สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย^^ มีน้องๆ หลายคนชอบแอบกระซิบบอกพี่มาว่า ตอนแรกไม่เคยสนใจอยากไปแลกเปลี่ยนที่เมืองนอก แต่พอมาอ่านประสบการณ์เด็กนอกทุกสัปดาห์ จากที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็เปลี่ยนใจเป็นยังไงก็จะต้องไปให้ได้!! วันนี้ก็เช่นกันค่ะ เพราะเจ้าของประสบการณ์คนนี้ เค้าก็ได้แรงผลักดันให้ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากคอลัมน์เล่าประสบการณ์เด็กนอกนี้เหมือนกัน!! (แอบดีใจนะเนี่ย)
|
Weeeeeeeeeeeeeeeeeeena !!! (ขอทักทายเป็นสไตลชิลีนิดนึง 5555) หวัดดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนละกัน ผมชื่อ "ศรัณรักษ์ สุขศรี" ชื่อเล่นว่า "ปอนด์" ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนสิชลประชาสรรค์ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทุนเต็มจำนวนของโครงการเยาวชน AFS ประเทศชิลี รุ่นที่ 51 คับ
ก่อนอื่นอยากบอกเลยว่า ก่อนไปแลกเปลี่ยนเนี่ย ผมก็เป็นแฟนคอลัมน์ประสบการณ์เด็กนอกของเว็บเด็กดีมานานนนนนมากกก จำได้ว่าอ่านทุกสัปดาห์ตั้งแต่ม.ต้นเลย อยากบอกว่าคอลัมน์นี้เป็นแรงผลักดันที่ดีมากที่ทำให้ผมสนใจที่จะไปแลกเปลี่ยน และในที่สุดก็สามารถทำตามความฝันได้จริงๆ วันนี้มีโอกาสได้มาเขียนเล่าประสบการณ์เองก็รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ คับ ฮ่าๆ สำหรับประเทศที่ผมไปนี่คือ "ประเทศชิลี" ครับ หลายคนอาจจะงงๆ ว่า เอ.. ประเทศนี้อยู่แถวไหนของโลก วันนี้เป็นโอกาสดี งั้นผมขอนำเพื่อนๆ มารู้จักประเทศชิลีเลยละกัน ;) สำหรับชิลีเป็นประเทศที่เรียกได้ว่ามีอาณาเขตที่ยาวมากกกกก ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีชายแดนติดกับประเทศอาร์เจนตินา เปรู และโบลีเวีย ภาษาที่ใช้ในประเทศนี้ก็คือภาษาสเปน (สเปนที่นี่พูดเร็วมากกก) ส่วนอากาศของประเทศนี้บอกได้เลยว่าดีมากครับ เย็นสบายตลอดทั้งปี แต่ช่วงหน้าหนาวนี่ก็เล่นเอาหนาวสุดๆเหมือนกัน ยิ่งใครได้มาอยู่ทางใต้นี่ก็ยิ่งหนาวสุดขั้วจนเจอใครก็อยากกอดไปหมด 55555 |
วันแรกที่ผมและเพื่อนๆ เอเอฟเอสมาถึงสนามบิน Santiago (เมืองหลวงของชิลี) ก็จะมีเจ้าหน้าที่เอเอฟเอสมารับ พวกเค้าจะพาพวกเราไปรวมกับเพื่อนนักเรียนเอเอฟเอสจากประเทศอื่นที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนที่ชิลีเหมือนกัน มาร่วมทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเวลาสามวัน มีจัดงานโชว์วัฒนธรรมกันของแต่ละประเทศ และวันสุดท้ายก็จะมีโฮสท์มารับและแยกย้ายกันไปอยู่เมืองต่างๆ ตอนรอโฮสท์มารับนี่อยากบอกว่าเป็นบรรยากาศที่ตื่นเต้นมากครับ
