“เทสที่สร้าง ร่างที่เป็น” แท้จริงแล้วเราเป็นใครกันแน่

“เทสที่สร้าง ร่างที่เป็น” แท้จริงแล้วเราเป็นใครกันแน่

สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ หลายคนอาจจะรู้จักเป็นอย่างดีกับเทรนด์ที่กำลังมาแรงบนโลกโซเชียล เรียกได้ว่าจะแพลตฟอร์มไหนๆ เป็นต้องเจอ “เทสที่สร้าง ร่างที่เป็น” ตัวเราเองในโลกโซเชียลที่แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวดูดี กับตัวเราที่อาจจะไม่ได้แต่งหน้า แต่วตัวสวยๆ ไม่ต้องถ่ายรูปลงโซเชียล แท้จริงแล้วตัวตนของเราเป็นแบบไหน?

เราคนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิม?

“เทสที่สร้าง ร่างที่เป็น” ทั้งสองอย่างนี้ชวนให้นึกเข้าไปในจิตใจ แท้จริงตัวเรานั้นเป็นใคร สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ ใช่เราจริงๆไหม หรือการที่เราแสดงออกในสไตล์ที่ต่างไปจากเดิมจนคนรอบข้างสังเกตได้ เราเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม หรือเราคนเดิม แค่มีสไตล์ที่ต่างไปจากเดิม? งั้นเรามาลองทำความเข้าใจความเป็นตัวเราผ่านอัตลักษณ์กันดีกว่า 

อัตลักษณ์ (Identity) หมายถึง ลักษณะเด่น บุคลิกภาพที่โดดเด่นของแต่ละบุคคล ลักษณะเด่นที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา เป็นตัวเราในมุมมองของเรา และอาจจะมาจากมุมมองของคนอื่นด้วยได้เช่นกัน เรามองตัวเองว่าเป็นคนมั่นใจ น่าเชื่อถือ ในขณะเดียวกันคนอื่นอาจจะมองว่าเราหยิ่ง ไม่สุภาพ ไม่น่าเชื่อถือ

อัตลักษณ์ส่วนบุคคล (Personal Identity) หมายถึง การมองตัวเองในมุมมองของเรา การเป็นตัวของตัวเอง เรากำหนดด้วยตัวเราเองว่าเราเป็นแบบไหน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตัวเลือกต่างๆ ในชีวิต เช่น อาชีพ งานอดิเรก หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ เช่น เชื้อชาติ สีผิว สถานที่เกิด 

อัตลักษณ์ทางสังคม (Social Identity) หมายถึง ตัวตนของเราโดยมีผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง คือการที่เราระบุตัวตนว่าเป็นแบบไหน ในสังคมที่เราอยู่ เช่น ศาสนา ชนชั้นทางสังคม รสนิยมทางเพศ สัญชาติ

อัตลักษณ์ไหนคือตัวตนที่แท้จริง?

ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ระหว่างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและอัตลักษณ์ทางสังคม ทั้งสองล้วนเป็นตัวตนของเราทั้งสิ้น แม้ว่าจริงๆแล้วอัตลักษณ์ส่วนบุคคลก็คือเรารู้อยู่แก่ใจว่าตัวตนนี้คือเราที่เป็นเรา โดยตัวตนส่วนบุคคลมีปัจจัยหลักอยู่ 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ เช่น การตัดสินใจในการทำสิ่งต่างๆ หรือความสนใจของเรา และปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ครอบครัว และเชื้อชาติ 

อัตลักษณ์ทางสังคมคือเราในสถานภาพทางสังคม เป็นการวางตัวในสังคมนั้นๆ เช่น โรงเรียน อาชีพ ศาสนา ชาติพันธุ์ เพศ หรือชุมชนอื่นๆ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่หล่อหลอมความเป็นเรา และในทางกลับกันเราในเวอร์ชั่นที่เป็นเราคนธรรมดาคนหนึ่ง ก็หล่อหลอมสังคมด้วยเช่นกัน เป็นเราในทั้งสองเวอร์ชั่นที่เติบโตไปร่วมกัน

“แท้จริงแล้วตัวตนของเราเป็นแบบไหน”

เราสามารถรู้จักตัวเองได้มากขึ้นผ่านการทำความเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเราว่าแท้จริงแล้วเรามีความต้องการอย่างไร เราอยากจะเป็นแบบไหน เราอาจจะได้เรียนรู้และค้นพบสิ่งเหล่านี้ได้เองโดยธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป หารู้ไม่ว่าเมื่อเราหาตัวเองเจอ ไม่แน่ว่าการค้นพบครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยก็ได้

เราสามารถค้นพบความเป็นตัวเองได้หลากหลายวิธี เช่น การกล้าลองสิ่งใหม่ๆ รู้จุดแข็งของตัวเองและรู้ว่าจะนำไปใช้อย่างไร เรียนรู้จากความผิดพลาดและพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป ฝึกพูดถึงสิ่งทีดีต่อตัวเอง และรู้จักให้รางวัลตัวเอง 

การค้นพบตัวเองยังต้องอาศัยการตระหนักรู้ในตนเองอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความรู้สึก ความเชื่อ และความต้องการ เป็นการตระหนัก รับรู้ และเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น กล้าที่จะตัดสินใจ เพราะตัวเราเองรู้ดีกว่าใครๆ ว่าอะไรดีสำหรับเรา

ตัวเราเองทั้งในด้านอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและอัตลักษณ์ทางสังคม ทั้งสองด้านต่างมีผลต่อความเข้าใจและการปฏิบัติตนเองในสังคม การรับรู้และยอมรับทั้งอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและอัตลักษณ์ทางสังคมช่วยสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาและเติบโตในสังคม น้องๆ ล่ะคะรู้จักตัวเองมากแค่ไหน? มาร่วมคอมเมนต์ “เทสที่สร้าง ร่างที่เป็น” กันได้นะ