ส่องชีวิต “คุณอนาคต” เด็กช่างที่แต่งนิยายวันละ 9 ตอน เพื่อสานฝันการเป็นนักเขียน!

ส่องชีวิต “คุณอนาคต” 
เด็กช่างที่แต่งนิยายวันละ 9 ตอน 
เพื่อสานฝันการเป็นนักเขียน!

 

สวัสดีนักเขียนชาวเด็กดีทุกคนค่ะ  พบปะพุดคุยวันนี้อยากพาทุกคนไปรู้จักกับนักเขียนเจ้าของนามปากกา ‘คุณอนาคต’  เด็กหนุ่มไฟแรงที่เขียนนิยายมาปีกว่าๆ ก็มีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ นิยายติดท็อปเรื่อง นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ, แม่ค้าออนไลน์สู่ยุทธภพ,  จักรพรรดิอักขระสยบฟ้า  และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าแต่ละเรื่องตอนไม่ใช่น้อยๆ เลยค่ะ หลักร้อยอัป พี่แนนนี่เพนลองไปคิดเลขเล่นๆ ดูแล้ว แม่เจ้า! มีตอนมากถึง 1,500 ตอนเลยค่ะ 

นักเขียนหนุ่มคนนี้ไฟแรงจริงๆ ค่ะ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่อยากชวนทุกคนไปรู้จักเขาแน่นอน เพราะเรื่องราวการเป็นนักเขียนของคุณอนาคตนั้นน่าสนใจมากๆ  นอกจากเขาจะเป็นเด็กช่างที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนแล้ว เขายังเริ่มต้นเขียนนิยายทั้งที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนอีกด้วย แถมพอเริ่มเขียนนิยายได้ไม่นาน เขาก็ค่อยๆ ค้นพบเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง  และพยายามทำให้สำเร็จด้วยการเขียนนิยายมากถึงวันละ 9 ตอน! มาตามดูกันว่าเขาเดินบนเส้นทางนักเขียนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ได้อย่างไร

เด็กช่าง (ฝัน) เป็นนักเขียน

สวัสดีครับ คุณอนาคต ครับ อายุตอนนี้ก็ 21 ปี เพิ่งเรียนจบ ปวส. 2 ปีนี้ครับ ส่วนสาขาที่จบก็เป็นช่าง แต่ตอนนี้ก็ออกมาเป็นนักเขียนเต็มตัวแล้วครับ เพราะว่าผมตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้วว่าหลังจากเรียนจบปวส. 1 ปี จะพักการเรียนไปก่อนแล้วมาตั้งใจทำนิยายครับ

ตอนนี้ผมเขียนนิยายมาก็ประมาณสัก 1 ปีกว่าได้ล่ะมั้งครับ  มาเริ่มเขียนนิยายเพราะว่าผมชอบสร้างเรื่องราวต่างๆ ภายในหัวมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ พอโตขึ้น มาถึงวัยที่จะต้องหาความฝันของตัวเอง ผมก็เลยลองย้อนกลับไปดูตัวเอง 

เมื่อก่อนผมสร้างโลกๆ หนึ่งขึ้นมาแล้วมันก็หายไปเพราะผมก็ลืมไปมันไปตามเวลา แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้โลกที่ผมสร้างมันหายไปอีกแล้ว  ก็เลยมีความคิดขึ้นมาสองทาง คือ การเป็นนักวาดการ์ตูน กับนักเขียนนิยาย แต่ว่าผมเป็นคนที่วาดรูปไม่เป็นเลยเพราะแบบนั้นทางเลือกเดียวก็คือการลองลงมือเขียนนิยายครับ

 ผมเริ่มเขียนในมุมมองของคนที่ชอบสร้างเรื่องราวในหัวและไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน จนถึงปัจจุบันนี้ผมเองก็ยังไม่เคยอ่านนิยายจบเลยสักเรื่อง เรียกว่าอ่านได้แค่นิดหน่อยก็เลิกอ่านไปเลยครับ มันเป็นจุดที่ทำให้ตัวของผมอ่อนในเรื่องสำนวนมาก ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรือไม่รักในนิยายนะครับ แค่ผมชอบในการสร้างโลกของตัวเองมากกว่า แต่ตอนนี้ก็พยายามอ่านนิยายให้เยอะเพราะอยากจะมีสำนวนที่ดีขึ้นครับ

 

ลองเขียนนิยายมาหนึ่งปี
นี่แหละคือสิ่งที่ใช่!

ถามว่าตอนเริ่มเขียนยากไหม ผมมองว่ามันไม่อยากนะครับ เพราะว่าตอนนั้นผมอาจจะยังไม่ได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่านิยายเลย  เลยแทบจะไม่ได้มีความกดดันอะไรเลย  อยากเขียนอะไรก็เขียน  แรงบันดาลใจของผมจะเป็นพวกหนัง การ์ตูน หรือซีรีส์ ประมาณนี้ครับ เพราะผมเป็นคนที่อ่านนิยายน้อยมาก แต่ก็ได้มาบ้างไม่ใช่ว่าจะไม่มีไอเดียหรือว่าแรงบันดาลจากมันเลย แต่สิ่งที่ได้จากนิยายมาเลยคือพวกสำนวนครับ 

อย่างนิยายเรื่องแรกที่ผมลงไป แม้ว่าเนื้อเรื่อง คำบรรยาย ทุกๆ อย่างจะไม่ได้ดีมากนัก แต่มันก็เป็นเรื่องที่ได้รับการตอบรับดีมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเขียนนิยายอย่างผมนะ (แต่ไม่บอกหรอกนะว่าเรื่องอะไร)

ส่วนเรื่องล่าสุดอย่างเรื่อง  ‘นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ’ มันคงเป็นเพราะว่ายอดวิวและกระแสตอบรับดีมาก เลยกลัวมากครับ รู้สึกกดดัน ผมกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีมากพอในแต่ละวัน กลัวว่านักอ่านจะไม่ชอบนิยายของผม แต่ผมก็คิดว่าต้องปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้ พยายามทำให้ตัวเองกดดันน้อยที่สุด 

มันแล้วแต่ปัญหาด้วยนะครับ ถ้าปัญหาเรื่องนั้นเราสามารถแก้ไขได้เราก็จะทำ แต่ถ้าเราทำไม่ได้เราก็ต้องยอมรับมันให้ได้ ทุกวันนี้เลยพยายามทำมันหนักที่สุด และก็คิดว่าการพยายามหนึ่งวันของเราถ้ามีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมันก็คุ้ม

ที่ผ่านมาผลตอบรับดีมากครับ ดีจนผมรู้สึกขอบคุณนักอ่านทุกท่านจริงๆ มันเป็นความสำเร็จก้าวเล็กๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จในฐานะนักเขียนคนหนึ่งเลยครับ

นิยายติดท็อปเรื่อง นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ
นิยายติดท็อปเรื่อง นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ

ตั้งเป้าอยากเป็นนักเขียน
เลยต้องเขียนจัดหนักจัดเต็มทุกวัน!

จะบอกว่าตอนนี้การเขียนนิยายเป็นความฝันเลยก็ได้ครับ ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นงานอดิเรกมานานแล้ว เพราะว่าผมจริงจังกับมันมาก ผมอยากทำให้มันดีขึ้น อยากจะทำให้งานเขียนของผมเป็นที่รู้จักมากขึ้นครับ

เมื่อก่อนผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ผมเป็นเด็กติดเกมส์และก็เป็นเด็กขี้เกียจคนหนึ่ง การมาเป็นเขียนมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่มีเป้าหมาย และมีความตั้งใจมากขึ้นครับ

อย่างตอนที่เขียนนิยายผมก็จะพยายามไม่เล่นเกมและไม่เล่นโซเซียล (เลยนะครับ) ของพวกนั้นมันจะทำให้ผมเพลิดเพลินมากจนเกินไป จนอาจจะไม่ได้เขียนนิยาย (หัวเราะ) เวลามันผ่านไปเร็วนะครับ ผมเลยรู้สึกว่าต้องรักษาและก็พยายามควบคุมมันให้ดี  

 เคล็ดลับของผมที่คิดว่ามันใช้ได้จริงกับตัวของผมเองเลยนะ คือเราต้องมองในมุมของนักอ่านว่า ไม่มีนักอ่านคนไหนอยากจะรอนิยายนานๆ หรอกครับ พยายามอัปทุกวัน หรือวันละหลายๆ ตอน ตั้งแต่ผมเขียนนิยายมาตลอดปีกว่าๆ ผมไม่เคยหยุดเขียนนิยายเลยสักวันเดียว พยายามทำให้มันกลายเป็นนิสัยมากกว่าวินัยครับ

อย่างชีวิตประจำวันตอนนี้ของผมมันค่อนข้างจะซ้ำๆ กันเลยครับ ผมจะตื่นมาเขียนนิยายตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนอน วันหนึ่งใช้เวลากับนิยายก็เกือบจะทั้งวัน เพราะว่าผมแต่งหลายเรื่องแล้วก็เขียนจำนวนตอนที่มันเยอะ วันหนึ่งก็เขียนอยู่ประมาณ 6-9 ตอนต่อวันเลยครับ จะแบ่งเฉลี่ยออกไปเป็นแต่ละเรื่อง  ส่วนเวลาอัปผมจะแจ้งหน้านิยายเอาไว้ว่าอัปตอนไหนบ้างครับ

ตอนนี้พยายามขึ้นอีกเพื่อให้ตัวเองเขียนได้มากขึ้น ผมจะทำแบบนี้ทุกวันซ้ำๆ กันไปไม่มีวันหยุด ตอนนี้ผมได้แต่เขียนนิยายอย่างเดียวเลยครับ ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลย ยกเว้นออกกำลังกายครับ ผมออกกำลังกายเกือบจะทุกวัน เพราะว่าถ้าร่างกายแข็งแรงมันจะทำให้เราสามารถเขียนงานได้เยอะมากขึ้นครับ

นิยายเปิดขายเรื่องล่าสุด นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ
นิยายเปิดขายเรื่องล่าสุด นี่ข้าเป็นเพียงตัวประกอบงั้นรึ

ลองทำอาชีพนักเขียน
ด้วยการขายนิยายออนไลน์

จริงๆ ผมลองเปิดขายตั้งแต่เรื่องแรกเลยครับ แล้วตอนนั้นมันยังไม่ได้มีระบบขายเยอะขนาดนี้ มีแต่ขายแบบแพ็คเกจครับ ก็เลยลองขายดู ตอนนั้นกดดันด้วยกลัวไม่มีใครซื้อ (หัวเราะ)  ส่วนตอนนี้ผมอยากจะลองเปลี่ยนการขายดูบ้างครับ เมื่อก่อนขายแต่แบบแพ็คเกจ ตอนนี้เลยลองมาการขายแบบอื่นดูบ้าง มีระบบขายเยอะมากเลยอยากลองใช้บ้างครับ

ผลตอบรับที่ผ่านมาดีมากครับ แทบไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าจะมีคนซื้อมากขนาดนี้  (หัวเราะ) มันเป็นกำลังใจเล็กๆ ที่ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองพยายามไปเพื่อใคร ถ้าตอนที่เราไม่อยากเขียนหรือว่าเหนื่อยเกินไปก็จะพยายามคิดว่ามีนักอ่านรออยู่นะ 

รายได้ที่ได้จากการเขียนของผมมันเยอะมากพอสมควรครับ มันเป็นแรงใจให้ได้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าผมแทบจะไม่ได้ใช้มันสักเท่าไหร่ เพราะว่าผมแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านเลย (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ผมก็จะเก็บเอาไว้เป็นเงินเก็บของตัวเองมากกว่า เพราะว่าผมอยากทำอาชีพนักเขียนเป็นอาชีพหลัก เลยต้องวางแผนการใช้เงินเอาไว้ครับ ถึงแม้ว่าเงินที่ได้มามันจะเยอะแต่ผมก็ใช้น้อยมาก และส่วนอื่นๆ ก็แบ่งให้ครอบครัวครับ 

ที่บ้านผมรู้หมด ผมไม่ได้ปิดบังใครอยู่แล้ว เรียกว่าผมภูมิใจในอาชีพนักเขียนของผมก็ได้ ทั้งพ่อและแม่ก็ภูมิใจมาก ที่ผมสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบได้ สามารถสร้างรายได้ และก็สามารถแลดูตัวเองได้ครับ

 

อยากเป็นนักเขียน
แค่ลงมือทำ!

การเป็นนักเขียนสำหรับผม เราต้องชอบในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ก่อนครับ ถ้าเราชอบในสิ่งที่ตัวเองทำแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ทุกข์ และมีความสุขเราก็จะสามารถทำมันได้ดี หลังจากนั้นก็คือการตั้งเป้าหมายให้ตัวเองครับ พอมีเป้าหมาย หลายๆ อย่างก็ตามมาเอง ทั้งวินัยและอื่นๆ  

สำหรับคนที่อยากเป็นเขียนนิยาย ผมก็ต้องขอบอกว่าลงมือทำเลยครับ มันไม่มีอะไรบอกเราได้ตั้งแต่แรกหรอกครับว่าเราขาดอะไรไป หรือว่ามีอะไรต้องการเพิ่มหรือเปล่า เราจะรู้ว่าตัวเองขาดอะไรก็ต่อเมื่อเราลงมือทำไปแล้ว อย่างผมไม่ค่อยอ่านนิยาย ผมก็ขาดในส่วนของสำนวน ผมก็อ่านเพิ่ม ระยะเวลาที่เราพยายามลงมือลงแรงกับมันจะเป็นตัวบอกเราเองครับว่าเราขาดอะไรหรือว่าต้องการอะไรเพิ่ม 

ถ้าเราคิดว่าเส้นทางนักเขียนมันเป็นความฝันของเราจริงๆ เราต้องลองพยายามกับมันให้มากที่สุดครับ มาลองสู้เพื่อความฝันของตัวเองกันครับ

เชื่อกันแล้วใช่ไหมว่า  'การลงมือเขียน' คือจุดเริ่มต้นการเป็นนักเขียนที่ง่ายที่สุด  ใครที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน หรือแค่อยากจะลองเขียนนิยายของตัวเองดูบ้าง พี่แนนนี่เพนสนับสนุนให้เริ่มลงมือแต่งนิยายกันตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ 

เหมือนที่นักเขียนหนุ่มคนนี้ลองมือเขียนนิยายทั้งที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน มีแค่เพียงจินตนาการในหัวที่อยากเล่าออกมาเท่านั้น แต่ใครจะคาดคิดว่าตอนนี้เขาจะมีเป้าหมายในชีวิตที่อยากทำ มีรายได้จากสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ แถมยังมีแรงผลักดันที่ทำให้เขาขยันเขียนนิยายออกมาได้มากถึง 1,500 ตอนอีกด้วย!

พี่แนนนี่เพนคิดว่าของแบบนี้ว่ามันเรียนรู้กันได้ค่ะ  จะให้เราลองเขียนนิยายวันละ 9 ตอนเหมือนที่นักเขียนคนนี้ทำเลยก็ดูจะก้าวกระโดดมากไปหน่อย  มาลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเขียนนิยายกันก่อนค่ะ แล้วถ้าอยากเขียนให้ได้เยอะๆ แบบนี้บ้าง ก็ต้องค่อยๆ ฝึกฝนกันไป แล้ววันหนึ่งคนที่พี่ชวนมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ในวันนี้อาจจะเป็นคุณก็ได้  มาลงมือเขียนนิยายกันค่ะ  ^^

เริ่มต้นเขียนนิยาย

พี่แนนนี่เพน

 

อ่านนิยายของ คุณอนาคต

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น