สวัสดีค่ะน้องๆ เด็กดีทุกคน พี่หวานคิดว่ากระแสตอนนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงเป็นภาพยนตร์เรื่อง What happend to monday ที่ฉายอยู่ในตอนนี้ จริงๆ พี่หวานไม่ได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์มาระยะหนึ่งเเล้วค่ะ ไม่เเน่ใจว่าเรื่องล่าสุดที่ดูคือ fantastic beast หรือ Beauty and the Beast ฮา... พอเห็นว่าเรื่อง What happened to monday มีพล็อตน่าสนใจเพราะเป็นการเล่าถึงพี่น้องฝาแฝด 7 คนที่จะสามารถออกมาใช้ชีวิตได้คนละวันตามชื่อของตัวเองเท่านั้น พี่หวานก็เลยรีบจองตั๋วไปดูเพราะคิดว่าต้องเป็นหนังที่มีอะไรให้พูดถึงได้หลายประเด็นเเน่ๆ ใครชอบเรื่องลุ้นระทึกหน่อยๆ น่าจะชอบเรื่องนี้ ขอเตือนก่อนเลื่อนไปอ่านเลยว่ามีเปิดเผยฉากในเรื่องเเน่นอนน้าาา ใครยังไม่ดูระวังให้ดี
 

 

เมื่ออนาคตอันใกล้โลกต้องเผชิญวิกฤตประชากรล้นโลก รัฐบาลออกออกกฏบุตรหนึ่งคนต่อหนึ่งครอบครัวซึ่งมีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาดแต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อครอบครัวหนึ่งกลับมีบุตรสาวเป็นแฝด 7 ซึ่งถูกตั้งชื่อตามวันในสัปดาห์ พวกเธอต้องซ่อนตัวไม่ให้โลกรู้และแต่ละคนจะได้ออกไปโลกภายนอกตามวันในชื่อของตัวเองเท่านั้น... แต่แล้ววันหนึ่ง มันเดย์ พี่สาวคนโต ออกจากบ้านไปและไม่กลับมา จุดชนวนการไล่ล่าที่เอาชีวิตของทั้ง 7 สาวเป็นเดิมพัน

 

เรื่อง what happened to monday เป็นภาพยนตร์ที่เขียนบทโดย Max Botkin และ Kerry Williamson รู้จักกันในอีกชื่อคือ Seven sisters ในภาษาฝรั่งเศสค่ะ ลักษณะของเรื่องเป็นแนวอาชญากรรมวิทยาศาสตร์ล้ำโลกเเละมีการต่อสู้ที่ดุเดือด ด้วยพล็อตหลักคือสร้างตัวละครฝาแฝด 7 คนขึ้นมาค่ะ ทีแรกพี่หวานเข้าใจว่าจะเป็นตัวละครตัวเดียว เเต่มี 7 บุคลิก ที่ไหนได้พอได้มาดูถึงรู้ว่าเรื่องนี้มีตัวละครหลักถึง 7 คน 7 บุคลิกเลยทีเดียว พล็อตต้นเรื่องพี่หวานคิดว่าปูมาได้น่าสนใจที่เริ่มต้นด้วยการให้บทบาทองค์กรจัดการบุตร One child, One world ที่ออกกฎหมายห้ามให้ประชาชนในเเต่ละครอบครัวมีลูกเกิน 1 คน เพื่อจัดการปัญหาประชากรล้นโลกจากการรับประทานอาหารตัดต่อพันธุกรรม ที่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มตัวของประชากรเเรกเกิดอย่างมาก จนโลกถึงขั้นวิกฤตไม่มีอาหารเพียงพอต่อการดำรงชีวิตแต่มีครอบครัวหนึ่งที่ให้กำเนิดเด็กผู้หญิงแฝดเจ็ดเเต่เเม่ของเด็กตายหลังจากที่คลอดเเล้ว ผู้เป็นตาจึงเข้ามาเป็นผู้เลี้ยงดู เเละตั้งชื่อเรียงตามวันในสัปดาห์ ตั้งเเต่วันจันทร์(Monday) วันอังคาร(Tuesday) วันพุธ(Wednesday) วันพฤหัสบดี(Thursday) วันศุกร์(Friday) วันเสาร์(Saturday) และวันอาทิตย์(Sunday)
 

ในส่วนของพล็อตที่กำหนดให้พี่น้องเเต่ละคนออมามีชีวิตในโลกภายนอกได้คนละวันตามชื่อของตัวเอง เเต่ต้องอยู่ภายใต้ตัวตนของคนๆ เดียวกันนั่นคือ 'คาเรน เซ็ธแมน' ถึงจะมีชีวิตได้คนละวันก็จริงก็ยังไม่สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้พี่น้องทั้งเจ็ดเกิดความรู้สึกหงุดหงิดบ้างในบางอารมณ์ เเต่ทุกคนก็ยังเต็มที่กับการเป็นคาเรน เซ็ธแมนเพราะได้รับการปลูกฝังเเละสั่งสอนมาจากตาเพียงคนเดียวที่ทำทุกอย่างเพื่อพวกเธอจะสามารถรอดชีวิตในโลกอันโหดร้ายนี้ไปได้ ข้อห้ามเด็ดขาดที่ตาสอนแฝดเจ็ดอยู่เสมอก็คือห้ามบอกใครว่ามีพี่น้อง เเละเมื่อกลับมาบ้านก็ต้องเล่าให้กันฟังทุกอย่างว่าไปเจออะไรมาบ้าง ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้เฉพาะเวลาที่อยู่ในบ้านเท่านั้น เเต่ถ้าออกไปข้างนอกจะต้องอยู่ในบทบาทของคาเรน เซ็ธแมนเหมือนกันหมด พี่หวานดูมาถึงตรงนี้ก็คิดว่ามันคงเป็นความกดดันอย่างที่สุดสำหรับเด็กผู้หญิงที่ลืมตาตื่นมาและมีชีวิตอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปเล่นสนุกข้างนอก จะเป็นตัวเองก็ไม่ได้ นั่นจึงส่งผลให้เมื่อโตมาเเต่ละคนมีการแสดงออกถึง 'ตัวตน' ที่แท้จริงอย่างชัดเจนแตกต่างกันออกไป

 

 

 

Monday : สาวเก่ง ทะเยอทะยานมุ่งมั่น
พี่สาวคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งเจ็ด เธอมีบุคลิกชัดเจนว่าเป็นพี่สาวคนโต ทั้งเรื่องการวางตัว ความคิดอ่าน เเละการวางแผนการชีวิตต่างๆ ดูว่ามันเดย์จะเป็นคนที่จริงจังมากที่สุดในหน้าที่การงานด้วย สังเกตในตอนที่พี่น้องนั่งฟังซันเดย์เล่าเรื่องที่ไปพบเจอมา มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ถ้าพวกเธอจะเลื่อนขั้นได้คงต้องขอบคุณมันเดย์ เเต่เพราะมันเดย์นี่แหละค่ะที่หายตัวไปคนเเรกทำให้พี่น้องคนอื่นเริ่มกลัวว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีตามมารึเปล่า(เเละก็เกิดขึ้นจริงๆ) 

 

 

Tuesday : สาวฮิปปี้ ที่ชอบวิตกกังวล
ทิวส์เดย์เป็นอีกตัวแปรสำคัญของเรื่อง ถ้าใครที่ดูเเล้วคงจะรู้ว่าเธอเป็นหนึ่งในคนที่รอดชีวิต! เเม้ว่าในเรื่องจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่เเต่ดูเหมือนว่าทิวส์เดย์จะเป็นคนที่รู้สัญญาลับระหว่างมันเดย์กับนางเคย์เเมน ผู้ริเริ่มโครงการ One child, One world ในตอนที่มันเดย์หายจากบ้านไปแต่ทิวส์เดย์ต้องทำตัวปกติด้วยการออกไปทำงานเหมือนเคย เเม้เธอจะวิตกเเค่ไหนก็ยังสามารถเป็นคาเรน เซ็ธเเมนได้อย่างไม่มีบกพร่อง จนกระทั่งเธอโดนจับตัวไปเเละได้ต่อรองเรื่องสัญญาลับๆ นั่น ทั้งๆ ที่มันเดย์ไม่เคยเล่าเเต่ทิวส์เดย์กลับเป็นอีกคนที่รู้ พี่หวานจึงคิดว่าทิวส์เดย์น่าจะระเเคะระคายเรื่องมันเดย์มาบ้างค่ะ ทางองค์กรจึงจับทิวส์เดย์ไว้เป็นตัวประกันอีกคน

 

 

Wednesday : สาวแกร่ง พลังล้น
มาถึงเวนส์เดย์ ซึ่งเป็นตัวละครที่มีคาเเรคเตอร์ชัดเจนไปจากทุกคน นั่นคือเธอเป็นสาวห้าวที่ชอบออกกำลังกาย เเละพี่หวานคิดว่าเธอคงฝึกร่างกายให้พร้อมไว้ปกป้องพี่น้องคนอื่นๆ ในเวลาคับขัน ฉากบู๊เเทบทั้งหมดจึงเป็นหน้าที่ของเวนส์เดย์ พี่หวานคิดว่าเธอเป็นอีกคนที่ไม่ชอบตัวตนของคาเรน เซ็ธแมน ที่ต้องเเต่งหน้าทาปากใส่ส้นสูงออกไปทำงานทุกวันพุธ เเต่ก็ยังยอมรักษาตัวตนให้ดีเพื่อพี่น้องคนอื่น เเถมยังเป็นคนที่เสียสละตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยด้วย เป็นอีกตัวละครที่พี่หวานเสียดายจริงๆ

 

 

Thursday : สาวรักอิสระ ผู้ไม่ยินดียินร้าย
ตัวละครอีกตัวที่พี่หวานชอบมากก็คือเธิร์สเดย์ค่ะ พี่หวานรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้เเตกต่างจากคนอื่น โดยเฉพาะอาการปากเเข็งไม่ตรงกับใจนี่ด้วย พี่หวานคิดว่าคนที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง What happened to monday ก็คือเธิร์สเดย์นี่แหละค่ะ เธอเป็นคนเเรกที่ได้ออกไปนอกบ้านกับตา ได้ไปโรงเรียน เเละที่สำคัญพี่หวานคิดว่าเธิร์สเดย์เป็นคนที่รักตัวตนของคาเรน เซ็ธแมนที่สุด
 

 

Friday : สาวเนิร์ด เก่งไอที มันสมองของพี่น้อง
ไม่รู้ว่าเป็นแพทเทิร์นมาตั้งเเต่ตอนไหนที่คนเนิร์ดๆ จะต้องเก่งไอที เพราะสาวฟรายเดย์น้องน้อยที่ใส่เเว่นหนาเตอะคนนี้เก่งไอทีขั้นเทพ เธอเป็นหูเป็นตาให้พี่น้องทั้งเจ็ดมาตลอด คอยติดตามกล้องวงจรปิด คอยตามสัญญาณจากกำไลข้อมือเพื่อระวังอันตรายให้ หลังๆ ตัวตนของเธอเริ่มชัดเจนขึ้นมากในฉากที่โดนองค์กรบุกบ้าน เธิร์สเดย์พยายามพาฟรายเดย์หนีไปด้วยกันเเต่เธอกลับเลือกจะเสียสละตัวเองกลับเข้าไปในบ้านเพื่อโหลดข้อมูลทุกอย่าง ทั้งภาพถ่ายสมัยเด็ก เเละวิดีโอความทรงจำมากมายเก็บไว้ในกำไลข้อมือของเธิร์สเดย์เพื่อยืนยันว่าพวกเธอทั้ง 7 มีตัวตนอยู่จริง และการเสียสละตัวเองในครั้งนี้ก็ทำให้พวกเขาสามารถเปิดโปงความชั่วร้ายนี้ได้

 

 

Saturday : สาวมั่น รักสนุก
แซทเทอร์เดย์เป็นตัวละครที่ดูไม่ได้มีบทบาทมากเเต่เธอกลับเป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้เรื่องได้อย่างน่าสนใจ เธอแสร้งเป็นสาวมั่นเเต่งตัวเซ็กซี่ พี่น้องคนอื่นก็คิดอย่างนั้นกับการแสดงออกของเธอ แต่ความจริงเเล้วทุกอย่างเป็นเเค่เปลือกนอกเท่านั้น จากที่ดูมาเหมือนแซทเทอร์เดย์จะไม่ค่อยสนใจชีวิตในบ้าน เเต่เธอก็เป็นคนหนึ่งที่กังวลมากเมื่อพี่น้องคนอื่นหายตัวไป
 

 

Sunday : สาวน้อยผู้เต็มไปด้วยความหวัง

เริ่มเรื่องฉากแรกมาด้วยวันของซันเดย์ ในฉากที่ออกไปไปนอกบ้านเเละซื้ออาหารกลับเข้ามาฝากพี่น้องคนอื่นๆ เธอเป็นอีกคนที่มีบุคลิกเงียบๆ เเละไม่ได้มีบทบาทมากนัก เเต่ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังซันเดย์เป็นเหมือนที่พึ่งทางใจของพี่น้องทุกคน 

 

สาเหตุที่พี่หวานหยิบตัวละครสองตัวนี้มาไว้ด้วยกันเพราะอยากจะเปรียบเทียบจุดเริ่มต้นเเละจุดจบของภาพยนตร์เรื่อง What happend to monday เชื่อว่าหลายคนจำได้เเน่นอนว่าเธิร์สเดย์เป็นคนเเรกที่ได้ออกไปนอกบ้าน ทำให้เธอดูจะมีความคิดความอ่านเเละรักในอิสระของตัวเองมากพอตัว เเต่เหตุการพลิกผันอยู่ตรงนี้คือวันหนึ่งในอดีต เธิร์สเดย์หนีออกไปเล่นสเก็ตบอร์ดทั้งๆ ที่ไม่ใช่วันของตัวเองแล้วทำนิ้วชี้ขาดไปหนึ่งข้อ!!! เมื่อตากลับมาบ้านไม่มีใครรู้ว่าเธิร์สเดย์หายไปไหน สุดท้ายเธอกลับมาด้วยเลือดอาบมือโดนคุณตาดุอย่างหนักหน่วง เป็นเหตุทำให้ตาต้องตัดนิ้วมือหลานทุกคนเพื่อความเท่าเทียมในการเป็น 'คาเรน เซ็ธแมน'

โดยในตอนนั้นตาได้เลือกให้มันเดย์เป็นผู้กล้าเเละเสียสละเป็นคนเเรกในฐานะพี่คนโตที่จะโดนตัดนิ้วเพื่อให้น้องๆ คนอื่นกล้าทำตาม เป็นฉากที่พี่หวานปิดตาไว้เลยค่ะ ทำใจดูไม่ได้จริงๆ T^T และพี่หวานก็คิดว่าจากเหตุการณ์วันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นความขัดเเย้งทุกอย่างระหว่างมันเดย์กับเธิร์สเดย์ 

ถ้าใครดูหนังมาแล้จะเห็นหลายฉากเลยที่มันเดย์กับเธิร์สเดย์ปะทะคารมกัน โดยเธิร์สเดย์เป็นคนที่ค่อนข้างหัวเเข็งเเละรักอิสระ เธอเเสดงออกว่าไม่ต้องการมี 'คาเรน เซ็ธแมน' เเค่คนเดียวเเต่ทุกคนควรจะมีชีวิตของตนเอง ทำให้คนอื่นๆ โมโหรวมถึงมันเดย์ด้วยค่ะ โดยมันเดย์เเสดงออกว่าพยายามเต็มที่ในการเป็นคาเรน เซ็ธเเมนที่สุด เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้พี่น้องคนอื่นอยู่รอด เเต่เธิร์สเดย์กลับถูกมองว่าเห็นเเก่ตัวเพราะเป็นเธิร์สเดย์มาตั้งเเต่ต้นที่ทำให้พี่น้องคนอื่นต้องโดนตัดนิ้่ว เเละยังมาคราวนี้ที่เธิร์สเดย์ดูเหมือนอยากทำให้พวกเขาทั้งเจ็ดเเตกแยกทั้งๆ ที่ทั้งเจ็ดคนก็อยู่ในร่างคาเรน เซ็ธเเมนด้วยดีมาตลอด

 

เเน่นอนว่าเมื่อปมปัญหาทั้งหมดเริ่มต้นมาจากมันเดย์และเธิร์สเดย์ เหตุการณ์คลายปมทุกอย่างจึงถูกเปิดเผยโดยมันเดย์และเธิร์สเดย์เช่นกันค่ะ ในตอนที่บุกเข้าไปในองค์กรเเละได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งระหว่างพี่น้อง นาทีเเรกพี่หวานรู้ว่าคาเรนเบอร์1ที่อยู่ในห้องน้ำคือเธิร์สเดย์นะคะ เเต่ไม่คิดว่าคาเรนคนที่2ทีเดินตามเข้ามาคือมันเดย์ ไม่ได้คิดว่าจะมาเผชิญหน้ากันอย่างนี้ ซึ่งเป็นฉากดึงอารมณ์ให้เห็นความอึดอัดในใจของมันเดย์ที่มีต่อเธิร์สเดย์มาโดยตลอด มันเดย์ไม่เคยชอบใจที่เธิร์สเดย์เป็นคาเรน เซ็ธเเมน เธอคิดว่าเธิร์สเดย์หรือเเม้กระทั่งพี่น้องคนอื่นก็ไม่สมควรเป็นคาเรน เซ็ธแมน เธอจึงเลือกมองจากมุมของตัวเองเพียงคนเดียวตัดสินคนอื่นเเละทำสัญญากับเคย์แมนหัวหน้าองค์กรชั่วร้ายเพื่อกำจัดพี่น้องคนอื่นเเละให้เธอเป็น 'คาเรน เซ็ธเเมน' แต่เพียงผู้เดียว

การคลายปมของเรื่องให้เห็นฉากต่อสู้สองคาเรน เซ็ธเเมนทั้งสองคน(มันเดย์และเธิร์สเดย์)เป็นการถ่ายทอดตอนจบที่พี่หวานคิดว่าลึกซึ้งมาก เมื่อเรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากความขัดเเย้งของเธอสองคน งั้นก็ต้องมาช่วยกันจบเรื่องนี้ซะเถอะ

 

มุมมองของ Monday : พี่หวานคิดว่ามันเดย์เป็นตัวละครที่ใกล้เคียงกับมนุษย์จริงๆ เพราะดูๆ เเล้วเธอมีการเเสดงออกถึงความโลภในใจ ทั้งยังไม่ได้มีความรู้สึกร่วมไปกับพี่น้องคนอื่นเลย นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยมากเพราะเธอคิดไปเองว่ามีเเค่เธอที่พยายามเต็มที่อยู่คนเดียว เเละด้วยสิทธิ์ในการเป็นพี่คนโตบวกกับการได้เจอผู้ชายที่รัก เเละเธอท้องลูกเเฝดสองคน ทำให้ความคิดที่อยากจะปกป้องเด็กในท้องของตัวเองเอาไว้เริ่มเด่นชัด เเละทางเดียวที่เธอจะมีชีวิตของตัวเองได้จริงๆ ก็คือการที่พี่น้องคนอื่นต้องหายไป เรียกว่าเป็นการตัดสินใจที่หนักเอาการสำหรับมันเดย์อยู่นะคะ

พี่หวานยังคิดว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่นิดหน่อย เเทนที่เจอปัญหาอะไรก็ตามจะเลือกปรึกษากับพี่น้องคนอื่น เพราะพวกเธอทั้งเจ็ดใช้ชีวิตเป็นทีมเดียวกันมาตลอด เเต่มันเดย์กลับไม่ไว้ใจเเละตัดสินใจเองคนเดียวซึ่งผลที่ตามมาก็คือการสูญเสียครั้งใหญ่นั่นเอง ขณะเดียวกันเมื่อมองอีกมุมมันเดย์ก็คงไม่มีทางเลือกมากนักเพราะเธอก็มีความรักจริงๆ เเละอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ทำให้เห็นว่าเธอไม่ได้ตกลงจะเซ็นสัญญาโอนเงินให้เคย์เเมนตั้งเเต่เเรกเพราะก็ยังลังเลเรื่องพี่น้อง เเต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเลือกทำเพื่อตัวเอง


มุมมองของ Thursday : อย่างที่บอกมาตั้งเเต่ต้นเเล้วว่าเธิร์สเดย์นั้นเป็นคนที่ดูจะรักอิสระเเละยึดมั่นในตัวเองมากจนแสดงออกว่าไม่ต้องการมีตัวตนเป็น คาเรน เซ็ธแมน เเต่เธอต้องการจะมีชีวิตของตัวเอง พี่หวานรู้มาตั้งเเต่ต้นว่ายังไงเรื่องก็ต้องเคลียร์ปมจบด้วยมันเดย์กับเธิร์สเดย์เพราะทุกอย่างเริ่มต้นมาจากเธิร์สเดย์ เเต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นกุญเเจสำคัญที่ทำให้พี่หวานเห็นว่าเเท้จริงเเล้ว คนที่ปฏิเสธตัวตนคาเรน เซ็ธเเมนมาตลอดจะเป็นคนที่รักตัวตนนี้มากที่สุด โดยฉากกินใจที่พี่หวานสัมผัสได้ก็คือตอนที่เธอพยายามช่วยเหลือพี่น้องคนอื่นอย่างสุดชีวิต เรียกว่าสู้ลืมกลัวตายไปเลยค่ะ เธิร์สเดย์เป็นตัวละครที่อยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของพี่น้องทุกคนทั้งเวนส์เดย์ ฟรายเดย์ แซทเทอร์เดย์ ซันเดย์ เเละมันเดย์ด้วยค่ะ

ยิ่งในฉากสุดท้ายตอนที่กฏหมายมีลูกคนเดียวถูกยกเลิกไป องค์กรชั่วถูกเปิดโปง เธิร์สเดย์ถูกถามว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอะไร เธอเลือกที่จะตอบว่า 'คาเรน เซ็ธแมน' พี่หวานรู้ได้เลยว่าที่เธอแสดงออกมาทั้งหมดว่าอยากให้ทุกคนมีชีวิตของตัวเองนั้นหมายถึงการได้รอดชีวิตไปด้วยกันเเละมีชีวิตในเเบบที่เเต่ละคนต้องการ ไม่ใช่เพราะเธอไม่รักในตัวตนของคาเรน เซ็ธเเมนเเละต้องการทำลายพี่น้องอย่างที่มันเดย์ต้องการค่ะ

 

นี่เป็นเพียงบางส่วนที่น่าสนใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้นนะคะ เเม้ว่าจะมีความดึงดูดในเรื่องของพล็อตเเละการดำเนินเรื่องที่แปลกใหม่ เเต่พี่หวานก็พบว่ายังมีจุดที่ขาดไปหลายจุด แอบเสียดายที่เวลามีจำกัดทำให้ยังไม่ได้เห็นพื้นฐานภูมิหลังของตัวละครในเเต่ละวันว่าเติบโตอย่างไร เพราะอะไรที่กลั่นให้พี่น้องฝาแฝดทั้งเจ็ดมีตัวตนอย่างทุกวันนี้ พี่หวานคิดว่าถ้ามีเวลาเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของพี่น้องมากกว่านี้อาจจะทำให้คนดูอินไปกับเรื่องได้มากกว่านี้อีกค่ะ เพราะเท่าที่ดูยังไม่มีโอกาสได้เห็นเลยว่าพี่น้องวันอื่นในบทบาทคาเรน เซ็ธเเมนจะเป็นยังไง

ส่วนอีกจุดที่แอบเสียดายเเละผิดหวังคงเป็นความเก่งกาจขององค์กรที่ถูกจัดการได้โดยง่ายทั้งการแฮคข้อมูลที่ฟรายเดย์ทำได้โดยใช้เวลาไม่นาน การบุกเข้าไปในตัวอาคารก็ง่ายเกินไป พี่หวานคิดว่าการรักษาความปลอดภัยขององค์กรใหญ่อย่างนี้ควรจะรัดกุมมากกว่านี้ ยังคงเกิดคำถามในบางฉากเเต่ก็ต้องยอมรับว่าการวางพล็อตสลับมุมไปมาทำให้พี่หวานตามไม่ทันก็หลายจุดเช่นกัน

สรุปแล้วถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ประทับใจในพล็อตเรื่อง บทเเละฝีมือการเเสดง ตลอดจนการตัดต่อที่ดูสมจริง ต่อไปก็คือรอให้มีหนังสือในฉบับภาษาไทยออกมาค่ะ บางทีถ้าได้อ่านหนังสืออาจจะสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่านี้ก็ได้ ถ้าใครชอบเรื่องนี้หรือมีฉากไหนที่รู้สึกสงสัย เข้ามาคุยกันนะคะเเล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ^____^


 

ขอบคุณข้อมูลเเละรูปภาพจาก
http://www.majorcineplex.com/news/
https://en.wikipedia.org/wiki/What_Happened_to_Monday
https://pardo.ch/pardo/program/archive/2017/film.html?fid=963197&eid=70