"ครูมอส - พชร จันทร์ศิริ" พูดแทนใจนักเรียน! ทำไมเด็กมัธยมต้องรู้เรื่องบล็อกเชน?

Spoil

  • "บล็อกเชนและเงินสกุลคริปโตฯ" กำลังเป็นที่นิยมในโลกปัจจุบัน และกำลังจะก้าวมาเป็นเทคโนโลยีสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
  • การสอนให้มีความเข้าใจในเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั้น สำคัญเพื่อการพัฒนาและต่อยอดไปในสายอาชีพแห่งอนาคต
  • การหาข้อมูลเรียนรู้เอง อาจทำให้ได้ข้อมูลที่ผิด หรือเกิดความเสี่ยงมากกว่าเดิม

กระแสเทรนด์โลกหนึ่งอย่างที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในรอบปีนี้ คงจะหนีไม่พ้น “บล็อกเชน (Blockchain)” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา จนจัดอยู่ในหนึ่งคำค้นหายอดนิยมทั่วโลกของ Google ครอบคลุมไปถึงเรื่องของสกุลเงิน Cryptocurrency หรือ NFT ลามไปถึงเรื่อง DeFi ที่เป็นช่องทางในการ “ลงทุน” ผ่านการเทรดและดูกราฟ มีทฤษฎีต่างๆ ในการรองรับ ที่ทำให้ผู้คนสามารถหารายได้เสริมจากการเทรดได้

พอคริปโตฯ เข้ามาเป็นกระแสหลักของโลกปัจจุบัน ย่อมมีคนมากมายอยากรู้ อยากศึกษาข้อมูลในเรื่องนี้ เพื่อจุดประสงค์ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจความเป็นไปของเทคโนโลยี หรือแสวงหากำไรใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งที่ปฏิเสธไปไม่ได้เลย คือการเพิ่มขึ้นของคอร์สการสอนเรื่องเหล่านี้บนโลกออนไลน์ และหนึ่งในผู้คนที่มีเอี่ยวกับโลกออนไลน์มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “เด็กนักเรียน” ที่พวกเขาต้องการจะทำความเข้าใจเทรนด์โลกปัจจุบันอันนี้ จากการเห็นบนสื่อต่างๆ และคนรอบข้างที่รู้จัก

สะพานสำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่จะทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้น แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น "ครู" เพราะฉะนั้นวันนี้ทาง Dek-D จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ ครูมอส “พชร จันทร์ศิริ” หัวหน้าครูผู้สอนแผนกการงานอาชีพและเทคโนโลยี ผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันห้องเรียน “บล็อกเชน” ในโรงเรียนเป็นแห่งแรกๆ ในประเทศไทย 

 “บล็อกเชน” จะเป็นเรื่องของทุกคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ภาพจาก pexels
ภาพจาก pexels

ดังที่กล่าวไป เทคโนโลยี “บล็อกเชน” นั้นถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก และกำลังจะก้าวมาเป็นเทคโนโลยียุคสมัยใหม่ในอนาคตข้างหน้า ฉะนั้นแล้วการมีห้องเรียนรองรับความสนใจ และแถลงไขข้อสงสัยของนักเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อตอบคำถามและสนองความสนใจตรงนี้

เบื้องหลังของสกุลเงินดิจิตอล หรือ คริปโตฯ ที่คนทั่วไปเรียกกัน รวมไปถึงการลงทุน DeFi หรือ NFT ที่เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลเอง มีที่มาจากสิ่งที่เรียกว่า “บล็อกเชน” แทบทั้งสิ้น ซีึ่งเป็นบัญชีที่เราจะสามารถติดตามและซื้อขายของมีค่าแทบทุกอย่างบนเครือข่ายบล็อคเชนด้วยกันได้ โดยหลักๆ เกิดมาเพื่อ "ลดความเสี่ยงและลดต้นทุน" ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่เกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกการเงิน ตอบโจทย์กับยุคสมัยสังคมไร้เงินสดอย่างดี

แล้ว ทำไมบล็อกเชน ถึงเป็นเรื่องต้องสอนล่ะ?

จำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ยากเกินไปสำหรับเด็กเหรอ

คำตอบจะตามมาหลังจากนี้ครับ

เพื่อให้ "เข้าใจโลกยุคใหม่"

ในอนาคตข้างหน้า บทบาทของเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเพิ่มมากขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เรื่องของเงินจะเป็นออนไลน์แทบทั้งหมด หรือแม้แต่การเข้ามาของ Metaverse เองที่ถูกเสนอขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา นี่คือสัญญาณการมาถึงของ "ยุคต่อไป" ของมนุษยชาติ และด้วยความที่บล็อกเชนเป็นสิ่งที่ใหม่มากๆ ในตอนนี้สำหรับใครหลายคน  การจัดสอนอะไรแบบนี้จึงมีประโยชน์มากๆ ในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนทั่วไปนั่นเอง 

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดไปว่า “การสอนคริปโตฯ” ในโรงเรียนแบบนี้ จะเป็นการสอนเพื่อให้ “เทรด” หรือลงทุนอย่างเดียว เปิดโอกาสให้เด็กเอาเงินไปลงทุนรึเปล่า ซึ่งอันที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น การสอนเป็นเพียงการปูพื้นฐานความเข้าใจในเทคโนโลยีนั้นก่อน  เพื่อที่จะเป็นการลดความเสี่ยงในการ "๘าดทุน" หรือเกิดปัญหาในอนาคตนั่นเอง

"ถ้ารู้บล็อกเชนแบบเข้าใจถูกต้องแล้ว การต่อยอดก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก"

เพื่อให้เด็กได้พบเจอ “เส้นทางของตัวเอง”

“เมื่อทุกคนรู้แล้วว่า สิ่งเหล่านี้คืออะไร 

เราจะผลักดันพวกเขาต่อ ตามความสนใจแต่ละคน”

หลังจากการเรียนจนมีฐานที่มั่นคง แบบที่สามารถเข้่าใจโครงสร้างของบล็อกเชนแล้วเนี่ย ก็จะเป็นขั้นตอนเตรียมพร้อมนักเรียนให้มีพื้นฐานด้านอาชีพตามความสนใจ ให้หลักสูตรคอยตอบโจทย์ความสงสัยเด็ก โดยที่เนื้อหานั้นก็จำเป็นต้องอัปเดตให้ทันตามยุคสมัย

การมีห้องเรียนคริปโตฯ ขึ้นจึงเป็นเหมือนแหล่งพัฒนา ต่อยอดศักยภาพของเด็กรุ่นใหม่ต่อไป โดยมีครูเป็นตัวเชื่อม เพราะการเข้ามามีบทบาทของ "บล็อกเชน" แบบนี้ ในอนาคตเรื่องของอาชีพก็ย่อมล้อไปตามตัวบล็อกเชนด้วยเช่นกัน เมื่อทั้งโลกต้องอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกันเนี่ย ทุกอย่างก็จะต้องเป็นไปตามสิ่งนั้นเป็นเรื่่องปกติล่ะครับ

ครูมอส มองว่า 

“เราก็ให้มีสอนในโรงเรียนไปเลย มีปัญหาก็จะได้ถามอาจารย์ได้ด้วย” 

เพราะมองว่า ยังไงก็ได้ประโยชน์มากกว่าโทษ

ไม่ใช่แค่คริปโตฯ แต่เรื่อง “การเงินพื้นฐาน” ก็จำเป็นต้องสอน

เพราะโตไป ยังไงก็ได้ใช้

เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ก็ย่อมหนีไม่พ้นการไปข้องเกี่ยวกับเรื่องภาษี เงินทอง สินทรัพย์ อะไรเหล่านี้อยู่ดี ซึ่งเป็นความเข้าใจพื้นฐานที่ทุกคนต้องมีติดตัว เป็นเรื่องปกติของสังคมที่ครูมอสเองมองว่า “จำเป็นมากที่ควรปลูกฝังไว้ตั้งแต่เรียน” ที่ถึงแม้ไม่มีใครสอน สุดท้ายก็ต้องไปหาเรียนเองอยู่ดี  เพราะเป็นเรื่องที่ต้องรู้

เนื้อหาอย่าง “การคำนวณภาษี” หรือ “รายรับ-รายจ่าย” ที่เป็นเรื่องที่เราคลุกคลีกันอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน แม้ในอนาคตจะมีเครื่องช่วยคำนวณ หรือเทคโนโลยีเข้ามาสร้างความสะดวกแล้วก็ตาม การสอนพื้นฐานให้นักเรียนได้รู้ไว้ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ อย่างภาษีมีไว้เพื่ออะไร การลงทุนคืออะไร หรือหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ที่ไม่ได้สอนเพื่อให้พวกเขาไปลงทุน แต่มุ่งสอนให้ “เข้าใจ” 

"สิ่งที่ครูมอสทำ คือการบอกว่า โลกเคลื่อนไปถึงจุดนี้แล้วนะ 

มันสามารถเอาเรื่องนี้เข้าไปประยุกต์ใช้ได้ แม้เราจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม"

สุดท้าย “อยากรู้ ก็ต้องเข้าหาความรู้”

บางเรื่อง นักเรียนเองก็รู้และเชี่ยวชาญมากกว่าคุณครูเสียอีก เพราะยุคนี้ความรู้อยู่ทั่วอินเทอร์เนตให้ศึกษา ไม่จำเป็นต้องไปเข้าห้องสมุดเพื่อไปหาอ่านจากตำราอย่างเดียวอีกต่อไป ความรู้ที่เปิดกว้างไร้พรมแดนแบบนี้ทำให้ความสนใจของนักเรียนหลากหลายไปอย่างมาก การเรียนการสอนในสมัยนี้จึงต้องอัปเดตให้ทันตามสมัย ตามความสนใจของนักเรียนด้วย เพื่อจุดหมายคือการต่อยอด พัฒนา และประคับประคองให้นักเรียนเหล่านั้นไปตาม “เส้นทางอนาคต” ของพวกเขาเองต่อไป

----

หลังจากนี้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นโลกใบที่สอง การใช้จ่ายที่ไม่ต้องพกกระเป๋าเงิน หรือการหาเงินโดยใช้เพียงมือถือเครื่องเดียว หลายอย่างที่อยู่ในฝันมาก่อน เริ่มจะมีเค้าโครงร่างให้เห็นแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือการ "ปรับตัว" ให้ทันกับกระแสโลก ผ่านการเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่เปิดกว้างไร้พรมแดน 

อย่างน้อยแม้เราจะไม่ได้เก่ง ไม่ได้เป็นเซียนนักเทรด หรือเป็นเทพการเขียนโค้ดโปรแกรม 

แต่เราก็จะเข้าใจว่า "โลกที่เราอยู่เป็นอย่างไร" 

เหมือนอย่างที่วันนี้เรารู้ว่า "อินเทอร์เนตทำอะไรได้บ้าง" นั่นแหละครับ 

อ้างอิงข้อมูลจากhttps://www.ibm.com/topics/what-is-blockchain
พี่แทนนี่
พี่แทนนี่ - Columnist เด็กจบใหม่จากสาขาจิตวิทยา ที่ดันค้นพบว่าชอบเขียนและเล่าเรื่องราวให้คนอื่นฟัง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น