เมื่อลูกก็ต้องเลี้ยง นิยายก็ต้องแต่ง
“816” ทำยังไงให้มีรายได้ 5 หลักต่อเดือน!?
(+แชร์ทริคนักเขียน)
เมื่อมนุษย์แม่มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง แต่ลูกก็ต้องเลี้ยง นิยายก็ต้องแต่ง แล้ว “816” ทำยังไงให้มีรายได้ถึง 5 หลักต่อเดือนกัน!?
สองปีก่อน เราเคยชวน วีนัส หรือนักเขียนนามปากกา 816 ผู้เขียนนิยายแนววายเรื่อง Idol all rounder #เจแคนทำอะไรไม่ได้บ้าง, ซุป'ตาร์บ้านนา และวันสิ้นโลกของผม มาพูดคุยกันถึงความเป็นมาบนเส้นทางนักเขียน แล้วเราก็ได้รู้ว่าเธอเป็นเด็กติดนิยายคนหนึ่งที่หลงใหลในการอ่านมากๆ พอเรียนจบก็ไปทำงานเป็นบรรณารักษ์ และใช้เวลาว่างมาแต่งนิยายออนไลน์เป็นงานอดิเรกจนปัง ทั้งยังมีรายได้เสริมจากนิยายเรื่องแรกถึง 5 หลักต่อเดือน! (อ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติม ‘816’ : จากเด็กติดนิยาย สู่นักเขียนติดท็อปตั้งแต่เรื่องแรก!)
ผ่านมาสองปี จากเด็กติดนิยายก็ได้พลิกบทบาทมาเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ ใช้เวลาเลี้ยงลูกไปด้วย แต่งนิยายไปด้วย จนตอนนี้การเขียนนิยายกลายเป็นอาชีพหลักของเธอไปแล้ว แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงลูก แต่เธอก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะแต่งนิยายออนไลน์เพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย และเธอก็ทำสำเร็จ มีรายได้จากการขายนิยายออนไลน์ถึง 5 หลักต่อเดือน!
ในบทความนี้ วีนัส มนุษย์แม่ผู้มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง ได้มาแชร์ประสบการณ์ดีๆ บนเส้นทางนักเขียนตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากเขียนเป็นงานอดิเรก สู่อาชีพเสริม จนกลายเป็นงานประจำ ซ้ำยังรักษามาตรฐานรายได้ได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย วันนี้เธอมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ รวมถึงเคล็ด(ไม่)ลับ ให้ชาวเด็กดีได้ลองเอาไปใช้กันด้วย เชื่อว่าทุกคนจะต้องได้แรงบันดาลใจดีๆ กลับไปแน่นอน!
จากเด็กติดนิยาย
พลิกบทเป็นคุณแม่ฟูลไทม์
สวัสดีค่ะ สวัสดีนักอ่านชาวเด็กดีทุกท่านนะคะ นักเขียนนามปากกา 816 ค่ะ ตอนนี้กำลังเขียนเรื่อง Idol all rounder #เจแคนทำอะไรไม่ได้บ้าง อยู่ค่ะ ตอนนี้เราเขียนนิยายมาน่าจะ 3 ปีแล้วค่ะ มีนิยายทั้งหมด 4 เรื่อง มี 2 เรื่องที่จบไปแล้ว คือ เรื่อง ซุป'ตาร์บ้านนา กับ วันสิ้นโลกของผม อีกหนึ่งเรื่องกำลังแต่งอยู่ และอีกเรื่องอยู่ในกระบวนการดองชั่วคราว แต่จะกลับไปแต่งต่อแน่นอนค่ะ (หัวเราะ)
ช่วงนี้นอกจากเป็นนักเขียนแล้วเราก็เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ด้วยค่ะ ไม่ได้ทำงานบรรณารักษ์แล้วค่ะ ออกมาเป็นคุณแม่เต็มตัวเลย ไม่ได้ทำงานประจำอะไรแล้ว ก็เขียนนิยายไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย ถามว่าเหนื่อยไหม.. ก็เหนื่อยค่ะ เอาเรื่องเลย ตัวแสบก็แสบพอสมควร เราต้องรอเวลาให้ลูกนอน หรือเขาสนใจอย่างอื่นก่อน เราถึงจะใช้เวลาแต่งนิยายในตอนนั้นได้
ส่วนตอนนี้ถือว่าเขียนนิยายเป็นอาชีพแล้วค่ะ ที่บ้านกับครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกแค่ว่าถ้าทำเลี้ยงตัวเองได้ก็ทำไป ไม่เป็นภาระสังคมก็พอแล้ว
ยังคงคอนเซปต์แต่งนิยายวาย
เขียนเรื่องที่ชอบและรู้จักดีที่สุด
ส่วนตัวเรามองว่า เสน่ห์ของนิยายวายน่าจะเป็นเรื่องของความรักที่ไม่แบ่งเพศค่ะ แต่ในอนาคตก็อยากจะลองเขียนนิยายแนวอื่นดูบ้าง ตอนนี้จริง ๆ ก็มีในคอมพิวเตอร์ที่แต่งไว้แต่ไม่ได้นำออกมาให้อ่าน เพราะเรายังรู้สึกว่ามันไม่โอเค แล้วเราก็คิดว่ากระแสนิยายวายยังไปได้อยู่ค่ะ ดูได้จากกระแสของซีรีส์ มีผู้จัดนำนิยายวายไปทำซีรีส์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีแค่ในรั้วโรงเรียนเหมือนอยางแต่ก่อน แต่มีทั้งแนวบริษัท ไสยศาสตร์ สืบสวน ฯลฯ คิดว่ากระแสยังดีอยู่ค่ะ
อย่างนิยายเรื่องล่าสุดที่เขียนอยู่ Idol all rounder #เจแคนทำอะไรไม่ได้บ้าง ก็ฟีดแบ็กดีเลยค่ะ ค่อนข้างดี ทั้งยอดวิว คอมเมนต์ แล้วก็รายได้ อ้อ มีของขวัญด้วย น่ารักมากเลย~ มีแท็กที่นักอ่านเข้าไปคุยหรือคอมเมนต์ด้วยค่ะ
เรื่องนี้ แรงบันดาลใจมาจากเซอร์ไววัลในชีวิตจริงค่ะ เพราะว่าเราก็เป็นแฟนคลับคนหนึ่งที่ติดตามไอดอลที่มาจากรายการเซอร์ไววัล ก็เลยอยากมีตัวละครที่มาจากรายการนี้บ้าง ก็เลยไปดึงเอาเจแคนที่อยู่ในเรื่อง ‘ซุปตาร์บ้านนา’ น้องเป็นลัคกี้แฟนของทวินเค แล้วก็มีความฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก็เลยดึงเขามาใช้ ไหน ๆ ก็เคยออกมาแล้ว แถมเคยเปรย ๆ กับนักอ่านไปแล้วด้วยว่าจะให้น้องเจแคนได้เดบิวต์ แต่ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปีกว่าน้องจะได้เดเลยค่ะ ถ้าให้สปอยล์นิดนึงก็… ที่วางไว้ก็คือหลังจบจากรายการก็จะไปต่อเรื่องของวงการบันเทิงกันเลยค่ะ แต่ยังไม่มีกำหนดการจบที่แน่นอน เพราะว่าเราวางไว้ให้นักอ่านได้โหวตตัวละครที่เขาชอบด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะด้นสดค่ะ
ตอนแรกมีพล็อตไว้ในหัว แต่อยู่ ๆ ก็อยากให้นักอ่านเขาลองโหวตตัวละครที่เขาชอบได้เดบิวต์ ก็เลยกลายเป็นว่าเราต้องสร้างเนื้อเรื่องให้อิงตามความนิยมของตัวละครนั้น ๆ ส่วนไอเดียก็มาจากคลิปรายการในอินเทอร์เน็ตแล้วก็เอามาปรับใช้กับนิยายในตอนนั้น ๆ ค่ะ
เคล็ด(ไม่)ลับ
ที่ทำมาตลอดสามปีคือ…
การเขียนนิยายให้จบก็ถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งนะคะ ที่ทำให้เรารักษานักอ่านทั้งหน้าใหม่หรือหน้าเก่าให้อยู่กับเราได้ตลอด เพราะว่าเขาจะมั่นใจว่าถ้าเป็นเราเขียนมันจะต้องจบ ตัวละครที่เขาชอบจะต้องดำเนินไปถึงฉากสุดท้ายได้อย่างแน่นอน ก็เลยพยายามเขียนให้จบทีละเรื่อง อย่างเรื่องแรก ซุป'ตาร์บ้านนา ก็ใช้เวลาประมาณครึ่งปีค่ะ ส่วนวันสิ้นโลกของผมอยู่ราว ๆ ปีกว่า พอดีกับช่วงตั้งครรภ์ด้วยก็เลยลากยาวนิดหนึ่ง
นอกจากนี้ก็มีความสม่ำเสมอค่ะ เคล็ดลับการอัปนิยายของเราคือความสม่ำเสมอ ตั้งแต่เรื่องแรกเราจะอัป 6 โมงเช้าทุกวัน ถ้าวันไหนไม่อัปหรืออัปเลทก็จะแจ้งนักอ่านตลอดค่ะ
ส่วนเรื่องการติดเหรียญ ก็จะไปศึกษาจากนักเขียนท่านอื่นก่อนว่าเขาใช้เกณฑ์กำหนดกี่คำต่อกี่เหรียญ ถ้าเราติดจำนวนเท่านี้ นักอ่านของเราจะมีกำลังสนับสนุนแค่ไหน เพราะบางอย่างถ้ามันดีมาก ๆ ต่อให้เราติดแพง เขาก็พร้อมจะสนับสนุนเรา เพราะเขามองว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่ายไปค่ะ
กว่าจะขายนิยายออนไลน์
ให้ได้ 5 หลักต่อเดือน
จริงๆ รายได้ก็ไม่มากไม่น้อยค่ะเพราะว่า เราอัปทุกวันก็เหมือนว่าเรามีรายได้ทุกวัน ถ้าวันไหนไม่อัปก็มีรายได้น้อยหน่อย ถ้าให้เห็นเป็นตัวภาพง่าย ๆ ก็ตั้งแต่เรื่องแรกจนถึงเรื่องนี้เนอะ เรื่องแรกอ่ะ รายได้เราอยู่ที่ห้าหลักต่อเดือน เรื่องถัดมาก็ห้าหลักบ้างสี่หลักบ้าง ให้เราสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น มีเรื่องล่าสุดนี้ที่ขึ้นห้าหลักมาเรื่อย ๆ พอรวมกับแพลตฟอร์มอื่นก็ถึงหกหลักเลย
ตอนนี้การเขียนนิยายเลยถือเป็นรายได้ทางเดียวของเราที่มีในตอนนี้ค่ะ เพราะเราเลี้ยงลูกแบบฟูลไทม์เลย รายได้ก็พอเลี้ยงทั้งเรา ลูก แล้วก็สามีได้เลยค่ะ (ฮ่า ๆ)
ส่วนนิยายที่เขียนจบไปแล้ว ตอนนี้ยอดขายนิยายที่จบไปแล้วจะเหลืออย่างเดียวค่ะ ก็คือตอนพิเศษ เพราะว่าเราเป็นประเภทติดเหรียญแค่ครั้งเดียว เป็นการติดเหรียญล่วงหน้า ถ้าครบกำหนดที่แจ้งเราก็ปลดเลย เหลือแค่ตอนพิเศษที่จะติดมากหน่อย ถ้าใครที่อยากสนับสนุนเราก็สามารถซื้อตอนอ่านได้ ก็ยังมีคนซื้ออ่านอยู่นะคะ เหมือนว่าเขาอ่านเรื่องใหม่ของเรา ในระหว่างที่เนื้อเรื่องมันยังดำเนินไปได้ไม่ไกล เขาก็ไปย้อนอ่านเรื่องเก่า ๆ ของเรา แล้วก็สนับสนุนนิยายเรื่องนั้นด้วย แล้วก็มีช่วงปีใหม่ที่เราจะลดราคาอีบุ๊ค ถือเป็นการจัดโปรโมชั่นให้มีนักอ่านเข้ามาอ่านนิยายเก่า ๆ ของเราค่ะ เป็นการเพิ่มรายได้อีกทาง
แล้วก็เราอยากขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลย อะไรก็ตามที่ทำให้คุณชื่นชอบในนิยายของเรา ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณแบบขอบคู๊ณณณ ขอบคุณ ขอบคุณที่สนับสนุนกันมาก ๆ เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะได้รับผลตอบรับเยอะเหมือนกันในเรื่องนี้ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จะอัปทุกวันนะคะ จบแน่นอน
เขียนนิยายสไตล์คุณแม่ฟูลไทม์
รายได้ขึ้นอยู่กับจำนวนตอนที่อัป
ตอนนี้เราเป็นคุณแม่ด้วย ชีวิตก็เลยบันเทิงมากค่ะ เช้ามาก็ดูลูกก่อนเลยค่ะ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีเวลาแต่งนิยายราว ๆ 1-2 ชั่วโมงเพราะว่าคุณยายเอาหลานไปดู (เป็นช่วงที่ลูกจะนอนตอนเช้า) พอช่วงเที่ยงเราก็ไปผลัดเวร แล้วก็ดูลูกไปจนถึงบ่ายหรือบ่ายสอง ทีนี้คุณยายก็จะพาไปดูต่อถ้าเขาว่าง (นอนกลางวัน) ก็จะมีเวลาอีก 3-4 ชั่วโมงไปจนถึงตอนเย็นจากนั้นก็อยู่กับลูกต่อ จับอาบน้ำ กินข้าว พาเดินเล่น เล่นของเล่น อ่านนิทาน พอถึงสองทุ่มก็พาเข้านอน (ตรงนี้คุณสามีที่เพิ่งเลิกงานก็ช่วยด้วยค่ะ เราก็จะแวบไปนั่งแต่งนิยายต่อเลย) ก็จะเป็นเวลาของเราแล้วค่ะ ก็จะแต่งไปจนถึง 4 ทุ่ม เท่าที่ร่างกายของเราไหว ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ไหวแต่งได้เท่านี้ก็จะพอ
โดยรวมก็จะเป็นช่วงเช้าค่ะ ที่เราจะพยายามกำชับกับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ 1 หรือ 2 หน้าขึ้นไป เพื่อที่ช่วงบ่ายจะได้รันไปเร็วขึ้น เพราะว่าเราแต่ง 5 หน้า A4 ต่อครึ่งตอน ตอนหนึ่งก็จะประมาณ 10 หน้า ก็พยายามทำให้ได้ คืออย่างน้อยต้องเขียนค่ะ เพราะรายได้ของเรามันขึ้นอยู่กับจำนวนตอนที่เราอัป ถ้าเราไม่อัปก็จะไม่มีรายได้จากตรงนั้น ก็ต้องมีวินัยในตนเองนิดหนึ่ง ก็ต้องพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเราก็เลี้ยงลูกด้วยส่วนหนึ่ง บางทีเวลาก็ไม่แน่นอน ยายอาจมีธุระของเขา เราก็ต้องเลี้ยงเต็มวัน แถมบางวันไม่ยอมนอนกลางวันก็ลำบากนิดหนึ่ง แต่ก็สนุกดี (ฮ่า ๆ)
เป้าหมายบนเส้นทางนักเขียน
การเขียนนิยายทำให้เรามองโลกกว้างขึ้นเยอะเลยค่ะ จากแต่ก่อนที่คิดว่าเรียนจบก็หางานทำ ซึ่งเราก็ทำแล้วเนอะ ควบคู่กับการแต่งนิยายไปด้วย มันเหมือนทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่าตัวเองแค่ทำงานไปวัน ๆ ก็มีเป้าหมาย มีจุดหมาย เห็นคนอ่านเมนต์ชื่นชมชื่นชอบ เราก็ดีใจ
เป้าหมายในอนาคตตอนนี้ก็คงจะเป็นการเขียนนิยายไปเรื่อย ๆ ให้หลากหลายแนว เราจะพยายามไม่จำกัดอยู่แค่นิยายวายหรือนิยายรัก จะพยายามพาตัวเองไปให้ไกลกว่าเดิม อยากรู้ว่าจะมีนักอ่านชอบนิยายของเราในแนวอื่นบ้างไหม อยากเป็นนักเขียนที่นักอ่านติดตามจากนามปากกาเหมือนเดิมค่ะ
นอกจากนี้ก็อยากเป็นคุณแม่ที่ดีค่ะ อยากจะพยายามสอนลูก อยากจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้
นักเขียนมือใหม่
ควรมุ่งความสนใจไปที่..
ควรมุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาตนเองค่ะ ก็คือการอ่าน อ่านให้มาก อ่านให้หลากหลาย เพื่อที่เราจะได้นำไปปรับปรุงกับนิยายของตนเอง แล้วก็เปลี่ยนคำติจากนักอ่านให้เป็นแรงผลักดัน
แล้วถ้ามีเขียนๆ อยู่แล้วก็ลงเลยค่ะ ถ้ามีนิยายอยู่ในมือที่อยากเผยแพร่ให้ใครอ่านก็ลงเลยค่ะ เพราะคนที่จะตัดสินว่านิยายของเราสนุกหรือไม่สนุกอยู่ที่นักอ่านล้วน ๆ นักอ่านจะช่วยทำให้รู้ว่าเรายังขาดอะไรอยู่ เราอาจจะขาดเรื่องสำนวน หรือขาดการโปรโมต เราจะเรียนรู้ได้หลังจากที่เราลงงานไปแล้วค่ะ
ถึงจะต้องเลี้ยงลูกไปด้วย แต่งนิยายไปด้วย ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนักเขียนสาวคนนี้เลย เพราะการเขียนนิยายเป็นสิ่งที่เธอรักและอยากจะทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน เธอก็จะแบ่งเวลามาแต่งนิยายได้เสมอ
อีกทั้งเคล็ดลับดีๆ ที่เธอนำมาแบ่งปันในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น การเขียนนิยายที่ตัวเองชอบและรู้จักดี การแต่งนิยายให้จบ การอัปนิยายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงศึกษาตลาดและวางแผนการขาย ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่เธอได้เรียนรู้และอยากนำมาแชร์ต่อทุกคนในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียและแรงบันดาลใจดีๆ จากนักเขียนสาวคนนี้ไปไม่น้อย เป็นกำลังใจให้นักเขียนทุกคนนะคะ ^^
พี่แนนนี่เพน
อ่านผลงานนิยายของ 816
0 ความคิดเห็น