เคล็ดลับ!! ฝึกตัวเองให้เป็นนักอ่าน "เอาเรื่อง"

         น้องๆ ชาว Dek-D เชื่อหรือไม่ว่า การอ่านก็สำคัญต่อการค้นหาตัวเองเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อใช่ไหม ขอพี่แถลงให้ฟัง การอ่านหนังสือช่วยเรา...

        - หนังสือมีหลายแนวหลายประเภท มีแนว how to ด้วย และใครที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ลองตามหาหนังสือกลุ่มตัวช่วยค้นหาตัวเองสิ มีหลายๆ เรื่องเลยนะ 

        นี่ละครับประโยชน์ของการอ่านเพื่อค้นหาตัวเอง เพียงเบื้องต้นเท่านั้นนะเนี่ย แต่ถ้าอ่านแล้ว...อ่านตั้งนานไม่รู้เรื่อง ก็คงไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลย พี่เบียร์จึงขอแนะนำเทคนิค "การอ่านให้รู้เรื่องและมีความสุข" เริ่มต้นขั้นตอนยังไงตามมาดูกัน ...

     

    ขั้นตอนนี้สำคัญครับ เพราะถ้าไม่มีขั้นตอนนี้ก็จะไปสู่ขั้นตอนอื่นไม่ได้ บางคนอาจบอกว่า ผมอ่านการ์ตูน ผมไม่เห็นต้องวางเป้าหมายเลย แต่จริงๆ น้องก็มีเป้าหมายนะ นั่นคือ อ่านเพราะอยากรับรู้เนื้อเรื่องที่อ่านไงครับ !! เช่นเดียวกันน้องที่อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ ก็บอกอยู่แล้วครับว่า เพื่อเตรียมสอบ แต่น้องต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะต้องใช้วิชาอะไรสอบบ้าง และแบ่งเนื้อหาที่จะต้องสอบให้ชัดเจนว่า จะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง !! แล้วจะอ่านวันไหน

      ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สอง ในการเตรียมความพร้อมที่จะอ่านหนังสือให้รู้เรื่อง คือ ต้องถามตัวเองอยู่เสมอว่า "วันนี้เราพร้อมจะอ่านหรือยัง !!" พอเจอคำถามนี้ ก็มีน้องบางคนบอกว่ายังไม่พร้อม ... งั้นน้องก็ปิดหนังสือแล้วนอนพักได้เลยครับ  แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่เราจะพร้อมนะ หากน้องตั้งเป้าหมายว่าวันนี้จะต้องอ่าน น้องก็ต้องอ่าน เพื่อให้ติดเป็นนิสัย เตรียมแล้วไม่ทำจะกลายเป็นมนุษย์ผัดวันประกันพรุ่งโดยไม่รู้ตัวนะ น้องอาจจะไม่ต้องกำหนดเวลาอ่านก็ได้ครับ เพียงแค่บอกกับตัวเองว่าวันนี้ฉันจะต้องรู้เรื่องนี้ก็พอ ... อ่านให้รู้เรื่อง ไม่จำเป็นต้องอ่านได้นานครับ 

    อย่ากำหนดว่าจะต้องอ่านทั้งเล่ม แต่จงกำหนดว่าวันนี้อยากรู้เรื่องอะไร !! หลังจากที่วางเป้าหมายและพร้อมที่จะอ่านแล้ว ก็บอกตัวเองต่อไปเลยครับว่าวันนี้ฉันอยากรู้เรื่องอะไร และเมื่ออ่านจบแล้วก็ถามตัวเองว่า "ฉันได้คำตอบในสิ่งที่ฉันต้องการรู้หรือยัง" ถ้ายัง...ก็ลองทำความเข้าใจใหม่อีกรอบ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม 

    บางครั้งการอ่านเรื่องบางเรื่องอ่านทำให้เรารู้สึกไกลตัวหรือเบื่อหน่ายที่จะอ่าน แนะนำว่าลองจิ้นตาม (จิ้น มาจากคำว่า จินตนาการ นั่นแหละครับ ภาษาวัยรุ่นไง) ให้เราเป็นหนึ่งในตัวละครนั้น หรือหากภาพที่จิ้นมันไม่ชัดเจน แนะนำว่าหาภาพประกอบหรือไปสังเกตการณ์จริงซะเลย (ถ้ามีโอกาส) แค่นี้ก็ช่วยให้จำเรื่องราวได้ง่ายขึ้น

    บางครั้งอ่านหนังสืออยู่ ก็มีเสียงดัง อึกกระทึก ครึกโครม ทำให้บรรยากาศที่ฉันกำลังจิ้นว่าได้นั่งรับประทานอาหารบนภัตตาคารสูงและทัศนียภาพอัน แจ่ม จะ แดม แจ่ม ว้าวววว !! ก็กระเจิงหายไปหมด น้องอาจหาที่เงียบๆ อ่านหรือพกหูฟังแต่ไม่ต้องเปิดเสียงอาจจะลดเสียงได้เล็กน้อย แต่ก็มีบางคนที่ขณะอ่านหนังสือชอบฟังเพลง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคลจ้า !!

    อ้าวก็ไหน !! บอกว่าพูดถึงนักอ่าน แล้วพี่จะให้ผมเขียนและเล่าทำไม ... อย่าเพิ่งตกใจครับ เพราะวิธีนี้จะช่วยในการจดจำน้องๆ ได้ดีขึ้นนั่นเอง เพียงแค่หลังจากที่น้องอ่านเรื่องที่อยากจะรู้จบ ก็เขียนเล่าเป็นเรื่องราวของเล่าใส่สมุดก็ได้ เผื่อกลับมาทบทวนอีกครั้งก็จะจำได้ดีขึ้น จากนั้นหากมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนก็ลองชักแม่น้ำทั้ง 5 เพื่อเล่าเรื่องที่เรารู้หรืออ่านมาดู บางทีนอกจากเราจะช่วยให้ตัวเองจำง่ายด้วยแล้ว ยังช่วยให้ความรู้เพื่อนๆ อีกด้วย โชคสองชั้นจริงๆ !! (กรณีนี้ควรทำมากๆ ในการอ่านหนังสือเรียน เพื่อที่จะนำเรื่องที่เราจดไว้มาทบทวนได้ตลอดครับ)

    ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งครับ ที่เราจะทำอะไรเพื่อตัวเอง เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนั้นจบหรือรู้เรื่องในสิ่งที่เราอยากรู้แล้ว เราก็หาโอกาสให้ความสุขกับตัวเองได้ เพราะเมื่อใดที่เรามีความสุข ไม่ว่าจะทำอะไรก็ย่อมทำออกมาได้ดีเสมอ ดังนั้นก่อนจะอ่านหนังสือก็อย่าลืม บอกกับตัวเองด้วยว่า ฉันกำลังมีความสุขเมื่อได้อ่านหนังสือ !!

         เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับเทคนิคการเตรียมอ่านหนังสือ นอกจากจะช่วยให้เราไม่ลดความกดดันที่ต้องอ่านหนังสือ (ถ้าต้องเตรียมสอบ ก็ต้องเตรียมอ่านอย่างมีเทคนิคไง)  ยังทำให้เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำ  ได้ประโยชน์จากการอ่าน ใช้ค้นหาตัวเองได้ พร้อมแถมความรู้อีกเพียบ นี่แหละการอ่าน "เอาเรื่อง" คืออ่านเป็น และนำความรู้ที่ได้จากการอ่านมาใช้ประโยชน์จริง 

            อย่าลืมนะครับ อย่าลืม !! บอกกับตัวเองเสมอว่า "ฉันมีความสุขที่ได้อ่านหนังสือ" ใครที่ได้ทดลองทำตามดูหรือมีไอเดีย เคล็ดลับใหม่ๆ มานำเสนอ ก็บอกต่อกันบ้างนะครับ ^^