เมืองที่ผมได้มาอยู่ชื่อว่า La Calera เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก อยู่ห่างจากเมืองหลวง Santiago ประมาณ 2 ชั่วโมง ภายในเมืองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันดีครับ ไม่ว่าจะเป็นห้างหรือรถเมล์ประจำทาง ขาดอย่างเดียวก็คือโรงหนัง ถ้าใครจะดูหนังนี่ก็ต้องนั่งรถเมล์ไปอีกเมืองนึง แต่ก็ไม่ไกลเท่าไรประมาณสิบห้านาทีก็ถึงโรงหนังละ ส่วนวิธีการเดินทางไปที่ต่างๆ ในเมืองที่คนที่นี่นิยมทำกันมากที่สุดโดยเฉพาะพวกวัยรุ่นนั่นคือการเดินคับ เด็กบางคนต้องเดินออกจากบ้านหลายกิโลท่ามกลางอากาศหนาว 1 องศาเพื่อไปโรงเรียนในหน้าหนาว เป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ
สำหรับโฮสท์ที่ผมอยู่ด้วย เรียกได้ว่าเป็นโฮสท์ที่ดีมากกกกกจริงๆ รู้สึกเป็นคนที่โชคดีมากๆ ที่ได้อยู่กับครอบครัวนี้ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่ไม่ใหญ่มาก (ที่อยู่ในบ้านด้วยกันจริงๆ มีโฮสท์พ่อ โฮสท์แม่ โฮสท์พี่สาวหนึ่งคน และก็หมาน้อยน่ารักอีกสองตัว) โฮสท์พ่อผมมีอาชีพเป็นวิศวกรเหมืองแร่ ส่วนโฮสท์แม่ก็มีสวนดอกไม้ส่งออก สวนองุ่น และสวนส้มครับ เรียกได้ว่าโฮสท์ผมค่อนข้างจะมีฐานะพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้ตลอดทั้งปีของการแลกเปลี่ยนผมก็เลยได้เที่ยวชิลีแบบสุดคุ้มมาก 555 ส่วนคนอื่นๆ ในบ้านก็โตกันหมดแล้วคับ ก็เลยมีแยกไปมีครอบครัวบ้าง ทำงานต่างเมืองบ้าง เรียนต่อบ้างเยอะแยะไปหมด นับๆ ดูแล้วครอบครัวของผมก็มีประมาณสิบคนเลยทีเดียว แต่ทุกๆ วันอาทิตย์ทุกคนก็จะมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทานอาหารเที่ยงพร้อมกันและใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งวัน ตามวัฒนธรรมของชาวชิลีที่กำหนดให้วันอาทิตย์เป็นวันที่ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัว อันนี้เป็นอะไรที่ผมชอบมาก
โรงเรียนส่วนใหญ่ที่ชิลีจะมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ ไม่เหมือนกับที่ไทย แต่เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว 5555 โรงเรียนที่ผมมาอยู่นี่ชื่อว่า Liceo Particular San Jose de La Calera (ชื่อยาวมากกกกก) หรือที่คนที่นี่เรียกสั้นๆ ว่า Liceo San Jose เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมือง
ที่โรงเรียนก็เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงม.หก ทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนในแต่ละวันนี่เป็นอะไรที่หลากหลายมาก เข้าโรงเรียนมาจะเห็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งลากกระเป๋าเข้าโรงเรียน ชุดนักเรียนก็อารมณ์ประมาณหนังแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่นี่จะเริ่มเรียนตั้งแต่ 8.00 – 14.30 เวลาเลิกอาจจะแตกต่างกันแต่ละวัน ถ้าวันไหนมีชมรมก็จะเลิกประมาณสี่โมง ส่วนชมรมที่ผมอยู่ก็คือชมรมละครครับ ชมรมนี้เรียกได้ว่าเป็นชมรมที่รวบรวมเด็กบ้าๆ บอๆ อยู่เยอะ รู้แบบนี้ก็เข้าทาง เลยสมัครไป แหะๆ และก็เป็นอะไรที่สนุกจริงๆคับ การได้เข้าชมรมนี้ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นที่อยู่ต่างห้องกัน บางคนสนิทกันมาก จนปัจจุบันก็ยังติดต่อกันอยู่
สำหรับชั้นที่ผมเรียนที่นี่ก็คือชั้น Tercero Medio A เป็นห้องสายวิทย์ชีวะ ถ้าเทียบที่ไทยก็คือชั้นม.ห้า ขนาดห้องเรียนที่นี่ก็พอๆ กับที่ไทยประมาณ 30-40 คน วิชาหลักๆ ที่เรียนกันก็มี ชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ประวัติศาสตร์ พละ ศิลปะ และฟิโลโซเฟีย วิชาที่ผมชอบที่สุดก็คือฟิโลโซเฟีย เป็นอะไรที่เรียนแบบชิลล์มาก เน้นการพูดคุยโต้แย้งกันในประเด็นที่ครูกำหนด สนุกมากกกกกกก ^^ ส่วนเรื่องอาหารการกินในโรงเรียนนี่อยากบอกว่าไม่จำเป็นก็กินที่บ้านดีกว่าคับ ถึงแม้จะฟรีก็ตาม เพราะจะเป็นอะไรที่รสชาติไม่แน่นอน บางวันก็อร่อยดี เช่นวันที่มีสเปาเกตตี้ ข้าวกับซุปเนื้อ หรือซุปปลา ส่วนวันที่ไม่อร่อยก็คือวันที่มีพวกซุปถั่ว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก นิยมกินกับขนมปัง รสชาติจืดชืดที่สุด เลยตัดสินใจมากินที่บ้านดีกว่า ฮ่าๆ
อาหารหลักของคนชิลีคือขนมปัง หัวมัน และถั่วต่างๆ รูปล่างนี้ถ่ายจากร้านอาหารในสถานีขนส่งซานติอาโก้ เลยมีอาหารเยอะหน่อย ตามฟู้ดคอร์ดแบบนี้จานนึงจะอยู่ที่ประมาณ 3000-4000 เปโซชิลี หรือตีเป็นไทยประมาณ 200-250 บาทไม่ควรกินบ่อย เงินจะหมดเร็ว 5555
สำหรับสังคมของเด็กชิลี อยากบอกว่าเป็นอะไรที่อิสระและสนุกมากๆ ครับ 5555 คนที่นี่จะเป็นคนเฟรนด์ลี่มากๆ การทักทายของคนชิลีส่วนใหญ่และเด็กที่นี่ก็คือถ้าเป็นผู้ชายกับผู้หญิงเจอกัน เราจะต้องเอาแก้มไปชนกัน ส่วนถ้าเพื่อนผู้ชายด้วยกัน ก็กอดและตีหลังกันแรงๆ 555 ตอนไปแรกๆ นี่ไม่ชินเลยครับ ตอนเพื่อนผู้หญิงเอาแก้มมาชนเราแรกๆ ก็แบบเขินๆนิดหน่อย เพราะที่ไทยไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ หลังๆ มาเราก็จะเป็นฝ่ายชนแก้มเค้าซะเอง เหอๆ >< ตอนทักทายเพื่อนผู้ชายด้วยกันแรกๆ ก็โดนตีหลังแทบหัก แต่หลังๆ มาเริ่มชิลล์และชินไปคับ ฮ่าๆ…
แวะถ่ายรูปกลางทะเลทราย Atacama เมือง Iquique ตอนเหนือของประเทศ
นิสัยคนที่นี่คือไม่ว่าอะไรก็ชิลล์ไปหมดคับ ตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยรุ่นจะมีอิสระมากในการทำทุกสิ่งที่ต้องการ วันหยุดเมื่อไรมักนัดกันไปเที่ยวบ้าง นอนป่าบ้าง ปาร์ตี้บ้าง โดยเฉพาะปาร์ตี้คนที่นี่เรียกได้ว่าคลั่งในการจัดมากๆ จะเป็นแนวสไตล์ละตินอเมริกา โดยเฉพาะทุกๆ วันศุกร์เรียกได้ว่าเดินตอนกลางคืนตามถนนเมื่อไรจะได้ยินเสียงเพลงออกมาข้างนอกกันเลยทีเดียว ส่วนตัวผมเองก็ไปมาหลายปาร์ตี้คับ แต่ปาร์ตี้ที่ชอบมากที่สุดนั่นก็คือปาร์ตี้ฮัลโลวีน !! ที่จัดกันเองเฉพาะเพื่อนๆ ในห้อง มันส์มากครับ !!!
หิมะบน Portillo ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดิส เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากไว้สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะแลกเปลี่ยนว่า การไปแลกเปลี่ยนและใช้ชีวิตในต่างประเทศหนึ่งปีนั้น มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ ครับ ไม่อยากให้มองว่ามันคือการเสียเวลา แต่อยากให้มองว่าที่จริงแล้วมันเป็นการได้เวลาในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งปีต่างหาก… ในดินแดนที่ไกลสุดขอบฟ้าที่น้อยคนจะได้ไปสัมผัส…ในดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสันที่จะคอยเติมเต็มในทุกๆ วันของเราให้เต็มไปด้วยเรื่องราว แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือประสบการณ์และผู้คนที่เราจะได้พบเจอนั้นมันมากมายและประทับใจจนยากที่จะอธิบายออกมาได้ทั้งหมดจริงๆ ยังไงก็ฝากประเทศชิลีไว้เป็นตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะไปแลกเปลี่ยนด้วยนะครับ หนึ่งปีของการแลกเปลี่ยนมันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปจริงๆ ..AFS Walk together, Talk together…สำหรับน้องๆเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากได้คำปรึกษาเพิ่มเติมก็แอดเฟสมาได้เลยคับ http://www.facebook.com/saranrak.paolosuksri
โอ้โห เห็นรูปวิวแต่ละรูปนี่อยากแพ็คกระเป๋าไปเยือนอเมริกาใต้ซักครั้งในชีวิตเลยนะคะเนี่ย >< ใครเตรียมตัวจะสอบชิงทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนปีนี้ ก็อย่าลืมเลือกชิลีไว้ในใจบ้างนะคะ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันเพื่อนๆ แบบนี้บ้าง ก็รีบเขียนและส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com เลยค่ะ เดี๋ยวเอามาลงให้อ่านแน่นอน
23 ความคิดเห็น
แอบคล้ายรัฐบางรัฐในอเมริกาเลย
ซานติเอโก สวยมาก
หึ้ยชอบบบบอ่ะ ชีวิตพี่เค้าดูสนุกดี ชิลล์มาก - -b
น่าสนุกจังงง อยากไปบ้าง 5555 ชอบข้อความสุดท้ายที่พี่เขียนมากๆเลย ให้ความหมายดีมากๆ
อยากได้ยาวๆกว่านี้อีกอ่า ยังไม่จุใจเบย
น่าสนุกจัง
น้องคนนี้พี่มีเฟสนะฮะ ที่อยู่นครศรีธรรมราช
คือถ้าจะไปนี่ ภาษาต้องแน่นสินะคะ 55555555
เค้าพูดภาษาสเปนหรืออังกฤษกันหรอคะ ปกติ?
เพื่อนของเพื่อนเรานี่ ????
จำได้ว่าตอนนั้นอิจฉามากตอนรู้ว่าเค้าไปชิลี TwT เราอยากไปชิลี แงงง ไม่ผ่านสัมภาษณ์อ่ะ
ตอนแรกหนูก็อยากไปอเมริกาใต้อยู่แล้วแต่ยังไม่รู้จะไปประเทศอะไรดี แต่เห็นพี่ปอนเล่างี้ ความอยากไปชิลีพุ่งปรี๊ดขึ้นอันดับหนึ่งเลย พี่ปอนได้ทุนNeedyด้วยใช่ไหมค่ะ หนูก็อยากสอบได้บ้างจัง T_T แต่ก็จะสู้ๆค่ะ