รู้ไว้! 6 โรคเงียบที่นักเขียนควรระวัง!


รู้ไว้ 6 โรคเงียบที่นักเขียนควรระวัง!
 

 สวัสดีชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคนค่ะ สำหรับอาชีพนักเขียนอย่างเรานั้น...มักจะมีช่วงเวลาในการทำงานไม่แน่นอน สมองจะแล่นปรู๊ดปร๊าดเมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้ ความเงียบสงบ บรรยากาศดีๆ จึงเป็นตัวช่วงหลักให้นักเขียนสรรสร้างผลงานดีๆ ออกมาสักเรื่อง และแม้ว่าอาชีพอย่างเราจะทำงานอยู่กับบ้านไม่ต้องเผชิญอันตราย หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ นอกบ้าน

...แต่รู้อะไรไหมคะ? ยังมีโรคเงียบไม่น้อยที่เป็นภัยร้ายกำลังรอทำลายสุขภาพของเราได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น วันนี้พี่น้ำฝนก็เลยรวบรวมโรคที่มักเกิดกับนักเขียนมากระซิบเตือนด้วยความเป็นห่วงค่ะ  
 

1.  ปวดตา ตาแห้ง

เคยไหมคะ? ในบางช่วงเวลา เราจะรู้สึกถึงความผิดปกติของดวงตาอันเป็นหนึ่งอวัยวะที่สำคัญอย่างตาแห้ง ระคายเคือง แสบตา ตาพร่ามัว จนบางครั้งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลงลด อาการพวกนี้ส่วนมากก็มาจากพฤติกรรมส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น อยู่ในสถานที่มีลมแรง แพ้อากาศ และสำหรับนักเขียนอย่างเราก็คงหนีไม่พ้นพฤติกรรมการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน (นักเขียนอย่างเรา...คงเลี่ยงยาก)  
          
วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. หากรู้สึกตาแห้งก็ลองหยดน้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา
     2. ควรพักสายตาเป็นระยะ และกระพริบตาถี่ขึ้นเพื่อขับน้ำออกมาให้เพิ่มขึ้น
     3. จัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะกับสายตา รวมทั้งการใส่แว่นตาที่เหมาะสม
     4. รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตา เช่น วิตามินเอ โอเมก้า 3 (Omega 3 fatty acid) เป็นต้น แน่นอนว่าควรควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย 
    

 
2.  ปวดคอ ไหล่ หลัง 
               
นักเขียนอย่างเราก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องทำงานอยู่จอคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าการนั่งอยู่ในท่วงท่าเดิมเป็นเวลานานจึงเป็นสาเหตุหลักของอาการ ปวดคอ ไหล่ ลามไปจนถึงบริเวณหลัง หากอาการปวดเพิ่มมากขึ้นและติดต่อเป็นระยะเวลานานอาจจะส่งผลไปถึงการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังจนส่งผลร้ายแรงได้ในอนาคต เพราะฉะนั้น...ถ้ายังคงปวดเรื้อรังก็ควรปรึกษาแพทย์
         
วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. พยายามนั่งหลังตรงในท่วงท่าที่เหมาะสม
     2. หากต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานควรมีการพักผ่อนเป็นระยะเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
     3. สามารถใช้ประคบเย็นตรงส่วนที่ปวดจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อขึ้นได้
     4. บริหารกล้ามเนื้อคออย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือทุกครั้งที่มีอาการ 
 

 
3.  ข้อมือ นิ้ว อักเสบ

สำหรับชาวนักเขียนอย่างเรา ข้อมือ และนิ้วเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง ทุกวันเราต้องจรดนิ้วไปบนแป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างตัวอักษรภายใต้จินตนาการขึ้นมา ดังนั้น อีกโรคที่ลืมเลือนไปไม่ได้ก็คือ ข้อมืออักเสบ หรือ การอักเสบของเส้นประสาทบริเวณข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า carpal tunnel syndrome (CTS) ส่งผลต่อให้เกิดอาการชา และปวดทางด้านฝ่ามืออาจลามไปถึงข้อมือจนเกิดการบวมแดงขึ้นได้ 

 
วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. ควรปรับการวางมือให้เหมาะสมกับแป้นพิมพ์ เมาส์ รวมทั้งโต๊ะทำงาน ระมัดระวังเรื่องแรงกดที่ข้อมือ หรือท่วงท่าที่จะทำให้เกิดการปวด
     2. ประคบเย็นตรงข้อมือมีอาการปวด รวมทั้งการพันผ้า
     3. ถ้าเกิดอาการปวดควรหยุดพักทันทีไม่ควรฝืนทำต่อ และถ้ายังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

 
4.  โรคกระเพาะอาหาร 

พี่น้ำฝนแอบเห็นอยู่เหมือนกันนะคะ ว่านักเขียนหลายท่านเป็นโรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากกิจวิตรประจำวันที่ค่อนข้างไม่เป็นไปตามกลไกของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา กินๆ นั่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน นอนกลางวันตื่นกลางคืน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้กระเพาะอาหารทำงานผิดปกติขึ้น ส่งผลให้เกิดปวดท้องบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ จุก เสียด แน่นท้อง เจ็บแสบ จนอาจลามไปถึงขั้นรุนแรงเกิดภาวะแทรกซ้อนจนต้องรีบพบแพทย์โดนด่วน!

วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. กินอาหารให้เป็นเวลาทุกมื้อ และควรงดอาหารทุกประเภทก่อนช่วงจะเข้านอน
     2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยง ได้แก่ อาหารรสจัด น้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น
     3. ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อาหารที่ย่อยง่าย
     4. หลีกเลี่ยงภาวะเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 
5.  ไมเกรน 

โรคยอดฮิตโรคหนึ่งที่ชาวนักเขียนเป็นกันมาก (พี่น้ำฝนก็เป็นหนึ่งในนั้น) อาการปวดหัวแบบไมเกรนนั้นมักจะปวดบริเวณขมับ หรือ บริเวณเบ้าตาซึ่งอาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง เราจะรู้สึกปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ถ้าปวดมากขึ้นก็อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนขึ้นได้ 

รู้ไหมคะ? ว่าไมเกรนเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก! ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด อากาศร้อน นอนน้อย หรือนอนไม่เป็นเวลา รวมทั้งอาหารและยาบางจำพวก อย่างเช่น แอลกอฮอล์ ช็อคโกแล็ต ชีส ชา และยาคุมกำเนิด เป็นต้น  

วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น 
     2. เมื่อมีอาการควรหยุดพักผ่อนทันทีไม่ควรฝืนร่างกาย ประคบเย็นบริเวณต้นคอก็จะช่วยผ่อนคลายได้มากเช่นกัน
     3. การออกกำลังกายจะช่วยลดความถี่ของการปวดได้
     4. ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางการรักษา รวมทั้งวิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง

 
6.  โรคซึมเศร้า 

โรคซึมเศร้าเป็นการป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และความคิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หลายคนที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจจะยังไม่รู้สึกตัว ทว่าจะแสดงอาการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น หงุดหงิดง่าย รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า อยากทำร้ายตัวเอง จนอาจจะลามไปยังการฆ่าตัวตาย

อีกทั้งยังพบว่า 'นักเขียน - ศิลปิน' กลับเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงกว่าคนทั่วไปถึง 10 - 18 เท่า แถมยังติดอับดับ 1 ใน 10 อาชีพที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โอ! คิดไม่ถึงกันเลยใช่ไหมคะ? แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะทุกปัญหามีทางแก้ ขนาดนักเขียนชื่อดังระดับโลกยังเป็นโรคซึมเศร้ากันได้เลย ลองตามไปอ่านบทความนี้ได้ค่ะ 4 นักเขียนดังที่เป็นโรคซึมเศร้า

วิธีการป้องกันและแนวทางการรักษา
     1. ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง 
     2. ควรได้รับกำลังใจจากครอบครัว และคนรอบข้าง
     3. ควรพักผ่อนในสถานที่ที่ผ่อนคลายบ้าง หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องทำร้ายจิตใจ
 
          

เป็นยังไงกันบ้างคะ? ชาวเด็กดีไรเตอร์ กับ 6 โรคภัยเงียบที่คอยรุกรานสุขภาพของเราที่พี่น้ำฝนเอามานำเสนอ แม้ว่าบางโรคจะดูน่ากลัวเมื่อได้ยิน แต่เชื่อเถอะค่ะ! ถ้าหากเราใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหาร การพักผ่อน และการออกกำลังกาย... ไม่ว่าโรคไหนๆ ก็ยากที่จะทำร้ายเราได้ค่ะ 
             
เพราะฉะนั้นเหล่านักเขียนทั้งหลายจ๋า...ในขณะที่กำลังสรรสร้างงานเขียนดีๆ สักเรื่องก็อย่าลืมดูแล และใส่ใจในสุขภาพกันด้วยนะคะ 

 
พี่น้ำฝน ^^
 
 


 
พี่น้ำฝน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

มั ง ก ร ข า ว Member 16 ส.ค. 59 17:25 น. 2

ข้อ 3. เคยโดนไปเรียบร้อย ใช้มือหยิบจับทำอะไรแทบไม่ได้เป็นเดือนเลย แต่นั่นเพราะเล่นเกมมากไป ไม่เกี่ยวกับแต่งนิยาย ฮ่าๆๆ

เสียใจ เสียใจ เสียใจ 

0
กำลังโหลด
นางฟ้าสุดสวย(?) Member 16 ส.ค. 59 17:50 น. 3

ข้อสองนิใช้เลยค่ะ ระวังด้วยน่ะค่ะสำหรับคนที่ชอบนั่งหน้าคอมนานๆ เฮ้อ เราเนี่ยล่ะตาเกือบสั้น ปวดคอ ไหล่ หลัง มาก เราโดนมาแล้วค่ะแล้วอย่านั่นหน้าคอมนานๆด้วยน่ะค่ะ

เสียใจ

ความปราถนาดีจาก 'นางฟ้าสุดสวย(?)'

0
กำลังโหลด
Natacia Member 16 ส.ค. 59 18:44 น. 4

เราเป็นไมเกรนกับปวดตา

​อันนี้มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วอ่ะเนอะ ปวดตากับไมเกรนนของคู่กัน

0
กำลังโหลด
~โรตีกล้วยหอม~ Member 19 ส.ค. 59 04:34 น. 15

ตอนที่เขียนหนักๆ แบบฮาร์ดคอร์เลยเป็นกล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ปวดไหล่ไปหมดเลย เพราะอยู่หน้าคอม 8ชม.++ ถึงขั้นไปหาหมอ หมอบอกว่าเล่นคอมฯ น้อยๆ หน่อยลูก ไม่ก็เปลี่ยนท่านั่งให้ห้อยหัวลงมาเล่นไรงี้ จะดีต่อสุขภาพ เอ่อ...คือหมอคะ พูดเล่นใช่ไหม 55 หมอเป็นคนตลก

0
กำลังโหลด

22 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
มั ง ก ร ข า ว Member 16 ส.ค. 59 17:25 น. 2

ข้อ 3. เคยโดนไปเรียบร้อย ใช้มือหยิบจับทำอะไรแทบไม่ได้เป็นเดือนเลย แต่นั่นเพราะเล่นเกมมากไป ไม่เกี่ยวกับแต่งนิยาย ฮ่าๆๆ

เสียใจ เสียใจ เสียใจ 

0
กำลังโหลด
นางฟ้าสุดสวย(?) Member 16 ส.ค. 59 17:50 น. 3

ข้อสองนิใช้เลยค่ะ ระวังด้วยน่ะค่ะสำหรับคนที่ชอบนั่งหน้าคอมนานๆ เฮ้อ เราเนี่ยล่ะตาเกือบสั้น ปวดคอ ไหล่ หลัง มาก เราโดนมาแล้วค่ะแล้วอย่านั่นหน้าคอมนานๆด้วยน่ะค่ะ

เสียใจ

ความปราถนาดีจาก 'นางฟ้าสุดสวย(?)'

0
กำลังโหลด
Natacia Member 16 ส.ค. 59 18:44 น. 4

เราเป็นไมเกรนกับปวดตา

​อันนี้มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วอ่ะเนอะ ปวดตากับไมเกรนนของคู่กัน

0
กำลังโหลด
Smile in wonderland Member 16 ส.ค. 59 18:51 น. 5

โอ้ย ตรงมากกกกก เราปวดตามากเลยตอนนี้! ตอนก่อนจะหันมาเขียนนิยายเล่นคอมพ์นานเท่าไหร่ก็ไม่เคยปวดตาขนาดนี้เลยนะเนี่ยยย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
มัณทนา Member 16 ส.ค. 59 19:39 น. 9

เป็นมาหมดแล้วค่ะ เรียบร้อยโรงเรียนนักเขียน

ต่อให้ไม่เป็นนักเขียนก็สามารถเป็นได้เหมือนกันเสียใจ

0
กำลังโหลด
มิลินท์/ข้าวแดกงา Member 16 ส.ค. 59 20:30 น. 10

เป็นมันทุกโรค ยกเว้น โรคกระเพาะ 55555 

หนักๆ เห็นจะเป็นข้อ 1 แสบตาอย่างแรงค่ะ ถ้ามีคอมที่อ่านความคิดเราได้คงจะดีไม่น้อย อะไรๆ คงง่ายขึ้น

 เสียใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Maewr Member 17 ส.ค. 59 21:38 น. 12

ผมเป็นข้อ 6 ครับ

และผมคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่นะ ข้อ 6 นี้ล่ะที่ทำให้ผมเกือบเป็นบ้าและตายทั้งเป็นจริงๆ

หลายคนมีจินตนาการเกินขีดจำกัด มองแล้วมันก็ดีต่ออาชีพนักเขียน แต่กลับกระทบสุขภาพจิต สุขภาพกาย ยันการเข้าสังคมของตัวเอง

อย่างผม คือผมเป็นคนที่สามารถแต่งเรื่องไปด้วยในระหว่างที่ทำอย่างอื่น ทั้งตื่นและนอน ตลอดการใช้ชีวิตก็จะรับรู้เวลา สถานที่ และสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ค่อยจะได้ บางเรื่องถึงกับมึนงงว่า ทำ หรือยังไม่ได้ทำ ตัวเองทำจริงหรือ หรือแค่สมองหลอกขึ้นมา

ผมก็อยากจะแนะนำทริคนิดหน่อย ใครจะลองนำไปใช้ก็ได้ครับ

๑ คุณต้องมีเพื่อน หรือคนที่อยู่ข้างตัวเองแทบจะตลอดเวลา เพื่อที่เขาจะบอกได้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ และคุณไม่ได้ทำอะไรกันแน่ คุณทำตัวแปลกประหลาดด้วยหรือเปล่า

๒ คุณต้องเขียนไดอารี่ เพื่อที่จะเรียบเรียงความทรงจำได้ถูกต้องว่าวันนั้นคุณทำอะไรลงไปบ้าง

๓ คุณต้องเขียนแผนงานวันถัดไปให้ตัวเองว่าคุณมีเวลาเท่าไร เวลาไหน ที่จะทำอะไรบ้าง

๔ คุณต้องรู้จักการให้รางวัลและลงโทษตัวเอง ให้รางวัล ทำสิ่งที่ชื่นชอบมากที่สุด เมื่อคุณทำวันนั้นได้เพอร์เฟ็ก และทำโทษ ทำในสิ่งที่เกลียดที่สุด เมื่อคุณพลาด เพื่อทำให้ตัวเองจดจำและอยู่ในระเบียบตามใจคุณให้ได้

๕ คุณต้องจำ หรือจดบันทึกสิ่งที่ตัวเองแต่ง และเวลา กับสถานที่ที่คุณแต่งด้วย

อ่านหนังสือ

0
กำลังโหลด
กระดิ่งลม Member 18 ส.ค. 59 14:16 น. 13

ข้อ 6 เราเคยเป็นหนักคอยจะคิดว่าตัวละครที่เราสร้างขึ้นมาเขามีตัวตนเป็นคนที่เรารู้จักจริง (ส่วนหนึ่งอาจมาจากเราดึงภาพจากคนข้างตัวมาใช้)เวลาที่มันถึงบทเศร้าเราจะหดหู่และจิตตก

จนต้องพักเรื่องไปเลยบางครั้งก็หลงอยู่กับโลกในจินตนาการจนเบื่อคนในโลกของความเป็นจริง (อันนี้อาจจะมาจากปัญหาส่วนตัว 55)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
~โรตีกล้วยหอม~ Member 19 ส.ค. 59 04:34 น. 15

ตอนที่เขียนหนักๆ แบบฮาร์ดคอร์เลยเป็นกล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ปวดไหล่ไปหมดเลย เพราะอยู่หน้าคอม 8ชม.++ ถึงขั้นไปหาหมอ หมอบอกว่าเล่นคอมฯ น้อยๆ หน่อยลูก ไม่ก็เปลี่ยนท่านั่งให้ห้อยหัวลงมาเล่นไรงี้ จะดีต่อสุขภาพ เอ่อ...คือหมอคะ พูดเล่นใช่ไหม 55 หมอเป็นคนตลก

0
กำลังโหลด
เลลาห์ Member 20 ส.ค. 59 19:30 น. 16

เฮ้ย-ปวดหัวตุบๆกับปวดกระบอกตานี่มันคือไมเกรหรอ เฮ้ยงี้เราก็เป็นไมเกรน่ะสิ ตายล่ะเราจะอายุยืนไหมนี่เพิ่งสิบห้าเองอ่า ไม่คิดว่าจะเป็นโรคนี้เร็วขนาดนี้

หวาา

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pearl_blooms Member 16 ก.ค. 60 20:32 น. 19

เราก็เป็นค่ะ โดยเฉพาะปวดตา เวลานั่งพิมพ์นานๆแบบสามสี่ชั่วโมงต่อกันเราจะตาล้า ปวดตาไปหมดเลย บางครั้งก็ไมเกรนด้วย


เมื่อประมาณเดือนก่อนเราเพิ่งได้วิธีลดการปวดตาเวลาพิมพ์นิยาย (ซึ่งก็เป็นวิธีง่ายๆที่ควรจะคิดได้นานแล้ว) คือการปรับสีนหน้ากระดาษให้มันหม่นๆลงค่ะ แต่ต้องไม่ทึบจนมองไม่เห็นตัวหนังสือแล้วกลายเป็นว่าต้องเพ่งนะคะ เช่น พวกสีเขียวขี้ม้าอ่อนหรือส้มอ่อนที่ออกหม่นๆหน่อย


ถ้าใครยังไม่เคยใช้วิธีนี้ก็ลองดูนะคะ สำหรับคนที่รู้แล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ อันที่จริงเราก็มองข้ามวิธีง่ายๅแบบนี้เองแหละ ทนปวดตาอยู่หลายปี T_T

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด