นักเขียนรุ่นใหม่ต้องฟัง! 6 เคล็ดลับให้ผลงานปังที่ Hideko_Sunshine บอกต่อ

Hideko_Sunshine ขอแชร์! 
6 เคล็ด (ไม่) ลับ เขียนนิยายจับใจคนอ่าน

 

ชวนมาฟัง 6 เคล็ดลับสำคัญ สร้างผลงานปังแบบ Hideko_Sunshine ที่นักเขียนรุ่นใหม่พลาดไม่ได้!

 

เชื่อว่าหลายๆ คนต้องคุ้นหูคุ้นตานามปากกา Hideko_Sunshine, ฉัตรฉาย และแสนการุณ กันมาบ้างใช่ไหมเอ่ย เพราะนักเขียนมากฝีมือคนนี้ได้ฝากผลงานไว้ในใจนักอ่านมากมาย และยังส่งต่อความฟินจากหน้ากระดาษไปสู่ซีรีส์มาแล้วถึง 11 เรื่องด้วยกัน!  ไม่ว่าจะเป็น Handsome Cowboy กำราบหัวใจจอมพยศ หรือซีรีส์ U-Prince ตอนสิบทิศ, Dark Blue Kiss รักไม่ระบุสถานะ หรือซีรีส์ Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว, Security Love ยามหล่อบอกต่อว่ารัก จากซีรีส์หอนี้ชะนีแจ่ม Girl Next Room เรียกได้ว่าผลงานจากปลายปากกาของ Hideko_Sunshine การันตีความปังแน่นอน

แต่ก่อนจะเต็มไปด้วยผลงานปังๆ แบบทุกวันนี้ พี่นจามีโอกาสพูดคุยและได้รู้ว่าจุดเริ่มต้นของ Hideko_Sunshine มาจากที่คุณโอ๋ในวัย 13 ปี ฝึกเขียนนิยายลงในสมุดและมีตัวเองเป็นนักอ่านคนแรก จากนั้นจึงส่งต่อความสนุกให้เพื่อนข้างๆ ได้อ่าน เมื่อเข้าวัยมหา'ลัยก็เขยิบมาเขียนนิยายออนไลน์ลงเว็บ Dek-D และแล้วเส้นทางนักเขียนอย่างเป็นทางการ ของ Hideko_Sunshine ก็เริ่มขึ้นเมื่อได้ตีพิมพ์นิยายเรื่องแรกกับสำนักพิมพ์แจ่มใส จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เข้าปีที่ 18 แล้วบนเส้นทางที่ไม่ธรรมดาสายนี้ 

ได้ฟังประวัติคุณโอ๋กันไปแล้ว ทุกคนสงสัยกันไหมคะว่านักเขียนมากประสบการณ์คนนี้เขามีเคล็ดลับยังไงที่ทำให้นิยายปัง ดัง แมสและครองใจผู้อ่านได้เสมอแบบนี้ พี่นจาไปกระซิบถามมาให้แล้ว วันนี้สรุปมาให้ 6 ข้อเน้นๆ กับเคล็ดลับสำคัญที่ Hideko_Sunshine ส่งต่อให้นักเขียนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในการจับปากกา ถ้าพร้อมกันแล้ว หยิบปากกาขึ้นมาจดได้เลย!

 

 

1. เขียนแล้วลบได้ แต่สุดท้ายต้องเขียนให้จบ

“อย่าเพิ่งท้อหรือทิ้งไปก่อน เพราะบางทีจังหวะที่คุณจะแมสอาจจะรออยู่ในวันพรุ่งนี้ก็ได้”

ไม่ว่าจะอาการหมดไฟ หรือ writer’s block เป็นเรื่องปกติที่คนจับปากกาต้องเจอ แม้แต่นักเขียนมือทองอย่าง Hideko_Sunshine ก็ยังหนีไม่พ้น วิธีรับมือก็คือ “ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้” เมื่อรู้ตัวแล้วว่าไฟในการเขียนกำลังจะมอดหรือรู้สึกเขียนไม่ออก ลองวางปากกาสักพัก ถอยออกมาเพื่อดูว่าทำไมถึงมีอาการติดขัดพวกนี้กันนะ เกิดจากตัวนิยายที่พล็อตอาจหลวมไปหรือเปล่า หรือเกิดจากการกดดันตัวเอง หรืออาจจะเกิดจากความชอบที่ยังไม่มากพอ 

อันนี้พี่นจาเห็นด้วยมากๆ เพราะส่วนตัวเคยมีประสบการณ์เขียนไม่ออกเหมือนกันค่ะ แต่พอลองพักให้หายเหนื่อยแล้วมองปัญหาให้เคลียร์ก็จะรู้ว่าต้องแก้ไขตรงไหน เพราะงั้นฝากถึงทุกคนเลยนะคะถ้าเหนื่อยให้พักผ่อน นอนให้อิ่ม กินของอร่อย ออกไปเที่ยวหาแรงบันดาลใจ แล้วก็กลับมาเขียนต่อ เพราะความสำเร็จกำลังรออยู่ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะคะ
 

 

 

2. นักเขียนต้องอิน นักอ่านถึงจะฟินไปด้วย

“เพราะถ้านักเขียนไม่อินกับเรื่องราวตัวละครของตนเองก็คงยากที่นักอ่านจะอินไปด้วย”

ต้องบอกเลยว่า ตัวละครจากปลายปากกาของ Hideko_Sunshine ได้ชื่อว่าเป็นตัวละครที่สดใส และมีเสน่ห์ ส่งให้เนื้อเรื่องที่มีลูกเล่นอยู่แล้วยิ่ง "มีอะไร" มากขึ้นไปอีก

แต่ตัวละครจะโลดแล่นออกมาจากตัวหนังสือสีขาวดำได้ นักเขียนต้อง “รู้จัก” และ “อิน” ไปกับตัวละครทุกๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก ตัวร้ายหรือตัวประกอบก็ต้องเอาใจใส่และทำความรู้จักเขาให้ดี เหมือนเขาเป็นคนจริงๆ นะคะ ซึ่งเคล็ดลับวิธีสร้างตัวละครของ  Hideko_Sunshine มาจากการฟังรายการสัมภาษณ์และพูดคุยกับผู้คน เพราะแต่ละเพศ แต่ละอาชีพ แต่ละช่วงวัยก็มีเอกลักษณ์และความพิเศษต่างกันไป ถ้าอยากให้ตัวละครของเรามีชีวิตจริงๆ ออกมาจากหนังสือจริงๆ ต้อง "สังเกต" และ "สำรวจ" ผู้คนอยู่บ่อยๆ น้า อันนี้พี่นจาลองทำแล้วบอกเลยว่าช่วยได้มากๆ 

ที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องเขียนใน “สิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ สิ่งที่อิน” เพราะถ้านักเขียนไม่ชอบ ไม่อิน ก็จะส่งต่อความรู้สึกส่งไปไม่ถึงใจคนอ่าน ข้อนี้พี่นจาว่าสำคัญมากๆ เพราะการได้เขียนสิ่งที่รักก็จะทำให้เขียนได้นานและเขียนได้ดี ผลงานจะเต็มไปด้วยความอินของเราล้วนๆ ในฐานะนักอ่านบอกเลยว่างานแบบนี้มีเสน่ห์สุดๆ 

 

 

3. ซื่อสัตย์ต่อนักอ่าน ด้วยการสร้างผลงานคุณภาพ

“เขาควรได้อ่านงานที่ดีที่สุดจากปลายปากกาของเรา”

ถ้าอยากเป็นนักเขียนตัวจริง บอกเลยว่า "ซื่อสัตย์ต่อผู้อ่าน" เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีไว้คู่กับปากกาเลยล่ะค่ะ เหมือนที่ Hideko_Sunshine บอกไว้ว่าซื่อสัตย์ต่อผู้อ่านก็คือ “การเต็มที่กับผลงานในทุกภาคส่วน” ถึงผลงานอาจไม่ได้ถูกใจนักอ่านทุกคน เหตุผลที่ทำให้ไม่ถูกใจเนี่ยจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น พล็อตยังไม่ใช่ ภาษายังไม่โดนใจ แต่เหตุผล “ความไม่เต็มที่กับผลงานของนักเขียน” ถือว่าเป็นเรื่องที่ห้ามทำเด็ดขาดเลย ไม่อย่างงั้นก็จะถือว่านักเขียนไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองไปด้วยนะคะ

ที่สำคัญ Hideko_Sunshine บอกอีกว่า จะเขียนอะไรก็แล้วแต่ต้องระวังทุกสิ่งที่ออกจากปลายปากกาเลย อย่าเผลอยื่น "ยาพิษ" หรือสิ่งไม่ดีให้ผู้อ่าน มีสองอย่างนี้แล้วถึงจะเรียกได้ว่าเป็นนักเขียน “ตัวจริง” ที่  “จริงใจ” กับผู้อ่านนั่นเอง

 

 

4. เรื่องนี้ว่าปังแล้ว เรื่องหน้าปังได้กว่านี้อีก

“อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ต้องพัฒนาตัวเอง”

จะเดินบนเส้นทางนักเขียน ต้องมีโอกาสได้เจอกับ “คำติชม” บ้างเป็นธรรมดา เหมือนที่ Hideko_Sunshine เรียกว่าคำติชมเป็น “ยาขม” ที่ต้องทำใจยอมรับ เพราะถ้าเอารสขมๆ พวกนี้ไปปรุงใหม่ งานต่อไปออกมาดีขึ้น ปังขึ้น และว้าวขึ้นกว่าเดิมแน่นอน 

นอกจากนี้ Hideko_Sunshine ฝากไว้อีกว่า ยังต้องขยันเรียนรู้จากงานที่ปัง ดัง แมส และลองเอามาปรับใช้กับสไตล์การเขียนของตัวเองโดยไม่ทิ้งลายเซ็นไป ค่อยๆ สะสมประสบการณ์และพัฒนาไปเรื่อยๆ จากนั้น “งานของเราก็จะ ‘พุ่ง’ ขึ้นมาแน่นอน”

 

 

5. ตลาดเปลี่ยนตลอด เลยต้องสอดส่องอยู่เสมอ

“การจะเลี้ยงจิตวิญญาณและเลี้ยงปากท้องไปพร้อมกันคือมันต้องเป็นงานที่เรารักและงานที่ขายได้ ”

การสำรวจตลาดสำคัญยังไง Hideko_Sunshine บอกไว้สองข้อ

  1. ช่วยให้รู้ว่า “เทรนด์” ของผู้อ่านกำลังเป็นแบบไหน แต่ลองส่องแค่ครั้งสองครั้งยังไม่พอน้า  ต้องคอยสังเกตอยู่เสมอเพราะเทรนด์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าดูแล้ว สามารถเขียนแนวที่ตลาดเลิฟได้ก็ลุยโลด แต่ต้องระวังอย่า “กระโจน” เข้าหาตลาดจนทิ้งลายเซ็นไป ทั้งนี้ทั้งนั้น Hideko_Sunshine บอกไว้ว่า ใครที่ไม่ถนัดแนวตลาดจริงก็สลับไปเขียนแนวที่ชอบบ้าง  จะได้เลี้ยงทั้ง “ปากท้องและจิตวิญญาณ” ให้อยู่รอดทั้งสองอย่าง
     
  2. ช่วยให้เห็นจุดเด่น จุดขายของแนวต่างๆ ที่สามารถมาลองทำเป็นเวอร์ชันของตัวเองได้ เพราะเมื่อ Hideko_Sunshine จะเขียนแนวไหนก็แล้วแต่ ต้องรู้จักแนวนั้นให้ดีที่สุด ทั้งพล็อต ภาษา แนวเรื่อง หรือคาร์แรกเตอร์ของตัวละคร ส่วนตัวพี่นจาว่า การส่องเทรนด์ก็ช่วยให้เราเจอความถนัดมากขึ้นด้วยค่ะ บางทีเราไม่เคยเขียนแนวนี้ แต่พอได้ลองส่อง ลองเขียน ปรากฏว่าเขียนได้ดีแถมยังรู้สึกสนุกกว่าเขียนแนวเดิมด้วยแหละ เพราะงั้นนักเขียนทุกคนต้องไม่ลืมส่องเทรนด์เป็นประจำด้วยน้า

 

6. แผนต้องดีและมีวินัย

“ก่อนจะออกมายึดอาชีพนักเขียนเป็นหลัก ต้องวางแผนดีๆ”

ใครๆ ก็อยากทำสิ่งที่รักใช่ไหมล่ะคะ เพราะงั้นพี่นจาเชื่อว่าความฝันของคนรักการเขียนหลายๆ คน ก็คือการได้ “เขียน” เป็นอาชีพหลัก  แต่จะเป็นนักเขียนฟูลไทม์ได้ก็ต้องวางแผนให้ดีและมีวินัยก่อน ตามที่ Hideko_Sunshine แนะนำ ให้เริ่มจากการตั้งเป้าหมายว่าในหนึ่งปีเราควรมีรายได้จากงานเขียนเท่าไหร่ถึงจะอยู่ได้ และจะต้องเขียนกี่เรื่องถึงจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ถ้าทดลองทำแล้วสำเร็จค่อยออกมายึดเป็นอาชีพหลักได้เลย 

ถึงช่วงแรกจะเป็นช่วงเหนื่อยและยากที่สุด เพราะต้องเขียนนิยายควบคู่ไปกับภารกิจหลักอย่างงานประจำหรือการเรียน แต่พี่นจาเชื่อว่ามุ่งมั่น ตั้งใจ แพชชั่นพร้อม ปากกาพร้อม ทุกคนทำได้แน่นอน!

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับสุดปังจากนักเขียนคนดังอย่าง Hideko_Sunshine ส่วนตัวพี่นจาต้องบอกว่าช่วยได้เยอะเลย เพราะทั้ง 6 ข้อที่ได้มา จัดว่าฉ่ำและครบรสมากๆ เพราะได้ทั้งเคล็ดลับตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเขียน ลงมือเขียน และรับมือกับแรงกดดันกันเลยทีเดียว 

ส่วนตัวพี่นจาชอบเรื่องการเขียนในสิ่งที่อินมากๆ เลยค่ะ เพราะจะได้ส่งต่อเรื่องราวที่เราเขียนจากใจให้คนอ่าน เหมือนเป็นการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ของเราให้คนอื่นๆ 

แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะชอบข้อไหนเป็นพิเศษ หรือได้ลองใช้แล้วผลลัพธ์ออกมาปังแค่ไหน อย่าลืมมาแชร์กันน้า

ก่อนจากกันวันนี้ พี่นจาก็หวังว่าเคล็ดลับที่รวบรวมมาจะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่สนใจอยากประสบความสำเร็จบนเส้นทางนักเขียนน้า พี่นจาขอปิดท้ายด้วยประโยคเด็ดจาก Hideko_Sunshine ที่อ่านแล้ว เรียกกำลังใจมาแบบ สิบ สิบ สิบ! 

“การได้มอบความสุขให้กับนักอ่าน แม้จะเป็นเพียงคนเดียวก็คือความสุขแล้วค่ะ”

อ่านนิยายของ Hideko_Sunshine/ ฉัตรฉาย/ แสนการุณ

 

พี่นจา
พี่นจา - Columnist หนอนหนังจื๋อ เขียนได้นิดหน่อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น