรอ?” ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองไปมา นั่นทำให้ฉันเลิกจ้องหน้าเขาแล้วหันหน้าไปทางอื่น
“เปล่าหรอก” ฉันตอบกลับไปนิ่งๆ
ความจริงฉันก็อยากจะถามเขาไปตรงๆ นะ...แต่กลัวว่าคำตอบมันจะเป็นแบบที่ฉันคิดจริงๆ
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ด้านในเคาน์เตอร์ภายในห้องสมุด ส่วนไต้ฝุ่นก็ยืนเท้าคางอยู่ด้านนอกเคาน์เตอร์พร้อมกับมองหน้าฉันนิ่งๆ เป็นเพราะว่าฉันเผลอไปจ้องหน้าเขาจนเขารู้ตัวน่ะสิ -_-
ฉันเลิกสนใจไต้ฝุ่นที่ยืนอยู่แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาห้องสมุดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะวันนี้มีงานนิทรรศการที่จัดขึ้นภายในห้องสมุด แต่อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาเฝ้าแทนเราแล้ว
“ขาเธอเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง?” ไต้ฝุ่นถามต่อ
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ก็ยังเจ็บแผลอยู่”
“ล้างแผลบ่อยๆ นะ” ไต้ฝุ่นคลี่ยิ้มบางๆ ให้ฉัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในใจอีกครั้ง ฉันชอบรอยยิ้มของเขามากๆ เพราะเขาจะยิ้มออกมาจากใจแบบไม่เสแสร้งเลย...แต่ฉันดันไปสงสัยเขาเนี่ยนะ
แอดดด~
เสียงเปิดประตูห้องสมุดดังขึ้นพร้อมกับบุคคลมาใหม่ที่ทำให้ฉันและไต้ฝุ่นมองหน้ากันนิ่งๆ หลังจากนั้นไต้ฝุ่นก็ยักไหล่พร้อมกับเดินออกไปจากบริเวณนี้ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินตรงเข้ามาฉันทันที
เพชร -_- ไอ้บ้านั่นแหละ
“ว่าไงยัยขี้ขโมย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เขาทักฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ และคำพูดที่มั่นใจมากว่าฉันเป็นคนขโมยเอกสารไปจริงๆ เออ...ปล่อยให้เข้าใจผิดไปนั่นแหละ
“ก็นายเป็นคนส่งฉันมาเอง จำไม่ได้หรือไง -_-” ฉันตอบกลับไปนิ่งๆ เช่นกัน
“เอาเอกสารมาคืนสิ เดี๋ยวฉันเซ็นให้” เขาพูดพร้อมกับแบมือตรงหน้าฉัน
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้เอาไป”
“ยังไงก็ช่าง...พรุ่งนี้มาหาฉันด้วย” เขาพูดพลางยักคิ้วด้วยท่าทีร่าเริง ก่อนจะหันมาพูดต่อ “ไฟล์กล้องวงจรปิดซ่อมเสร็จแล้ว เลยอยากมาชวนเธอไปดูด้วยกัน”
ฉันชะงักทันทีที่เพชรพูดถึงกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นฉันก็เหลือบตามองเขาเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่อเพื่อให้ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดเท่าไหร่ ทั้งที่จริงๆ แล้วในใจของฉันกำลังกรีดร้องด้วยความดีใจ รู้มั้ยว่าฉันรอเวลานี้มานานแค่ไหน...เวลาที่ฉันจะได้เป็นอิสระมาถึงแล้ว!
“เหรอ...อืม ได้สิ” ฉันตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้ามองเพชร
“ฉันไปก่อนล่ะ พรุ่งนี้เธอต้องมา!” เพชรหันมาย้ำก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ด่าอะไร เขาก็หันมาพูดกับฉันอีกรอบ “ขอให้สนุกกับการทำงานในห้องสมุดนะ”
หมอนี่มันน่าตบจริงๆ -_-
ไต้ฝุ่นเดินออกมาจากชั้นหนังสือหลังจากที่เพชรเดินออกไปแล้ว เขาคลี่ยิ้มบางๆ แบบที่ชอบทำแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จนกระทั่งคนที่จะมาเฝ้าห้องสมุดแทนเราสองคนเดินเข้ามาพอดี ฉันจึงเก็บสมุดการบ้านและของทุกอย่างใส่ลงในกระเป๋า แต่แล้วสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นจดหมายสีแดงที่อยู่ในหนังสือเคมีเจ้าเก่า
“เดี๋ยวพี่ฝากดูตรงนี้ให้หน่อยนะ มันยังเช็กไม่ครบทุกหมวด” ไต้ฝุ่นหันไปพูดกับรุ่นน้องที่จะมาเฝ้าชั้นหนังสือแทนเราโดยไม่ได้สนใจฉันที่นั่งอยู่ตรงนี้
พอเห็นว่าทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องงานอย่างเคร่งเครียด ฉันจึงหมุนเก้าอี้หันหลังให้พวกเขาแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ขยับห่างออกจากบริเวณเคาน์เตอร์ ก่อนจะหยิบจดหมายสีแดงมาเปิดอ่านอย่างไม่รีรอ
‘ออทั่ม
ช่วยฉันสิ เดี๋ยวฉันจะบอกความลับของฉันให้
ไปขโมยไฟล์กล้องวงจรปิดมา
แล้วฉันจะบอกว่าเอกสารลับคืออะไร
ผู้หวังดี’
เออ...ฉลาดดีวะ -_-
รู้จักใช้ความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่นทำประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ฉันก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรมันคุ้มค่ากว่ากัน อีกแค่นิดเดียวฉันก็จะหลุดพ้นจากมันอยู่แล้ว ถ้าฉันยังหันหลังกลับเข้าไปในความมืดอยู่อีก...ฉันอาจจะไม่เจอแสงสว่างแล้วก็ได้นะ
รู้เรื่องเอกสารลับไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ยังไงเอกสารลับก็ยังอยู่ที่ผู้หวังดีไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันต้องการจะตามหาเอกสารลับก็มีอยู่แค่ทางเดียว...คือหาตัวผู้หวังดีให้เจอ
ฉันรีบเก็บจดหมายและของอื่นๆ ใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วหมุนเก้าอี้กลับมาทางเดิม ไต้ฝุ่นเดินอ้อมเข้ามาในเคาน์เตอร์แล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองไป ฉันจึงหันไปถามเขา
“นายจะไปไหนเหรอ” ฉันเอ่ยขึ้นในขณะที่ไต้ฝุ่นกำลังเก็บของใส่กระเป๋า
“ซ้อมว่ายน้ำ วันนี้คงโดดไม่ได้” เขาตอบกลับมาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย
อืม...ไปซ้อมอีกแล้วสินะ
“สู้ๆ นะ” ฉันพูดพร้อมกับชูสองนิ้วให้เขา
“เธอก็อย่าลืมกินข้าวนะ เมื่อเช้าเธอมาสาย...อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอไม่ได้กินข้าวเช้ามา” เขาพูดก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย
ฉันพยักหน้าให้เขาแทนคำตอบ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปจากห้องสมุดทันที ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกไปเหมือนกัน สายตาก็ดันหันไปเห็นโทรศัพท์ของไต้ฝุ่นที่วางอยู่ใกล้ๆ กับกระเป๋าฉัน สงสัยว่าเขาจะลืมไว้ พอคิดได้ดังนั้น ฉันจึงวิ่งตามเขาออกไปทันที แต่เขาเดินไวมาก -_-
ฉันวิ่งตามเขาจนกระทั่งมาถึงสระว่ายน้ำ ถ้าให้เทียบกับสนามบาสซึ่งตั้งอยู่ข้างกัน สระว่ายน้ำดูเงียบไปเลย ทั้งเงียบและโดดเดี่ยว แม้แต่ผิวน้ำยังไม่กระเพื่อมสักนิด พอเดินเข้ามาด้านในสระว่ายน้ำจะมีทางแยกอยู่สามทาง ถ้าไม่นับประตูตรงหน้าที่เป็นทางเข้าสระว่ายน้ำแล้วซ้ายมือจะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง ส่วนฝั่งขวาจะเป็นของผู้ชาย
ปัง!
เสียงปิดประตูจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าฝั่งซ้ายดังขึ้น พอหันไปมองก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันอยากเจอเธอมากๆ เธออยู่ในชุดว่ายน้ำแบบกางเกงขาสั้นและผ้าขนหนูพาดไหล่ เธอเดินมาพร้อมกับคุยโทรศัพท์มือถือ
เธอคือพลอย
ถ้าไม่ใช่ไต้ฝุ่น...ก็พลอยนี่แหละที่โกงประวัติ
ฉันก้าวถอยหลังออกมาแล้วยืนแอบอยู่ตรงประตู หลังจากนั้นเสียงที่เธอคุยกับปลายสายก็ดังออกมาจนฉันได้ยินและพอจะจับใจความได้
“มีแข่งเดือนหน้าค่ะ...ไปค่ะ ตอบตกลงไปแล้ว” เธอคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ฝืนทำน้ำเสียงปกติ “ค่ะ แน่นอนค่ะ แต่ว่า...ถ้าพ่อว่างก็มาดูก็ได้นะคะ...เอ่อ พูดเผื่อพ่อจะว่างน่ะค่ะ”
เธอคุยโทรศัพท์กับพ่อ...มันทำให้ฉันนึกถึงตอนตัวเองคุยกับแม่เลย คำว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้เนี่ย หลายคนมองว่ามันเล็กน้อยมาก แต่ใครที่ไม่เคยเจอกับตัวเองก็คงไม่เข้าใจหรอก จริงๆ แล้วมันโคตรอ้างว้างเลย
“ไม่ว่างเหรอคะ? อ๋อ...ลืมไปเลยว่าเจ้าตัวเล็กต้องไปสวนน้ำวันนั้น” เธอพูดพร้อมกับแค่นยิ้มออกมา แต่ดวงตาของเธอบ่งบอกถึงความน้อยใจ
ถ้าให้ฉันเดา...เจ้าตัวเล็กคงเป็นน้องของเธอ
หลังจากที่คุยอะไรต่ออีกนิดหน่อย เธอก็ขอตัววางสายแล้วโยนโทรศัพท์ใส่กระเป๋าด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในสระว่ายน้ำโดยทำผ้าขนหนูตกเอาไว้ตรงประตูทางเข้า
ต่อมคนดีของฉันดันทำงานซะด้วยสิ -_-
ฉันเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตกอยู่ตรงประตูทางเข้าสระว่ายน้ำ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้าไปด้านใน อยู่ดีๆ ก็ไต้ฝุ่นที่อยู่ในชุดนักเรียนก็เดินเข้ามาหาพลอยซะก่อน ดูเหมือนว่าเขาจะนั่งอยู่ในนั้นนานแล้ว
“มาซ้อมเหรอ” ไต้ฝุ่นเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“ไม่ได้ซ้อมมาหลายอาทิตย์แล้ว” พลอยพยักหน้าแล้วตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ตามแบบฉบับของเธอ
“เมื่อกี้เห็นคุยโทรศัพท์เคร่งเครียดเลย ทะเลาะกับพ่อเหรอ”
“อืม พ่อไม่ยอมให้ฉันออกไปอยู่ที่อื่นคนเดียวน่ะ” พลอยพูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายพลางส่ายหน้าไปมา
“อย่าคิดมากล่ะ”
“ไม่หรอกน่า”
“แล้วนี่...ไหล่เป็นไงบ้าง ยังไปหาหมออยู่มั้ย” ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับยื่นมือไปจับไหล่พลอยเบาๆ และมองด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย
ไหล่? หาหมอ?
จริงๆ แล้วคนที่มีปัญหาที่ไหล่ไม่สามารถลงแข่งว่ายน้ำได้นี่ งั้นก็แสดงว่าพลอยเป็นคนโกงประวัติเหมือนที่ฉันคิดมาตั้งแต่แรกน่ะสิ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ...ไต้ฝุ่นรู้เรื่องคนที่โกงประวัติได้ยังไง เขารู้มาตลอดเลยเหรอ?
เขาเคยบอกว่าไม่รู้นี่...
ฉันพยายามฟังต่อด้วยความรู้สึกที่อยากจะเดินหนีไปจากตรงนี้เต็มที แต่ฉันจะหนีไปไหนไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะต้องรู้ความจริงเรื่องทั้งหมดให้ได้
“ก็ดีขึ้นแล้ว ถึงกลับมาซ้อม” พลอยพูดพลางบีบไหล่ตัวเอง ก่อนจะพูดต่อ “เห็นเพชรบอกว่านายสนิทกับออทั่ม สนิทมากหรือเปล่า?”
“ไม่นะ ก็เป็นเพื่อนกัน” พอฟังมาถึงประโยคนี้แล้วแอบจุกเหมือนกัน ฉันนึกว่าเราจะสนิทกันซะอีก...
