“ควรเริ่มอะไรก่อนดีนะ ทุกอย่างดูสำคัญไปหมด”
“เนื้อหาเยอะ จะอ่านยังไงให้หมด”
“ไม่เดดไลน์ ไม่มีไฟในการทำงานหรืออ่านหนังสือ” (หรือจริงๆ แล้วเราขี้เกียจกันแน่นะ 555) เชื่อว่าน้องๆ ชาว Dek-D หลายๆ คนน่าจะเป็นกันเยอะ เมื่อต้องมาจัดสรรเวลาแต่ละอย่าง ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างตรงหน้าดูยุ่งเหยิงไปหมด สำหรับพี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงอ่านหนังสือสอบ พี่เป็นคนที่อ่านหนังสือทุกวิชา อ่านทุกบทอ่านทุกอย่าง จดสรุปเหมือนลอกเนื้อหาจากในหนังสือ จนเพื่อนถามว่า “นี่สรุปแล้วหรอ 555”
ซึ่งการทำแบบนี้ ยอมรับเลยว่ามีแต่ข้อเสีย เพราะการที่เราบริหารเวลาไม่เป็น หักโหมมากจนเกินไป มีแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเราทั้งนั้น และแย่ไปกว่านั้นอาจจะทำให้เราจำเนื้อหาที่อ่านมาไม่ได้เลย ซึ่งวันนี้พี่ได้รวบรวมเทคนิคต่างๆ ในการบริหารเวลามาแนะนำสำหรับน้องๆ ชาว Dek-D ที่ช่วงนี้กำลังจะเริ่มต้นอ่านหนังสือเพื่อที่จะเตรียมตัวสอบกัน หรือจะนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในการทำงานก็ได้เหมือนกันนะ
To Do List จัดลำดับความสำคัญ
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยใช้เทคนิคนี้กัน แต่อาจจะยังวางแผนไม่ถูก ซึ่งเจ้าตัว “To Do List” คือ การที่เราเขียนสิ่งต่างๆ และลำดับความสำคัญในสิ่งที่เราจะทำ จะได้เห็นภาพรวมทั้งหมดว่าเราจะทำอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้จัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
- เขียนสิ่งที่จะต้องทำ เรียงลำดับความสำคัญให้ดี! ขั้นตอนแรกสำคัญมาก น้องๆ ต้องเรียงลำดับความสำคัญว่า “อะไรสำคัญและเร่งด่วน” และ “อะไรสำคัญรองลงมา” เพื่อที่เราจะได้เคลียร์สิ่งต่างๆ ให้เสร็จตามลำดับที่เราวางแผนไว้
- แค่เขียน ไม่ได้แปลว่าจบ เมื่อเราวางแผน เรียงลำดับสิ่งที่จะทำได้แล้ว ก็ต้องมาเริ่มลงดีเทลในแต่ละอันให้ละเอียดว่า ต้องทำอะไรบ้าง และควรมีการวางแผนว่าแต่ละงานต้องใช้เวลาประมาณเท่าไร เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
- เริ่มลงมือทำ เมื่อเรียงลำดับความสำคัญแล้ว ลงรายละเอียดต่างๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเริ่มลงมือทำตาม “To Do List” ที่ได้เขียนไว้ให้สำเร็จ ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้องๆ แล้วว่าจะสามารถทำตามที่วางแผนไว้ได้ไหม แต่ยังไงก็อยากให้รู้จักการวางแผน เรียงลำดับความสำคัญและฝึกทำ “To Do List” เป็นประจำเพราะจะช่วยให้น้องๆ เป็นคนที่มีระเบียบวินัยมากขึ้น ถ้าทำได้รับรองเลยว่าชีวิตน้องๆ จะง่ายขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน
Time Blocking จัดตารางชีวิต
โดยเริ่มจากการที่เราจะต้องกำหนดก่อนว่า “เวลาไหนจะทำอะไรบ้าง” และให้ทำตารางเวลา แบ่งช่วงเวลาว่าใน 1 วัน หรือในสัปดาห์นี้เราจะทำอะไรบ้าง และแบ่งเวลาให้ชัดเจน เช่น จะอ่านหนังสือกี่ชั่วโมง เริ่มทำข้อสอบตอนไหน กลับมาทบทวนอีกครั้งเมื่อไร ที่สำคัญ! ต้องแบ่งเวลาพักด้วยนะ อย่าหักโหมจนเกินไป ซึ่งน้องๆ สามารถเขียนลงในปฏิทินหรือ planner ของตัวเองได้เลย และให้จัดเวลาเป็นบล็อกๆ ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้จัดสรรเวลาได้ดีแถมมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ “Time Blocking” จะมีบล็อกอยู่ 2 ประเภท ก่อนอื่นน้องๆ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่ามันมีความแตกต่างกันยังไง
- Proactive Block คือ บล็อกเวลาสำหรับงานที่ถูกวางแผนไว้แล้ว เป็นงานสำคัญที่จะต้องทำให้เสร็จหรือจำเป็นต้องทำ ซึ่งอาจเป็นงานที่มีการกำหนดเวลาส่ง
- Reactive Block คือ บล็อกเวลาสำหรับคนอื่นหรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะเข้ามากระทันหัน และอาจจะรบกวนเวลาทำงานของเรา นอกจากนี้ยังเป็นการบล็อกเวลาว่างหรือเวลาส่วนตัวให้กับเรา
Pomodoro Technique เจ้ามะเขือเทศ 25/5
Pomodoro ภาษาอิตาเลียนแปลว่า “มะเขือเทศ” เทคนิคนี้ถูกคิดค้นโดย ชาวอิตาลี “Francesco Crillo” โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาจับเวลาสไตล์อิตาเลียนรูปทรงมะเขือเทศ โดยเทคนิคเจ้ามะเขือเทศนี้ จะเป็นการแบ่งเวลาในการทำงานออกมา เป็นระยะเวลาสั้นๆ 25 นาที พัก 5 นาที
หลักสำคัญในการทำ Pomodoro Technique
- เราจะต้องโฟกัสและให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราจะทำเพียงอย่างเดียว หากเราทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และเกิดอาการล้าตามมา
- จับเวลา 25 นาที ซึ่งใน 25 นาทีนี้ เราจะต้องไม่วอกแวกกับสิ่งอื่น จะต้องโฟกัสและทุ่มเทกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น!!
- เมื่อหมดเวลา และทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ให้กากบาทเป้าหมายนั้นๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง และเหลืออีกกี่เป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ
- อย่างที่บอกว่า เราจะต้องมีเวลาพัก คือ 5 นาที ในระหว่างนี้เราอาจจะพักสายตา หรือ Relax ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายและสมองกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
ตัวอย่างการใช้เทคนิคเจ้ามะเขือเทศ กับการอ่านหนังสือสอบ
- 25 นาที รอบแรก เริ่มจากการลิสต์หัวข้อที่จะอ่านก่อน จะได้ลำดับความสำคัญถูกว่าควรเริ่มอ่านที่หัวข้อไหนก่อน
- พัก 5 นาที
- 25 นาที รอบสอง อ่านบทสรุปและหัวข้อ จะช่วยให้ง่ายต่อการอ่านและเห็นภาพรวม ช่วยย่อเวลาในการทำความเข้าใจเนื้อหายาวๆ ได้ดี แต่ถ้ายังไม่เข้าใจสามารถย้อนกลับไปอ่านหน้าที่อธิบายเพิ่มเติมได้
- พัก 5 นาที
- 25 นาที รอบสาม กลับมาอ่านอีกครั้ง จะใช้ปากกาไฮไลต์เพื่อเน้นเนื้อหาจุดที่สำคัญ แต่ไม่ควรไฮไลต์เนื้อหาทุกอย่างในหนังสือนะ!
- พัก 5 นาที
- 25 นาที รอบสี่ เขียนสรุปเนื้อหาตามความเข้าใจของเรา ต้องเขียนสรุปให้กระชับและเข้าใจง่าย
เมื่อพักครบ 5 นาที 3 รอบแล้ว ครั้งต่อไปจะเป็นการพักใหญ่ 15-20 นาที และหากน้องๆ คนไหนอยากทบทวนเนื้อหา ก็สามารถกลับมาทำเทคนิคมะเขือเทศอีกรอบได้
ซึ่งอันนี้เป็นเทคนิคที่พี่ได้นำมารวบรวมไว้ให้สำหรับน้องๆ ชาว Dek-D หวังว่าเทคนิคที่พี่นำมาในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้น้องๆ แล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้ในการเรียนหรือการทำงานกันด้วยน้าา หรือสำหรับน้องๆ คนไหนที่มีเทคนิคดีๆ ที่น่าสนใจก็สามารถมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ กันได้นะคะ
ข้อมูลจากhttps://www.mindtools.com/aug8p7g/to-do-listshttps://fellow.app/blog/productivity/productivity-techniques-to-tackle-your-to-do-list-everyday/ รูปภาพจากhttps://www.freepik.com
0 ความคิดเห็น