มาดูนิยาย 12 เรื่อง สู่จอเงินปี 2014

            พักเรื่องการประกวดไว้ก่อน แล้วมาดูข่าวในวงการจากต่างประเทศกันมั่งดีกว่า ช่วงนี้มีนิยายที่กลายเป็นหนังเยอะมาก อย่างที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็ The Hunger Games 2 Catching Fire, The Hobbit 2 The Desolation of Smaug แล้วปีหน้าจะมีนิยายเรื่องไหนอีกบ้างที่ต่อคิวรอเข้าโรง มาดูกันเลย!
 

The Book Thief (เข้าโรง: 9 มกรา)

            เรื่องของเด็กหญิงผู้รักหนังสือในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฮิตเลอร์สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เรื่องนี้แปลกมาก เล่าเรื่องโดย "ความตาย" นึกภาพเหมือนเป็นยมทูตที่คอยตามเก็บวิญญาณคนที่ตายในสงคราม ในช่วงนั้นมีการสั่งเผาทำลายหนังสือเพื่อไม่ให้มันชักจูงความคิดคน แต่นางเอกของเรื่องดันเก็บหนังสือที่รอดจากการถูกเผามาได้และเอาไปซ่อนไว้ใน บ้าน หลังจากนั้นบ้านเธอก็ซ่อนคนยิวไว้ด้วยชื่อแมกซ์ ทั้งคู่สนิทกันมาก และอ่านหนังสือด้วยกันทุกคืน แต่สถานการณ์จำเป็นก็ทำให้เขาต้องจากไป

            ดูจาก Trailer ของหนังเรื่องนี้ เหมือน...พี่ "ความตาย" ของเราจะหายไปนะ จริงๆ แล้วพี่คาดหวังว่าเวอร์ชั่นหนังจะช่วยให้เราเข้าใจนิยายเรื่องนี้ได้ดีขึ้น เพราะหนังมักจะตีความง่ายกว่าหนังสือ แต่...อืม...พี่ตายเราหายไปแล้ว คงตัดพวกสัญลักษณ์ทั้งหลายที่สื่อในเรื่องไปเยอะเลย เอาเป็นว่า รอดูเรื่องนี้ละกัน มันต้องดีแน่ๆ > ..<
 

12 Years a Slave (เข้าโรง: 30 มกรา)

            นิยายจากชีวิตจริงของโซโลมอน ชายหนุ่มผิวดำที่ชีวิตปกติของเขาต้องพลิกผันเพราะถูกจับตัวไปขายเป็นทาส

            มีนวนิยายอีกหลายเรื่องที่เขียนเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวหรือการเหยียดชน ชั้นในอเมริกาเนื่องจากอเมริกาเป็นศูนย์รวมคนหลายเชื้อชาติเอาไว้ (ปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังในอเมริกามานานและยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่รุนแรงเท่าเมื่อก่อนแล้ว)

            นิยายเรื่องนี้เข้าไทยแล้วด้วยนะ เผื่อใครอยากซื้อไปอ่านก่อนดูหนังจริง
 

Winter's Tale (เข้าโรง: 13 กุมภา)

            นิยายรักเหนือธรรมชาติ เกี่ยวกับพ่อหัวขโมยเทพในยุคศตวรรษที่ 19 ก่อนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาดันไปมีเรื่องกับแก๊งค์อันธพาลในเมืองจนโดนตามล่า มีอยู่รอบหนึ่งพี่แกได้รับความช่วยเหลือจากม้าสีขาว ซึ่งเจ้าม้าตัวนี้มีความสามารถพิเศษในการพาเขาข้ามเวลาได้ และเขาก็ได้พบกับลูกเศรษฐีแสนสวยอายุแค่ 18 ปีซึ่งต่อมาป่วยเป็นวัณโรคตาย ความเฮิร์ททำให้เขาขี่ม้าข้ามเวลาเพื่อหาทางปลุกชีพเธอคืนมา

