... มีข่าวให้เห็นกันได้ทุกวี่ทุกวัน ทั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์และตามที่รายการข่าวทางโทรทัศน์ได้มีการนำเสนอสำหรับเรื่องราวของ "ภัยสังคม" ที่มาในรูปแบบต่างๆ ที่มุ่งหวังจะมาหลอกล่อเหยื่อผู้โชคร้ายตั้งแต่ทรัพย์สินเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล
"โทรศัพท์มือถือ" ก็เป็นทรัพย์สินที่มีการสูญหายจากการถูกล่อลวงบ่อยครั้ง และสำหรับ "เด็กดีเตือนภัย" ในวันนี้พี่เหมี่ยวก็มีอีกหนึ่งเทคนิคที่พวกมิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงเหยื่อผู้โชคร้ายมาฝากน้องๆ dek-d.com มาฝากกันค่ะ
|
... พวกมิจฉาชีพมักจะใช้วิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ด้วยการที่ทำทีเป็นโทรศัพท์หาย หลังจากนั้นก็จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย โดยจะเข้าไปถามว่า เห็นโทรศัพท์ไหม ทำตกไว้แถวนี้ และแน่นอนค่ะว่าผู้เคราะห์ร้ายก็จะต้องตอบว่าไม่เห็นอยู่แล้ว (เพราะว่าไม่ได้ทำโทรศัพท์ตกไว้นี่)
และเมื่อตอบว่าไม่เห็น มิจฉาชีพก็จะขอยืมโทรศัพท์ของผู้เคราะห์ร้ายเพื่อที่จะโทรเช็คว่าโทรศัพท์ที่ทำตกอยู่ที่ไหน และถ้าผู้เคราะห์ร้ายเผลอให้โทรศัพท์ยืมไปล่ะก็ เจ้ามิจฉาชีพก็จะเชิ่ดโทรศัพท์ของเราไปง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
|
เห็นไหมคะว่าเจ้าพวกนี้ใช้วิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ... ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่น้องๆ ควรจำไว้เสมอก็คือ ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว น้องๆ ห้ามให้โทรศัพท์ใครยืมเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเค้าจะเข้ามาขอความช่วยเหลือ น้องก็ควรเป็นผู้ถือโทรศัพท์และต่อสายให้เค้า เพื่อที่เค้าจะได้ไม่มีโอกาสเอาโทรศัพท์ของเราไปได้ยังไงล่ะคะ
และนี่ก็คือเรื่องราวเตือนภัยในวันนี้ค่ะ ถ้าน้องๆ dek-d.com คนไหนมีเรื่องราวเตือนภัยดีๆ ที่น่าสนใจก็สามารถมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ที่นี่เลยนะคะ
|
35 ความคิดเห็น
น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแหะ พวกนี้นิ
ร้าบทราบ!!
เขาช่างมีวิวัฒนาการ
การขโมยเนอะ
บ้านเราเรียกว่าเ_ลวได้อีกนะเนี่ย
น่ากลัวจริงจริงด้วย
แต่ดีนะเนี่ยโทรศัพท์ไม่มีตังค์
โทรออกไม่ได้.....
มิจฉาชีพหมดสิทธิ์ ++555
เจออยู่บนสะพานแถวบ้านในเช้าที่ไปเรียน แล้วเราเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อพละ แล้วมีพวกกุญแจที่ร้อยโทรศัพท์ไว้ห้อยอยู่ด้านนอกกระเป๋า ซึ่งมันก็จะทำให้กระเป๋าเสื้อแบะออกมาเห็นโทรศัพท์ชัดเจน ผู้ชายคนนั้นพอเดินมาใกล้ๆแล้วก็เหมือนจะชะงักเห็นโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ เค้าเลยบอกว่าน้องๆพี่ขอยื้มโทรศัพท์โทรตามน้องหน่อย เราก็บอกว่าไม่แล้วอ้างว่าเงินโทรศัพท์ไม่มี เค้าก็บอกนะพี่ขอยืมหน่อย แบบว่าเซ้าซี้มากแล้วก็บอกว่าเนี่ยน้องพี่ก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันกับน้องแลหะ ขอยื้มโทรหาน้องหน่อย มันไม่ยอมกลับบ้าน(เราเจอเค้าตอนที่พึ่งขึ้นบันไดสะพานเสร็จ แล้วถ้าเค้าลงสะพานไปก็จะเจอตู้โทรศัพท์สาธารณะพอดี) ระหว่างนั้นเราก็เอามือขึ้นมาจับๆไว้ที่โทรศัพท์ตลอด แล้วสายตาเค้าก็มองมาที่ดทรศัพท์ตลอด เค้าเซ้าซี้ไปซักพักเราก็ปฏิเสธอย่างเดียว ซักพักเค้าก็ควักแงค์ร้อยขึ้นมาแล้วบอกว่าพี่ยืมโทรแป๊ปเดียว เดี๋ยวข้ามกลับไปมินิมาร์ทเติมเงินให้(ยิ้นกลับไปฟังนู้นทั้งที่กำลังจะลงฝั่งนี้แล้ว) เราก็บอกไม่อ่ะค่ะ รีบไปๆ เค้าก็เซ้าซี้อยู่นั่น จนเราบอกรีบๆพร้อมกับเดินหนีไปด้วยเค้าก็เดินตามมาจนซักพักเค้าก็ถอดใจ บอกว่างั้นขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ พร้อมกับเดินหน้าเซ็งไป ตามจริงก็อยากช่วยนะคะแต่ประมวลแล้วสถานการณ์ตอนนั้นไม่ไว้ใจไม่ลงจริงๆ
ต้องระวังตัวไว้มากๆ
แต่รุ่นที่ใช้คงไม่มีใครอยากจะขโมย
ปล.ไม่ใช่ว่าไม่มีน้ำใจนะแต่กลัวอ่ะ
ใจดีเป็นเหตุสินะ -*-
เดี๋ยวจะโดนหาว่าไม่มีน้ำใจสิน้า~
มันเปนเรื่องจริง เพราะไม่เคยเติมเลย
55555555555
จะบอกว่า ถ้าเป็นเรา เราก็เลือกเหรีญห้า เหรียญสลึงมันหยอดตู้ได้ไง 55+ (หรือหยอดได้แล้วเคาตกข่าว) แหะๆ
แต่ว่านะ ทางที่ดี เราก็บอกเค้าว่า บอกเบอร์มาเดี๋ยวเราโทรให้ ไม่ต้องยื่นโทรศัพท์ให้เค้าก็ได้นะคะ เผื่อว่า เค้าทำหายจริง ๆ ไม่ใช่พวกมิจฉาชีพหน่ะค่ะ
แต่ว่ายังไงก็ขอบคุณข้อมูลนะคะ จะได้ระวังตัวไว้ค่ะ