R.I.P. นักเขียน "สีน้ำเงินเบอร์ 1280" ผู้สร้างผลงาน I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา นิยายที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน


R.I.P. .สีน้ำเงินเบอร์ 1280 ผู้สร้างผลงาน
I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา 

นิยายที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน
 

“ผ่านมานานแล้ว ทำไมนักเขียนไม่อัปนิยายสักที”

เชื่อว่านี่คือคำถามที่อยู่ในใจนักอ่านหลายๆ คน ที่พบเจอประสบการณ์นักเขียนหยุดอัปเดตนิยายแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่มีการส่งข่าว จนทำให้ต้องตกอยู่ในสภาวะหวาดผวาว่าจะไม่ได้อ่านนิยายต่อ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังมีนักอ่านที่เฝ้ารอนิยายกลับมาอัปเดตเสมอต่อให้นานแค่ไหนก็เถอะ   บางเรื่องอาจหายไป 2 เดือน บางเรื่องอาจหายไปเป็นปีๆ เหมือนอย่างนิยายเรื่อง I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา ที่หยุดอัปนิยายไปเกิน 5 ปีแล้ว   แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีนักอ่านเป็นจำนวนมากที่รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อย่างมีความหวัง (แม้จะเป็นการหวังแบบลมๆ แล้งๆ ก็ตามแง)

และการที่เราได้เห็น “ I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา” กลับมาไต่อันดับนิยายติดท็อปของเด็กอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา   ก็ทำให้นักอ่านหลายๆ คนสัมผัสได้ถึงแสงแห่งความหวังที่จะได้อ่านนิยายตอนถัดไปต่อ   ทว่าน่าเสียดายแสงแห่งความหวังที่เพิ่งจะเปล่งประกายออกมากลับต้องมาดับลงไป เมื่อเราคลิกเข้าไปอ่านนิยายแล้วพบความจริงว่า….สีน้ำเงินเบอร์ 1280 ผู้เขียน นิยายเรื่อง  I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา ได้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แวบแรกที่ได้ทราบข่าวจากกระแสในทวิตเตอร์ เพราะมีนักอ่านหยิบเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหน้านิยายไปแชร์ จนเกิดการแชร์ต่อๆ กัน   และทำให้นิยายได้กลับมาติดอันดับท็อปนิยายเด็กดีหมวดแฟนตาซีอีกครั้ง  ยอมรับว่าเสียใจมากค่ะ   และนี่คือที่มาของบทความนี้   เพื่อเป็นเกียรติและไว้อาลัยให้กับหนึ่งในนักเขียนคนเก่งของเว็บเด็กดีค่ะ 



 


อ่านนิยายแล้วอินมากเลยเอาไปเขียนต่อได้หรือไม่?

นอกจากข่าวการจากไปของนักเขียนที่ได้มีการกล่าวถึงในทวิตเตอร์ อีกประเด็นที่มีการพูดถึงก็คือ “การขออนุญาตนำนิยายไปแต่งต่อ” เนื่องจากมีนักอ่านหลายคนที่ติดตามอ่านนิยายแล้วอินไปกับเนื้อหา ทีนี้พอทราบข่าวการจากไปของนักเขียนเลยเกิดไอเดียที่จะสานต่อเรื่องราวขึ้นมาด้วยความรักจึงคอมเมนต์สอบถามความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในหน้านิยาย @Zsmile เจ้าของทวิตเตอร์ซึ่งเป็นทั้งแฟนนิยาย และนักเขียนจึงได้ออกมาทวิตแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคอมเมนต์ดังกล่าวโดยให้ความเห็นไว้ว่า… “นิยายไม่ว่าคนแต่งจะหยุดแต่งด้วยสาเหตุอะไร หากไม่ได้รับอนุญาตเราไม่สามารถเอาไปเขียนต่อได้ เพราะจะเป็นการผิดลิขสิทธิ์”

นอกจากนี้ พี่หญิงยังได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของทวิตเตอร์ถึงผลตอบลัพธ์ที่เกิดขึ้น แล้ว @Zsmil ก็ได้เล่าถึงความรู้สึกของตัวเองให้กับเราฟังว่า…  “ประเด็นของคอมเมนต์ที่เราโพสต์ไป ตอนแรกคิดว่าคงมีคนรีไม่กี่ร้อย เพราะมันเป็นประเด็นที่นักเขียนหลาย ๆ คนเคยเจอ แถมเราก็เป็นแอคเล็ก ๆ อะเนอะ คงรีวนกันอยู่ในวงนักเขียนตรงนี้แหละ ไม่คิดว่าจะไปไกลจนได้ยอดรี 27K มาแบบนี้เลยค่ะ กลายเป็นว่านอกจากนักเขียนก็ยังมีนักอ่านมารีเห็นด้วยกันเต็มไปหมด 

ใจหนึ่งก็รู้สึกดีที่นิยายเรื่องนี้กลับมาติดท็อป ยอดคอมเมนต์เพิ่มพรวด ๆ อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคงอยากให้ทุกคนตระหนักใจความของสิ่งที่เราโพสต์ด้วยจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่านักเขียนจะหยุดแต่งด้วยสาเหตุอะไร การคิดหยิบนิยายของเขาไปสานต่อโดยพลการมันก็ยังคงเสียมารยาทมากอยู่ดี ทั้งไม่ให้เกียรติความพยายามของนักเขียน ทั้งละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย อยากฝากไว้ตรงนี้อีกครั้งนะคะ”

และตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ปีพ.ศ. 2537 การคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายไทยจะกำหนดให้มีอายุการคุ้มครองผลงาน 50 ปี นับตั้งแต่ผู้สร้างสรรค์ผลงานเสียชีวิต ดังนั้นการนำนิยาย “ I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา” ไปเขียนต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นการกระทำที่เสี่ยงเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เขียนค่ะ



ที่มาภาพ :   https://www.goodreads.com/book/show/42389773

เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ : ใช่ว่าจะไม่สามารถเอานิยายเรื่องนี้ไปเขียนต่อได้เลย    แต่อาจต้องรอนานสักหน่อย ประมาณ 50 ปี (สำหรับประเทศไทย) หลังหมดอายุคุ้มครองผลงาน เราก็สามารถหยิบเอาไปดัดแปลง แก้ไข หรือ ทำซ้ำโดยไม่ผิดลิขสิทธิ์ ตัวอย่างเช่นนิยายเรื่อง “เมืองมธุรส” ของนักเขียนนามปากกา “แก้วเก้า” ตีพิมพ์ในปีพ.ศ.2561 ที่ได้มีการอ้างอิงถึงนิยายเรื่อง ชัยชนะของหลวงนฤบาล นวนิยายในนามปากกา "ดอกไม้สด"    นิยายเก่าแก่ที่มีอายุเกือบหนึ่งร้อยปี และพ้นจากระยะคุ้มครองลิขสิทธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย แก้วเก้า ได้เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งหนึ่งถึงสาเหตุที่เธอเลือกหยิบเรื่องราวจากนิยายเรื่องดังกล่าวมาเล่าใหม่อีกครั้งเพราะเป็นงานอ่านตอนยังเด็ก เธอมองเห็นความประณีตในการสร้างเรื่อง ตัวละคร และสาระที่นำเสนอ แล้วรู้สึกเสียดายแทนคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจคุณค่าในงานรุ่นเก่านี้แล้ว   ก็เลยสร้าง “เมืองมธุรส” ขึ้นมา เพื่อให้คนที่สนใจไปตามหาอ่านงานของ “ดอกไม้สด” ต่่อเอง


ที่มาภาพ :   https://www.rif.org/literacy-central/book/classic-starts-peter-pan

การหยิบนิยายหรือวรรณกรรมมาเขียนต่อ ดัดแปลงหรือทำซ้ำไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน ตัวอย่างวรรณกรรมเรื่อง "ปีเตอร์แพน" ของ J M Barrie’s ที่ได้มีการทำซ้ำและดัดแปลงหลายครั้ง หลังจากผู้แต่งเสียชีวิตลงในปีค.ศ.1937 และได้มอบลิขสิทธิ์ให้กับโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง โดย "ปีเตอร์แพน" ถูกดิสนีย์สร้างเป็นการ์ตูนในปีค.ศ.1953 และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง HooK ในปีค.ศ.1991 และนอกจากนี้ตัวละครปีเตอร์แพนยังถูกนำไปดัดแปลงและปรากฎอยู่ในผลงานอื่นๆ อีกมากมาย มีนักเขียนเขียนภาคต่อด้วยหลายเล่มเลยค่ะ


ตารางแสดงระยะเวลาเปรียบเทียบการคุ้มครองลิขสิทธิ์แต่ละประเทศ
ที่มาภาพ   :   https://epthinktank.eu/2015/07/02/the-challenges-of-copyright-in-the-eu/copyright_fig2/
 

ทั้งนี้การคุ้มครองลิขสิทธิ์ตัวละครปีเตอร์แพน หมดลงครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ( UK and the rest of Europe)   ปี ค.ศ.1987 หลังจากผู้เขียนเสียชีวิตไปเป็นระยะเวลา 50 ปี จนกระทั่งปีค.ศ.1996 ได้มีการขยายระยะเวลาคุ้มครองลิขสิทธิ์ผลงานในสหราชอาณาจักรและยุโรป ( UK and Europe) ต่อไปเป็นระยะเวลา 70 ปี หลังจากผู้เขียนเสียชีวิตลง



ที่มาภาพ  :  https://baike.baidu.com/item/%E7%BA%A2%E6%A5%BC%E6%A2%A6/15311


ในประเทศจีนก็เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ขึ้นเช่นกันค่ะ ในวรรณกรรมเรื่อง "ความฝันในหอแดง" แต่งโดย "เฉาเสวี่ยฉิน" (曹雪芹) นักประพันธ์จีนในสมัยราชวงศ์ชิงที่ยังไม่ทันได้สร้างสรรค์ผลงานของตัวเองจบก็มาเสียชีวิตไป ก่อนที่ผลงานของเขาจะได้รับความนิยม จนมีนักอ่านเป็นจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้มีการเขียนต่อ ทำให้ในเวลานั้นมีนักเขียนหลายท่านออกมาสานต่อเนื้อหาจากเดิมที่มีความยาวเพียง 80 ตอน และในจำนวนนั้นต้นฉบับของ "เกาเอ้อ" (高鹗) คือเนื้อหาภาคต่อที่ได้รับความนิยมสูงสุด จนในปี ค.ศ.1791 นิยายทั้งสองฉบับก็ได้ถูกรวมเข้าด้วยกันและได้ตีพิมพ์สู่สาธารณะชนครั้งแรกค่ะ 


ข้อมูลอ้างอิงการเขียนนิยายภาคต่อ :   
 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 กรมทรัพย์สินทางปัญญา
บทสัมภาษณ์ “ว.วินิจฉัยกุล” หรือ “แก้วเก้า” โดยสำนักข่าวอิศรา
J.M. Barrie ,   ลิขสิทธิ์ผลงานปีเตอร์แพน
List of countries' copyright lengths : From Wikipedia, the free encyclopedia
ความฝันในหอแดง : สัมภาษณ์พิเศษนักวิชาการอิสระ "นักหอแดงวิทยา” โดย MGR Online

 


 I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา 
สู่แรงบันดาลใจในเขียนนิยาย

พี่หญิงมองว่าบทบาทของนิยายเรื่อง  I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา ก็ไม่ต่างไปจากผลงานของดอกไม้สดที่ทำให้นักเขียนแก้วเก้าเกิดแรงบันดาลใจและอยากส่งต่อเรื่องราวความประทับใจที่เธอเคยได้สัมผัสไปสู่นักอ่านรุ่นใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยอ่าน  หรือวรรณกรรมจีนเรื่อง ความฝันในหอแดง ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนจนมีนักอ่านออกมาเรียกร้องให้มีการสร้างสรรค์ผลงานเลยนะคะ

 พี่หญิงได้มีโอกาสพูดคุยกับ   “สองดาวจุด” นักเขียนเจ้าของผลงาน สุดยอดพ่อบ้าน HERO กู้โลก และเด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี    เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า นิยายเรื่อง ผมนี้ละคนธรรมดา เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ตัดสินใจลงมือเขียนนิยาย   จนตอนนี้ สองดาวจุดกลายเป็นนักเขียนแถวหน้าของวงการ ได้รับความนิยมไม่แพ้นักเขียนเจ้าของเรื่องไปเสียแล้ว

“ ผมนี้ละคนธรรมดาเป็นหนึ่งในนิยายที่ทำให้ผมอยากลองเขียนนิยายขึ้นมา และทำให้ผมมีมุมมองเกี่ยวกับนิยายที่แตกต่างออกไป สมัยนั้นนิยายส่วนใหญ่เป็นแนวเกมออนไลน์ ดำเนินเนื้อหาในโลกออนไลน์ของเกมเสียส่วนใหญ่ นิยายที่ไม่ใช่แนวออนไลน์มักไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ (ตามความคิดส่วนตัวของผม) แต่เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วนั้นก็รู้สึกว่า เอ๊ะ !! นิยายที่ดำเนินเรื่องแบบนี้ก็สนุกมากเลยนี่นา นั่นจึงทำให้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มเขียนนิยายของตัวเองบ้างครับ” สองดาวจุดได้บอกกับเรา
 


จากใจนักอ่านถึง….นักเขียนนามปากกา
“สีน้ำเงินเบอร์ 1280”

นอกจากการพูดถึงประเด็นเบื้องต้นที่ได้กล่าวไป พี่หญิงยังได้มีโอกาสพูดคุยกับแฟนๆ นิยายหลายคนถึงความรู้สึกหลังจากได้ทราบข่าวการจากไปของนักเขียน และมันก็ทำให้พี่หญิงสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่า...แม้  "I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา" จะเป็นนิยายที่ยังเขียนไม่จบ  แต่เรื่องราวที่นักเขียนได้ถ่ายทอดออกมานั้น     ได้สร้างความสุขให้กับนักอ่านหลายๆ คน และได้สร้างความทรงจำถึงช่วงเวลาดีๆ ในการอ่านนิยายไว้ไม่รู้ลืม แม้นิยายจะไม่มีการอัปเดต เพราะนักเขียนเสียชีวิตไปนานแล้วก็ตาม 
 


ที่มา :  คอมเมนต์ สองดาวจุด (@snoopy147) จากนิยาย I am normal ผมนี้ละคนธรรมดา
 

นักเขียนนามปากกา สองดาวจุด   :   ผมรู้จักนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่ที่ไรท์เริ่มลงตอนที่ 1 เลยครับเพราะผมติดตามผลงานเรื่อง มหาสงครามสองโลกมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนทราบว่านักเขียนเสียชีวิต รู้สึกเหมือนเสียเพื่อนคนหนึ่งไปเลยครับเพราะส่วนตัวแล้วคิดว่านิยายเรื่องหนึ่งก็เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ตอนแรกไม่ทราบเลยครับว่าไรท์เขาเสียไปนานแล้ว ตอนที่เห็นนิยายกลับมาติดท็อปดีใจมากเพราะคิดว่าไรท์กลับมาแล้ว แต่เมื่อเข้าอ่านได้ฟังข่าว ก็รู้สึกช็อคนิดหน่อยครับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ความทรงจำเมื่อตอนที่เริ่มเป็นนักอ่านกลับมา ทำให้ผมกลับไปอ่านนิยายเก่าๆ หลายเรื่องเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นของ ลูกแมวขาวดำ Sengjar Mr.Saka หรือ NightBerry ซึ่งนักเขียนเหล่านี้ดูเหมือนจะเลิกแต่งนิยายไปหมดแล้ว รู้สึกคิดถึงมากเลยครับ (อยากให้กลับมาจังครับ แหะๆ)

ขอบคุณมากนะครับที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านและทำให้นิยายเรื่องนี้มันเป็นหนึ่งในความทรงจำของผมพักผ่อนให้สงบนะครับ Rest In Peace
 

 
ที่มา :  ทวิตเตอร์   
@Zsmile 
 

ทวิตเตอร์ @Zsmile   :   รู้จักนิยายเรื่องนี้มาได้ประมาณ 7 เดือนแล้วค่ะ ช้ากว่าคนอื่นอยู่มากเหมือนกัน ฮา เป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องแรกที่ทำให้รู้สึกว้าวได้ตลอดทั้งเรื่องเลย ตั้งแต่ช่วงแรกที่ค่อยๆ ปูเหตุการณ์ให้นักอ่านคิดว่ามันก็แค่เรื่องบังเอิญ ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ไปจนถึงช่วงที่เฉลยเหตุผลของความไม่สมเหตุสมผลนั้นว่ามีที่มาอย่างไร   ตอนนั้นเรารู้สึกเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ ค่ะ ที่ได้รู้ว่านักเขียนเขาปูทั้งหมดมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง บวกกับได้เห็นพัฒนาการด้านการเขียนของเขาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุด กลายเป็นว่ารู้สึกตัวอีกทีก็วนอ่านซ้ำๆ ไปหลายรอบแล้วค่ะ 

พอเห็นนิยายกลับมาติดท็อปรู้สึกดีใจค่ะ ดีใจมากกกกก อย่างที่บอกว่าเราเพิ่งมาอ่านนิยายเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อ 7 เดือนก่อน เห็นมีคนเคยโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของผู้แต่งว่าเรื่องนี้ขึ้นท็อปอีกแล้ว ติดท็อปตลอดเลย บลา ๆ ๆ คนมาทีหลังอย่างเราก็ได้แต่จินตนาการเอา ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองจริง ๆ ค่ะ ดีใจแทนนักอ่านทุกคนจริง ๆ

ตอนที่รู้ว่านักเขียนเสียก็นั่งเหม่อไปพักนึงเหมือนกันค่ะ ตอนแรกเราแค่สงสัยว่าเขาจะดองหรือเปล่านะ เห็นอัปเดตครั้งล่าสุดก็เกือบๆ ห้าปีก่อน กลายเป็นว่าพอเลื่อนดูก็เจอแต่คอมเมนต์ R.I.P. ชี้แจงว่านักเขียนเสียชีวิตเพราะประสบอุบัติเหตุเต็มไปหมดเลยค่ะ นิยายที่เราชอบจะไม่มีวันกลับมาอัปเดตแล้ว ใจมันก็โหวงๆ อะเนอะ ยิ่งได้รู้ว่านักเขียนเขาเขียนตอนต่อไปไว้เสร็จแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้เอามาลงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าไปใหญ่ กว่าจะมูฟออนแล้วกลับมาอ่านซ้ำได้ก็ใช้เวลาอยู่พักนึงเลยค่ะ

ขอบคุณคุณนักเขียนมากๆ เลยนะคะที่แต่งนิยายแฟนตาซีดี ๆ แบบนี้ออกมา เจ้าริวกับเท็ดดี้เป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำของนักอ่านหลายคนจริงๆ จนตอนนี้แม้แต่นักอ่านเก่าๆ ก็ยังวนกลับมาอ่านซ้ำๆ อยากให้คุณได้มาเห็นความสำเร็จของตัวเองจังเลยค่ะ พักผ่อนให้สบาย ขอให้คุณไปสู่สคตินะคะ Rest in peace, still missing you and all of your special fiction!
 


ที่มา :  ทวิตเตอร์ @itstichaa
 

ทวิตเตอร์ @itstichaa    โห จำได้ว่าเจอเรื่องนี้ประมาณปลายปี 2556 ช่วงแรกๆ ยังไม่สมูทเท่านี้เลยค่ะ 555 แต่คุณไรท์เขาเก็บไปพัฒนาตลอด สนุกขึ้นทุกตอนจริงๆ เราที่ติดตามอ่านก็เหมือนโตมาด้วยกันเลย พอเห็นนิยายกลับมาติดท็อปอีกครั้ง รู้สึกดีใจแล้วก็ตกใจมากกก555 นิยายที่ไม่ได้อัปมานานมากมันยากที่จะกลับมาติดท็อปใช่มั้ยล่ะคะ เห็นหน้านิยายคึกคักแล้วเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเลยอะเนอะ

เมื่อทราบว่านักเขียนเสียชีวิต โหวงมากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าติดตามมานานเลยไม่ค่อยแปลกใจที่ไรท์หายไปเท่าไหร่5555 คิดว่าหายไปเฉยๆอย่างทุกที เห็นโพสต์ในเพจว่าตอนล่าสุดเสร็จก็ใจชื้นแล้ว แต่พอกลับไปส่องหน้านิยายอีกทีดันเจอแต่คำว่า R.I.P. เราดาวน์ไปพักนึงเลย มันกะทันหันมาก

ก็อยากจะบอกเขาว่าขอบคุณนะคะที่เป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ ของเรามาตลอดหลายปี นิยายของคุณสนุกมากจริง ๆ ถึงจะไม่มีโอกาสได้รู้ตอนจบแล้ว แต่เรารับรู้ถึงทุกความตั้งใจ แล้วก็จะกลับมาอ่านทุกครั้งที่คิดถึงแน่นอนค่ะ
 


ที่มา :  ทวิตเตอร์ @Ajizen_Joy
 

ทวิตเตอร์ @Ajizen_Joy   ส่วนตัวรู้จักนิยายเรื่องนี้มาตั้งแต่นักเขียนยังอัปทีละตอน ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าปี 1 เลย จนตอนนี้จบปี 4 มาได้ปีกว่าแล้ว นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตามมาก ๆ ในตอนแรกที่อ่านรู้สึกว่าทำไมตัวละครเอกถึงได้โชคดีขนาดนั้น เนื้อเรื่องมีแต่ความไม่สมเหตุสมผลเต็มไปหมด แต่กลายเป็นว่านักอ่านเสียเองที่โดนนักเขียนหลอกเข้าเต็มเปา เนื้อเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลในตอนแรก กลับเรียงร้อยแล้วมาประกอบกันในตอนท้ายได้ลงตัวอย่างน่าประหลาด เนื่องจากปมเรื่องที่แข็งแรงของนักเขียน (นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นเข้ากรุนิยายที่พร้อมจะเสียเงินเมื่อมีรูปเล่มเลย)

ความจริงเราทราบว่านักเขียนเสียชีวิตเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว หลังจากที่ทราบก็มีความรู้สึกดาวน์ รู้สึกใจหายไปพักใหญ่ เสียใจที่ต้องเสียนักเขียนที่มีคุณภาพคนหนึ่งไปแบบไม่มีวันกลับ

รู้สึกขอบคุณที่มีนิยาย มีเรื่องราวของคุณอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รู้จักกันแต่เราก็ทำความรู้จักกันผ่านตัวหนังสือที่คุณเรียงร้อยออกมา และความคิดเห็นที่เราแสดงออกไป เราไม่แน่ใจว่าคุณจะเห็นความคิดเห็นที่เราแสดงในแต่ละตอนหรือไม่ แต่เราเห็นการพัฒนาของคุณแสดงว่าคุณก็มีความตั้งใจที่จะสื่อสารกับนักอ่านผ่านงานเขียนของคุณ ว่าถ้อยคำของพวกเราส่งถึงคุณแล้ว ขอบคุณมาก ๆ สำหรับความทรงจำดี ๆ ขอให้คุณมีความสุข Rest in Peace...
 


*********************
 

สุดท้ายนี้พี่หญิงก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกคนที่มาร่วมไว้อาลัยกันในที่นี้ และขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปนักเขียนนามปากกา “สีน้ำเงินเบอร์ 1280” และขอขอบคุณสำหรับความสุขที่ได้รับจากการอ่านนิยายในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยค่ะ Rest in peace



พี่หญิง
 

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

varunyanee Member 3 ส.ค. 63 18:16 น. 1

ก่อนอื่น ขอ RIP ในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง.....

ซึ่งวันหนึ่ง...ที่เราไม่อัพนิยาย

นอกจากป่วยกับงานเร่ง ...ก็คงเป็นเรื่องนี้

ต้องออกตัวก่อนว่า....เราไม่เคยอ่านแนวนั้น...เรื่องนั้น ...ของคุณนักเขียนท่านนี้เลย .....

เรากล่าวในฐานะนักเขียนที่ผันตัวเองมาจาก ...คนอ่านนิยาย

ที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของนักเขียนที่เขียนงานสนุกๆเรื่องนั้น....จับใจ

เรารอมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2560

พอได้อ่านบทความนี้ ....ได้แต่ภาวนาว่า #อย่าให้เรารออย่างไม่มีความหวังเลย

ข่าวที่เราอยากได้จากคนที่เรารอ...คือการอัพเดต...อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบนี้

น่าใจหาย

RIP นะคะ งานเขียนของคุณมีคนติดตามมากจริงๆ น่าชื่นใจค่ะ


0
กำลังโหลด

11 ความคิดเห็น

varunyanee Member 3 ส.ค. 63 18:16 น. 1

ก่อนอื่น ขอ RIP ในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง.....

ซึ่งวันหนึ่ง...ที่เราไม่อัพนิยาย

นอกจากป่วยกับงานเร่ง ...ก็คงเป็นเรื่องนี้

ต้องออกตัวก่อนว่า....เราไม่เคยอ่านแนวนั้น...เรื่องนั้น ...ของคุณนักเขียนท่านนี้เลย .....

เรากล่าวในฐานะนักเขียนที่ผันตัวเองมาจาก ...คนอ่านนิยาย

ที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของนักเขียนที่เขียนงานสนุกๆเรื่องนั้น....จับใจ

เรารอมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2560

พอได้อ่านบทความนี้ ....ได้แต่ภาวนาว่า #อย่าให้เรารออย่างไม่มีความหวังเลย

ข่าวที่เราอยากได้จากคนที่เรารอ...คือการอัพเดต...อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบนี้

น่าใจหาย

RIP นะคะ งานเขียนของคุณมีคนติดตามมากจริงๆ น่าชื่นใจค่ะ


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จิ้งจอกห้วงสมุทร Member 5 ส.ค. 63 23:17 น. 4

R.I.P เสียใจด้วยจริงๆนะคะ เราเองก็เคยเจอกรณีคล้ายๆกัน ที่มีนักเขียนหยุดอัพนิยายไปนานมากจนมีคนมาประกาศแล้วว่า นักเขียนเสียชีวิตแล้ว วินาทีนั้นคือตกใจและเสียใจมากๆเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Shadow_J Member 7 ส.ค. 63 23:28 น. 6

อ่านแล้วรู้สีกเศร้าใจที่เสียนักเขียนดีๆ ที่คนติดตามงานของเขาอยู่ต้องจากไป ถ้าเขายังอยู่คงจะมีความสุขมากๆ

แต่ก็รู้สีกอื่มเอมใจที่งานเขียนของเขา มันจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับนักอ่านที่ยังชื่นชอบผลงานของเขาตลอดไป เช่นกัน


RIP ครับ

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Minor 20 ส.ค. 63 01:49 น. 9

RIP อีกครั้งนะครับ ท่าน"บลู"นึกถึงตอนที่ติดตามเรื่องแรกๆที่แต่งขึ้นมา แต่งไปหลายตอนแล้วก็ลบทิ้งบ้าง rewriteบ้าง เปิดเรื่องใหม่อีกหลายเรื่อง เปลี่ยนนามปากกาก็ด้วย แถมมีกิจกรรมขอตัวละคร'ออริฯ'ของreaderแต่ละท่านมาใส่ในนิยายก็ด้วย(555) ทำให้เห็นถึงพัฒนาการในการเขียนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนอยากให้ตีพิมพ์เป็นเล่ม แต่คงไม่มีวันนั้นอีกแล้ว... ขอบคุณสำหรับผลงานที่ผ่านๆมานะครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ปลายย Member 14 ก.พ. 64 14:14 น. 11

เราก็เป็นอีกคนที่ยังแวะเวียนไปดูนิยายเรื่องนี้ค่ะ ถึงจะเป็นหวังลมๆ แล้งๆ ก็ตามที เป็นนิยายแฟนตาซีที่ประทับใจที่สุดในตอนนั้นเลยมั้งคะ เศร้าจัง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด