Nenechan : นักเขียนนิยายรักฟีลกู๊ดอารมณ์ดี เจ้าของตำนานรัก พบคู่แท้ผ่านกระทู้ (เด็กดี)

Nenechan นักเขียนนิยายรักฟีลกู๊ดอารมณ์ดี 
เจ้าของตำนานรัก พบคู่แท้ผ่านกระทู้ (เด็กดี)

 

เมื่อก่อนพี่หญิงก็เคยเชื่อเหมือนกันนะ รักแท้ในโลกออนไลน์มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ แต่พอได้มาคุยกับ เนเน่จัง (Nenechan) ก็ต้องเปลี่ยนความคิดไปทันที พร้อมเอามือทาบอกร้องว้าว เซอร์ไพรส์สุดๆ กับเรื่องรักโรแมนติกของเธอกับแฟนหนุ่มที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกระทู้เด็กดี! ที่บอกเลยว่าหวานไม่แพ้นิยายรักที่เธอเขียนเลยค่ะ

และที่สำคัญนอกจากเด็กดีจะทำให้เธอได้ค้นพบชีวิตนรักเลิศๆ แล้ว เด็กดียังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เนเน่จังตกหลุมรักการอ่านนิยายเข้าเต็มเปา แล้วเดินเข้าสู่เส้นทางสายนักเขียนเต็มตัว เพิ่งเดินทางเข้าสู่ทางนี้จริงจังได้ไม่นานก็มีผลงานรวมกันแล้วกว่า 18 เรื่อง โอ้มายก็อต เขียนเร็ว เขียนไว  แถมยังปังสุดๆ  อย่างนิยายเรื่องล่าสุด  “โปรดปราณ”  ก็แอบได้ข่าวแว่วๆ มาว่าทำยอดขายได้ถล่มทลาย  ทำเอาเหล่าเพื่อนนักเขียนที่สนิทสนมกันกัดผ้าเช็ดหน้าด้วยความอิจฉา

แต่ก็ว่าไม่ได้นะ ก็เนเน่จังเขียนนิยายออกมาได้ฟินกินใจนักอ่านไปเต็มๆ  พอมีโอกาสได้สนับสนุนจึงพร้อมกันเทใจเปย์กันเต็มที  เพราะเชื่อว่าได้ผลงานคุณภาพ อ่านแล้วฟินดีต่อใจแน่นอน! แต่เอ... จุดเริ่มต้นของความฟินในนิยายมันจะมีที่มาจากประสบการณ์ตรงหรือเปล่านะ  พี่หญิงอ่านแล้วก็แอบสงสัยเลยว่า หรือความลับที่ซ่อนอยู่ในฉากฟินทั้งหลายนั่นคือประสบการณ์ตรง? วันนี้เลยขอพาทุกคนไปเจาะลึกค้นหาความลับที่มาของความหวานในนิยายกันค่ะ  

01 
เว็บเด็กดีกับจุดเริ่มต้นความฝัน การเรียน

 

"สวัสดีค่า เนเน่จังเองค่ะ ชื่อปริมนะคะ ^^ ตอนนี้นอกจากเขียนนิยายแล้วก็ทำงานประจำไปด้วย เป็นวิศวกรโยธา ที่มาของนามปากกา Nenechan เหรอคะ ตอนเขียนเรื่องแรก นางเอกชื่อเนเน่ค่ะ แล้วพอจะเอาลงเว็บเด็กดีก็คิดนามปากกาไม่ออก ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะเขียนไปอีกยาว ๆ แค่อยากลองเขียนดู เลยเอาชื่อเนเน่ในเรื่องนั้นมาเป็นนามปากกา แล้วก็เลยตามเลย ใช้มาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ"

เนเน่จังเล่าให้เราฟังว่ารู้จักเว็บเด็กดีจากการท่องกระทู้  เริ่มแรกเนเน่จังไม่ได้มีความฝันอยากเป็นนักเขียนเลยสักนิด มองว่ามันยากเป็นเรื่องไกลตัว นิยายก็อ่านแค่เรื่องดังๆ  จึงมองข้ามการเขียนนิยายมาตลอด   การเข้าเว็บเด็กดีส่วนใหญ่เธอมักจะเข้ามาส่องกระทู้  หรือ หาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน การสอบเข้ามหาลัย  จนในที่สุดเนเน่จังก็เจอคณะที่ใช่และสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้สำเร็จ

"กับเด็กดี โห...นานมากแล้วค่ะ บอกไปนี่เดาอายุได้เลย 555 รู้จักตั้งแต่สมัยมัธยมเลยค่ะ ตอนนั้นเข้ามาอ่านกระทู้ 5555 ตอนนั้นมีเด็กดี มีพันทิป" 

"ถามว่าอ่านกระทู้หมวดไหนบ้าง หูย จำไม่ได้อะ ตอนนั้นมันมีหมวดไหนบ้าง อ่อ ใช่ ๆ มันก็จะมีกระทู้พวก เรียนคณะนี้ มหาลัยไหนดี ตอนนั้นเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะเข้ามาดูกระทู้แบบ ประเพณี มธ, 100 เรื่องใน มธ ไรงี้ แล้วก็หาข้อมูลพวกค่าเทอม มหาลัยต่างๆ คณะนี้เรียนอะไรบ้าง เข้าเด็กดีส่วนใหญ่อ่านกระทู้ค่ะ นิยายก็อ่านบ้างอะ เรื่องดัง ๆ เช่น ไวท์โรด เซวีน่า"

"ตอนนั้นไม่เคยคิดจะเป็นนักเขียนเลย ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าอาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่ไกลตัวมาก ได้แต่อ่านแล้วก็ชื่นชม แต่พอดีช่วงก่อนหน้านี้อ่านนิยายออนไลน์เยอะมาก แล้วก็เลยรู้ว่างานพวกนี้ไม่ผ่านสำนักพิมพ์ เลยคิดว่า แบบนี้ชั้นก็เขียนได้นะเนี่ย เลยลองเขียนดูค่ะ"

02
เว็บเด็กดีกับจุดเริ่มต้นรักแท้แสนหวาน

"สามีที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ก็เก็บมาได้จากเด็กดีค่ะ เขาบอกว่าได้อีเมลเรามาจากเด็กดี แล้วแอด MSN มาคุย กรีสสส แก่มาก 5555"

นอกจากเรื่องเรียนแล้ว เนเน่จังยังเล่าให้ฟังอีกว่าเว็บเด็กดีเป็นสถานที่ที่ทำให้พบรักแท้ แฟนที่คบกันอยู่ก็เก็บมาได้จากเด็กดี ตอนนั้นเป็นช่วงที่เธอชอบเข้าไปตอบกระทู้ ตั้งกระทู้บ่อยๆ เนเน่จังก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนรักไปเอาอีเมลเธอมาจากตรงไหน แต่แฟนเธอเล่าให้ฟังว่าเอาช่องทางติดต่อมาจากเด็กดี แล้วแอด MSN มาคุยกัน คุยกันไปคุยกันมา นัดเจอกัน แล้วก็คบกันยาวมาจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งเนเน่จังก็ไม่คิดเหมือนกันว่ารักออนไลน์สมัยเด็กจะเติบโตขึ้นกลายเป็นรักแท้อย่างทุกวันนี้

"สามีบอกว่าได้อีเมลพี่มากจากเด็กดี แล้วแอด msn มาค่ะ แล้วก็เลยคุยกันในเอ็ม นานเหมือนกัน แล้วก็ลองนัดเจอกัน เมื่อ 15 ปีที่แล้ว 555 แต่เอามาจากตรงส่วนไหนไม่รู้เลยอะค่ะ จำไม่ได้ >< ในกระทู้ หรือตรงประวัติก็ไม่รู้ ถามนาง นางก็จำไม่ได้ 55555"

"ตอนทักเขาก็บอกว่าเอาเมลมาจากเด็กดี อยากคุยด้วย ขอคุยได้ไหม เป็นเพื่อนกัน (เขิน) ปกติใครทักมาพี่ก็คุยหมด แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีคนแปลกหน้าทักมานะ 555 คุยกันอยู่สักหลายเดือน ก็เลยนัดเจอกัน ตอนแรกไม่คิดเลยค่ะ ว่าจะคบกัน ไม่คิดจะไปเจอด้วย ก็คุยเรื่อย ๆ เขาทักมาก็คุย ถามว่านัดเจอเพื่อนทางออนไลน์แบบนี้กลัวไหม ตอนนั้นไม่ค่อยกลัวนะ เพราะไม่คิดว่าจะนัดไปเจอใครอยู่แล้วอะ แต่พอสนิทกัน แล้วเขาขอเจอ ก็เลยออกไปเจอ แต่ให้เขามาหาแถวบ้านนะ เจอกันหน้าบ้านนั่นแหละ ถ้าแบบไม่น่าไว้ใจเราก็เดินเข้าบ้านได้เลย 555"

03
เด็กดีกับจุดเริ่มต้นเส้นทางนักเขียน

ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตการเรียน มหาวิทยาลัย และความรักเท่านั้น เด็กดียังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เนเน่จังตัดสินใจลงเขียนมือเขียนนิยาย เธอเติบโตมาพร้อมกับที่นี่ ทั้งยังได้ความรู้เกี่ยวกับการติดเหรียญมาจากเด็กดี เนเน่จังจึงเลือกที่จะเขียนนิยายเรื่องแรกในเด็กดี 

"ช่วงก่อนหน้านี้ก็เคยอ่านนิยายรายตอนในเด็กดีมาเยอะมากเลยค่ะ แล้วก็ผันตัวไปอ่านอีบุ๊กบ้าง เลยได้รู้ว่านักเขียนสมัยนี้ไม่ต้องออกงานผ่านสำนักพิมพ์ก็ได้นะ มันมีสิ่งที่เรียกว่านิยายทำมือ มีขายออนไลน์ที่สามารถทำเองได้ แต่ก็ต้องเริ่มจากหาฐานคนอ่านก่อน เลยลองเขียนขึ้นมาหนึ่งเรื่องแล้วทยอยลงรายตอนในเด็กดีค่ะ สักพักก็เริ่มมีคอมเมนต์ว่าไม่รวมตอนไปขายออนไลน์บ้างล่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก แบบ...เฮ้ย! ฝีมืออย่างเราก็ขายได้เหรอเนี่ย เลยลองศึกษาดูแล้วก็ลงขาย ควบคู่ไปกับลงรายตอนให้อ่านในเด็กดีเรื่อย ๆ ค่ะ"

" พี่เพิ่งเริ่มเขียนเมื่อปีที่แล้ว เขียนครั้งแรกในเด็กดีเลย ตอนนี้ก็เขียนมา 18 เรื่องแล้ว เขียนนิยายรัก เพราะชอบอ่านนิยายรักค่ะ จริงๆ นิยายจีนก็ชอบ แต่ส่วนใหญ่พี่อ่านนิยายจีนแปลอะ แล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเขียนได้ เขียนนิยายรักนี่แหละ ส่วนใหญ่ก็หยิบเรื่องใกล้ ๆ ตัวมาเขียน  สไตล์การเขียนของพี่เป็นความตลก ฟีลกู๊ด ดราม่าน้อย ๆ พล็อตเบา ๆ อ่านสบาย ๆ และนิยายรักมันมีความเบาสบาย เราก็อยากแบ่งปันรอยยิ้มให้ทุก ๆ คนค่ะ

เรื่องแรกที่เขียนก็ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของตัวเองนี่แหละ บางทีก็เป็นชีวิตรักของเพื่อน ๆ รอบตัว เพื่อนที่ทำงาน ที่ได้กับลูกน้องในแผนกตัวเอง 555 อย่างเพชรเพลินตาก็มาจากเรื่องจริงหลายๆ เรื่องเลย ชีวิตความเป็นอยู่ที่เยอรมัน สมาคมแม่บ้านเมียฝรั่ง คุณยายข้างบ้านใจดี ๆ แต่พี่ยังไม่เคยเอาเรื่องความรักของตัวเองมาเขียนนะ เขิน"

"ถ้าถามว่าคนรอบตัวรู้ไหมว่าได้มาเป็นแรงบันดาลใจเขียนนิยาย ไม่รู้ค่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่ามาเป็นนักเขียนนิยาย นอกจากสามีกับลูก พ่อแม่ก็ไม่บอก เพื่อนก็ไม่บอก เขิน แค่นี้เลยที่ไม่บอกใคร บางเรื่องมันก็ติดเรตหน่อยๆ ถ้าเอาให้แม่อ่านงี้ลูกสาวคนดีในสายตาแม่จะดูเป็นยังไง 5555"

"ส่วนแฟนก็ไม่อ่านค่ะ 555 แต่เขาก็คอยส่องเพจอยู่นะคะ คือเขาก็รู้แหละว่าเขียนแนวไหน แต่แฟนพี่ไม่อ่านนิยาย เขาก็ดูผ่าน ๆ"

"สำหรับการเป็นนักเขียนรักอะไรในเส้นทางนี้เหรอ...ก็บอกตามตรงว่ามันทำเงินให้เราได้และเวลาเขียนงานเราก็สนุกมาก ๆ ด้วยค่ะ เหมือนได้ปลดปล่อยความฝัน ปลดปล่อยจินตนาการให้ออกมาโลดแล่นบนหน้าจอคอม เวลามีคนเข้ามาอ่าน มาคอมเมนต์ ก็ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ"

04
เด็กดีกับจุดเริ่มต้นนิยายที่แทบไม่มีคนอ่าน

ก่อนประสบความสำเร็จมียอดขายนิยายหลักล้านใครจะเชื่อว่าเนเน่จังก็เคยผ่านช่วงเวลาที่อยากลำบากมาเช่นกัน เธอเล่าให้ฟังว่าตอนรที่เริ่มต้นเขียนแรกๆ ยอดวิวน้อยมาก แทบไม่มีคนอ่านเลย  เคยเปิดขายทีเดียวพร้อมกันสามเรื่องยังมียอดซื้อรวมกันแค่สิบกว่าครั้ง  จนชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน  มีนักอ่านรีวิวนิยาย  แนะนำนิยายลงสื่อโซเชียล นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่นิยายเธอได้รับความสนใจจากนักอ่านเป็นจำนวนมาก

"พี่เริ่มเขียนประมาณมกราคมปีที่แล้ว ตอนเริ่มไม่ยากค่ะ ง่ายกว่าตอนนี้อีกอะ ตอนนั้นมันยังสด อยากเขียนอะไรก็เขียนเลย ไม่มีกรอบ ไม่มีทฤษฎีอะไรเลยช ตอนนี้เวลาเขียนต้องระวังมากขึ้น เช่นการใช้ point of view ในแต่ละพารากราฟ ต้องไม่ปนกัน การคีปคาแรกเตอร์ตัวละครให้คงที่ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ซึ่งตอนแรกที่มาเขียน พี่ไม่รู้อะไรเกียวกับเรื่องพวกนี้เลยนะ เป็นผ้าขาวสุดๆ แต่พอมาเรียนรู้ มันก็ทำให้งานเราพัฒนา แต่มันก็ทำให้เราทำงานยากขึ้นด้วยเหมือนกัน 

"เขียนช่วงแรกๆ ใช่ค่ะ ก็ไม่ค่อยมีคนอ่าน 555 แต่เรื่องเครียด เรื่องท้อ ไม่ค่อยมีนะ อย่างที่บอก พี่ไม่ได้ทำงานเขียนเป็นงานหลัก พี่มีงานประจำ งานประจำเครียดกว่าเยอะ เขียนนิยายเหมือนเป็นจุดพักใจ เหมือนเป็นงานที่ฮีลใจ เลยไม่เครียดกับมัน ถ้าเขียนไม่ออกก็พักไปอ่านนิยายคนอื่นบ้าง ดูซีรีส์บ้าง ถ้าพร้อมก็กลับมาใหม่ ตอนแรกพี่ไม่มีเป้าหมายเลย ไม่ได้คิดจะขาย"

"จุดเปลี่ยนน่าจะเป็นเรื่องนางฟ้าจำแลง มีคนเอาไปรีวิวในเพจ กับในกลุ่มรีวิวหนังสือ แล้วหลังจากนั้นคนก็มาตามงานเรื่องอื่นๆ ต่อ แล้วพอออกงานใหม่ก็เริ่มมีฐานคนอ่าน มีคนคอมเมนต์ในเด็กดีนี่แหละว่าทำไมไม่ขาย เลยไปลองศึกษาหาวิธีดู แล้วก็ลองลงขาย และพี่ก็ได้ทำเล่มเป็นเรื่องแรกเลย ตอนลงขายออนไลน์ครั้งแรก ลงทีเดียว 3 เรื่องเลย แต่เดือนนั้นได้มา 11 โหลดเอง จนลงขายนางฟ้าจำแลงเป็นเรื่องที่ 4 แล้วมีคนเอาไปรีวิว เลยขายได้เยอะขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำเพจเพื่อโปรโมตงานค่ะ"

"แล้วก็มีคนทักมาว่าอยากได้เล่มนางฟ้าจำแลง พี่ก็เลยไปศึกษา ถามนักเขียนรุ่นพี่บ้าง ถามพี่คนที่รับจัดหน้ากับพิสูจน์อักษรบ้าง พิมพ์รอบแรก 150 เล่มเอง ก็ขายหมด แล้วพอมีคนเอาไปรีวิวอีก ก็มีคนตามมาถาม เลยต้องพิมพ์ซ้ำอีก 50 เล่ม แต่รอบนั้นไม่ได้กำไรหรอกนะ พิมพ์น้อยแล้วต้นทุนมันสูง หมดสองรอบนั้นไป ก็มีคนมาถามอีกเยอะเลย ก็เลยต้องพิมพ์อีกรอบ คราวนี้เปิดพรีเลย ได้ยอดมาอีก 350 เล่ม พี่สต็อกเอง 100 เล่ม แต่ตอนนี้หมดแล้ว เลยต้องรีพรินต์อีกรอบนี่แหละ"

"ล่าสุดตอนนี้พี่ก็มีผลงานออกมา 18 เรื่องแล้ว เคล็ดลับที่ทำให้เขียนนิยายได้เร็ว… พยายามมีวินัยค่ะ ทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ พยายามเขียนได้ให้ทุกวัน วันละนิดละหน่อยก็ยังดี ถ้าทิ้งช่วงนานจะลืมแล้วก็ขี้เกียจ บางวันยุ่งมากจริง ๆ เปิดเวิร์ดมาเขียนสักสองบรรทัดก็เอาค่ะ 5555"

05
โปรดปราณ นิยายเด็กดีผลงานพิสูจน์ความสำเร็จ
กับยอดขายหลักล้าน!

"ที่มาของชื่อนิยายเรื่องล่าสุด “โปรดปราณ” นางเอกชื่อปราณค่ะ ประดุจปราณ เป็นของโปรดของพระเอก เลยเอามาเล่นคำกับคำว่าโปรดปรานที่แปลว่าเอ็นดู, รักใคร่ เลยกลายมาเป็นโปรดปราณ ส่วนที่เรื่องนี้เขียนให้ชีวิตนางเอกดราม่ามากก็ไม่มีอะไรมากหรอก เกลียดที่นางมาแย่งพระเอกไปจากดิฉันค่ะ!"

"เขียนเรื่องนี้ส่วนที่พี่พี่ชอบคงเป็นบุคลิกของพระเอกค่ะ พี่บอมเป็นพระเอกปากหมา เป็นผู้ชายไม่หวาน ใจร้อน พูดไม่เพราะ นิสัยไม่ดี ชอบตีชอบต่อย มีรอยสัก (สาบานว่านี่พระเอกค่ะ แถมยังเป็นหมอ) ปากแข็งอีกต่างหาก แต่ก็มีอะไรที่เราสามารถเอามาเล่าได้เยอะเลย เป็นคนที่มีบุคลิกโดดเด่นมาก"

"จุดที่รู้สึกว่ายากคือเป็นเรื่องที่ต่อจาก วัน(ห)วาน ซึ่งเรื่องนั้นฟีดแบ็กค่อนข้างดี จริง ๆ ก็กะว่าจบแค่นั้นแหละ แต่มีคนเรียกร้องว่าอยากเห็นน้องชายพี่บีมมีเมีย มันก็ยากตั้งแต่หาเมียให้หมอบอมเลยค่ะ นิสัยแบบนี้ใครจะทนไหว 555 ความยากอีกอย่างก็คือพอเป็นเล่มต่อแล้วเรากดดัน กลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่าเล่มวัน(ห)วาน กลัวความคาดหวังของคนอ่าน กลัวมันจะไม่สนุกแล้วเขาผิดหวัง เสียดายตัง ตอนส่งต้นฉบับให้ บก. อ่าน พี่ บก. ยังเมนต์มาว่ารู้สึกได้ถึงความเกร็งนิด ๆ เลยเอามาเกลาใหม่ ใส่ความมั่นใจแบบฉบับเนเน่จังลงไป คิดอยู่แค่ไม่ปังก็แป้ก แป้กก็ช่าง เขียนใหม่สิวะ กลัวอะไร ต้นทุนมีแค่ค่าไฟกับสมองและสองมือ ค่าไฟเราน่าจะจ่ายไหว 5555 แต่พอเริ่มลงรายตอนก็มีคอมเมนต์มาว่าชอบ รอซื้อ ก็ใจชื้นขึ้นมา แล้วพอขายก็มีรีวิวเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดี ก็เริ่มยิ้มออก ชื่นใจมากเลยค่ะ"

"สำหรับพี่ฉากที่ทำให้นักอ่านประทับใจ ต้องฉากบอกรักที่ไม่ต้องมีคำว่ารักค่ะ เขียนอย่างไรให้คนอิน ให้คนอ่านแล้วรู้สึกได้ว่าเขารักกันจริง ๆ โดยไม่ต้องมีคำพูด ฉากที่เขาดูแลกันและกันทั้งทางกายและทางใจ ราต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ทัชใจคนอ่าน ให้เขารู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วม ทำให้เขารักพระเอกนางเอกของเรา แล้วความประทับใจมันจะตามมา เมื่อตัวละครมีความสุขเขาก็จะรู้สึกไปกับตัวละคร"

สำหรับน้องๆ ที่กำลังเริ่มต้นเส้นทางนักเขียน...

เขียนให้จบค่ะ งานที่ดีคืองานที่เขียนจบ ขายได้ไม่ได้ช่างมันก่อน เรื่องแรก ๆ ของพี่ก็ขายไม่ได้ค่ะ ลงมือเขียนไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางแวะเก็บเกี่ยววัตถุดิบไปด้วย อ่านเยอะ ๆ อ่านให้เยอะมาก ๆ อ่านให้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องอ่านเฉพาะแนวที่เราจะเขียน ได้ทั้งประสบการณ์ เพิ่มคลังคำ เพิ่มทักษะในการบรรยายความรู้สึก พอถึงจุดที่เรามีสกิลแพรวพราว เราก็จะเลือกมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ประสบการณ์เกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน ความสำเร็จไม่มีทางลัดค่ะ พยายาม พยายาม และพยายาม

ส่วนแฟนๆ ที่ติดตามผลงาน ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะที่ติดตามผลงานกันมา เด็กดีคือเวทีแรกของเนเน่จังเลย อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก หวังว่าจะได้รับความเอ็นดูไปเรื่อย ๆ จะพยายามตั้งใจทำงานให้มากขึ้นทุกวัน สัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ขอให้เราเติบโตไปด้วยกันนะคะ ^^

 

เป็นการสัมภาษณ์ที่คุยไปก็เขินไปเหมือนกัน  เจอกันครั้งแรกผ่านกระทู้เด็กดี เสร็จแล้วแฟนก็เอาอีเมลมาแอด MSN  จีบ  ตกลงคบ และรักกันมาถึงปัจจุบัน โอ้โห  ฟังแล้วเป็นพล็อตนิยายรักได้เลย ฮา เอาจริงๆ สำหรับเนเน่จังถือเป็นนักเขียนที่อยู่คู่เด็กดีมานานเหมือนกันนะคะ แม้ว่าเธอจะเพิ่งเริ่มต้นเขียนเมื่อปีที่แล้ว แต่เด็กดีก็อยู่กับเธอมาเกือบทุกช่วงเวลาของชีวิตเลย  ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน เรื่องความรัก รวมถึงอาชีพ  ทุกอย่างก็เริ่มต้นมาจากเด็กดีเช่นกัน  เรียกว่าเข้าใช้งานฟังก์ชันของเด็กดีได้ครบถ้วน และเกิดประโยชน์สูงสุดจริงๆ  

แล้วทุกคนล่ะ ตอนนี้ลองใช้ฟังก์ชั่นของเด็กดีครบถ้วนแล้วหรือยัง สำหรับนักเขียนที่กำลังขาดไอเดีย นอกจากการอ่านนิยายเยอะๆ แล้ว ก็แนะนำให้ไปลองส่องกระทู้ในหลายๆ หมวดกันดูได้นะคะ  เผื่อได้ไอเดียมาต่อยอดให้งานของตัวเองดูน่าสนใจมากขึ้นก็ได้นะ ว่าไหม

 มาเขียนนิยายกัน

ติดตามผลงานของ Nenechan ได้ที่

พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด