นักเขียนออนไลน์ในตำนาน : แค่เล่นเกมแล้วมีคนเชียร์ให้เขียนนิยาย ใครจะคิดว่า “รอมแพง” จะกลายเป็นนักเขียนที่สร้างปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” ทั่วแผ่นดิน!

นักเขียนออนไลน์ในตำนาน
แค่เล่นเกมแล้วมีคนเชียร์ให้เขียนนิยาย 
ใครจะคิดว่า “รอมแพง” จะกลายเป็นนักเขียน
ที่สร้างปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” ทั่วแผ่นดิน!

****

คุณเชื่อไหมว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่อ่านหนังสือวันละ 2 เล่ม แถมยังเล่นเกมออนไลน์จนเพื่อนยุว่า “ลองเขียนนิยายดูสิ!” แล้วเธอก็ลองอัปลงเว็บ Dek-D ด้วยเหตุผลเดียว—เพื่อทวงเครดิตจากคนที่ขโมยงานของเธอไป! แต่ใครจะคิดว่าจุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล คนคนนั้นคือ “รอมแพง” นักเขียนผู้สร้างปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” ที่ทำให้ทั้งประเทศหลงใหลประวัติศาสตร์ไทย นิยายของเธอถูกตีพิมพ์ซ้ำถึง 99 ครั้ง! และต่อยอดไปเป็นละครแห่งยุค รวมถึง Webtoon เกาหลี เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จักออเจ้า หรือ “แม่หญิงการะเกด” กับ “พี่หมื่น” เลยค่ะ จากเด็กติดห้องสมุด... สู่นักเขียนแนวหน้าของไทย รอมแพงทำได้อย่างไร? นี่คือเรื่องราวของเธอ #เกิดมากับเด็กดี #โตมากับเด็กดี #เป็นนักเขียนเด็กดี #รอมแพงก็เริ่มจากที่นี่  

“อ่านหมดทุกเล่มในห้องสมุด” อาจฟังดูเกินจริง แต่สำหรับ “รอมแพง” ในวัยเด็ก นี่คือเรื่องจริง เธอเติบโตที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และใช้เวลาว่างในห้องสมุดมากกว่าวิ่งเล่นกับเพื่อน อ่านตั้งแต่นิทานอีสปยันแนวแฟนตาซีจัดๆ อ่านจนกระทั่งห้องสมุดปิดก็ยังไม่อยากลุก ภาพจำนี้เริ่มตั้งแต่เธออายุเพียง 6-7 ขวบ จนกระทั่งเข้าเรียนในคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร นิสัยรักการอ่านก็ไม่เคยเปลี่ยน รอมแพงยังคงยืมหนังสือจากร้านแถววังหลัง อ่านทีวันละสองเล่ม อ่านเร็วจนเจ้าของร้านจำหน้าเธอได้แม่น ซึ่งการดื่มด่ำหนังสือมหาศาลนั้น หล่อหลอมให้เธอซึมซับเทคนิคการเล่าเรื่องและสำนวนภาษา และกลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ค่อยๆ ประกอบขึ้นเป็น “นักเขียน” ที่ชื่อ “รอมแพง”

แต่ใครจะคิดว่า… จุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอจะเริ่มต้นจาก “เกมมังกรหยกออนไลน์” ที่เธอเล่นคลายเครียด หลังผ่านงานประจำหลากหลายอาชีพมานับสิบ (เธอเคยสารภาพว่าไม่มีอาชีพไหนทำให้มีความสุขได้เท่าการเขียน) ในเกมมีระบบแชตคุยกับเพื่อนร่วมกิลด์ ซึ่งเพื่อนๆ ต่างชื่นชมสำนวนภาษาของเธอที่ทั้งฮา ทั้งมีสีสัน จนมีคนแนะนำว่า “พี่น่าจะลองเขียนนิยายจริงจังนะ อ่านแล้วสนุกมากเลย!” เป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่กลับตรงใจเธอเข้าอย่างจัง เพราะลึกๆ แล้วรอมแพงมีเรื่องราวในหัวที่อยากเล่ามากมาย เพียงแค่รอจังหวะถ่ายทอดเท่านั้น พอเธอได้ลองเขียนนิยายเล่นๆ ไปสักพัก กลับพบว่า “หัวใจชักจะอยู่กับงานเขียนมากกว่างานประจำเสียแล้ว” สุดท้ายจึงตัดสินใจลาออก และกระโจนเข้าสู่วงการนิยายออนไลน์อย่างเต็มตัวในปี พ.ศ. 2549

ช่วงนั้นอินเทอร์เน็ตยังไม่เฟื่องฟูเท่าปัจจุบัน แต่เธอก็ลองโพสต์นิยายออนไลน์ดู จนเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีเด็กนักเรียนโรงเรียนหนึ่งนำ “สายลับลิปกลอส” ของเธอไปโพสต์ลงเว็บ Dek-D โดยแอบอ้างว่าเป็นผลงานตัวเอง แถมดันได้กระแสตอบรับดีมากๆ ด้วย! งานนี้รอมแพงเลยตามสืบจนพบตัวคนโพสต์ เธอรีบสมัครไอดีเข้าไปเคลียร์ด่วนๆ ถึงอีกฝ่ายจะยอมลบและขอโทษ แต่เหตุการณ์เซ็งๆ นี้กลับกลายเป็นจุดพลิกความคิดว่า “ไหนๆ ก็ไหนๆ ลงนิยายเองเลยดีกว่า” นับจากนั้นเป็นต้นมา รอมแพงจึงอัปนิยายลงเว็บเด็กดีอย่างต่อเนื่อง ทั้ง “สายลับลิปกลอส” และ “ดาวเกี้ยวเดือน” ซึ่งได้รับรางวัล Voice Award ของ Dek-D จนมีแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่น ยิ่งเขียน… ยิ่งสนุก… ยิ่งมีคนตาม! คอมเมนต์ในเว็บช่วยให้เธอปรับแก้ต้นฉบับก่อนตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม และตอกย้ำว่าเธอคือ “นักเขียนออนไลน์” ที่น่าจับตามอง

ในฐานะนักอ่านตัวยง แถมเรียนด้านโบราณคดี รอมแพงแอบฝันอยากเขียนนิยายพีเรียดสักเรื่อง เพื่อถ่ายทอดความงดงามและความหลากหลายของประวัติศาสตร์ไทย เธอจึงเริ่ม “เก็บข้อมูล” ตั้งแต่ปี 2549 ใช้เวลาร่วม 3 ปีที่ขลุกอยู่ตามหอสมุดแห่งชาติ หอสมุดศิลปากร และลงพื้นที่จริง เพื่อให้ทุกฉาก ทุกบทสนทนาในนิยาย มีความสมจริงที่สุด แต่ใครจะเชื่อว่า พอต้องลงมือปั่นต้นฉบับ “บุพเพสันนิวาส” จริง นิยายโรแมนติกคอเมดี้ที่อิงยุคสมเด็จพระนารายณ์นี้กลับกลับถูกเขียนจบภายใน 1 เดือน! รอมแพงเขียนลง Dek-D สดๆ จบวันละตอน แถมยังตอบคอมเมนต์แบบเรียลไทม์ พานักอ่านร่วม “แก้ข้อมูล” และ “วิพากษ์” กันสนุก ชนิดที่ว่าถ้าเธอเผลอหยุดเขียนไปสัก 2-3 วันก็จะมีเสียงโอดครวญรัวๆ จากนักอ่านว่า “เมื่อไหร่จะเลิกโล้สำเภาเสียที!”

“ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ที่กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ไปทั้งประเทศ” รอมแพงบอกเช่นนั้น แม้กระทั่งตอนที่ “บุพเพสันนิวาส” ถูกช่อง 3 หยิบไปสร้างเป็นละครฟอร์มยักษ์ พร้อมทีมนักแสดงชั้นนำ ทั้งเบลล่า ราณี ในบท “แม่หญิงการะเกด” และโป๊บ ธนวรรธน์ ในบท “พี่หมื่น” กระแสแรงมากจนกลายเป็น “ละครแห่งยุค” ที่คนดูติดทั่วบ้านทั่วเมือง ส่งให้นิยายที่ปังอยู่แล้ว ยิ่งดังเปรี้ยงปร้างขึ้นไปอีก! ถึงขั้นตีพิมพ์ซ้ำกว่า 99 ครั้ง (ไม่รวมยอดอีบุ๊ก) และทำยอดขายต่อเนื่องไม่หยุด เท่านั้นไม่พอ ยังแตกไลน์สู่วงการเกมเมอร์—เตรียมเปิดตัวในรูปแบบเกมจีบหนุ่มเร็วๆ นี้ด้วย เรียกได้ว่าความนิยมของ “บุพเพสันนิวาส” ไม่ได้หยุดแค่จอแก้วแล้ว จนรอมแพงเองถึงกับเอ่ยปากว่า “งงด้วยซ้ำว่ามันดังขนาดนี้ได้ไง!”

หนึ่งในความปังระดับอินเตอร์ของ “บุพเพสันนิวาส” คือการถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปทำ Webtoon กับ Kakao ที่เกาหลีใต้ แม้แต่จีนเองก็เคยสนใจ เพียงแต่ติดปัญหาด้านการเมืองเลยโปรเจกต์ต้องพับไป (โชคดีที่เธอได้รับค่าลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว) หลายคนอาจมองว่านิยายพีเรียดไทยไม่น่าจะเข้าถึงชาวเกาหลีได้ แต่จริงๆ แล้วสังคมเกาหลีให้ความสนใจวัฒนธรรมต่างถิ่นอยู่เสมอ ถือเป็นอีกมิติที่นิยายไทยก้าวออกไปนอกประเทศได้อย่างเท่ๆ รอมแพงมองว่า “เสน่ห์นิยายไทย” คือวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และมุมมองที่แตกต่าง กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนต่างชาติได้ดีเยี่ยม ยิ่งถ้ามีการสนับสนุนด้านการแปล หรือดัดแปลงเป็นสื่ออื่น เช่น Webtoon หรือซีรี่ส์ ก็มีโอกาสโกอินเตอร์ได้ไม่ยาก เพราะเธอเองก็เชื่อว่านิยายไทยเองก็มีศักยภาพก้าวไกลกว่าที่คิด ส่วนความสำเร็จของเธอนั้น เจ้าตัวบอกเองว่า “อดีตชาติเราไปกู้ชาติไหนไว้หรือเปล่า ถึงได้โชคดีขนาดนี้!” ก่อนจะยอมรับว่าทุกอย่างเกิดจาก “จังหวะและโอกาส” ทั้งการได้ทีมละครและนักแสดงยอดฝีมือ รวมถึงเหล่าแฟนๆ นักอ่านที่ผลักดัน “บุพเพสันนิวาส” ให้โกอินเตอร์

แต่ใช่ว่าเส้นทางนักเขียนจะราบรื่นเสมอไป รอมแพงเองก็เคยเผชิญปัญหาหนักหนา โดยเฉพาะ “การละเมิดลิขสิทธิ์” งานเขียนของเธอถูกคัดลอกและนำไปใช้หาผลประโยชน์โดยไม่ขออนุญาต เธอหมดแรงแทบไม่อยากเขียนต่อ เมื่ออยู่ๆ งานที่อุตส่าห์ลงแรงสร้างสรรค์กลับถูกก็อปหน้าตาเฉย เคยท้อจนถึงขั้นคิดจะเลิกเขียน แต่ทุกครั้งที่ความคิดนี้เข้ามา ก็มี “กำลังใจจากแฟนคลับ” ที่เฝ้ารอผลงานใหม่มาแบบไม่ขาดสายด้วยเช่นกัน ยิ่งเมื่อมีนักอ่านบอกว่า “นิยายพี่เปลี่ยนมุมมองชีวิตหนูจริงๆ” ยิ่งกลายเป็นแรงผลักสำคัญให้เธอฮึดสู้ต่อ ทำให้เธอลุกขึ้นสู้ ตัดสินใจเดินหน้าตามกระบวนการกฎหมาย และจดทะเบียนเป็น “อนุญาโตตุลาการด้านทรัพย์สินทางปัญญา” คอยช่วยเหลือนักเขียนที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนที่เธอเคยเจอ นับเป็นอีกบทบาทที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ทำ ขณะเดียวกัน ทุกความฝันก็มีราคาที่ต้องจ่าย การนั่งหน้าคอมนานๆ ส่งผลให้เธอเป็นไทรอยด์เป็นพิษมานับสิบปี นี่คือ “ราคาของความฝัน” — สุขภาพที่ต้องเสียไป ความท้อแท้ที่ต้องก้าวข้าม แต่สุดท้ายมันก็คุ้มค่า เพราะเธอเลือกแล้วว่าจะเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป ในเมื่อ “ใจมันรักในการเขียนนิยาย” ไปแล้ว

19 ปีแห่งการเดินทางบนเส้นทางนักเขียน... จากคนที่อัปนิยายลงเว็บเพียงเพื่อตามทวงเครดิต สู่นักเขียนที่ทำให้ทั้งประเทศตกหลุมรักประวัติศาสตร์ไทย แต่ถึงวันนี้ รอมแพงยังคงมุ่งมั่นบนเส้นทางเดิม ด้วยหัวใจดวงเดิม เธอยังคงสร้างสรรค์ผลงานและอัปลง Dek-D อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ดาวเคียงเดือน, พรายพยากรณ์, คีตโลกา ไปจนถึง พรหมลิขิต ที่เป็นภาคต่อของบุพเพสันนิวาส และในปีนี้เธอคัมแบ็คพร้อม “พิภพมรณัง” นิยายที่เธอทุ่มเทรังสรรค์ถึง 3 ปีเต็ม! อีกทั้งในอนาคตเธอยังตั้งใจจะลองเขียนแนวธรรมะ – แฟนตาซีด้วย แม้จะไม่ใช่แนวตลาด แต่เธอก็อยากทำมัน เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอรัก สำหรับรอมแพง การเป็นนักเขียนคือ “การบอกเล่าในสิ่งที่เราคิดเราศึกษาเราชอบ ออกมาเป็นตัวหนังสือผ่านเรื่องราวในจินตนาการ และมีความสุข” และนี่คือบทพิสูจน์ว่า… คนที่รักในสิ่งที่ทำจริงๆ ไม่มีวันหายไปจากเส้นทางของตัวเอง ทีมงานเด็กดีขอเป็นกำลังใจให้รอมแพงเสมอ เพราะเธอไม่ใช่แค่นักเขียนที่ #โตมากับเด็กดี แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่กล้าฝันเช่นกัน

รู้หรือไม่?

บางที... ตอนนี้คุณอาจมีไฟอยากเป็นนักเขียน แต่ยังลังเล กลัวไปไม่รอด เหมือนที่รอมแพงเคยรู้สึกในช่วงแรก แต่เธอมีคำแนะนำสำหรับคุณ... “ลุยเลยจ้า เขียนไปเถอะ ดีไม่ดีก็ไม่เป็นไรให้เริ่มลงมือ แล้วทำบ่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตัวเอง” ดังนั้นหยุดคิดมาก เปิดคอมพ์ตอนนี้ พิมพ์ประโยคแรกของนิยายคุณลงไป แล้วอัปลง Dek-D เลย! เริ่มก่อน มีโอกาสก่อน ใครจะรู้? นิยายของคุณอาจเป็นเรื่องต่อไปที่โกอินเตอร์เหมือนรอมแพงก็ได้นะ!

 คุณเองก็ทำได้! มาเริ่มต้นเส้นทางนักเขียนของคุณกับเว็บ Dek-D แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ปล่อยของอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนิยายแนวไหน ผลงานของคุณอาจมีนักอ่านรอคอยในอนาคต!

Dek-D พื้นที่สำหรับนักเขียนทุกคน เริ่มต้นเขียนนิยาย และศึกษาการขายได้ง่ายๆ ที่นี่เลย : bit.ly/writer-howto

พี่น้ำผึ้ง : )

อ่านนิยายของรอมแพง

• บุพเพสันนิวาส (รอมแพง)
• ดาวเกี้ยวเดือน 
• พรายพรหม 
• คีตโลกา 
• ตำนานดวงดาว Four Blood 
• พิภพมรณัง 
• อื่นๆ