maya_vampire

[JLS02] Library love ห้องสมุดสื่อรักละลายใจ

“ สถานที่ที่เรียกว่าห้องสมุดที่ที่ไม่คิดว่าจะมีความรักของสองคนจะเกิดขึ้นได้...แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว” “ลูกหมี” จะได้เจอกับหนุ่มรุ่นน้องอารมณ์ดี “คลาสสิค” พบวิธีการจีบแสนละลายใจไปพร้อมๆกันได้แล้วค่ะ

0%
VOTE
ตอนก่อนหน้า

ตอนที่ 4/7 :: เหตุผลที่อยากเข้มแข็ง

ตอนถัดไป

ตอนที่ 4

เหตุผลที่อยากเข้มแข็ง



 

            บรรยากาศการทานข้าวกับครอบครัวของคลาสสิคเป็นอะไรที่เกร็งมาก ก็ใครจะไปคิดกันว่าจะเจอเขาที่นี่ แถมยังน่าตกใจมากที่จู่ ๆ เขากับฉันก็เคยเจอกันตอนเด็กซะงั้น แถมเขายังพูดจาแปลก ๆ ออกมาแบบนั้น นี่ฉันเองก็พยายามนั่งคิดระหว่างทานข้าวว่า ฉันไปทำอะไรไว้กับเขางั้นเหรอ เขาถึงบอกว่าอยากจะทวงเวลา 7 ปีคืน



            “อาหารถูกปากไหมจ๊ะ” แม่ของคลาสสิคถามขึ้นหลังจากทานข้าวกันเสร็จ ฉันพยักหน้ารับ


            “อร่อยมากเลยค่ะ” อาหารทุกอย่างอร่อยจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นต้มยำไก่ ผัดวุ้นเส้น ไก่ทอด แต่ฉันก็ไม่ได้ทานเข้าไปเยอะมาก ไม่ใช่ว่าฉันไดเอทหรืออะไรนะ แต่ผู้ชายที่นั่งจ้องฉันตาไม่กระพริบตรงหน้าทำเอาแทบกินข้าวไม่ลง ไม่รู้คลาสสิคจะจ้องอะไรกันนักกันหนา! =0= จะจับปีกไก่มาฉีกกินต่อหน้าเขาก็รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล



            “เห็นหนูทานน้อย แม่เลยรึว่าอาหารไม่ถูกปาก” แม่ของคลาสสิคยิ้ม แฮะ ๆ ลูกชายของแม่เล่นจ้องซะหนูไม่กล้าหยิบอะไรมาทานเลยล่ะค่ะ ฉันบ่นในใจ


            “คลาสสิคพาหนูลูกหมีออกไปเดินเล่นก่อนสิ เดี๋ยวพวกแม่ว่าจะคุยกันสักหน่อย” เขาพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นพร้อมกับผายมือเชิญฉันอย่างสุภาพแต่ใบหน้าหล่อกลับกระตุกยิ้มกวน



            “ทางนี้ครับ” ฉันอยากจะปฏิเสธว่าไม่ไปแต่ก็ทำไม่ได้ เลยต้องเดินตามคลาสสิคออกไปข้างนอก  ฉันเดินตามเขามาเรื่อย ๆ บ้านของเขาเป็นบ้านหลังใหญ่เป็นสไตล์เหมือนบ้านญี่ปุ่น ฉันว่ามันให้กลิ่นอายแบบนั้น บนผนังตามทางเดินมีรูปดอกไม้ น้ำตกสวย ๆ ติดอยู่ สายตาของฉันมองรูปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่รูปสมัยวัยเด็กของเขา เด็กผู้ชายตัวเล็กผิวขาวปากอมชมพูที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ พอเห็นรูปเขาก็ทำให้ฉันจำได้เลยว่า เขาคือเด็กผู้ชายคนนั้นจริง ๆ



            “นี่ คลาสสิค...ที่ว่าเรื่องเจ็ดปีที่หายไป นายหมายความว่ายังไงเหรอ แล้วฉันไปทำอะไรไว้กับนายงั้นเหรอ” คนที่เดินอยู่ข้างหน้าดี ๆ ก็หยุดเดินแล้วหันขวับกลับมา ฉันที่เดินตามติดเขาก็ชะงักเมื่อปะทะเขากับแผงอกของเขาพอดีเป๊ะ


            .///. กลิ่นน้ำหอมที่เขาใช้ลอยแตะจมูกเต็ม ๆ เฮือก...ฉันสูดดมเข้าไป หอมมาก...กลิ่นเหมือนขนมเยลลี่เลย อ๊ายยย ผู้ชายใช้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้ด้วยเหรอ สติ !! ยัยลูกหมี!!


            “พี่ทำจมูกฟุดฟิดทำไมครับ =__= ผมอาบน้ำแล้วนะ” เสียงเข้มถามขำ ๆ รอยยิ้มกวนที่อยู่ตรงหน้าทำเอาหัวใจของฉันเต้นโครมครามขึ้นมา ฉันเป็นโรคแพ้ผู้ชายหน้าตาดีรึเปล่า ทั้งที่บอกว่าตัวเองไม่ชอบแต่ก็ยังจะไปทำหน้าเคลิ้ม ๆ ใส่เขาอีก


            “ฉันแค่...สูดอากาศแถวนี้ดูก็เท่านั้นแหละ!



            “หืม...อากาศแถวนี้ มันหอมดีใช่ไหมครับ?” เขาก้มหน้าเขามาในระยะประชิด ชวนให้หัวใจของฉันแทบจะละลาย เขาทำท่าเหมือนกับจะแกล้งหยอกฉันเล่น กลิ่นน้ำหอมของเขาที่มันฟุ้งกระจายมาแทบจะติดเสื้อของฉันอยู่แล้ว!!

            คิดดูละกันว่าเขาเขยิบเข้ามาใกล้ขนาดไหนถึงขั้นน้ำหอมจะลอยมาติดเสื้อของฉันได้ >___<



            “ถ้าพี่อยากรู้เรื่องเจ็ดปี พี่ก็ต้องจำได้เอง เพราะถ้าพี่ไม่ได้จำได้ด้วยตัวเอง มันจะมีความหมายอะไร...แถมพี่ยังผิดสัญญาอีก” เขาหันหน้าหนีตอนประโยคสุดท้ายเลยทำให้ฉันได้ยินมันไม่ชัดเท่าไหร่ เขาพูดอะไรพึมพำของเขากัน แต่ยังไม่ทันทีจะพูดอะไรต่อคลาสสิคก็หันหน้ากลับมาหา โอ๊ย นึกจะหันมาก็หัน


            “อ้อ ผมจะพาพี่ไปห้อง ๆ หนึ่ง พี่ต้องชอบแน่ ๆ เลยครับ ตามผมมาสิ” เสียงเข้มบอกขึ้นมา



            “นายจะพาไปห้องอะไรเหรอ?” ฉันถามแต่เขาก็ไม่ได้ให้คำตอบ แต่เขากลับเดินต่อไป ฉันมองพรมแดงที่ถูกปูไว้เป็นทางเดินยาวภายในบ้าน เชื่อแล้วว่าบ้านนี้รวยจริง ๆ เพราะจากที่สังเกตรอบบ้านเขาจะใช้แต่ของที่เป็นสีทองกับสีแดงกำมะหยี่เท่านั้น



            คลาสสิคหยุดเดินและเปิดประตูบานใหญ่ตรงหน้า ฉันตาโตเมื่อพบว่ามันคือ ห้องสมุด ! ถือว่าเป็นห้องสมุดที่ใหญ่มากทีเดียว 0___0 หนังสือถูกจัดเรียงในชั้นอย่างดี ราวกับอยู่ในหนังเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรเลย เวลาเห็นหนังสือเยอะ ๆ ล้อมรอบกายแล้วรู้สึกอยากจะหยิบมาอ่านให้หมดทุกเล่ม ระหว่างที่ฉันกำลังตื่นตาตื่นใจกับหนังสือ ร่างสูงก็มายืนหยุดอยู่ข้างฉันแล้วยื่นสมุดเล่มเล็ก ๆ สีขาวลายหัวใจสีชมพูให้



            “ผมเอาให้พี่ ห้ามปฏิเสธว่าจะไม่เอาด้วยนะครับ ลองเปิดดูก่อนแล้วพี่จะชอบ” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรสักนิดเขาก็พูดดักไว้หมดทุกทาง ฉันก็ยังไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาเลยนี่ หมอนี่ร้อนตัวไปเองจริง ๆ    เขาบอกให้เปิดดูฉันก็เปิดตามคำสั่ง ภายในสมุดเล่มนั้นเขียนหัวข้อข้างบนด้วยลายมือของคลาสสิค           เขาลายมือสวยกว่าฉันอีกอ่ะ

            [รายชื่อห้องสมุด]

            [ 1. บ้านคลาสสิค]


            “แล้วนี่มันคืออะไรอ่ะ ? รายชื่อห้องสมุดอะไรเหรอ” ฉันเงยหน้าขึ้น เขาขยี้หัวตัวเองนิด ๆ เหมือนจะว่าฉันไม่เก็ทไม่เข้าใจเขา อ้าว ก็ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ นี่นา เขาเดินเข้ามาใกล้อีกนิด ฉันเลยผงะออกด้วยความตกใจนิดหน่อย ไม่ใช่อะไรหรอก >< กลิ่นน้ำหอมของเขามันกระตุ้นฉันเกินไป ทำไมรู้สึกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวแบบนี้ =[]= !


            “ก็เอาไว้เขียนห้องสมุดที่เราจะไปด้วยกันไงล่ะครับ” เสียงเข้มตอบคำถาม แต่ฉันก็ขมวดคิ้ว เขาที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็เอามือตีหน้าผากของเขาเองเหมือนเอือม ๆ



            “เอาเก็บไว้ในกระเป๋าของพี่ก่อนก็แล้วกันนะครับ ห้ามทำหายด้วย แล้วพี่จะเข้าใจความหมายของสมุดที่ผมให้ไปเอง” เขาตัดบทแล้วดึงสมุดจากมือของฉันไปใส่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กที่ฉันสะพายมาด้วย โอ๊ย ยังไม่ทันจะรู้เรื่องก็มาตัดบทกันก่อนซะแล้ว จู่ ๆ แขนของฉันก็โดนเขาคว้าลงไปนั่งลงโซฟาที่เขาเพิ่งนั่งลงไปเมื่อกี้


            “อ๊ะ” ฉันนั่งลงและก็ต้องตกใจเมื่อเขาเอนตัวล้มลงมาหนุนตักของฉันอย่างไม่ขออนุญาตเลยสักนิด !! กรี๊ดดด ผู้ชายนอนตัก!


            “นี่ ! ลุกออกไปเลยนะ นายจะมานอนหนุนตักฉันทำไม !! 0____0” แววตาคมเข้มของเขาจ้องหน้าของฉันนิ่ง ๆ เหมือนคิดอะไรอยู่ภายในใจ หัวใจของฉันที่ควรจะเต้นปกติดีกลับเต้นเร็วขึ้น เขายกยิ้มมุมปากแล้วยื่นหนังสือเล่มหนึ่งมาให้ ฉันมองอย่างงง ๆ แต่ก็ยื่นมือไปรับหนังสือจากเขา



            “ผมยืมมาหลายวันแล้วแต่อ่านยังไม่จบสักที อ่านได้สองสามบรรทัดผมก็หลับ พี่ช่วยอ่านให้ผมฟังได้ไหม...” คำขอซื่อ ๆ จากปากของเขาถูกขอออกมา ฉันพยายามจะลุกออกจากท่านั่งท่านี้แต่ตัวการที่นอนหนุนตักของฉันอยู่ไม่ยอมขยับเลยสักนิด !



            “นายเป็นเด็กอนุบาลรึไง ถึงต้องมีคนมาอ่านให้ฟัง ?


            “ถ้าเป็นเด็กแล้วมีพี่มาอ่านให้ฟัง ผมยอมครับ” เขาพูดหยอดด้วยเสียงทุ้มที่ใครฟังอย่างไม่ระวังมีหวังเคลิ้มไปกับพูดที่ธรรมดา แต่กลับมีอะไรแฝงมากกว่านั้น แต่ฉันไม่หลงกลมันง่าย ๆ หรอก! =,,,=



            “ฉันไม่อ่าน...” พอปฏิเสธออกไปเขาก็เงียบไปจนผิดสังเกต ฉันเลยก้มลงมองเขาที่นอนหนุนตักอยู่ก็พบว่าเขายังจ้องอยู่นิ่ง ๆ



            “จะอ่านให้ผมฟังดี ๆ หรือจะให้บังคับก่อนครับ ?” เขาขู่แต่ก็กระตุกยิ้มก่อกวนคนอื่นไปด้วย  เริ่มสงสัยแล้วว่า ตกลงใครรุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่ ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะอ่านให้เขาฟังดีรึเปล่า เขาที่นอนหนุนตักฉันอย่างสบายใจก็พูดกระตุ้นอีกครั้ง



            “เอาเป็นว่า อ่านให้ผมฟังเถอะนะ นะ...นะครับ....” ใบหน้าที่จริงจังบวกกับน้ำเสียงอ้อนที่ทำให้ใจคนฟังแทบอ่อนระทวย เขาทำหน้าเหมือนกับเด็กน้อยอนุบาลที่รอฟังนิทานจากคุณครูแหนะ แต่เด็กน้อยตรงหน้าของฉันเป็นเด็กโข่ง แถมหล่อด้วย >0< !!



            “ก็ได้ ๆ อ่านก็อ่าน...แล้วนายจะนอนฟังอยู่ท่านี้เนี่ยนะ ?” เขาพยักหน้าหงึก ๆ บ่งบอกว่าไม่ยอมลุกไปไหนแน่นอน !พึ่งรู้จักคำว่า รุก ไม่ยอมถอยก็คราวนี้แหละ


            “ตักพี่นุ่มดี ผมชอบมาก ๆ” เขาพูดออกมาทำให้ฉันชะงัก เพราะคำพูดมันเหมือนกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าใครพูด คลาสสิคมองแล้วกระตุกยิ้มอย่างพอใจ เขาจะยิ้มทำไมกันเนี่ย


            “นายเคยพูดประโยคนี้มาก่อนรึเปล่า?” ฉันถามแต่เขากลับนอนตะแคงข้างให้ฉันแทน “นี่ ตอบมา” ฉันย้ำอีกรอบแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ



            “อ่านหนังสือได้แล้วครับ ผมรอฟังอยู่” เขาตอบออกมา ฉันเลยได้แต่เปิดหนังสือเล่มหนาตรงหน้าตัวเองแล้วเริ่มเล่าเทพนิยายไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อเริ่มอ่านไป ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่เคยอ่านบ่อย ๆ ....มันเป็นเล่มที่อ่านให้คลาสสิคฟังด้วยนี่



            ฉันอ่านไปไม่ทันจะถึงสามหน้า คลาสสิคที่นอนหนุนตักของฉันอย่างสบายใจก็หลับไปแล้ว! =0= เป็นผู้ชายที่มีความหลับง่ายมาก ฉันพิจารณาดูใบหน้าของเขาพลางคิดถึงตอนเด็ก ๆ ดูเหมือนว่าเราจะสนิทกันตอนเด็กน่าดู เมื่อมองหน้าเขาเพลินสักพักฉันก็ทำท่าจะลุกออกจากเขาแต่เสียงทุ้มก็ดังละเมอออกมา



            “อย่าทิ้งผมไป...” ฉันชะงักนิดหน่อยแต่ก็ค่อย ๆ ประคองท้ายทอยของคลาสสิคไว้แล้วเอาหมอนมารองให้เขานอนดี ๆ ฉันเอื้อมมือมาไปลูบผมของเขาอย่างเบามือ “ฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำรึเปล่า คลาสสิค นายถึงได้บอกว่าอยากมาทวงคืนเวลา...” แม้ว่าฉันจะยังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อว่าทำไมเขาถึงต้องมาทำตัวติดฉันขนาดนี้ แต่อีกไม่นานฉันจะต้องหาคำตอบนี้มาให้ได้ด้วยตัวเอง


            ฉันมองเขาที่หลับอยู่สักพักก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้...

 


            วันต่อมา



            “วันนี้เราจะเรียนแค่บทเดียว สมุดส่งที่หัวหน้าห้องก็แล้วกันนะ ส่วนสัปดาห์หน้าก็อ่านหนังสือบทที่ 2-3 มาด้วย จะมีทดสอบก่อนเรียน สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้” อาจารย์ประจำวิชาประกาศสั่งงานจบก็เดินออกไปจากห้อง เสียงในห้องก็ดังขึ้นด้วยเสียงพูดของคนหลายกลุ่มทันที ส่วนโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ก็มีคนเอาสมุดมาวางกองไว้เต็ม ฉันเป็นหัวหน้าจึงเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องเอากองสมุดนี่ไปส่ง เพียงแค่เวลาไม่ถึงนาทีตอนนี้ทุกคนในห้องหายตัวไปหมดแล้ว เหลือแค่ฉันอยู่ในห้องกับกองสมุดตัวร้ายที่แทบจะสูงกว่าส่วนสูงของฉันอยู่แล้ว



            วันนี้ตาลไปแข่งกีฬาของจังหวัดตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันเลยต้องอยู่คนเดียวอีกตามเคย ฉันอุ้มสมุดสูงไว้ก่อนจะเดินไปทางห้องพักครู เนื่องจากสมุดที่สูงทำให้แทบจะมองไม่เห็นทางเดินอยู่แล้ว ฉันต้องเดินไปช้า ๆ แล้วหันข้างเดินเอา



            ฟึ่บ ! ระหว่างที่ก้มหน้าก้มตาเดิน สมุดที่ถืออยู่ก็เบาขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นก็เจอคลาสสิคใช้มือเดียวถือสมุดที่ถูกยกออกไปเกินครึ่ง



            “พี่ลูกหมีทำไมมาถือสมุดอยู่คนเดียว ? จะเอาไปส่งห้องพักอาจารย์เหรอครับ?” เขาถามพร้อมกับยื่นมือจะมาเอาสมุดที่เหลืออยู่ในมือของฉัน ฉันเลยส่ายหน้า



            “ไม่เป็นไรอันนี้ฉันถือเอง...จริง ๆ ฉันถือไปเองได้ทั้งหมดนะ”



            “ไม่เป็นไรครับ ผมอยากช่วย ให้ผมถือไปให้นะ ผมก็จะไปส่งงานของตัวเองพอดี” เขาไม่ปล่อยให้ฉันได้ปฏิเสธ คลาสสิคเดินนำหน้าไปทางห้องพักอาจารย์ทันที ฉันเลยต้องรีบเดินตามเขาที่ก้าวขายาวมากจนแทบตามไม่ทัน ฉันเอาสมุดเข้าไปส่งก่อนจะมองเขาที่ยืนรออยู่หน้าห้อง อ้าว ไหนว่าเขาเอาสมุดมาส่งอาจารย์ยังล่ะ ?  เขายืนพิงรอฉันอยู่ที่หน้าประตูห้องพอเห็นฉันออกมาเขาก็ยิ้มกว้าง แสดงว่าเขาก็ไม่ได้เอาอะไรมาส่งอาจารย์แต่อาสามาช่วยฉันถือมาส่ง แสนดีจังเลยนะ...



            “ขอบคุณที่ช่วยยกสมุดมาส่งนะ” ฉันกล่าวขอบคุณจากใจจริง เขาก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับยื่นหน้าหล่อ ๆ ของเขามา



            “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็น...ไปกินข้าวเที่ยงกับผมได้ไหมครับ ? ^^ ป่ะ ๆ ตกลง ผมหิวแล้ว” เขาไม่ได้รอให้ฉันตอบสักนิดแต่กลับตอบคำถามของตัวเองเอง แล้วก็ถือวิสาสะเอื้อมมือมาจูงมือฉันให้เดินไปกับเขาอีก มือเย็นที่จับแขนของฉันตรงหน้าทำให้หัวใจของฉันรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมา มือเย็นแต่กลับอบอุ่น



            ฉันบิดข้อมือออกจากการจับกุมของเขา =//= คลาสสิคเองก็ยอมปล่อยแต่โดยดี เราเดินอยู่ตรงทางเดินในอาคารชั้น 2 เขาดูอารมณ์ดีมากเห็นเขายิ้มไม่หุบเลย เขาหันมามองฉันพอดีกับที่ฉันเองก็มองเหมือนกัน คลาสสิคกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกับเสียงของแตกดังสนั่น ฉันเบิกตากว้างเมื่อเห็นลูกฟุตบอลลอยเข้ามาทางหน้าต่างด้วยความเร็ว



            “ข้างบนระวัง!!”  คนที่ตะโกนมาจากข้างล่างร้องเตือน แต่มันก็ไม่ทันแล้ว...



          เพล้งงงงงงง !!!!!  เสียงกระจกแตกตามมาด้วยเสียงกรี๊ดดังอย่างตกใจ กับเสียงของคนตะโกนวุ่นวาย



            ฉันหัวใจราวกับจะหยุดเต้นเมื่อคลาสสิคใช้แขนของเขาคว้าฉันเข้าไปกอดไว้ทันทีที่มีเสียงกระจกหน้าต่างบานใหญ่แตกละเอียด ฉันรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นและปลอดภัย เมื่อได้สติฉันก็เริ่มได้กลิ่นคาวเลือด ก่อนเสียงทุ้มที่โอบกอดฉันไว้จะถามขึ้นอย่างเป็นห่วง



            “พี่ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ...” ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะตอบเขาแต่ก็ต้องตาโต เพราะเสื้อนักศึกษาของคลาสสิคมีแต่เลือด !! แขนของเขามีเลือดไหลเป็นทาง ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความช็อก



            “นายเลือดออกนี่ !! T____T อ่า นายเลือดออก....เลือด ทำยังไงดี ทำยังไง...” ฉันรนรานจนทำอะไรไม่ถูกและก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ค่อยออก คลาสสิครีบเอามือข้างที่ไม่มีเลือดมาปิดตาของฉันไว้ทันที



            “ผมไม่เป็นไรครับพี่ลูกหมี ใจเย็น ๆ นะ พี่ไม่ต้องมองเลือดนะ..” เขาบอกอย่างรู้ดี ฉันเลยเอามือของเขาออกราวกับว่าคิดอะไรออก ใช่แล้ว !! ...เหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้น ฉันจ้องเลือดตรงหน้าก่อนจะรู้สึกว่าโลกทุกอย่างมันมืดดับไปหมด ...ใครปิดไฟกัน =0=  เสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก็คือเสียงของคลาสสิคที่เรียกชื่อของฉันซ้ำไปซ้ำมา ...ฉันจำได้แล้วว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้ขึ้นในวัยเด็กของฉันกับคลาสสิค


 

            ฉันมองหมอกควันที่มีแต่ความมืด นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย ความฝันเหรอ ?.................................


            “ฮือออ...ผมขอโทษฮะ เป็นความผิดของผมที่ทำให้พี่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ ฮึก...” เสียงเด็กชายตัวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำให้ฉันหันไปมองภาพที่อยู่ในห้องพยาบาล ก็เห็นเป็นฉันที่มีผ้าพันแผลอยู่บนหัวกับคลาสสิคตัวน้อยในวัยเด็กที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างเตียง นี่มันคือความทรงจำของฉันนี่  ฉันยืนดูภาพความทรงจำของตัวเองอย่างอึ้ง ๆ


            “ไม่ใช่ความผิดของคลาสสิคหรอกรู้ไหม พวกนั้นต่างหากที่เป็นคนทำแบบนี้” ฉันในวัยเด็กพูดปลอบใจ แต่คลาสสิคกลับร้องไห้หนักขึ้น



            “ฮืออ เพราะผมมันอ่อนแอ! ชอบโดนแกล้งบ่อย ๆ ถึงทำให้พี่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ ผมไม่อยากให้พี่เจ็บตัว ฮือออ...พี่ลูกหมี....ฮือออ ฮึก” คลาสสิคร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจจริง ๆ จนคนฟังอย่างลูกหมีร้องไห้ออกมาตาม


            “นายต้องไม่ร้องนะ...นายต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อที่จะปกป้องคนที่นายรักนะ คลาสสิค” ฉันในวัยเด็กจับไหล่ของคลาสสิคตัวน้อยไว้แล้วบอกให้ฮึดสู้


            “ฮึก...ฮะ...ผมจะเข้มแข็งขึ้น...เพื่อที่จะปกป้องพี่ เมื่อถึงวันนั้นพี่ต้องสัญญากับผมนะ ว่าพี่จะมาเป็นเจ้าสาวของผม สัญญานะฮะ....T^T” เสียงเล็กปนสะอื้นจากเด็กน้อย ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน ........................................



 

            เฮือก ! ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ภาพความฝันเมื่อกี้ยังคงชัดเจนอยู่เลย    ฉันมองรอบ ๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ห้องพยาบาลก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อฉันมองไปทางซ้ายมือของตัวเองก็เจอคลาสสิคที่ยืนหันหน้ามาหาฉันแล้วเอาแขนท้าวไว้ตรงหน้าต่าง แขนของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ตรงหัวเองก็มีผ้าพันเล็ก ๆ พันไว้ด้วย แววตาของเขามองมาที่ฉันด้วยสายตาที่มันสื่อความหมายออกมาทั้งหมด ยิ่งรับรู้ว่าเขาเคยบอกอะไรไว้กับฉันเมื่อตอนเด็ก ฉันก็ยิ่งเข้าใจความรู้สึกของเขามากขึ้น



            “คลาสสิค...นายเข้มแข็งขึ้นมากเลยนะ” น้ำเสียงที่สั่นคลอนของฉันบอกออกไปทำให้เขาเบิกตา กว้าง คลาสสิคเดินเข้ามาหาฉันช้า ๆ แววตาของเขามีน้ำตาคลออยู่ในเบ้า เขาคุกเข่าลงตรงข้างเตียงด้วยใบหน้าที่ตื้นตัน ก่อนเขาจะเริ่มพูดระบายออกมา



            “พี่จำเรื่องวันนั้นได้แล้วใช่ไหมครับ...วันที่พี่ต้องเจ็บตัวเพราะผม ...วันนั้นคือวันที่ผมบอกกับตัวเองไว้ว่า ผมจะเข้มแข็งขึ้นเพื่อปกป้องพี่ ...ผมได้รับกำลังใจจากพี่ตอนนั้นทำให้ผมสร้างตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น     พี่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนที่อ่อนแอ ป่วยบ่อย เป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง...แต่พี่ลูกหมีก็ย้ายบ้านโดยที่ไม่ได้บอกกับผมสักคำ...ผมพยายามให้คนไปสืบหาที่อยู่ของพี่ แต่ก็คลาดกันตลอดเพราะพี่ย้ายที่อยู่บ่อย ...ผมใช้เวลาตามหาพี่มาหลายปีจนมาเจอพี่อีกครั้ง ผมดีใจมากเลยนะครับ แต่ผมก็ปวดใจไปพร้อมกัน....ที่พี่ดูเหมือนจะจำเรื่องราวระหว่างผมไม่ได้เลย... พี่อาจจะมองว่าเด็กอย่างผมมันไม่จริงจัง ...แต่ผมอยากเอาเวลามาให้พี่พิสูจน์ เจ็ดปีที่ผ่านมา....หัวใจของผมไม่สามารถรักใครได้นอกจากพี่เท่านั้น....” คำสารภาพถูกถ่ายทอดออกมาจากเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่น ฉันที่นั่งอยู่บนเตียงพยาบาลก็อึ้งเมื่อเขาน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เขาเอื้อมมือมากุมมือของฉันไว้อย่างสั่นเทาก่อนเขาจะทำในสิ่งที่มันอ่อนโยนมาก ๆ



            ริมฝีปากหนาก้มลงจูบหลังมือของฉันอย่างบรรจง เขาเงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของลูกผู้ชาย และประโยคที่เขาพูดต่อไปทำให้ฉันถึงกลับกลั้นน้ำตาที่จะร้องไห้ตามเขาไม่อยู่



            “ผมดีใจนะครับ ที่วันนี้ ผมปกป้องพี่ได้ พี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ...T___T ผมดีใจจริง ๆ ฮึก...ที่ผมเข้มแข็งขึ้น...” เขากุมมือของฉันไว้แน่นพร้อมกับซบหน้าลงกับมือของฉัน คลาสสิคร้องไห้ออกมาอย่างต้องการจะระบายทุกอย่างที่อัดอั้นมานาน ฉันเองยังรู้สึกได้ว่าเขาเก็บความรู้สึกเรื่องนี้มานานจริง ๆ ฉันไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งจะจริงจังได้ถึงขนาดนี้



            “T0T...ร้องออกมาให้หมดเถอะนะคลาสสิค” ฉันปล่อยให้เขาซบหน้าอยู่ที่มืออยู่อย่างนั้น เขาเพียงร้องไห้เงียบ ๆ และกำมือฉันไว้แน่นราวกับว่ากลัวฉันจะหายไป


            “อย่าทิ้งผมไปอีกได้ไหม...ให้โอกาสผมได้ดูแลพี่ได้ไหม” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างสั่น ๆ เขาบีบมือของฉันแรงขึ้นกว่าเดิม หัวใจของฉันราวกับถูกบีบ แล้วฉันควรจะเลือกตอบคำถามของเขายังไงดี ฉันไม่ได้เกลียดเขา และก็คิดว่า...คงยังไม่ได้รักเขา... ฉันยังมีความไม่แน่ใจ




            แต่ทำไมหัวใจของฉันกลับรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นน้ำตาของเขา เวลาเขาเสียใจกันนะ...






.............................................................................................................................................................................................

ฝากติดตามอ่านตอนต่อไปด้วยนะคะ ^0^ 

3 ความคิดเห็น

  • 1
  1. #1 (จากตอนที่ 4)
    2017-02-02 19:52:10
    คลาสสิค~~ สนใจมาปกป้องเจ้มั้ยลูก เอ่าไม่ใช่5555
    นี่สินะเหตุผลที่คลาสสิคเข้มแข็งขึ้น ฮือออ
    คลาสสิคนี่รุกไม่ถอยจริงๆ หนุนตักในห้องสมุดที่บ้านนี่น่ารักก ไม่คิดว่าคู่นี้เบื้องหลังจะแอบมีดราม่านิดๆ
    รออ่านตอนต่อไป สู้ๆน้าาา
    #1
  2. #2 (จากตอนที่ 4)
    2017-02-06 04:34:15
    อืมมมมม
    พี่ว่าเรื่องมันออกไปไกลมากอ่ะตอนนี้ กำลังคิดว่าจะเขียนอะไรต่อเนี่ย อารมณ์ว่าเปิดเรื่องมาไม่ได้เป็นโทนนี้ แล้วอยู่ๆ ก็มีเรื่องอดีตโผล่มาเฉย บทจะจำได้ก็จำได้ แล้วก็มาเป็นฉากซึ้งร้องไห้ พี่ปรับอารมณ์ไม่ถูก 55555555 รวมๆ แล้วพี่สำนวนเราดีขึ้นนะ นิ่งขึ้น ไดอะลอคก็นิ่งขึ้นด้วย จริงๆ ถ้าตัดเนื้อหาที่เป๋ไปเป๋มาพี่ว่าสำนวนเรามาถูกทางแล้วอ่ะ เหลือแค่ไดอะลอคที่ยังต้องใส่ให้น่าสนใจอีกนิดหน่อย 

    พี่เข้าใจนะว่าเรื่องมันดำเนินรอบๆ พระเอกนางเอก แต่นี่มันกลายเป็นว่าเราไม่ได้ใส่ใจตัวละครอื่นเลย ไม่มีเรื่องราวอื่นๆ มาประกอบ แล้วเดี๋ยวพอเราหมดมุกของตัวละครหลัก มันก็จะเขียนวนอยู่ที่เดิมอ่ะ แต่ก็ไม่แน่ อาจจะมีอะไรที่พี่คาดไม่ถึง 55555 รออ่านตอนต่อไปนะคะ 
    #2
  3. #3 (จากตอนที่ 4)
    2017-02-10 14:10:36
    สวัสดีค่ะ

    ในความรู้สึกพี่นะ เราเน้นฉากฟิน เน้นคาแร็กเตอร์พระเอก ซึ่งถามว่าดีมั้ยสำหรับนิยาย Jamsai Love Series ก็ดีค่ะ มาถูกทาง แต่เราเน้นจนลืมรายละเอียดอื่นไปจนหมดเลย เรื่องมันเฉลยง่ายไป ลูกหมีจำได้แบบปุบปับ เข้าใจว่าเพราะเห็นเป็นเรื่องประกวดเลยอยากรีบเฉลย (หรือเปล่า?) แต่จังหวะมันยังไม่ดีค่ะ พอจะเดาได้ว่าแบบนี้ความสัมพันธ์ของคู่นี้น่าจะก้าวกระโดด เพราะลูกหมีจะเปิดใจให้ ยอมรับ แล้วทีนี้ก็จะไม่มีอะไรให้คนอ่านลุ้นมากแล้วค่ะ

    พี่มองว่าพล็อตเรายังเบาไปนะ เบาไปจนไม่ได้ดึงให้คนอ่านรู้สึกอยากจะมาตามอ่านตอนต่อๆ ไปอ่ะค่ะ ตรงนี้ถือว่ายังทำได้ไม่ดีนักนะคะ

    ยังไงก็สู้ๆ เนอะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ
    #3
  • 1

แสดงความคิดเห็น