‘เฟื่องนคร City Of Stars The Series’ นิยายวายพลังบวกสู่ซีรีส์ที่น่าจับตามอง!

 

 ‘เฟื่องนคร City Of Stars The Series’ 
นิยายวายพลังบวกสู่ซีรีส์ที่น่าจับตามอง!
 

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีข่าวดีๆ มาอัปเดตถึงนิยายวายเรื่อง ‘เฟื่องนคร’ ผลงานจากปลายปากกานักเขียน  ‘ร เรือในมหาสมุท’   นิยายพลังบวกสุดฮอตฮิตติดลมบนในเว็บไซต์เด็กดี ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของซุปตาร์ดาวร้ายอันดับหนึ่งนิสัยดี กับนักพัฒนาแอพฯ จอมมึน ซึ่งด้วยความสนุกและพล็อตที่เริศขนาดนี้ ทำให้นักอ่านหลายต่อหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องเอาไปทำซีรีส์แล้วล่ะ 

จนกระทั่งปีก่อน ข่าวการนำนิยายเรื่องเฟื่องนครไปสร้างเป็นซีรีส์ทางช่อง one 31 ก็ปลุกกระแสความนิยมนิยายขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการตั้งตารอของแฟนคลับอย่างใจจดจ่อว่าเมื่อไหร่ พี่เฟื่องพลังบวกจะออนแอร์เสียที และวันนี้ได้สิ้นสุดการรอคอยแล้วค่ะ เพราะพี่เฟื่องพลังบวกได้ออนแอร์แล้ว แถมยังปังกระแสแรงตั้งแต่ตอนแรก!

เฟื่องนครจากนิยายวายเด็กดี สู่ซีรีส์สุดปัง

เฟื่องนคร เป็นผลงานของนักเขียน ‘ร เรือในมหาสมุท’ ที่ลงกับเด็กดีครั้งแรกตั้งแต่ กันยายน ปี 2564 มียอดวิวหลักแสน และได้รับการตีพิมพ์ everY ในเวลาต่อมา และฮอตจนถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ ฉายตอนแรกเมื่อวันศุกร์ที่  2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่เอง 

ซึ่งหลังจากออนแอร์ กระแสตอบรับหรือความนิยมเป็นที่พูดถึงอย่างมากจนติดเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) ในอันดับเจ็ด วันนี้พี่จินผู้เป็นแฟนนิยายพันธ์แท้ของเฟื่องนครเลยอยู่เฉยไม่ไหว ต้องขอมาพูดถึงเรื่องราวความรักของพระ-นาย กันสักหน่อย ใครพร้อมแล้วเตรียมมารับพลังบวกแบบไม่จำกัดได้เลย ฮ่า!

โดยนิยายเรื่องนี้มีพล็อตเล่าถึงความรักของคนสองคนที่มี ‘แอพเป็นตัวสื่อรัก’ เพราะซุปตาร์ดาวร้าย ‘เฟื่องนคร’ คนที่ใครๆ ก็รู้ว่าไม่เล่นโซเชียลมีเดียใดๆ กลับสมัครและโพสต์ข้อความลงบน ‘เซนดาย่า’ แอพพลิเคชั่นสุดเฮลตี้ฮีลใจ ทำให้เหล่าแฟนคลับพร้อมใจกันสมัครใช้งานตามดาราคนโปรดแบบถล่มทลาย  

ทำเอา ‘กรมท่า’ พนักงานจากบริษัทสตาร์ทอัพต้องหัวหมุน ซ้ำพอกลับมาไทยหวังพักร้อนยังมีเหตุให้ต้องเจอกับเฟื่องนครตลอด จนความใกล้ชิดเริ่มทำให้หวั่นไหว รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักซุปตาร์ดาวร้ายที่นิสัยจริงๆ เหมือนพ่อเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เข้าให้อย่างจัง!

แน่นอนว่าเพราะเป็นความรักระหว่างซุปตาร์กับคนธรรมดา กว่าจะรักก็ได้ต้องเจอบทพิสูจน์ความรักมากมาย (ไหนว่าเป็นนิยายฮีลใจ) แต่ถึงยังงั้นนิยายเรื่องเฟื่องนครก็ยังมอบพลังบวกให้กับคนอ่านท่ามกลางเรื่องเล่าเคล้าน้ำตา ดังนั้นอ่านเถอะค่ะ สนุกสมมงนิยายเด็กดีที่ถูกนำไปสร้างซีรีส์สุดปังแน่นอน

_________________________________________

แนะนำตัวละคร

นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าสนุกแล้ว ส่วนหนึ่งที่ทำให้นิยายเรื่องเฟื่องนครอูมามิเหมือนใส่ผงนัวร์ไม่อั้น คือเหล่าตัวละครที่คอยสร้างสีสันในเรื่อง จนพี่จินอยากจะขอหยิบยกมาเมาท์อย่างอดไม่ได้ ว่าแต่จะมีใครบ้าง เชิญด้านนี้เลยค่ะ 

 

พระเอก : เฟื่องนคร/พี่เฟื่อง -  จ๊อบ กฤษ
มาส่งต่อพลังบวกกันครับ

เริ่มกันที่ตัวเอกอย่างเฟื่องนคร ซุปตาร์ดาวร้ายเจ้าบทบาทที่มีนิสัยแสนดีขัดกับภาพลักษณ์ในจอลิบลับ เขาคอยมอบหรือส่งต่อพลังบวกให้กับคนอื่นเสมอแถมยังมีทัศนคติเฮลตี้ฟุดๆ จนอยากจะมีพี่เฟื่องเป็นของตัวเองเลยง่า

ถึงยังงั้นพี่เฟื่องก็ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีจ๋าจนไม่สนความเป็นจริงอะไรเลย แต่พี่เฟื่องแค่คิดว่าการสู้กับปัญหาด้วยทัศนคติบวก ดีกว่าสู้ด้วยทัศนคติลบมากกว่า รวมทั้งบางครั้งสำหรับเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ก็แค่ปล่อยมันไปก็ได้

นายเอก : กรมท่า/นาวี่  -  พอร์ช ศิฑา
ดีไม่ดีเดี๋ยวมันก็ผ่านไป

จะบอกว่าตอนอ่านรู้สึกได้เลยว่ากรมท่ามีความเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปมากกว่าทุกคนในเรื่อง เขาเป็นคนกลางๆ ไม่ดีไม่ร้าย ออกจะเป็นคนนิ่งๆ ติดเฉยๆ เสียด้วยซ้ำ ถึงยังงั้นเขาก็เป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่าย มีวุฒิภาวะ เจอเรื่องดีเรื่องร้ายก็รับมือได้ 

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากรมท่าจะนิ่งเฉยไปหมดนะ เขาเองก็มีความรู้สึกทั่วไปที่อาจจะมากน้อยต่างกันตามแต่สถานการณ์ที่พบเจอ บางครั้งอาจจะดี บางครั้งอาจจะร้ายก็ได้

 

พระรอง : กรดิษฐ/เฮียกอ  -  คิมม่อน วโรดม
ก็เลวนิดหน่อย แต่ไม่ใช่คนชั่วแน่นอน

ถ้าพี่เฟื่องคือคนที่สู้กับปัญหาด้วยพลังบวก งั้นเฮียกอพระเอกในจอแต่ตัวร้ายในชีวิตจริงคือคนที่จะสู้กับปัญหาด้วยกำปั้นเท่านั้น แน่นอนว่าเฮียกอไม่ใช่คนที่ดี แต่เขาเป็นคนที่พี่จินกล้าพูดเลยว่าไม่ใช่คนชั่ว 

ถึงยังงั้นด้วยลักษณะนิสัยแบบแบดบอย ไม่พอใจก็ด่า ไม่ชอบก็แสดงออก แต่เขาก็เป็นคนกวนโอ๊ยที่รักพวกพ้อง ไม่ฟ้องนายไม่ขายเพื่อน เลยปฏิเสธไม่ได้ว่าเฮียกอเป็นตัวละครที่มีมิติมากอีกคนที่นักอ่านพากันเทใจให้เลยล่ะ

จากทั้งสามตัวละครที่พี่จินหยิบยกมาเมาท์ เห็นได้เลยว่าพี่เฟื่องคือตัวแทนของคนคิดบวก ส่วนกรมท่าคือตัวละครของคนสายกลาง และเฮียกอคือตัวแทนของคนเทาๆ (นิดหนึ่ง) แต่นอกจากคนทั้งสามแล้ว ในเรื่องยังมีตัวละครอีกเยอะที่พี่จินไม่ได้เมาท์ถึง ยังไงใครชอบตัวละครไหน สามารถเมนต์มาเมาท์กันได้น้า

_________________________________________

3 ข้อคิดสุดจึ้ง ตีแผ่ชีวิตสไตล์เฟื่องนคร

เฟื่องนครไม่ได้มีแค่ความสนุกครบรส ตลกก็ได้ ดราม่าก็ดี แต่เฟื่องนครยังให้ข้อคิดสุดจึ้งในการใช้ชีวิตตามสไตล์พี่เฟื่อง ไม่ว่าจะเป็นการคิดบวก การเคารพสิทธิส่วนบุคคลหรือการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ เรียกว่าอ่านนิยายเรื่องนี้ ได้ทั้งความเพลิดเพลินและข้อคิดแบบทูอินวัน

1. มาสร้างพลังบวก บวก บวก กันเถอะ

โลกเรามันโหดร้าย ถ้าไม่เอาพลังบวกเข้าสู้แล้วจะเอาอะไรไปสู้ล่ะ

จุดเด่นสำคัญของเฟื่องนครคือพลังบวกที่แผ่กระจายเต็มเรื่องจากตัวละครหลักอย่างพี่เฟื่อง คนที่ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์เลวร้ายยังไงก็ยังยิ้มสู้ได้ จนพี่จินที่อ่านแล้วได้รับพลังงานบวกกลับมาเต็มสูบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ พี่เฟื่องยังทำให้รู้ว่าการคิดบวกสำคัญและจำเป็นขนาดไหน อย่างน้อยก็ดีกว่าคิดลบแหละนะ ไม่เชื่อลองไปอ่านพี่เฟื่องสักตอนนะ รับรองเลยว่าจากที่เคยซึมๆ จะหายเศร้าเลยล่ะ เพราะมันฟิน เอ้ย! ใจฟูฟุดๆ

อีกอย่างนะ การมีทัศนคติที่ดีนี่แหละสามารถทำให้เราผ่านวันแย่ๆ ไปได้!

2.การเคารพสิทธิส่วนบุคคล

บุคคลสาธารณะ ≠ จะทำอะไรเขาก็ได้

ด้วยความเป็นซุปตาร์คนเด่นคนดัง ทำให้พี่เฟื่องเป็นที่ถูกจับตามองทุกฝีก้าวจากทั้งสื่อและแฟนคลับ เขาเลยใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังทุกฝีก้าว จะออกนอกบ้านแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะทั้งแฟนคลับและซาแซงแฟนจ้องจะพุ่งเข้ามาหาเข้าตลอดเวลา จนกรมท่าถึงกับออกปากว่า ‘เป็นดารานี่ไม่ง่ายเลย’

ซึ่งถึงพี่เฟื่องจะเป็นคนคิดบวกขนาดไหน แต่เขาก็มีมุมแอบนอยเหมือนกันนะ  อีกทั้งต่อให้เขาจะเป็นบุคคลสาธารณะที่พร้อมจะมอบความสุขให้ทุกคนก็จริง แต่เขาก็เป็นคนธรรมดาที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเหมือนกัน…ยังไงก็ใจเขาใจเรานะคะ พี่เฟื่องพลังบวกจะได้อยู่สร้างความสุขให้เรานานๆ

3.โซเชียลมีเดีย ต้องใช้ให้เป็น

โซเชียลคือโลกอีกใบ ไม่ใช่ชีวิตจริงทั้งหมด 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว แถมยังมีอิทธิพลทั้งในแง่ดีและแง่ไม่ดี เหมือนดาบสองคมที่ถ้าใช้ไม่ระวัง จากที่มีประโยชน์ ก็จะกลายเป็นโทษได้เลย พี่เฟื่องเลยเข้มงวดกับการใช้โซเชียลมาก เพราะเขารู้ว่าชื่อเสียงและหน้าที่การงานของเขาอยู่กลางสปอร์ตไลท์ที่สาดส่องตลอดเวลา หากพลาดนิดเดียว อาจจะต้องหมดอนาคตเลยก็ได้

แต่ถึงจะระมัดระวังยังไง อิทธิพลของโซเชียลก็ทำให้พี่เฟื่องต้องเผชิญกับข่าวฉาวและการโจมตีอยู่บ่อยครั้ง จนหากไม่ใช่เขาละก็ คงรับมือไม่ได้แน่ๆ พี่เฟื่องเลยเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างให้ได้เรียนรู้การใช้โซเชียลอย่างมีสติและรู้เท่าทัน รวมทั้งถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้ทุกคนใช้โซเชียลในทางที่ดี เหมือนอย่างแอพฯ สุดเฮลตี้เซนดาย่าที่คอยส่งมอบแต่พลังงานบวกให้แก่กัน 

ซึ่งน่าเสียดายจริงๆ ที่เราไม่มีเซนดาย่าในชีวิตจริง ถึงยังงั้นก็มีแอพพลิเคชั่นฮีลใจอย่าง WithU (สนใจคลิก) ที่จะคอยฮีลใจในวันฟ้าหม่นของทุกๆ คน ด้วยประโยคให้กำลังใจสุดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ส่วนถ้าใครรู้สึกว่ายังใจฟูไม่พอ การอ่านนิยายเรื่องเฟื่องนคร ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการพลังบวกแบบจัดเต็ม แถมยังสนุกด้วยนะ พี่จินการันตีด้วยสองนิ้วโป้งเลย

 

 

จากใจแฟนนิยายผู้ตามอ่านตั้งแต่ลงในเว็บเด็กดีขอบอกเลยว่าดีใจมากที่นิยายที่ชอบถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ เพราะนอกจากความสนุก ความฟินแล้ว เฟื่องนครยังให้พลังบวกอย่างละมุนละไมดีต่อใจ ทั้งยังตีแผ่ด้านมืดของโซเชียลมีเดีย การเคารพสิทธิส่วนบุคคล ปัญหาสังคมที่ถูกมองข้ามอย่างเฉียบคม เนื้อเรื่องเลยมีจุดดราม่ากรุบกริบ แต่ไม่ได้หนักหน่วงมาก รับรองว่าใครที่ได้อ่านจะไม่มีทางผิดหวัง

ความดีงามอีกอย่างที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการเล่าเรื่อง หรือการจับประเด็นทางสังคมมานำเสนอผ่านนิยายให้ย่อยง่ายขึ้น รวมถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครที่เสริมให้เรื่องราวครบรส กลมกล่อม รับรองว่าอ่านแล้วใจฟูไปอีกสามวันเจ็ดวันแน่ค่ะ!

ทดลองอ่าน

-พี่จิน-

พี่จิน
พี่จิน - Columnist ชอบอ่านนิยาย เพราะระหว่างบรรทัดสั้นๆมักเต็มไปด้วยเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น