“เพชรเล่าเรื่องออทั่มให้ฉันฟังด้วย”
“มันหาว่าออทั่มเป็นคนขโมยเอกสารไปล่ะสิ...พาลไปทั่วจริงๆ” ไต้ฝุ่นพูดแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“แต่ฉันว่าเธอรู้นะว่าใครเอาไป ทำไมนายไม่ลองไปถามเธอดูล่ะ?”
“เราไม่สนิทกันขนาดนั้นหรอกนะ” ไต้ฝุ่นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป
ไม่ได้สนิทกันเหรอ...ฉันคิดไปเองเหรอ
ตัวฉันชาวาบไปทั่วขณะเมื่อไต้ฝุ่นพูดถึงเอกสารลับและเรื่องที่เขาบอกว่าเราไม่ได้สนิทกัน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองคิดไปเองคนเดียว ฉันเกือบ...จะชอบเขาแล้ว ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าเขาเป็นคนไม่มีพิษมีภัยอะไร ฉันคิดว่าตัวเองเข้าถึงเขาได้...แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครสามารถเข้าถึงเขาได้เลย
รอยยิ้มกับสายตาคู่นั้นที่ฉันเคยชอบมันมากๆ ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกไม่เข้าใจแทน ภายใต้รอยยิ้มที่แสนสดใสนั่น...ฉันไม่มีวันรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ฉันวางโทรศัพท์ของไต้ฝุ่นเอาไว้ตรงหน้าประตูทางเข้าสระว่ายน้ำแล้วรีบเดินออกมาจากจุดนั้นทันที ฉันไม่อยากจะฟังเรื่องความสัมพันธ์ของใครทั้งนั้น
โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา
สงสัยเราจะเป็นแค่คนรู้จักกัน
วันต่อมา
เรื่องเมื่อวานทำเอาฉันนอนไม่หลับทั้งคืน มัวแต่คิดหาเหตุผลว่าทำไมไต้ฝุ่นพูดไปแบบนั้น กว่าจะสะบัดเรื่องพวกนั้นออกจากหัวได้ก็เกือบตีสอง เช้านี้ฉันจึงเดินมาโรงเรียนด้วยสภาพ...หมีแพนด้า
ฉันเดินมาจนถึงหน้าตึกเรียนของตัวเองที่ตอนนี้มีคนมุงอยู่เต็มไปหมด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่ในตัวเป็นทุนเดิมทำให้ฉันพยายามแหวกฝูงคนเพื่อเข้าไปด้านใน
ภาพที่ฉันเห็นคือหน้าของตัวเองที่ใหญ่เบ้อเริ่มแปะอยู่บนบอร์ด ส่วนด้านข้างรูปฉันเป็นรูปของพลอยที่ถูกแปะในลักษณะเดียวกันกับฉัน โดยมีหัวข้อแปะอยู่ด้านบนว่า ‘นักเรียนทุนแลกเปลี่ยน’ ตรงรูปฉันจะเป็นคำว่าเรียนดี ส่วนตรงรูปพลอยเป็นคำว่ากีฬาเด่น ถัดลงมาก็เป็นประวัติของเราสองคน
เธอโกงประวัติเพราะต้องการทุนนักกีฬานี่เอง จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ต่างอะไรกับฉันเลย เราเหมือนกันอยู่หลายอย่างมาก จะต่างก็แค่เรื่องครอบครัว...ฉันพยายามอย่างมากที่จะไปหาพ่อกับแม่ แต่พลอยพยายามเพื่อถีบตัวเองออกจากบ้าน
“ในรูปเธอซีดไปนิดนะ” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นทางฝั่งขวามือ พอหันไปมองก็พบกับไต้ฝุ่นที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ ฉัน เขาหันมาฉีกยิ้มให้แบบที่ชอบทำ
ฉันหันมองหน้าเขานิ่งๆ โดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แค่เห็นหน้าเขาก็ทำให้เรื่องเมื่อวานลอยกลับเข้ามาตีกันอยู่ในหัวของฉันอีกครั้ง
ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ควรเป็นแบบนี้ ยังไงชมรมว่ายน้ำก็ไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่ดี ไต้ฝุ่นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะบอกหรือไม่บอกก็ได้ ทำไมฉันต้องไปนอยด์เขาด้วยเนี่ย!
ฉันยกมือขึ้นมาบีบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ ก่อนจะหันไปตอบไต้ฝุ่น “ไง”
คิดคำอื่นไม่ออกแล้วเหรอวะ -_-
“ไง” ไต้ฝุ่นตอบกลับแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “เธอกินข้าวมาหรือยัง ไป...”
“ไม่” ไต้ฝุ่นยังไม่ทันพูดจบประโยค อยู่ดีๆ ฉันก็โพล่งขึ้นไปซะอย่างงั้น พอรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ฉันก็รีบอธิบายเขาทันที “ฉันกินมาแล้วน่ะ วันนี้ตื่นเช้า”
“อ๋อ...แล้วนี่จะไปห้องสมุดมั้ย” เขาถามต่อ
“คิดว่าคงไม่”
“มีธุระเหรอ”
ฉันว่าเขาเองก็คงรู้แล้วล่ะว่าฉันกำลังพยายามหลบหน้าเขาอยู่ ดูจากสีหน้าและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเขา อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากหลบหน้าเขาขนาดนั้นหรอกนะ ก็อย่างที่ฉันเคยบอก...
ฉันเกือบจะหวั่นไหวกับเขาแล้ว นั่นทำให้ฉันต้องเว้นระยะห่างกับเขาสักพักหนึ่ง
“คือ...มีโครงงานน่ะ แต่ถ้าฉันทำเสร็จแล้วฉันจะไปนะ” ฉันรีบตอบกลับไป
“ออทั่ม!!!” ไต้ฝุ่นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อยู่ดีๆ ก็มีเสียงแปดหลอดของเพชรดังมาซะก่อน นั่นทำให้ไต้ฝุ่นถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
“งั้นฉันไปก่อนนะ” ไต้ฝุ่นหันมาบอกฉันแล้วเดินออกไปอีกทางทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่เพชรเดินเข้ามาถึงตัวฉันแล้ว
“ออทั่ม!!!” เพชรตะโกนเรียกฉันอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขายืนอยู่ห่างจากฉันไม่ถึงเมตรด้วยซ้ำ
“ไม่ได้หูหนวก -_-” ฉันหันไปตอบ
“ไฟล์มาแล้วนะ...อยู่บนห้องฉัน ทีนี้ฉันก็จะมีหลักฐานจับตัวเธอแล้ว” เขาขยับเข้ามากระซิบข้างหูของฉันแล้วยกยิ้มอย่างพอใจกับความคิดของตัวเอง
ไฟล์กล้องวงจรปิดสินะ...
ลืมไปเลยว่าวันนี้ฉันนัดกับเพชรเอาไว้ว่าจะไปดูกล้องพร้อมกัน ถ้าได้ดูกล้องวงจรปิดแล้วก็คงจะรู้ว่าใครเป็นผู้หวังดี หลังจากนั้นฉันก็ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับชมรมว่ายน้ำและไม่ต้องไปห้องสมุดอีกแล้วด้วย
พอคิดมาถึงตรงนี้...แทนที่จะดีใจหรือไม่ก็ตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่าใครเป็นผู้หวังดี แต่ฉันกลับรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆ
“จะไปดูเลยมั้ยล่ะ ฉันว่างอยู่พอดี” ฉันหันไปบอกเพชร
“ยัง ฉันไม่ว่าง...มาตอนเที่ยงแล้วกัน” เพชรพูดพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะหันมาพูดทิ้งทายกับฉัน “ฉันต้องไปแล้ว อย่าลืมมานะ!”
ดีใจหน่อยสิออทั่ม...อีกนิดเดียวเธอก็จะเป็นอิสระจากผู้หวังดีประสงค์ร้ายแล้วนะ!
ติ๊ดๆ
ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปบนตึกเรียน อยู่ดีๆ เสียงเตือนข้อความเข้าก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ของฉัน ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครส่งข้อความมาหาฉัน ยกเว้นผู้หวังดี…
‘เอกสารลับไม่ดึงดูดใจพอเหรอ? งั้นฉันจะบอกอย่างอื่นให้นะ
วันที่ฉันไปขโมยเอกสารลับ...คือวันเดียวกันกับวันที่เธอขโมยข้อสอบ
ถ้าฉันโดน อย่าหวังว่าเธอจะรอด!
-ผู้หวังดี’
ฉันเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับข้อความที่เพิ่งได้อ่าน มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า...อยู่ดีๆ ก็มีเด็กสองคนมาก่อการร้ายพร้อมๆ กันเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว!
ฉันวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องให้ใครบอก เพราะเคยวิ่งมาราธอนขึ้นมาบนนี้แล้วครั้งหนึ่ง พอได้มาวิ่งอีกครั้งจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่
ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อดูให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครขึ้นมาตอนนี้ ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมช่วยผู้หวังดีหรอกนะ แต่ฉันจะขโมยไปดูคนเดียวต่างหาก อย่างน้อยฉันก็จะได้รู้ว่าผู้หวังดีเป็นใครและไม่มีใครรู้ด้วยว่าฉันทำอะไร
เอาน่าออทั่ม...แค่เดินเข้าไปหยิบมันออกมา
แอดดด~
ประตูห้องของเพชรถูกเปิดจากคนด้านในซะก่อนที่ฉันจะได้เปิดเข้าไป พลอยเดินออกมายืนกอดอกมองหน้าฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วก็เกิดคำถามขึ้นในใจฉันว่า...เธอเข้าไปทำอะไรข้างในนั้น และไม่ได้เปิดอะไรดูใช่มั้ย
“ฉันรู้ว่าเธอต้องมา” เธอเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก หลังจากที่เรายืนมองหน้ากันอยู่นาน
“รู้?” ฉันเลิกคิ้วถาม
“เข้ามาสิ ฉันกำลังรออยู่เลย” พอพูดจบก็เดินนำหน้าฉันเข้าไปด้านใน
ฉันเดินตามพลอยเข้ามาด้านในพร้อมกับลางสังหรณ์แปลกๆ พลอยเดินไปยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานของเพชรที่มีคอมวางอยู่แล้วมองหน้าฉันนิ่งๆ
“มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถาม
“เธอเข้าไปทำอะไรในนั้น” พลอยตอบกลับมานิ่งๆ ก่อนจะหันหน้าจอคอมมาให้ฉันดู และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันอยากจะทึ้งหัวตัวเองจริงๆ
หน้าจอคอมเป็นภาพจากกล้อวงจรปิดที่แบ่งออกเป็นสี่ช่อง ในช่องที่สองมีภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกระโดดออกมาจากห้องพักครูวิทยาศาสตร์ ฉันเอง...
“…”
“เทอมที่แล้วเธอสอบได้คะแนนวิชาเคมีเต็ม ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยเข้าเรียนด้วยเนี่ยนะ” พลอยพูดพร้อมกับยื่นสมุดเช็กเวลาเรียนมาให้ฉัน
โดยปกติแล้วหัวหน้าห้องฉันจะเช็กว่าฉันเข้าครบทุกคาบ แต่สมุดเล่มนี้เป็นสมุดที่อาจารย์เป็นคนถือ และคาบเคมีจะเช็กเองทุกคาบ พอฉันหยิบมาเปิดดูก็พบว่าฉันขาดเรียนคาบเคมีบ่อยจริงๆ
“ฉะ...ฉันก็เรียนพิเศษข้างนอกไง” ฉันตอบกลับไปแบบตะกุกตะกัก
“ภาพมันฟ้องอยู่แล้ว...เธอขโมยข้อสอบ” แม้พลอยจะพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่คำพูดนั้นมันสามารถฆ่าฉันให้ตายได้ในรอบเดียว
ใจของฉันสั่นไหวไปกับคำพูดของพลอยและภาพตรงหน้า อีกแค่นิดเดียวฉันก็จะหลุดพ้นจากเรื่องนี้อยู่แล้วแท้ๆ ทำไมมันถึงได้ไม่จบสิ้นสักที!
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามตั้งสติให้ได้ หลังจากนั้นเรื่องเมื่อวานก็ลอยเข้ามาในความคิดของฉัน สถานการณ์ตอนนี้เหมือนนักโทษแหกคุกสองคนมาเผชิญหน้ากัน และฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องพัง...
“อย่าไปบอกใครได้มั้ย?” ฉันถามพลอยด้วยสีหน้าอ้อนวอน แต่พอดูเธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา ฉันจึงต้องงัดไม้แข็งออกมา “ถ้าเธอเก็บไว้เป็นความลับแล้วลบไฟล์นั่นทิ้ง...ฉันก็จะไม่บอกใครว่าเธอโกงประวัติ”
พลอยหน้าเสียไปทันทีที่ฉันพูดแบบนั้น เธอขยับตัวเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้ากังวล ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนนี้ตัวเองดูร้ายแค่ไหน แต่ก็อย่างที่ผู้หวังดีบอก...ฉันจะไม่ยอมพังคนเดียวแน่
“เฮอะ...” หลังจากที่ทำหน้าซีดได้ไม่นาน พลอยก็เปลี่ยนมาแค่นหัวเราะใส่ฉันแทน “เธอรู้ได้ยังไง”
“เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน…ถ้าเธอช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยเธอ”
“ทำไมฉันต้องช่วยเธอ” พลอยตอบกลับมานิ่งๆ และมันเป็นท่าทีที่กวนประสาทฉันได้มากที่สุด
“เพราะฉันไม่อยากพลาดทุน เธอเองก็คงไม่อยากเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ?”
“เปล่าเลย ทุนนั่นไม่ได้สำคัญกับฉันเท่าไหร่หรอก” เธอกระตุกยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “ฉันจะช่วยเธอ ถ้าเธอช่วยฉันอีกเรื่อง”
อยู่ดีๆ ตาขวาก็กระตุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ น้ำเสียงและท่าทีที่แปลกไปของพลอยมันทำให้ฉันได้เห็นมุมที่ไม่เคยเห็นของเธอมาก่อน อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่าบนโลกนี้ไม่ได้มีฉันร้ายอยู่คนเดียว -_-
“ช่วยอะไร” ฉันถามกลับ
“ช่วยตามหาเอกสารลับให้เจอ”
ฉันเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ เมื่อได้คุยกับพลอย เธอกับเพชรไม่ได้ต่างกันเลย...ให้ฉันตามหาเอกสารลับแต่ไม่บอกว่ามันคืออะไร ชาตินี้ฉันจะหาเจอมั้ยล่ะ -_-
“ถ้าอยากให้ฉันหาเจอ งั้นก็บอกมาสิว่าเอกสารลับคืออะไร!” ฉันตอบกลับไปและเผลอใส่อารมณ์หงุดหงิดลงไปในน้ำเสียง
“เพชรมีเหตุผลที่ไม่ยอมบอกเธอ ฉันก็มีเหมือนกัน”
“บอกฉันมาเถอะ ไหนๆ เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว” ฉันพยายามหว่านล้อม
“…”
“ถ้าเธอไม่บอกฉันก็คงหาเอกสารให้เธอไม่ได้”
“ถ้าฉันบอกแล้ว เธอต้องสัญญาว่าจะยอมรับทุกๆ อย่างที่ตามมา”
ตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่ ทำอะไรก็มีผลกระทบทุกอย่างนั่นแหละ แล้วอีกอย่าง...ผู้หวังดีก็กะจะบอกฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉันมารู้เองจะเป็นอะไรไป
“ฉันจะยอมรับ”
“งั้นฉันจะบอก” พลอยยกยิ้มให้ฉันอีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้ามาหาฉัน ก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหู “จริงๆ แล้ว เอกสารลับน่ะ มันคือ...”
นี่เธอจะยอมบอกฉันจริงๆ เหรอ?
TALK : ตอนสุดท้ายแล้ว แงงงง ;_;
เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วนะคะทุกคน บอกเลยว่ากดดันมากกับตอน 7 เพราะมันเป็นตอนที่เราต้องงัดทุกอย่างออกมาเล่นแล้วอ่ะ จริงๆ พลอตเก่า ตอน 7 ยังไม่เข้าปมเรื่องพลอยเลยค่ะ T_T
ขอบอกว่าพลอยก็เป็นตัวละครที่เด่นเหมือนกันนะเออ เป็นคนบทน้อย พูดน้อย แต่พูดแล้วปล่อยหมัดแรงมาก อยากให้ทุกคนช่วยรักนางกันเยอะๆ นะคะ
สิ่งที่อยากจะบอกคือ ขอขอบคุณทุกๆ คนในโครงการ โดยเฉพาะ มิ้งค์ เตย แล้วก็พี่บุ๋มนะ ทุกคนเลยที่ช่วยทวน ช่วยแนะนำ หลังจากจบโครงการไปแล้วอย่าลืมกันนะ ไม่งั้นร้องไห้จริงด้วย T^T
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกรรมการทุกๆ คน ขอขอบคุณพี่ชุบที่คอยคอมเม้นให้ตลอดเลย (และขอบคุณพี่ชุบที่แนะนำนิยายเรื่อง 13 Reason Why นะคะ อ่านแล้วหน่วงมากๆ เลยค่ะ) ทุกครั้งที่อ่านคอมเม้นพี่นี่ใจสั่นยิ่งกว่าโดนกาหัวข้อสอบอีกค่ะ (5555) หนูจะพยายามปรับปรุงงานเขียนของตัวเองให้ดีขึ้นตามคำแนะนำนะคะ
สุดท้ายที่อยากจะบอกพี่...พี่ไม่อยากรู้เหรอคะว่าใครเป็นผู้หวังดี
(555555555555555555555555555555555555555555555)
ปล.รักทุกคนนั้ล
บ้านยัยพลอยอยู่ไหนคะ จะบุกไปถามมม-.- ทำไมมันเข้มข้นแบบเน้ หลอกให้อยากรู้แล้วจากไป
เป็น กลจ อวยพรให้โชคดีนะลูกก ปมมาดีทุกอย่างแน่นไปหมด
เพชรนี่ก็ไล่บี้เรื่องหลักฐานกล้องวงจรปิดจัง แนะนำให้ฆ่าทิ้งค่ะ//เดี๋ยววว
จุ้บนะ <3
ตอนสุดท้ายแล้วหรอเนี่ย สู้ๆนะคะ ขอให้เข้ารอบน้าาาา
ไม่ว่ายังไงก็อย่าท้อล่ะ แต่งนิยายต่อไปน้าาาาาา
ใจร้ายมากกก ตัดจบงี้ได้ยังไงงงง TToTT มันลุ้นนะรู้มั้ยยย
คือแบบออทั่มนี่ก็ร้ายใช่เล่นนะเนี่ย แต่อย่างที่บอกมาตลอดคือเราชอบความเด็ดเดี่ยวของนางงง -.,-
มีความสตรองและไม่ใช่นางเอกอ่อนแอ ชอบๆๆๆ
ปมแน่นมากกกก คือแบบถ้าเป็นฉันแต่งนี่ต้องสับสนเองแน่5555 คลี่ยากก แต่แกทำในส่วนนั้นได้ดีมากเลยอ่ะ ประทับใจสุดๆ
สุดท้ายนี้ดีใจมากเลยนะที่ได้มาเจอแก แน่นอนว่าเราจะไม่ลืมแก แกก็อย่าลืมเราน้างือออ ต้องมาแต่งนิยายด้วยกันให้ได้นะเฮ้ยยยยย T___T แอบเหงาจังแงง
จริงๆ พลอตของเรื่องนี้ดีนะ แต่พี่ว่าเราแบ่งบทไม่ดี เหมือนว่าให้ตัวละครกระจายบทมากไป แล้วเทลงที่นางเอกคนเดียวหมด จนถึงตอนนี้พี่ยังไม่มั่นใจเลยอ่ะว่าใครพระเอกกันแน่ แล้วพลอยจริงๆ ถ้ามาก่อนหน้านี้อาจจะมีอิมแพคมากกว่านี้ นี่โผล่มาแล้วใช้งานเลย มันไม่ได้ปูตัวละครมาไง การลำดับเรื่องของเราเรื่องผู้หวังดีอ่ะดีนะ แต่ความสัมพันธ์ตัวละครอ่อนมาก ยังไงซะมันก็คือนิยายรักใช่ป่ะ แต่มันไม่มีเส้นความสัมพันธ์ตรงนั้นเลยอ่ะ บรรยายดีอยู่แล้ว บทสนทนาดีอยู่แล้ว เหลือแค่ใส่รายละเอียดตัวละครเนี่ยล่ะ เรื่องน่าสนใจนะ แต่บางจุดก็ปล่อยผ่านง่ายไป บางจุดก็ปล่อยซะยากเชียว อาจจะต้องเกลี่ยให้ระดับความยากง่ายของแต่ละเหตุการณ์เสมอกันหน่อยเพื่อความสมจริง
ปล. 13 reasons why กำลังจะทำซีรี่ส์นะ รอดู ไปอ่านนี่ดิ All the bright places พี่ชอบมากกกกกกกก กำลังจะทำหนังเหมือนกัน elle fanning เล่น สนุกๆ