            เรื่องนี้นักวิจารณ์ชมว่ามันมีอะไรมากกว่าแค่ความรักโรแมนติคหรือเรื่อง เหนือธรรมชาติ มันแฝงปรัชญาเกี่ยวกับความยุติธรรมและความถูกต้องไว้ด้วย นอกจากนี้เรื่องนี้ยังเป็นนิยายไม่กี่เรื่องที่เปลี่ยนภาพนครนิวยอร์ก จากเมืองที่มีแต่ตึกสูงอึมครึม คนหน้าตาบึ้งตึงเป็นเมืองแห่งจินตนาการและเวทมนตร์ได้
 

Vampire Academy (เข้าโรง: 13 มีนา)

            นิยายแวมไพร์โรแมนติกอีกเรื่อง นอกจากทไวไลท์ แต่เรื่องนี้เป็นแนวโรงเรียนฝึกบอดี้การ์ดสำหรับแวมไพร์เชื้อพระวงศ์ นางเอก (โรส) ต้องมาฝึกเป็นผู้คุมกันให้ลิซซ่า ผู้มีพระคุณกับตัวเองและเป็นเหมือนเพื่อนรัก ระหว่างการฝึก โรสก็ตกหลุมรักครูฝึกตัวเอง แต่รักของทั้งคู่เป็นรักต้องห้าม เรื่องนี้มีทั้งหมดหกเล่ม และพี่ก็ยังไม่เคยอ่านเลยสักเล่ม เพราะไม่ใช่แนว แต่ถ้าใครที่ชอบแนวแวมไพร์รักๆ อยู่แล้ว ก็รอหนังที่จะเข้าปี 2014 นี้ได้เลย



 

Divergent (เข้าโรง: 10 เมษา)

            นิยายเรื่องนี้โดนเปรียบเทียบกับ The Hunger Games ไว้พอสมควร เพราะเป็นนิยายไตรภาคเหมือนกัน ตัวเอกเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถเหนือกว่าชาวบ้านเหมือนกัน แต่พี่ว่าสองเรื่องนี้ต่างกันพอสมควรนะ มันดีคนละแบบ

            ตอนดู Trailer เรื่องนี้ค่อนข้างผิดหวังกับนักแสดงที่มาเล่นเป็นนางเอกพอสมควร (ผิดจากที่บรรยายในนิยายไปเยอะ) แต่พระเอกหล่อ พี่ให้อภัย (เอ๊ะ?) ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามอง แต่คงไม่ดังเปรี้ยงปร้างเท่า The Hunger Games เพราะกระแสนิยายโดนโจมตีเยอะ


 

The Giver (เข้าโรง: 21 สิงหา)

           นี่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่สร้างมาจากวรรณกรรมอมตะตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ของโลอิส เลารี่ พี่คิดว่าน่าจะทำเพราะกระแส The Hunger Games กำลังมา นิยายแนว Dystopia กำลังขายได้ ก็เลยรีบเอามาทำซะ แต่จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้แอ็คชั่นอะไรมาก เนื่องจากว่าเป็นวรรณกรรมสมัยเก่า และเน้นไปที่ประเด็นสังคมแบบ Dystopia มากกว่า

           เรื่องนี้ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน แนะนำให้ไปหาซื้ออ่านได้เลยค่ะ มีทั้งหมด 4 เล่มในชุด เป็นเรื่องสั้นๆ ไม่ยาวมาก อ่านง่าย เพราะเขาเขียนมาเพื่อสอนเด็กเกี่ยวกับแนวคิด Dystopia โดยเฉพาะ

 

The Maze Runner (เข้าโรง: 18 กันยา)

           นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Dystopian Futuristic เหมือน Divergent แต่พี่รู้สึกว่าจะดาร์กกว่าหน่อยๆ เรื่องนี้เกี่ยวกับกลุ่มเด็กผู้ชายที่โดนส่งตัวมายัง Glade เป็นที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ที่นี่ถูกล้อมด้วยเขาวงกต และฝูงสัตว์ประหลาดชื่อ Griever ซึ่งเข้ามาใน Glade ไม่ได้เพราะมีประตูขวางอยู่ เจ้าประตูนี่จะปิดในตอนกลางคืนซึ่งเป็นตอนที่ Griever ออกมาเพ่นพ่านพอดี

            เด็กพวกนี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใครและมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ทุกๆ เดือนจะมีเด็กคนใหม่ส่งเข้ามาใน Glade ผ่านลิฟต์ที่เรียกว่า Box ทุกคนต้องช่วยกันเอาชีวิตรอดในนี้ และในขณะเดียวกันก็ต้องส่งคนออกไปยังเขาวงกตเพื่อทำแผนที่และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ (เลยเรียกว่า Maze Runner)

            เรื่องนี้ดู Trailer แล้วรู้สึกแปลกๆ ตัวหนังอาจไม่ได้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างเรื่องอื่นๆ แต่ก็น่าสนใจดี
 

Gone Girl (2 ตุลา)

            เรื่องนี้เป็นแนวลึกลับ รู้สึกจะยังไม่แปลในไทย อาจจะเพราะเนื้อหาหนักเกินไป มันเกี่ยวกับชีวิตคู่ของสามีภรรยา นิค และเอมี่ หลังจากที่นิคตกงานก็เลยพาเอมี่ย้ายจากนิวยอร์กไปอีกฟากของอเมริกา คือแดนคาวบอย แล้วเริ่มชีวิตใหม่ แต่กลายเป็นว่าชีวิตคู่ทั้งคู่ไม่ราบรื่น และวันหนึ่งเอมี่ก็หายตัวไป นิคกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเขาเอาเงินเมียมาเริ่มธุรกิจใหม่

            ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เป็นนิคสลับกับอ่านไดอารี่ของเอมี่ ซึ่งต่างคนต่างก็บอกว่าฉันไม่ผิด เขานั่นแหละผิด แต่ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ เราจะยิ่งรู้เลยว่าต่างคนต่างก็โกหก ไม่ยอมพูดความจริงกัน
 

Mocking Jay part I (เข้าโรง: 20 พฤศจิกา)

            The Hunger Games ภาคสุดท้าย โดนแบ่งเป็นสองพาร์ทซะงั้น พี่ไม่ค่อยชอบหนังที่แบ่งเป็นพาร์ทๆ แบบนี้เท่าไร รู้สึกมันไม่ต่อเนื่อง ไม่พอดียังไงไม่รู้ แต่เอาเป็นว่าแฟนๆ นิยายเรื่องนี้คงชอบมากกว่าถ้าจะเห็นหนังยาวๆ เยอะๆ ไม่มีวันจบได้ยิ่งดีอะไรอย่างนี้

            เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก ถ้าใครจะดู ขอแนะนำให้ไปซื้อดีวีดีภาค The Hunger Games มาก่อน แล้วค่อยวิ่งเข้าไปดูภาคสอง Catching Fire ในโรง เสร็จแล้วนั่งรอภาคนี้ฉายอีกทีปลายปีหน้านะ

 

The Hobbit: There and Back Again (เข้าโรง: 26 ธันวา)

            มี The Hunger Games แล้วก็ต้องมีเรื่องนี้ ภาคสุดท้ายเช่นกันของนิยายเล่มเดียวจบ (?) พี่ไม่รู้ว่าลุงปีเตอร์ แจ็คสันจะทำแยกสามภาคทำไม แต่ต้องยอมรับว่า The Lord of the Rings กับ The Hobbit ที่เป็นฉบับนิยายต่างกันมากจริงๆ สงครามแหวนรักของข้ามันยาวมากและส่วนใหญ่มีแต่บรรยายดินก้อนหินต้นไม้ ในขณะที่ The Hobbit จะสั้นกระชับกว่า หลังจากที่พี่ดูภาคแรกแล้วพี่ก็ไม่เห็นว่าเรื่องมันจะยืดหรืออะไร (ออกจะคิดว่าดำเนินเรื่องเร็วไปด้วยซ้ำ) สำหรับคนที่ไม่เคยคิดอยากอ่านฉบับนิยายเพราะเห็นมันยาวเหลือเกิน แนะนำ The Hobbit นะ เผื่อจะติดใจ
 

Horns

            มีใครคิดถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์บ้างไหม เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแฮร์รี่ แต่คนที่แสดงเป็นตัวเอกของเรื่องคือ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (แฮร์รี่กลายเป็นแพะไปแล้ว!) Horns เป็นนิยายแนวดาร์ก ผสมโกธิค เกี่ยวกับเด็กหนุ่มชื่ออิกที่ตื่นมาพบว่าตัวเองมีเขา นอกจากนี้ข้างกายเขายังมีศพของแฟนสาวที่ถูกข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง เห็นแบบนี้ใครก็คิดว่าเขาคือฆาตกร แต่ครอบครัวของเขาซึ่งมีอิทธิพลมากกลับดึงเรื่องไว้ ไม่ยอมให้สืบหาความจริงมากกว่านี้ ทำให้เขาพ้นข้อกล่าวหา แม้เขาจะไม่ได้ทำ แต่พูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีคนเชื่อแล้ว

            กลับมาที่เขาของอิกกันต่อ หลังจากนั้นเขาก็ไปโรงเรียนใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะกลัวว่าทุกคนจะรังเกียจเขาที่งอกออกมา แต่กลายเป็นว่าเจ้าเขานี่กลับทำให้ใครก็ตามที่เข้ามาคุยกับเขาต้องเผลอพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุดในใจของแต่ละคนที่พวกเขาอยากทำ แต่ไม่กล้า อิกจึงใช้พลังใหม่ในการตามหาตัวคนร้ายที่ฆ่าแฟนสาวของเขาให้ได้
 

If I Stay

            นิยายเรื่องนี้มีสองกระแสตีกันอยู่ คือ มันน่าเบื่อมาก พล็อตเรียบมาก กับมันดีมาก รู้สึกอินกับนางเอกของเรื่องเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เอาเป็นว่าพี่ไม่ได้อ่าน เลยสรุปไม่ได้ แต่เรื่องราวคร่าวๆ คือ นางเอกประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ บาดเจ็บสาหัส และวิญญาณออกจากร่าง เลยได้เห็นตัวเองเละ และได้เห็นญาติสนิทมิตรสหายเป็นห่วงตัวเองมากแค่ไหน พี่ไม่แน่ใจว่าเรื่องดำเนินไปอย่างนี้ตลอดทั้งเรื่องหรือเปล่า แต่เขาบอกว่าประเด็นหลักของเรื่องคือมีอา (นางเอก) จะตัดสินใจกลับเข้าร่างเพื่อมีชีวิตต่อและผจญกับความเจ็บปวดหลังอุบัติเหตุ หรือจะตัดสินใจจากโลกนี้ไปดีกว่า


 

Tom Sawyer & Huckleberry Finn

            เป็นหนังที่เอาวรรณกรรมสุดคลาสสิคของ Mark Twain สองเรื่องมายำรวมกัน นำทีมป่วนโดยทอม และฮัค รายละเอียดเรื่องยังไม่แน่ชัด แต่เข้าใจว่าคงลองวางเรื่องให้สองคนนี้มาเจอกันแล้วได้ผจญภัยไปด้วยกัน (ในเรื่องมีนักแสดงเล่นเป็นมาร์ค ทเวนเองด้วย)

            ถ้าหากใครเคยอ่านเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือทั้งสองเรื่องคงตั้งหน้าตั้งตารอ Trailer กันอยู่เนอะ แอบๆ เข้าไปส่องทีมนักแสดงมาแล้วค่อนข้างตกใจ ฮ่าๆ คิดว่าพี่ฮัคจะหล่อกว่านี้

 

            ใครมีหนังในดวงใจแล้วกาปฏิทินวันเข้าโรงของแต่ละเรื่องได้เลยจ้า (แต่วันเข้าโรงอาจเปลี่ยนแปลงได้นะ) สำหรับพี่ อยากดูทุกเรื่องเลย ฮ่าๆ ติดที่เงินในกระเป๋ามันไม่อำนวย T ..T

            การดูหนังกับอ่านหนังสือมันก็ให้อารมณ์คนละแบบ จะดีมากถ้าทุกคนอ่านหนังสือก่อนไปดู เพราะเราจะได้จับผิดคนเขียนบทกับผู้กำกับ ฮ่าๆ (ไม่ใช่ละ) เราจะได้วิจารณ์ว่าฉากไหนที่หนังสือนำเสนอได้ดีกว่า ฉากไหนที่เรารู้สึกว่าอินกว่า ฉากไหนช่วยให้เราตีความนิยายได้ดีขึ้น ทีนี้เราถึงจะตัดสินได้ว่าเราชอบอะไรมากกว่ากัน

ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.imdb.com/media/rm861985792/tt0816442?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm3711556096/tt2024544?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm262459904/tt1837709?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm267050240/tt1686821?ref_=ttmd_md_nxt
http://www.imdb.com/media/rm2855260672/tt1840309?ref_=tt_ov_i
http://www.movieinsider.com/m1036/
http://blogs.isb.bj.edu.cn/16clairez/tag/maze-runner/
http://girlwithherheadinabook.blogspot.com/2013/08/gone-girl-gillian-flynn.html
http://www.screenslam.com/the-hunger-games-mockingjay-split-into-two-part-finale/
http://backwoodshorror.com/check-out-the-first-clip-from-the-joe-hill-adaptation-horns/
http://en.wikipedia.org/wiki/If_I_Stay
http://www.imdb.com/media/rm2713234688/tt1977087?ref_=tt_ov_i
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

jade Member 18 ธ.ค. 56 07:23 น. 12

ดังๆ ระดับตำนาน น่าดูน่าอ่านทั้งน้านนนนน

.

.

.

แต่อาร์ทิมิส ฟาวล์ของเราล่ะ จะถ่ายทำๆ มาหลายปีแล้ว ยังไม่มาอีกเหรอ T^T

ปีหน้าได้เดินสวนสนามเข้าออกโรงหนังกับเพื่อนแน่ๆ เย้

3
editor_nong Member 19 ธ.ค. 56 09:30 น. 12-1
พี่รออาร์ตี้เหมือนกัน เสียใจ บางทีผู้จัดอาจจะกำลังประเมินอยู่ว่าจะทำแบบภาคเดียวก็พอ หรือทำทุกภาคที่หนังสือมี เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้ดังแบบแฮร์รี่ถึงขนาดการันตีว่ามีภาคต่อแล้วคนต้องดู (หนังสือตั้งหกภาค) มีนิยายหลายเรื่องเลยที่มาทำเป็นหนังแล้วแป้ก ภาคต่อก็เลยไม่มี และหนังพวกนี้ต้องใช้เงินเยอะ ไม่เหมือนหนังสือ มันเลยต้องออกมา mass ให้มันขายได้ ถ้าขายเฉพาะแฟนหนังสือผู้สร้างก็ขาดทุนย่อยยับเลย ปล. แต่ยังไงก็ขอเด็กที่มาเล่นเป็นอาร์ทิมิสหล่อๆ หน่อยนะ เขิลจุง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PIERROt Member 18 ธ.ค. 56 18:03 น. 17

เรื่อง The maze runner ถ้าไม่เข้าใจผิด มีแปลไทยแล้วนะคะ

ใช้ชื่อว่า วงกตมฤตยู โดย สนพ.เอนเทอร์ ค่ะ

เคยอ่านเล่มแรก เนื้อหาช่วงแรกอ่านแล้วงงๆ แต่ช่วงหลังนี่มันส์ใช้ได้เลยค่ะ

ตั้งใจ

2
กำลังโหลด
Aztia Member 22 ธ.ค. 56 14:51 น. 42

มีความรู้สึกว่าตั้งแต่แฮร์รี่ พอตเตอร์แบ่งภาคสุดท้ายเป็นสองส่วนเพื่อทำให้เนื้อเรื่องมันครบเพราะรายละเอียดเยอะ นิยายเรื่องหลังๆก็ชักจะทำตามทั้งๆที่เราว่ามันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่

กรณีของแฮร์รี่เราเข้าใจเพราะรายละเอียดมันเยอะมาก ถ้าขาดไปดูไม่รู้เรื่องแน่ เพราะนี่แบ่งสองพาร์ทก็ยังเก็บไม่ครบ แต่ว่าทไวไลท์กับฮังเกอร์ เกมส์... จะแบ่งทำไม

2
editor_nong Member 24 ธ.ค. 56 14:44 น. 42-1
คิดว่าเป็นการตลาดได้ส่วนหนึ่งค่ะ เพราะหนังมันยังขายได้อยู่ 3 ภาคยังไม่พอ ผู้สร้างเขาก็อยากได้เงิน คนดูบางคนก็ไม่อยากให้จบ อยากให้ต่อไปเรื่อยๆ ก็มี ก็เลยขยายภาคออกไป
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

49 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ข้าคือ..แม่นางมิโมเระ Member 17 ธ.ค. 56 20:44 น. 7

อยากดูหนังแวมไพร์อ่ะ อืมมมมม เมื่อไหร่เราจะมีโอกาสแบบนั้นบ้างนะ กระซิ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
jade Member 18 ธ.ค. 56 07:23 น. 12

ดังๆ ระดับตำนาน น่าดูน่าอ่านทั้งน้านนนนน

.

.

.

แต่อาร์ทิมิส ฟาวล์ของเราล่ะ จะถ่ายทำๆ มาหลายปีแล้ว ยังไม่มาอีกเหรอ T^T

ปีหน้าได้เดินสวนสนามเข้าออกโรงหนังกับเพื่อนแน่ๆ เย้

3
editor_nong Member 19 ธ.ค. 56 09:30 น. 12-1
พี่รออาร์ตี้เหมือนกัน เสียใจ บางทีผู้จัดอาจจะกำลังประเมินอยู่ว่าจะทำแบบภาคเดียวก็พอ หรือทำทุกภาคที่หนังสือมี เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้ดังแบบแฮร์รี่ถึงขนาดการันตีว่ามีภาคต่อแล้วคนต้องดู (หนังสือตั้งหกภาค) มีนิยายหลายเรื่องเลยที่มาทำเป็นหนังแล้วแป้ก ภาคต่อก็เลยไม่มี และหนังพวกนี้ต้องใช้เงินเยอะ ไม่เหมือนหนังสือ มันเลยต้องออกมา mass ให้มันขายได้ ถ้าขายเฉพาะแฟนหนังสือผู้สร้างก็ขาดทุนย่อยยับเลย ปล. แต่ยังไงก็ขอเด็กที่มาเล่นเป็นอาร์ทิมิสหล่อๆ หน่อยนะ เขิลจุง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PIERROt Member 18 ธ.ค. 56 18:03 น. 17

เรื่อง The maze runner ถ้าไม่เข้าใจผิด มีแปลไทยแล้วนะคะ

ใช้ชื่อว่า วงกตมฤตยู โดย สนพ.เอนเทอร์ ค่ะ

เคยอ่านเล่มแรก เนื้อหาช่วงแรกอ่านแล้วงงๆ แต่ช่วงหลังนี่มันส์ใช้ได้เลยค่ะ

ตั้งใจ

2
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด