The Book Thief (เข้าโรง: 9 มกรา)
เรื่องของเด็กหญิงผู้รักหนังสือในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฮิตเลอร์สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เรื่องนี้แปลกมาก เล่าเรื่องโดย "ความตาย" นึกภาพเหมือนเป็นยมทูตที่คอยตามเก็บวิญญาณคนที่ตายในสงคราม ในช่วงนั้นมีการสั่งเผาทำลายหนังสือเพื่อไม่ให้มันชักจูงความคิดคน แต่นางเอกของเรื่องดันเก็บหนังสือที่รอดจากการถูกเผามาได้และเอาไปซ่อนไว้ใน บ้าน หลังจากนั้นบ้านเธอก็ซ่อนคนยิวไว้ด้วยชื่อแมกซ์ ทั้งคู่สนิทกันมาก และอ่านหนังสือด้วยกันทุกคืน แต่สถานการณ์จำเป็นก็ทำให้เขาต้องจากไปดูจาก Trailer ของหนังเรื่องนี้ เหมือน...พี่ "ความตาย" ของเราจะหายไปนะ จริงๆ แล้วพี่คาดหวังว่าเวอร์ชั่นหนังจะช่วยให้เราเข้าใจนิยายเรื่องนี้ได้ดีขึ้น เพราะหนังมักจะตีความง่ายกว่าหนังสือ แต่...อืม...พี่ตายเราหายไปแล้ว คงตัดพวกสัญลักษณ์ทั้งหลายที่สื่อในเรื่องไปเยอะเลย เอาเป็นว่า รอดูเรื่องนี้ละกัน มันต้องดีแน่ๆ > ..<
12 Years a Slave (เข้าโรง: 30 มกรา)
นิยายจากชีวิตจริงของโซโลมอน ชายหนุ่มผิวดำที่ชีวิตปกติของเขาต้องพลิกผันเพราะถูกจับตัวไปขายเป็นทาสมีนวนิยายอีกหลายเรื่องที่เขียนเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวหรือการเหยียดชน ชั้นในอเมริกาเนื่องจากอเมริกาเป็นศูนย์รวมคนหลายเชื้อชาติเอาไว้ (ปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังในอเมริกามานานและยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่รุนแรงเท่าเมื่อก่อนแล้ว)
นิยายเรื่องนี้เข้าไทยแล้วด้วยนะ เผื่อใครอยากซื้อไปอ่านก่อนดูหนังจริง
Winter's Tale (เข้าโรง: 13 กุมภา)
นิยายรักเหนือธรรมชาติ เกี่ยวกับพ่อหัวขโมยเทพในยุคศตวรรษที่ 19 ก่อนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาดันไปมีเรื่องกับแก๊งค์อันธพาลในเมืองจนโดนตามล่า มีอยู่รอบหนึ่งพี่แกได้รับความช่วยเหลือจากม้าสีขาว ซึ่งเจ้าม้าตัวนี้มีความสามารถพิเศษในการพาเขาข้ามเวลาได้ และเขาก็ได้พบกับลูกเศรษฐีแสนสวยอายุแค่ 18 ปีซึ่งต่อมาป่วยเป็นวัณโรคตาย ความเฮิร์ททำให้เขาขี่ม้าข้ามเวลาเพื่อหาทางปลุกชีพเธอคืนมาเรื่องนี้นักวิจารณ์ชมว่ามันมีอะไรมากกว่าแค่ความรักโรแมนติคหรือเรื่อง เหนือธรรมชาติ มันแฝงปรัชญาเกี่ยวกับความยุติธรรมและความถูกต้องไว้ด้วย นอกจากนี้เรื่องนี้ยังเป็นนิยายไม่กี่เรื่องที่เปลี่ยนภาพนครนิวยอร์ก จากเมืองที่มีแต่ตึกสูงอึมครึม คนหน้าตาบึ้งตึงเป็นเมืองแห่งจินตนาการและเวทมนตร์ได้
Vampire Academy (เข้าโรง: 13 มีนา)
นิยายแวมไพร์โรแมนติกอีกเรื่อง นอกจากทไวไลท์ แต่เรื่องนี้เป็นแนวโรงเรียนฝึกบอดี้การ์ดสำหรับแวมไพร์เชื้อพระวงศ์ นางเอก (โรส) ต้องมาฝึกเป็นผู้คุมกันให้ลิซซ่า ผู้มีพระคุณกับตัวเองและเป็นเหมือนเพื่อนรัก ระหว่างการฝึก โรสก็ตกหลุมรักครูฝึกตัวเอง แต่รักของทั้งคู่เป็นรักต้องห้าม เรื่องนี้มีทั้งหมดหกเล่ม และพี่ก็ยังไม่เคยอ่านเลยสักเล่ม เพราะไม่ใช่แนว แต่ถ้าใครที่ชอบแนวแวมไพร์รักๆ อยู่แล้ว ก็รอหนังที่จะเข้าปี 2014 นี้ได้เลย
Divergent (เข้าโรง: 10 เมษา)
ตอนดู Trailer เรื่องนี้ค่อนข้างผิดหวังกับนักแสดงที่มาเล่นเป็นนางเอกพอสมควร (ผิดจากที่บรรยายในนิยายไปเยอะ) แต่พระเอกหล่อ พี่ให้อภัย (เอ๊ะ?) ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามอง แต่คงไม่ดังเปรี้ยงปร้างเท่า The Hunger Games เพราะกระแสนิยายโดนโจมตีเยอะ
The Giver (เข้าโรง: 21 สิงหา)
เรื่องนี้ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน แนะนำให้ไปหาซื้ออ่านได้เลยค่ะ มีทั้งหมด 4 เล่มในชุด เป็นเรื่องสั้นๆ ไม่ยาวมาก อ่านง่าย เพราะเขาเขียนมาเพื่อสอนเด็กเกี่ยวกับแนวคิด Dystopia โดยเฉพาะ
The Maze Runner (เข้าโรง: 18 กันยา)
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Dystopian Futuristic เหมือน Divergent แต่พี่รู้สึกว่าจะดาร์กกว่าหน่อยๆ เรื่องนี้เกี่ยวกับกลุ่มเด็กผู้ชายที่โดนส่งตัวมายัง Glade เป็นที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ที่นี่ถูกล้อมด้วยเขาวงกต และฝูงสัตว์ประหลาดชื่อ Griever ซึ่งเข้ามาใน Glade ไม่ได้เพราะมีประตูขวางอยู่ เจ้าประตูนี่จะปิดในตอนกลางคืนซึ่งเป็นตอนที่ Griever ออกมาเพ่นพ่านพอดีเด็กพวกนี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใครและมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ทุกๆ เดือนจะมีเด็กคนใหม่ส่งเข้ามาใน Glade ผ่านลิฟต์ที่เรียกว่า Box ทุกคนต้องช่วยกันเอาชีวิตรอดในนี้ และในขณะเดียวกันก็ต้องส่งคนออกไปยังเขาวงกตเพื่อทำแผนที่และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ (เลยเรียกว่า Maze Runner)
เรื่องนี้ดู Trailer แล้วรู้สึกแปลกๆ ตัวหนังอาจไม่ได้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างเรื่องอื่นๆ แต่ก็น่าสนใจดี
Gone Girl (2 ตุลา)
ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เป็นนิคสลับกับอ่านไดอารี่ของเอมี่ ซึ่งต่างคนต่างก็บอกว่าฉันไม่ผิด เขานั่นแหละผิด แต่ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ เราจะยิ่งรู้เลยว่าต่างคนต่างก็โกหก ไม่ยอมพูดความจริงกัน
Mocking Jay part I (เข้าโรง: 20 พฤศจิกา)
The Hunger Games ภาคสุดท้าย โดนแบ่งเป็นสองพาร์ทซะงั้น พี่ไม่ค่อยชอบหนังที่แบ่งเป็นพาร์ทๆ แบบนี้เท่าไร รู้สึกมันไม่ต่อเนื่อง ไม่พอดียังไงไม่รู้ แต่เอาเป็นว่าแฟนๆ นิยายเรื่องนี้คงชอบมากกว่าถ้าจะเห็นหนังยาวๆ เยอะๆ ไม่มีวันจบได้ยิ่งดีอะไรอย่างนี้เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก ถ้าใครจะดู ขอแนะนำให้ไปซื้อดีวีดีภาค The Hunger Games มาก่อน แล้วค่อยวิ่งเข้าไปดูภาคสอง Catching Fire ในโรง เสร็จแล้วนั่งรอภาคนี้ฉายอีกทีปลายปีหน้านะ
The Hobbit: There and Back Again (เข้าโรง: 26 ธันวา)
Horns
กลับมาที่เขาของอิกกันต่อ หลังจากนั้นเขาก็ไปโรงเรียนใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะกลัวว่าทุกคนจะรังเกียจเขาที่งอกออกมา แต่กลายเป็นว่าเจ้าเขานี่กลับทำให้ใครก็ตามที่เข้ามาคุยกับเขาต้องเผลอพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุดในใจของแต่ละคนที่พวกเขาอยากทำ แต่ไม่กล้า อิกจึงใช้พลังใหม่ในการตามหาตัวคนร้ายที่ฆ่าแฟนสาวของเขาให้ได้
If I Stay
Tom Sawyer & Huckleberry Finn
ถ้าหากใครเคยอ่านเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือทั้งสองเรื่องคงตั้งหน้าตั้งตารอ Trailer กันอยู่เนอะ แอบๆ เข้าไปส่องทีมนักแสดงมาแล้วค่อนข้างตกใจ ฮ่าๆ คิดว่าพี่ฮัคจะหล่อกว่านี้
ใครมีหนังในดวงใจแล้วกาปฏิทินวันเข้าโรงของแต่ละเรื่องได้เลยจ้า (แต่วันเข้าโรงอาจเปลี่ยนแปลงได้นะ) สำหรับพี่ อยากดูทุกเรื่องเลย ฮ่าๆ ติดที่เงินในกระเป๋ามันไม่อำนวย T ..T
การดูหนังกับอ่านหนังสือมันก็ให้อารมณ์คนละแบบ จะดีมากถ้าทุกคนอ่านหนังสือก่อนไปดู เพราะเราจะได้จับผิดคนเขียนบทกับผู้กำกับ ฮ่าๆ (ไม่ใช่ละ) เราจะได้วิจารณ์ว่าฉากไหนที่หนังสือนำเสนอได้ดีกว่า ฉากไหนที่เรารู้สึกว่าอินกว่า ฉากไหนช่วยให้เราตีความนิยายได้ดีขึ้น ทีนี้เราถึงจะตัดสินได้ว่าเราชอบอะไรมากกว่ากัน
http://www.imdb.com/media/rm861985792/tt0816442?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm3711556096/tt2024544?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm262459904/tt1837709?ref_=tt_ov_i
http://www.imdb.com/media/rm267050240/tt1686821?ref_=ttmd_md_nxt
http://www.imdb.com/media/rm2855260672/tt1840309?ref_=tt_ov_i
http://www.movieinsider.com/m1036/
http://blogs.isb.bj.edu.cn/16clairez/tag/maze-runner/
http://girlwithherheadinabook.blogspot.com/2013/08/gone-girl-gillian-flynn.html
http://www.screenslam.com/the-hunger-games-mockingjay-split-into-two-part-finale/
http://backwoodshorror.com/check-out-the-first-clip-from-the-joe-hill-adaptation-horns/
http://en.wikipedia.org/wiki/If_I_Stay
http://www.imdb.com/media/rm2713234688/tt1977087?ref_=tt_ov_i

บางทีผู้จัดอาจจะกำลังประเมินอยู่ว่าจะทำแบบภาคเดียวก็พอ หรือทำทุกภาคที่หนังสือมี เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้ดังแบบแฮร์รี่ถึงขนาดการันตีว่ามีภาคต่อแล้วคนต้องดู (หนังสือตั้งหกภาค)
มีนิยายหลายเรื่องเลยที่มาทำเป็นหนังแล้วแป้ก ภาคต่อก็เลยไม่มี และหนังพวกนี้ต้องใช้เงินเยอะ ไม่เหมือนหนังสือ มันเลยต้องออกมา mass ให้มันขายได้ ถ้าขายเฉพาะแฟนหนังสือผู้สร้างก็ขาดทุนย่อยยับเลย
ปล. แต่ยังไงก็ขอเด็กที่มาเล่นเป็นอาร์ทิมิสหล่อๆ หน่อยนะ 


49 ความคิดเห็น
อยากอ่านและอยากดูมาก ตอนนี้อ่านฟิฟตี้เชดอยู่..555
อยากอ่านและอยากดูมาก ตอนนี้อ่านฟิฟตี้เชดอยู่..555
รอดู ภาคต่อของ the hunger game
รอดู ภาคต่อของ the hunger game
The Giver???!!!!
แหม่ แบบนี้ต้องตามดูซะแล้ว หนูโจนาสจะออกมาหน้าตาแบบไหนนะ
น่าอ่านทั้งนั้นเลยยย ><
อยากดูหนังแวมไพร์อ่ะ อืมมมมม เมื่อไหร่เราจะมีโอกาสแบบนั้นบ้างนะ กระซิ
น่าดูจัง Vampire Academy

น่าดูจัง Vampire Academy

ตอนแรกคิดว่าเป็นของไทย ฮ่าๆ
the giver อ่านแล้ว สนุกมากๆ ลองอ่านดู
ดังๆ ระดับตำนาน น่าดูน่าอ่านทั้งน้านนนนน
.
.
.
แต่อาร์ทิมิส ฟาวล์ของเราล่ะ จะถ่ายทำๆ มาหลายปีแล้ว ยังไม่มาอีกเหรอ T^T
ปีหน้าได้เดินสวนสนามเข้าออกโรงหนังกับเพื่อนแน่ๆ
The Book Theif กับ 12 Years a slave น่าดู + อ่านมากๆ เลยคร้าบ ชอบแนวนี้มากๆ เลย
หนังน่าดูเกือบทั้งนั้นเลยย ย ที่สำคัญ!! คือยังไม่เคยอ่านสักเล่มเลยแอะ
หนังน่าดูเกือบทั้งนั้นเลยย ย ที่สำคัญ!! คือยังไม่เคยอ่านสักเล่มเลยแอะ
Mortal Instruments ก็สนุกนะค่ะ อ่านหนังสือแล้วสนุกกว่าหนังมาก (คหสต)
เรื่อง The maze runner ถ้าไม่เข้าใจผิด มีแปลไทยแล้วนะคะ
ใช้ชื่อว่า วงกตมฤตยู โดย สนพ.เอนเทอร์ ค่ะ
เคยอ่านเล่มแรก เนื้อหาช่วงแรกอ่านแล้วงงๆ แต่ช่วงหลังนี่มันส์ใช้ได้เลยค่ะ
เพอร์ซีย์ แจ๊คสันหายไปไหย= =