Thimakron : แชร์ประสบการณ์ลองเขียนนิยายครั้งแรกเพราะเจอคลิปแนะนำ!

 Thimakron : แชร์ประสบการณ์ลองเขียนนิยายครั้งแรกเพราะเจอคลิปแนะนำ!

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน ถ้าพูดถึงการเขียนนิยาย ทุกคนคิดว่ายากหรือง่ายคะ สำหรับคนที่ไม่เคยเขียนหลายคนอาจมองว่ายากมากๆ ต้องเขียนยังไง? บรรยายยังไง? วางพล็อตยังไงดี? กิดคำถามเต็มหัวไปหมดจนบางทีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นเขียน 

แต่ไม่ใช่กับ “Thimakron” หรือ คุณริน นักเขียนเจ้าของผลงานเรื่อง ไป๋ซิน ที่เราพามาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักในวันนี้ค่ะ เธอให้สัมภาษณ์กับเราว่า การเริ่มต้นเขียนครั้งแรกไม่ยากเลย เคล็ดลับอยู่ที่การไม่คาดหวัง เขียนเพราะอยากเขียน ชอบแบบไหนก็บรรยายไปแบบนั้นเลย แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มคาดหวัง นั่นล่ะคือหายนะที่ต้องเผชิญ Thimakron ผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร มาติดตามกันได้ในบทสัมภาษณ์นี้เลยค่ะ 

 

สวัสดีค่ะ ชื่อริน เจ้าของนามปากกา Thimakron นอกจากเขียนนิยายก็ทำงานประจำทั่วไปค่ะ 

จุดเริ่มต้นเขียนนิยาย น่าจะมาจากการชอบอ่านนิยาย ชอบจินตนาการ ในชีวิตจริงการจินตการในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  บางคนอาจมองว่าเป็นการเพ้อฝันไร้สาระ แต่ในโลกของนิยาย เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง เราสามารถสวมบทเป็นใครก็ได้ในนิยายที่เราเขียน เราสามารถกำหนดความเป็นไปของตัวละครได้ตามใจของเรา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย  เป็นตัวเอง และมีความสุข

จริงๆ พึ่งเริ่มเขียนนิยายจริงจังก็เดือนนี้เลย ไป่ซินเป็นนิยายเรื่องที่ตั้งใจแต่งมาก แล้วก็อยากลองโพสต์ดู อยากฟังความคิดเห็นในมุมของคนอื่นที่อ่านนิยายเรา ตอนแรกที่เขียนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนอ่านเยอะ เราแค่รู้สึกอยากเขียนนิยายซักเรื่องนึง ที่โพสต์ไปเพราะอยากได้ความเห็นจากนักอ่านคนอื่นๆ ในนิยายของเรา

เอาจริงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขียนนิยายเราว่านักอ่านหลายคนก็เป็น  เวลาอ่านนิยายบางเรื่องแล้วรู้สึกขัดใจ  แบบเฮ้ยทำไมพระเอกนางเอกไม่ทำแบบนี้ว้า  ก็เลยคิดว่า เขียนเองซะเลยอยากได้แบบไหนก็เขียนเแบบนั้น

เราเขียนนิยายปพร้อมกับทำงานประจำไปด้วย ปกติวันนึงจะพยายามเขียนให้ได้หนึ่งตอน  มีบางวันที่พอมีเวลาว่างมากหน่อยก็อาจจะได้วันละ 2-3 ตอน จะเขียนเวลาว่าง ส่วนมากจะเป็นช่วงเช้ากับก่อนนอน

ลงมือเขียนครั้งแรกไม่ยาก แค่อย่าตั้งความหวังสูง

เขียนครั้งแรกไม่ยากค่ะ ค่อนข้างผ่อนคลายเพราะเราไม่ได้คาดหวัง  เขียนตามจินตนาการที่เราอยากให้เป็น  พอเห็นยอดคนเข้ามาอ่าน เพิ่มจากสองคนสามคนเป็นหลักสิบหลักร้อย ก็รู้สึกมีกำลังใจที่อยากจะเขียนต่อ มันรู้สึกแบบ เฮ้ย มีคนชอบนิยายของเรา มีคนชื่นชมในจินตนาการของเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนอ่านติดตามนิยายของเรา   น่าจะเป็นส่วนเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม

คนอ่านยิ่งเยอะ ความคาดหวังก็ยิ่งสูง

ปัญหาที่เจอจากการเขียน ก็คงเป็นพวกการเขียนบรรยาย  การอธิบาย ใช้คำให้คนอ่านอินไปตามความรู้สึกที่เราอยากสื่อ  อันนี้น่าจะยากจริงๆ  สำหรับมือใหม่หัดเขียน

อุปสรรคสำคัญน่าจะตอนที่เริ่มมีคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้นเกินความคาดหมายที่เราคิดไว้ มันทำให้เรารู้สึกกดดัน ยิ่งไปเจอคอมเมนต์ที่เข้ามาติติงไม่พอใจด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยดี  ตอนนั้นรู้สึกผิดหวังมาก พออ่านแล้วรู้สึกว่าความสุขในการแต่งนิยายของเรามันหายไปทำให้ไม่อยากแต่งต่อแล้ว  แต่สุดท้ายเราก็มานั่งคิดถึงคอมเมนต์ดีดี ที่คอยแนะนำเราแก้ไขคำผิดให้เรา คอมเมนต์ที่บอกว่ารออ่านต่อ บอกว่านิยายของเราสนุก คอมเม้นท์พวกนั้นมันทำให้เรามีกำลัง 

ทำไมเราต้องให้คำพูดไม่ดีของคนเพียงคนเดียว มาทำลายความสุขของเรา ทำลายความสุขของคนที่รออ่านนิยายเราให้กำลังใจเรา  พอคิดได้แบบนี้ก็เลยเริ่มเขียนต่อ

ไป่ซิน นิยายที่เกิดขึ้นเพราะชอบอ่าน

ที่มาที่ไปของไป่ซิน เริ่มจากได้อ่านนิยายย้อนยุคแนวนี้แล้วรู้สึกว่ามันสนุกดี  ก็เลยอยากลองเขียนนิยายแนวนี้ดู สุดท้ายก็เลยเขียนเรื่องไป่ซินขึ้น 

โดยแรงบันดาลใจ คือเราอยากเข้าไปอยู่ในนิยายย้อนยุคซักเรื่อง ถ้าสมมุติเราเป็นนางเอกในยุคปัจจุบันที่สวย ประสบความสำเร็จในระดับนึงจากรูปร่างหน้าตาเป็นที่รู้จักของผู้คน แต่พอต้องย้อนยุคไปเป็นคนธรรมดาทีไม่สวยไม่มีคนสนใจ แถมไม่พลังวิเศษเราจะเอาตัวรอดยังไง ซึ่งในเรื่องนางเอกก็จะมีช่วงที่สมหวัง ผิดหวัง โดนหลอกบ้าง เหมือนกับชีวิตจริงที่ทุกคนก็ต้องเคยเป็นแบบนี้

จุดเด่นของไป่ซินคือ นางเอกสู้ชีวิต!

จริงๆ ผู้เขียนเองอ่านนิยายย้อนยุคจีนมาเพียงไม่กี่เรื่อง ถ้าถามหาความแตกต่างก็ขอเปรียบเทียบกับเรื่องที่เคยอ่านแล้วกัน

ความแตกต่างชัดๆ ของไป่ซินน่าจะเป็นที่ตัวนางเอกเลย นางเอกย้อนยุคมาเป็นคนธรรมดา หน้าตารูปร่างไม่เป็นที่น่าสนใจ  ไม่มีพลังวิเศษใดๆ ติดตัว  และไม่ได้ฉลาดล้ำมีไหวพริบมากมายกว่าคนปกติ  ในเรื่องนางเอกก็จะมีเรื่องราวที่คนปกติต้องเคยพบเจอ ทั้งผิดหวัง สมหวัง แต่สุดท้ายนางเอกจะค่อยๆ ใช้บทเรียนที่ได้รับ มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปของนาง

เขียนนิยายจีน การหาข้อมูลเพิ่มเติมคือสิ่งสำคัญ!

จุดที่ยากน่าจะเป็นพวกความรู้ในยุคจีนโบราณอย่างที่บอกว่าผู้เขียนอ่านเรื่องแนวนี้ไม่กี่เรื่อง ดังนั้นความรู้ที่ลงลึก ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี การเรียกชื่อ หรือยศตำแหน่งต่างๆ  บางทีก็ยังมีส่วนที่ไม่รู้หรือไม่เข้าใจอยู่บ้าง หลักๆ ก็จะเป็นการค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตค่ะ ทั้งข้อความและวิดิโอสารคดีต่างๆ หรืออาจจะมีการอ่านจากเรื่องอื่นๆ บ้าง

 

เขียนสดเรื่องตันเป็นปกติ วิธีแก้ก็ไปพัก!

ตอนเขียนไป่ซิน รู้สึกว่าอยากเขียนนิยายย้อนยุคในแบบของเราซักเรื่องนึง คิดแล้วก็เขียนเลย คิดสดเขียนสด ไม่ได้มีการวางคาแรกเตอร์ หรือคิดตัวละครอื่นๆเลย พอเขียนไปเรื่อยๆ  จึงค่อยๆ มีตัวละครเพิ่มขึ้นมา 

อย่างที่บอกไปว่าตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้ จึงไม่ได้วางแผนว่าเนื้อเรื่องว่าควรเป็นไปแบบไหน เป็นการเขียนสดในทุกๆ วัน  นอกจากตัวของไป่ซินที่ค่อยๆ พัฒนาตัวเองแล้ว  ผู้เขียนก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

เขียนสดทุกวันแบบนี้เรื่องตันก็มีบ้างค่ะ พอคิดไม่ออก ก็จะไปหาอะไรทำที่ชอบ ให้ตัวเองผ่อนคลาย พอผ่อนคลายไม่กดดันก็จะคิดออกเอง

ท้อ? ก็มีบ้างคะ ช่วงงานเยอะๆ ยุ่งๆ คิดเนื้อเรื่องไม่ออก ก็มีช่วงที่ไม่อยากเขียนเหมือนกัน วิธีแก้ไขปัญหาเราก็พักก่อนค่ะ หันไปทำกิจกรรมอื่น พอผ่อนคลายก็จะค่อยๆ คิดออกเอง

เปิดขายเพราะเห็นคลิปแนะนำ

ที่ตัดสินใจเปิดขายเรื่องนี้ เพราะเห็นคลิปแนะนำจากนักเขียนท่านอื่น  เป็นคลิปสัมภาษณ์นักเขียนค่ะ  เห็นหลังจากที่ลองเขียนนิยายแล้ว ว่าสามารถลงขายนิยายเพื่อเป็นรายได้เสริมได้ เมื่อก่อนคิดว่าต้องเป็นนักเขียนจริงๆ  ถึงจะเปิดขายได้  เราก็แค่นักเขียนสมัครเล่นไม่ได้เขียนจริงจังเป็นอาชีพ   แต่พอดูคลิปแล้ว พบว่าใครก็สามารถเปิดขายตอนได้ แล้วหลังจากที่เราลงนิยายไปเริ่มมีผลตอบรับที่ดี  มีจำนวนคนเข้ามาอ่านนิยายเพิ่มขึ้น ก็เลยลองศึกษาวิธีติดเหรียญดู แล้วก็เปิดติดเหรียญเพื่อเป็นรายได้เสริมเล็กๆ น้อย

เรื่องผลตอบรับสารภาพเลยว่าตอนแรกก็แอบกังวลเหมือนกันว่าจะมึใครซื้อไหม เราตอนติดเหรียญติดแบบอ่านล่วงหน้าค่ะ  ลองติดดูไม่ได้คาดหวัง คิดว่าไม่มีคนซื้อก็ไม่เป็นไร  แต่พอลงแล้วมีคนกดซื้อเราก็ดีใจ แต่ก็ถือเป็นกำลังใจให้ตัวเอง  แค่มีคนยอมจ่ายเราก็ดีใจแล้ว

เรามาเขียนนิยายแบบนี้คนที่บ้านก็รู้นะคะ

คนที่บ้านก็แปลกใจเล็กน้อย ไม่ค่อยเชื่อว่า  นิยายที่แต่งจะมีคนอ่าน ฮ่าๆ ตอนเขียนไม่ออก  ก็เล่าๆ ให้ที่บ้านฟังบ้าง แต่คนในครอบครัวไม่ใช่แนวอ่านนิยาย  เขาก็ไม่ค่อยอินกับเรา

หลังเขียนนิยายชีวิตก็เปลี่ยนนิดหน่อย  ก่อนเขียนนิยายเวลาว่างเราก็อาจจะไปทำกิจกรรมอื่นที่ชอบ  พอมาเขียนนิยายแล้ว เวลาส่วนนึง  ก็ถูกแบ่งมาเขียนนิยายแทน มุมมองต่อการเขียนนิยายของเราก็เปลี่ยนไป  ก่อนเขียนเรารู้สึกว่า  อยากเขียนอะไรก็เขียนเลย  ตามจินตนาการเรา  แต่พอลงมือเขียนจริงๆ ยากกว่าที่เราคิด  พอยังไม่ลงมือทำเหมือนว่ามันง่าย  พอได้ลงมือเขียนแล้ว  การเปลี่ยนจินตนาการในหัวให้เป็นตัวหนังสือเพื่อเล่าเรื่องราวที่เราต้องการนี้มันยากมาก

ในอนาคต หากมีเวลาก็คงเขียนนิยายต่อไปเรื่อยๆ  เพราะตอนนี้งานเขียนนิยายกลายอีกกิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุขไปแล้ว เหมือนได้ระบายอารมณ์และจินตนาการในช่วงเวลานั้นๆ ออกมา

สุดท้ายนี้

อยากให้กำลังใจคนที่เริ่มต้นเขียนนิยาย ว่าไม่ต้องกลัวอะไรถ้าอยากทำก็ลงมือเลย ถ้ามันสำเร็จเราก็จะภูมิใจ แต่ถ้ามันไม่สำเร็จเราก็จะเห็นข้อด้อยที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ถ้าพยายามต่อไปต้องสำเร็จแน่ ตัวนักเขียนเองก็เริ่มต้นแค่อยากเขียนนิยายในแบบของตัวเองสักเรื่องไม่ได้มีความรู้หรือเคยเป็นนักเขียนมาก่อน  ทุกอย่างเริ่มต้นแค่มือถือหนึ่งเครื่องกับเวลาว่างหลังเลิกงาน

สุดท้ายก็ฝากติดตามเรื่องไป่ซินด้วยเป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่ง อาจมีหลายอย่างที่ผิดพลาด ตัวนักเขียนก็จะพยายามแก้ไขและพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ

และนี่คือเรื่องราวของ Thimakron หรือ คุณริน ที่เราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ค่ะ หลังจากได้พูดคุยกัน พี่หญิงบอกเลยว่าแอบแปลกใจอยู่เหมือนกันนะคะ น้อยมากที่จะมีคนตอบว่าตอนเริ่มต้นเขียนไม่ยาก ส่วนใหญ่จะมาแนวยากมาก กังวลนู่นนี้ไปหมด แต่พอฟังคุณรินอธิบายก็เข้าใจค่ะ เพราะเริ่มเขียนจากความไม่คาดหวัง พอไม่คาดหวังก็ไม่มีความกังวล อยากเขียนอะไรก็เขียน เขียนแบบที่ชอบได้เลย พอลองคิดแบบนี้แล้วการเริ่มต้นเขียนนิยายจึงไม่ยากอย่างที่คิด ทั้งนิยายยังมีผลตอบรับที่ดี จนสร้างรายได้เสริมให้กับคุณรินแบบเกินคาดอีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่อยากเขียนนิยายแต่ลังเลใจ รู้สึกว่าการเขียนนิยายเป็นเรื่องยากอยู่ ก็ลองหยิบเรื่องราวของคุณรินมาเป็นแรงบันดาลใจก็ได้นะคะ ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้วเราจะพบว่า การเขียนนิยายไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้นะคะ

ติดตามผลงานของ  Thimakron  ได้ที่นี่

พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด