พบปะพูดคุยวันนี้

  • แชร์ประสบการณ์จากนักเขียนที่เคยทำงานเป็นไกด์ บาร์เทนเดอร์ และพนักงานต้อนรับ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19
  • คุณก้อย อดีตมัคคุเทศก์จีน ที่เอาประสบการณ์ตอนเป็นไกด์มาแต่งนิยาย  ผู้เขียนเรื่อง  จินเหม่ย ย้อนกลับมาเป็นคุณอาในยุค70’s 
  • คุณบอม อดีตบาร์เทนเดอร์ ที่แต่งนิยายเป็นงานอดิเรกอยู่ดีๆ การเขียนนิยายก็กลายเป็นอาชีพหลักของเขา เจ้าของนิยายสุดฮิตเรื่อง  เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี
  • คุณทราย อดีตพนักงานต้อนรับ ที่ใช้ช่วงว่างงานแต่งนิยายนานถึงสามปี กว่าจะประสบความสำเร็จจนครอบครัวภูมิใจและยอมรับในสิ่งที่เธอตั้งใจทำ ผู้แต่งนิยายเรื่อง ทะลุไปในโลกนิยายพร้อมระบบเกมทำสวน  

 

อยากเป็นนักเขียน… เริ่มต้นง่ายๆ แค่ลงมือเขียนก็จริง แต่ถ้าปราศจากสิ่งที่นักเขียนมือใหม่ควรมี เส้นทางการเขียนนิยายก็อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด!!!

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้พูดคุยกับนักเขียนมือใหม่ที่มาแต่งนิยายเพราะโควิด -19 หลากหลายอาชีพมากๆ หลายคนไม่เคยเขียนนิยายมาก่อน แต่กลับลงมือแต่งนิยายได้เป็นเรื่องเป็นราว แถมยังแต่งนิยายจนติดท็อป ขายดิบขายดีจนกลายเป็นช่องทางสร้างรายได้อย่างไม่คาดคิด 

ทว่ามีคนที่ประสบความสำเร็จแล้วย่อมต้องมีคนที่ยังไม่ถึงฝั่งฝัน วันนี้เราเลยชวนนักเขียนเด็กดี 3 คน ที่เคยทำงานเป็นไกด์ บาร์เทนเดอร์ และพนักงานต้อนรับ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 มาบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเขียนตั้งแต่เริ่มต้นเขียนนิยาย จนมีรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิดกัน

เชื่อว่าเรื่องราวจากอดีตไกด์ บาร์เทนเดอร์ และพนักงานต้อนรับ จะเป็นประสบการณ์ดีๆ ให้นักเขียนทุกคนมีกำลังใจในการเขียนนิยาย และกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จคนต่อไปได้ ด้วยสิ่งที่นักเขียนเหล่านี้ มีเหมือนกัน! 

  • ชอบอ่านนิยายมากกก
  • มีจินตนาการ หยิบเรื่องใกล้ตัวมาเขียนได้
  • ขยัน อดทน และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง!!! 

ถ้าใครสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ได้อย่างไร มาตามดูประสบการณ์ตรงจาก 3 นักเขียนเด็กดีที่นำมาแชร์ในวันนี้เลย

1. คุณก้อย อดีตมัคคุเทศก์จีนที่เอาประสบการณ์ตอนเป็นไกด์มาแต่งนิยาย!

คุณก้อย หรือ chiratthan ผู้แต่งนิยายเรื่อง จินเหม่ย ย้อนกลับมาเป็นคุณอาในยุค 70’s เธอเป็นไกด์นำเที่ยวชาวจีนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดร้อยเปอร์เซนต์ ช่วงที่เกิดโควิดช่วงแรกๆ เธอคิดว่าเหตุการณ์คงเกิดขึ้นไม่นาน แต่ไปๆ มาๆ กลับต้องว่างงานนานถึง 3 ปี ในช่วงแรกที่หยุดงานเธอเลยไม่ได้มองหางานอื่น และใช้เวลาว่างที่มีอยู่นั้นอ่านนิยายเพียงอย่างเดียว 

“ก่อนหน้านี้เป็นมัคคุเทศก์ค่ะ เราทำทัวร์จีน ผลกระทบจากโควิดร้อยเปอร์เซนต์เลยค่ะ ต้องหยุดงานเลย จากที่เคยหิ้วกระเป๋าเหมือนเอเอฟออกไปจากบ้าน พาลูกทัวร์เที่ยว พอมีโควิดปุ๊ป รถทัวร์เอย คนขับเอย เราเอย ทุกอย่างหยุดนิ่งหมดเลยค่ะ แล้วตอนทำทัวร์เราไม่ค่อยได้นอนยาว ช่วงแรกเราเลยอยากนอนมาก แต่ไปๆ มาๆ คือนอนนานเกินไป สองปีแล้ว ก็ยังขี้เกียจอยู่ ไม่คิดที่จะทำอะไรเลย นอนอ่านนิยายอย่างเดียว

จากที่นอนอ่านนิยายมานาน คุณก้อย เล่าว่า เธอตามอ่านนิยายแนวที่ชอบมาจนหมดแล้ว เลยเกิดปิ๊งไอเดียอยากเขียนนิยายของตัวเองขึ้นมาบ้าง แม้ว่านิยายเรื่องแรกจะให้ความรู้สึกเหมือนเรียงความไปสักหน่อย แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เธออยากลองแต่งนิยายเรื่องต่อมา 

“ตอนนั้นเรารู้สึกอยากจะเขียนก็เขียนเลย ไม่ได้ปรึกษาใครเลย เว้นช่องก็ไม่เป็น เขียนเหมือนเรียงความเลย สามย่อหน้ากระดาษ นักอ่านก็มาคอมเมนต์ เขียนอะไร ไม่มีเว้นช่องเว้นบรรทัดเลย ตอนนั้นเราทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย ก็คืออยากลอง แล้วก็ไปลองดู” 

คุณก้อยเอาประสบการณ์ใกล้ตัวมาแต่งนิยายเรื่อง จินเหม่ย ย้อนกลับมาเป็นคุณอาในยุค70’s 
คุณก้อยเอาประสบการณ์ใกล้ตัวมาแต่งนิยายเรื่อง จินเหม่ย ย้อนกลับมาเป็นคุณอาในยุค70’s  

ทว่านิยายเรื่องแรกคุณก้อยไม่ได้วางพล็อตเอาไว้ พอเขียนไปเรื่อยๆ ก็เกิดอาการตันไปต่อไม่ได้ เธอเลยหยุดเขียนนิยายเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วลองแต่งนิยายเรื่องใหม่ดูอีกสักเรื่อง คราวนี้เธอตั้งใจคิดตั้งใจวางแผนมากกว่าเรื่องแรก เพราะอยากแต่งนิยายออกมาให้จบ เธอเลยเลือกใช้ประสบการณ์ใกล้ตัวที่เธอคุ้นเคย และรู้จักดี นำมาเขียนเป็นนิยายเรื่อง จินเหม่ย ย้อนกลับมาเป็นคุณอาในยุค70’s 

“เรื่องที่สองเป็นนิยายไทย แต่ไปดำเนินเรื่องที่จีนในยุค 70 เราได้ใช้สิ่งที่เรารู้เยอะมาก เพราะว่าวัฒนธรรมจีนจะไม่เหมือนของไทย ความคิดลูกผู้หญิง ลูกผู้ชาย การหาเงิน การกิน การอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่าง เราเอาประสบการณ์ที่เราเคยทำงานกับคนจีนมาเขียนเยอะมาก ภาษาก็ด้วย” 

พอได้เขียนในเรื่องที่เธอรู้จักเป็นอย่างดีก็ทำให้เธอแต่งนิยายลื่นไหล และถูกใจนักอ่านมากขึ้น ทำให้มีแฟนๆ นักอ่านหลายคนอยากอ่านนิยายของเธอเพิ่มขึ้น จนคอมเมนต์ขอให้เธอลองเปิดขายตอนอ่านล่วงหน้าดู คุณก้อยเลยตัดสินใจลองขายนิยายออนไลน์ และผลลัพธ์ก็เกินกว่าที่คาดไว้มาก เพราะมันทำให้เธอมีรายได้ในรอบสามปีที่ผ่านมาเลย

“แฟนนักอ่านเขาบอกให้เราติดเหรียญ คอมเมนต์มาเลยว่าเงินในกระเป๋านี่สั่นดิ๊กๆๆ ลงมาเลยค่ะ พร้อมเปย์ วันละสิบตอนยี่สิบตอนมาเลย เราไม่คิดว่าจะมีคนซื้อนะ พอลองเปิดขายดู ไม่คิดว่าจะมีคนซื้ออ่านนิยายที่เราเพิ่งจะแต่งจริงๆ แล้วเราก็ไม่คิดว่าจะได้เงินจริงๆ จนวันที่ 11 จำได้ว่าเงินเข้าบัญชี เรากรี้ดลั่นเลย ได้จริงๆ เหรอ แค่การเขียนนิยาย ทำไมถึงได้เงิน ตอนนั้นเรามีเงินเข้าในรอบสองปีสามปีเลยค่ะ

คุณก้อยเล่าว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอใช้เงินเก็บของตัวเองในการใช้จ่ายชีวิตประจำวันมาตลอด โชคดีที่เธอเป็นคนประหยัด เงินเก็บตั้งแต่ก่อนอายุย่างเข้าวัย 40 ปีจึงพอใช้จ่ายในช่วงโควิดอยู่บ้าง เมื่อได้เงินก้อนแรกจากการขายนิยายออนไลน์ เธอจึงไม่ได้คิดนำมาใช้เลยทันที คิดจะเก็บสะสมไปเรื่อยๆ ไว้ใช้จ่ายในอนาคตต่อไป 

ผลงานนิยายของคุณก้อย
ผลงานนิยายของคุณก้อย

นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นเพียงนักเขียนมือใหม่ สิ่งที่หวังตอนนี้คือการเขียนนิยายให้จบ และมีไฟเขียนเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เธอเชื่อว่าการเขียนนิยายไม่มีผิดไม่มีถูก ถ้าหากใครอยากลองเขียนนิยาย ก็เริ่มลงมือทำได้เลย

“เราก็อายุปานนี้แล้วมาเขียนนิยาย ใครจะคิดว่าจะมีคนมาอ่าน มีคนมาซื้อนิยายเราอ่านด้วย แค่นี้ก็เหลือเชื่อเกินไปสำหรับเราแล้วนะ ถ้าใครอยากเขียนอะไร อยากทำอะไรก็ลองดูค่ะ ไม่ลองเราก็ไม่รู้ ถ้าลองแล้วประสบความสำเร็จมันก็ดี แต่ถ้าลองแล้วไม่มีคนอ่านเราก็ไม่เสียอะไรอยู่แล้ว ก็แค่ลองนะคะ ไม่มีอะไรจะเสีย อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตคุณก็ได้ลอง ถ้ามีคนมาอ่านคนหนึ่งก็กำไรแล้วค่ะ”

อ่านนิยายของ chiratthan 

จากเรื่องราวของคุณก้อย ไกด์สาวที่เอาเรื่องใกล้ตัวมาเขียนนิยายจนสร้างรายได้ให้เธออย่างไม่คาดคิด เรามาตามดูเรื่องราวของชายหนุ่มที่แต่งนิยายเป็นงานอดิเรกอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นอาชีพหลักของเขากันต่อเลยค่ะ 

2. คุณบอม อดีตบาร์เทนเดอร์ผู้เปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นอาชีพหลัก!

คุณบอม หรือ สองดาวจุด นามปากกาที่นักอ่านสายแฟนตาซีน่าจะรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผู้เขียนนิยายแฟนตาซีสุดฮิตในตำนานเรื่อง เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี คือ อดีตบาร์เทนเดอร์ที่เข้าสู่เส้นทางนักเขียนตั้งแต่ปี 2561 เขาเริ่มแต่งนิยายออนไลน์ได้ประมาณหนึ่งปี และตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาแต่งนิยายเต็มตัว ก่อนจะเกิดเหตุการณ์วิกฤติโควิด -19 ที่กระทบกับอาชีพเดิมเข้าอย่างจัง 

“ผมออกจากงานเมื่อสามปีที่แล้วครับ ก่อนมีโควิดประมาณครึ่งปี ตอนนั้นผมเขียนนิยายมาประมาณปีหนึ่งแล้วก็ตัดสินใจออกจากงาน เพราะเห็นว่ารายได้ทางนิยายก็โอเคครับ อยู่ได้ แล้วผมก็มีงานอื่นๆ ด้วย ถือว่าผมโชคดีมากครับ แต่ถ้าอ้างอิงจากเพื่อนๆ โควิดกระทบมากครับ คือไม่มีงานเลย เพื่อนๆ พี่ๆ หลายๆ คนที่ทำงานสายงานเดียวกัน ทุกคนตกงานกันหมดครับ ต่อให้เรามีประสบการณ์เท่าไหร่ก็ไปสมัครที่ไหนไม่ได้ เพราะว่าที่อื่นก็แย่เหมือนกันหมด”

คุณบอม เล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามาแต่งนิยายว่า สมัยทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ เขาต้องเลิกงานประมาณตีสองทุกวัน คิดว่าหากกลับบ้านไปนอนเลยอาจส่งผลเสียต่อร่างกายและทำให้ง่วงในช่วงเวลางานได้ เลยตัดสินใจอ่านนิยายเป็นงานอดิเรกหลังเลิกงานแล้วนอนในช่วงเช้าแทน กระทั่งอ่านนิยายที่ติดตามจนหมดแล้ว บวกกับช่วงนั้นมีไอเดียอยู่ในหัวพอดี คุณบอมเลยใช้เวลาหลังเลิกงานมาเขียนนิยายเก็บไว้ แล้วตัดสินใจอัปนิยายลงบนเว็บเด็กดี 

“เรื่องแรกเป็นเรื่อง เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี ครับ ก็อาศัยความรู้รอบตัวตอนเด็กๆ ที่เราเคยเห็นเคยพบมาลองเขียนดู เราเขียนหลังเลิกงานครับ เนื้อหาที่เราเอามาเขียนนิยายส่วนใหญ่เราจะคิดเก็บไว้ ระหว่างทำงานเราก็คิดว่าตอนนี้ต้องเขียนอะไรบ้าง เรียบเรียงเนื้อหาไว้ครับ พอกลับบ้านมานั่งหน้าคอม เราก็เขียนเนื้อหาที่เราคิดไว้ใส่ลงไป ทำให้เร็วขึ้นครับ ไม่เสียเวลาในการเขียนด้วยครับ”

เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี นิยายเรื่องแรกของคุณบอมที่ได้รับฟีดแบ็กดีเกินคาด
เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี นิยายเรื่องแรกของคุณบอมที่ได้รับฟีดแบ็กดีเกินคาด

คุณบอม เล่าว่า ตอนนั้นเขาแต่งนิยายเรื่องแรกได้ประมาณครึ่งเรื่อง ก็ตัดสินใจลองขายนิยายออนไลน์ดู เขาคิดว่านิยายของตัวเองน่าจะขายได้ เพราะอ่านเองแล้วสนุก คนอื่นก็น่าจะสนุกด้วยเหมือนกัน หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้ 5 ปีแล้วที่งานอดิเรกอย่างการแต่งนิยายสร้างรายได้ให้เขามากกว่างานประจำจนทำให้เขาตัดสินใจลาออกในที่สุด

“ตอนนั้นตกใจมากครับ ไม่นึกว่างานอดิเรกของเราจะหาเงินได้เยอะขนาดนี้ รายได้ตรงนี้มันพอๆ กับเงินเดือนเราเลยนะ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงตกใจมากกว่าครับ กว่าจะตัดสินใจออกมาเป็นนักเขียนเต็มตัว ก็เป็นปีอยู่เหมือนกันครับ” 

“เรื่องรายได้จากการการเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกก็ส่วนหนึ่งนะครับ แล้วเราก็มีหลายๆ ปัจจัย คือ ตอนทำงานประจำเราไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย เราไม่เจอแม่เลยทั้งสัปดาห์ เราใช้ชีวิตตอนกลางคืน แม่ใช้ชีวิตตอนกลางวัน แม่เราทำงาน ส่วนตัวเรานอน มันคนละเวลากันครับ รู้สึกไม่มีความสุขครับ ทำให้เราตัดสินใจออกมาเป็นนักเขียนเต็มตัว” 

ตอนนี้คุณบอมแต่งนิยายเข้าปีที่ 5 แล้ว นิยายที่เขาแต่งแต่ละเรื่องฮิตจนติดท็อปมาแล้วทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สุดยอดพ่อบ้าน HERO กู้โลก’ ‘Ghost & Doctor ผีวุ่นวายกับนายแพทย์อ่อนหัด’ ‘ศึกชิงจ้าวยุทธออนไลน์’ และนิยายเรื่องล่าสุดที่กำลังติดท็อปอยู่ในตอนนี้ ‘ฮัวเหมย สุดยอดตำนานเจ้าเมืองหญิง’ ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่เขาอยากลองท้าทายตัวเองด้วยการเปลี่ยนจากแนวแฟนตาซีมาลองแต่งแนวจีนโบราณดูบ้าง 

“เรื่องล่าสุดเพิ่งจะลองเขียนแนวจีนโบราณจีนย้อนยุคดูครับ เราอ่านมาเยอะ แล้วมันน่าสนใจดีครับ ช่วงนี้ติดเขียนตัวละครหญิงด้วยก็เลยอยากลองดู ก็ค่อนข้างกดดันนะครับ เพราะว่าเป็นแนวกระแสคนแต่งเยอะมาก แล้วแต่ละเรื่องก็ดีๆ ทั้งนั้นเลย เราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ฟีดแบคโอเคเลยครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะเขียนได้” 

ฮัวเหมย สุดยอดตำนานเจ้าเมืองหญิง นิยายเรื่องล่าสุดที่คุณบอมกำลังแต่งอยู่
ฮัวเหมย สุดยอดตำนานเจ้าเมืองหญิง นิยายเรื่องล่าสุดที่คุณบอมกำลังแต่งอยู่

เมื่อถามถึงมุมมองที่มีต่ออาชีพนักเขียน คุณบอมเล่าว่า เมื่อก่อนนักเขียนทุกคนจะมุ่งเน้นแต่งนิยายให้สำนักพิมพ์สนใจ แต่สมัยนี้มีช่องทางที่เปิดโอกาสให้นักเขียนทุกคนมีโอกาสสร้างรายได้จากงานอดิเรกของตัวเองแล้ว ทั้งนี้จากประสบการณ์ส่วนตัว คุณบอมบอกว่า 

“ในสมัยนี้ควรจะมีอาชีพเสริมครับ อย่างแม่ของผมทำงานออฟฟิศก็จะมีขายของออนไลน์ไปด้วยเหมือนกัน การเป็นนักเขียนไม่ได้ไส้แห้งครับ ถ้านิยายเราพอขายได้ มันก็อยู่ที่ความขยันครับ ถ้าเราขยันเราก็ได้เงินเยอะ เยอะกว่างานประจำอีกครับ”

แม้ว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนของบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนี้ จะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์วิกฤติโควิด -19 แต่เรื่องราวระหว่างทางของเขาก็ช่วยพิสูจน์ให้เราเห็นกันแล้วว่า การเขียนนิยายออนไลน์สามารถเป็นได้ทั้งงานอดิเรกและงานหลักของเราได้ แม้ว่าเราจะไม่เคยเขียนนิยายมาก่อน แต่ถ้าเราชอบอ่านนิยาย มีไอเดียที่อยากทำ และไม่ทิ้งการแต่งนิยายไปไหน สามารถแต่งนิยายจนจบเรื่องเหมือนที่คุณบอมลงมือทำตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมาได้ เชื่อว่าความพยายามของทุกคนต้องประสบความสำเร็จในวันใดวันหนึ่งได้แน่นอน 

อ่านนิยายของ สองดาวจุด

และหากใครคิดว่าตอนนี้มีเพียงเราที่ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่คนเดียวหรือเปล่า ขอชวนมาทำความรู้จักกับนักเขียนสาวคนต่อไปนี้ที่ใช้เวลาแต่งนิยายนานถึงสามปี กว่าจะประสบความสำเร็จจนครอบครัวภูมิใจและยอมรับในสิ่งที่เธอตั้งใจทำกันค่ะ

3. คุณทราย อดีตพนักงานต้อนรับที่ว่างงานจนมาแต่งนิยายเป็นอาชีพ!

คุณทราย ผู้ใช้นามปากกา ภัทรธิชา เจ้าของนิยายเรื่อง ทะลุไปในโลกนิยายพร้อมระบบเกมทำสวน เธอเป็นอดีตพนักงานต้อนรับที่ว่างงานในช่วงวิกฤติโควิด -19 พอดิบพอดี ช่วงนั้นเธอลาออกจากงานเพื่อไปผ่าตัด ระหว่างนั้นเธอไม่สามารถขยับร่างกายได้มากจึงใช้เวลาว่างส่วนใหญ่มาอ่านนิยายคลายเครียด และเกิดปิ๊งไอเดียอยากแต่งนิยายของตัวเองขึ้นมา บวกกับช่วงนั้นมีโควิด เธอจึงคิดว่าถ้าแต่งนิยายเสร็จจะลองเปิดขายนิยายออนไลน์ดูบ้าง เรื่องราวของเธอถือเป็นก้าวแรกที่เริ่มต้นเหมือนกับนักเขียนอีกหลายๆ คน

ทว่าเส้นทางนักเขียนของคุณทรายไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เธอเริ่มต้นเขียนนิยายจากการเป็นนักอ่านมาก่อน คิดว่าเขียนแนวที่ชอบน่าจะทำออกมาได้ดี เธอเลยเลือกเขียนนิยายแนวสืบสวนระทึกขวัญที่ชอบ และตัดสินใจลองขายดู

ตอนนั้นเราเขียนไปเลย เขียนดีไม่ดีไม่รู้ แต่เขียนไปก่อน ทีนี้เราก็ลองอัปในเด็กดีนี่แหละว่างานเขียนของเราเป็นยังไงบ้าง คนอ่านก็บอกว่ามันสนุกดีนะ ตอนนั้นแฟนคลับของเราก็ยังไม่มีเลย ก็ลองไปขายดู มันก็ได้มานิดหน่อย แต่ก็ดีใจนะ มันขายได้จริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้เลย แต่ว่าก็ไม่ได้เยอะขนาดจะเลี้ยงดูตัวเองได้นานขนาดนั้น เราก็มีค่าใช้จ่ายทุกวัน เงินเก็บของเราก็ลดลงเรื่อยๆ”

คุณทรายเริ่มแต่งนิยายจากแนวสืบสวนระทึกขวัญตามความชอบ
คุณทรายเริ่มแต่งนิยายจากแนวสืบสวนระทึกขวัญตามความชอบ

คุณทราย เล่าว่า ช่วงโควิดทำให้เธอเข้าใจโลกมากขึ้นว่าทุกอาชีพไม่มีความมั่นคง อย่างจังหวัดภูเก็ตที่เธออาศัยอยู่ คนส่วนใหญ่ทำอาชีพบริการ พอเจอสถานการณ์โควิดที่ยาวนานมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้เธอเข้าใจว่าทุกอาชีพต้องมีการปรับตัว ถ้าเราอยากจะเป็นนักเขียน นอกจากต้องฝึกฝนให้ดีแล้ว ต้องเข้าใจการตลาดด้วย จึงจะอยู่รอดในสายอาชีพนี้ได้

“เหมือนเราก็ลำบากเรื่อยๆ เราก็อยากเขียนแนวให้มันตรงกระแสคนหน่อย เราพูดถึงในมุมมองของตลาดนะ ถ้าเราเขียนแล้วอยากได้เงินด้วย เราก็ต้องยอมรับนะว่ากระแสตอนนี้เป็นยังไง พูดตรงๆ ว่าเราหาข้อมูลมากขึ้นนะ อย่างเด็กดีจะมีสรุปประจำปีให้ใช่ไหมว่าปีนี้คนอ่านประเภทไหน แนวไหนบ้าง ในอนาคตแนวนี้มันอาจจะแย่ลงก็ได้ แต่เราต้องโฟกัสว่าเราเขียนเรื่องนี้ตอนนี้ไปแล้ว และเราก็ต้องทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนสนใจเรื่อยๆ” 

หลังจากที่คุณทรายตัดสินใจว่าจะลองเขียนนิยายแนวใหม่ดูบ้าง เธอก็เริ่มต้นศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง และพยายามฝึกฝนตัวเองทุกวัน ด้วยการอัปนิยายติดต่อกันทุกวันนานถึง 4 เดือน 

เราอยากทำงานที่มันสร้างรายได้ได้จริงๆ ใช่ไหมคะ เราก็ฝึกฝนทุกวัน สร้างความมั่นใจให้ตัวเราไปเรื่อยๆ พอเรารู้ว่าเราจะทำยังไงให้คนเห็นนิยายเรามากขึ้น เราก็เริ่มลงมือทำ เพียงแต่ว่ามันต้องขยันอ่ะ เราลงทุกวัน นี่ลงมาสี่เดือนแล้วนะ เขียนทุกวันยังไม่ได้หยุด เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด แต่คิดว่าถ้าเราขยันลงทุกวัน คนน่าจะเห็นแล้วน่าจะชอบด้วย พอบวกทั้งความชอบ ทั้งแนวนิยาย มันก็เลยไปด้วยกันได้”

นิยายเรื่อง ทะลุไปในโลกนิยายพร้อมระบบเกมทำสวน เป็นนิยายที่คุณทรายกำลังแต่งอยู่ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก
นิยายเรื่อง ทะลุไปในโลกนิยายพร้อมระบบเกมทำสวน เป็นนิยายที่คุณทรายกำลังแต่งอยู่ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก

นิยายเรื่อง ทะลุไปในโลกนิยายพร้อมระบบเกมทำสวน เป็นนิยายเรื่องล่าสุดที่คุณทรายทุ่มเทแรงกายแรงใจเขียนมากๆ และผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่ากับความพยายามของเธอจริงๆ เพราะเธอมีรายได้จากการขายนิยายออนไลน์ และมีแฟนนิยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามที่คาดหวัง

“ก่อนสิ้นปีหนึ่งอาทิตย์เราลงขายนิยายเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกนะที่เราลองลงอ่านตอนล่วงหน้า ได้มาเกือบสองพันบาท ผลตอบรับในช่วงอาทิตย์นั้นคือดีมาก มกราคมเราก็เห็นทั้งรายได้ทั้งแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอมาเดือนกุมภาพันธ์มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พ่อก็บอกว่าสามปีที่ผ่านมามันคืนทุนหมดแล้วนะลูก

คุณทราย เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมาระหว่างที่เธอว่างงานและใช้เวลาว่างแต่งนิยาย เธอรบกวนคุณพ่อมาเยอะมาก กว่าเธอจะแต่งนิยายจนมีรายได้ที่สามารถนำมาใช้จ่ายเพื่อตัวเองและครอบครัวได้ ก็ใช้เวลานานหลายปีเหมือนกัน ในวันนี้เธอจึงรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากจริงๆ 

“ช่วงโควิดงานที่เราได้ไปเยอะมากคืองานศพ แต่งานศพของญาติเราจะเหมือนงานรวมญาติ ที่ชอบถามว่า ลูกหลานเป็นยังไงบ้าง ทำงานอะไรกัน เราก็ตอบด้วยความภูมิใจนะว่าเราเป็นนักเขียน แม้ว่าเราจะไม่ได้ดังมาก แต่เรามั่นใจและภูมิใจในสิ่งที่เราทำจริงๆ

อ่านนิยายของ ภัทรธิชา

เรื่องราวจากอดีตไกด์ บาร์เทนเดอร์ และพนักงานต้อนรับ  ที่นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจดีๆ ที่เราอยากนำมาแชร์มากๆ เพราะกว่าพวกเขาจะเริ่มต้นเขียนนิยาย และประสบความสำเร็จจนมีรายได้จากงานเขียนได้ พวกเขาเหล่านี้ก็ต้องอาศัยจินตนาการจากเรื่องใกล้ตัว ต้องคอยเติมไฟเพื่อแต่งนิยาย ต้องอาศัยความขยันและความอดทนไม่น้อยไปกว่าใคร  กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคระหว่างทางจนมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ

นี่จึงเป็นอีกบทพิสูจน์บนเส้นทางนักเขียนที่เราอยากนำมาแชร์เป็นเรื่องราวดีๆ ถึงนักเขียนทุกคนที่กำลังพยายามบนเส้นทางแห่งนี้อยู่ เพราะเราหวังว่าทุกคนจะไม่ยอมแพ้ และก้าวเดินต่อไปจนกว่าจะถึงฝั่งฝันที่เราตั้งใจไว้กันนะคะ ^^

เริ่มต้นเขียนนิยาย

พี่แนนนี่เพน

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น