Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดบพิตรพิมุข วัดจักรวรรดิ วัดราชบุรณะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

    ในวันนี้ ผมจะได้นำเสนอวัดอีกสามวัด ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆ กัน

       ตอนนี้ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ อยู่แถวๆ สำเพ็ง แถวนั้นก็จะมีวัดบพิตรพิมุข และวัดจักรวรรดิ (เป็นชื่อวิทยาเขตพอดี) พอเ้ดินไปทางด้านหลังมหาวิทยาลัยของผม จะเป็นพาหุรัด เดินข้ามถนนไปหน่อยก็จะเจอวัดราชบุรณะ อีกวัดหนึ่ง

        มาเริ่มที่วัดบพิตรพิมุข ที่อยู่ติดรั้วเดียวกับมหาวิทยาลัยของผมกันก่อน วัดบพิตรพิมุขนี้ เดิมชื่อวัดเชิงเลน สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ซึ่งทรงเป็นพระมาตุลา (น้า) ของพระองค์ รัชกาลที่ ๑ จึงได้ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า วัดบพิตรพิมุข เพื่อเป็นเกียรติแก่กรมพระราชวังบวรสถานพิมุขพระองค์นี้
        ในสมัยรัชกาลที่ ๒ เกิดโรคอหิวาต์ระบาด มีการนำศพมากองและเผากันที่วัดนี้ด้วย อาจารย์ผมเคยเล่าว่า ตอนเขาจะสร้างตึกใหม่ที่มหาวิทยาลัย มีการเจอโครงกระดูกมากมาย จึงมีการทำพิีธี เอาไปลอยอังคารให้เรียบร้อย




พระอุโบสถ






พระสัมพุทธบพิตร พระประธานในพระอุโบสถ








พระพุทธรูปปางลีลา ที่หน้าพระอุโบสถ ผมชอบพระพุทธรูปองค์นี้มาก อดถ่ายภาพไม่ได้สักที











พระเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ









พระพุทธรูปในระเบียงคด



พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธบพิตรมงคล หรือหลวงพ่อพระยิ้ม แต่ไม่เคยเปิดเสียที (ผมสอบถามจากหลวงพี่รูปหนึ่ง ท่านบอกว่าจะเปิดเฉพาะเวลามีงานสำคัญๆ) หลวงพ่อพระยิ้มนี่เป็นพระพุทธรูปที่ดูแปลกมากองค์หนึ่ง พระพักตร์ของพระองค์จะยิ้มแฉ่ง ต่างจากพระพุทธรูปทั่วไป ถ้ามีโอกาส ผมจะเก็บภาพมาฝากกัน



       ข้ามถนนจากวัดบพิตรพิมุข เดินไปอีกไม่ไกล ก็จะถึงวัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของจระเข้ วัดนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมา เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกและแม่ทัพใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ได้บูรณปฏิสังขรณ์ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๓ 



พระอุโบสถ




พระประธานในพระอุโบสถ










จิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องทศชาติชาดก ซึ่งปกติ เวลาที่ผมไป พระอุโบสถจะปิด แต่เมื่อวาน ผมไปตอนที่พระท่านกำลังจะทำวัตรเย็นพอดี พระอุโบสถจึงเปิดเอาไว้ ผมก็เลยมีโอกาสได้เข้าไปถ่ายภาพข้างใน



วิหารพระนาก เคยเป็นที่ประดิษฐาน พระบาง คงรู้จักพระบางกันใช่มั้ยครับ ที่ตอนนี้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของลาว ซึ่งเขาว่ากันว่า ถ้าพระบางและพระแก้วมรกต ประดิษฐานด้วยกันที่เมืองใด เมืองนั้นจะเกิดสงคราม หรือเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น เพราะเทพารักษ์ที่ปกปักษ์คุ้มครองพระพุทธรูปทั้งสององค์ไม่ถูกกัน ในสมัยรัชกาลที่ ๔ จึงทรงคืนพระบางให้กับลาวไป และได้ทรงนำ พระนาก จากหอพระนากในพระบรมมหาราชวังมาประดิษฐานแทน




พระวิหาร




พระปรางค์




มณฑปพระพุทธบาท







ข้างในประิดิษฐานพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์






พระพุทธบาทของวัดนี้ จะลึกกว่าของวัดอื่น





พระพุทธฉาย



ศาลา ข้างในประดิษฐานรูปปั้นของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกและแม่ทัพใหญ่สมัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งท่านเป็นผู้ปฏิสังขรณ์วัดนี้





พระปรางค์ คู่กับมณฑปพระพุทธบาท


 
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยของวัดจักรวรรดิ คือ จระเข้ ซึ่งวัดจักรวรรดิ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของ อ้ายบอด จระเข้กินคนที่เลื่องชื่อ ซึ่งผมทราบมาว่า ตำนานของอ้ายบอดนั้นมีสองตำนาน ตำนานแรกว่ากันว่า อดีตเจ้าอาวาสรูปหนึ่งได้นำมันมาเลี้ยง แล้วมันได้ถูกเด็กวัดแกล้งจนตาบอด อีกตำนานก็คือ ในคราวที่กรุงเทพฯ เกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.๒๔๘๕ อ้ายบอดได้ออกอาละวาดฆ่าคน ระหว่างนั้นก็ถูกคนทำร้ายจนตาบอด เมื่อน้ำลด ได้มีคนพบมันมาหลบอยู่ที่ใต้กุฏิพระ ซึ่งพระได้ขอชีวิตมันจากชาวบ้านไว้ และเลี้ยงไว้ที่วัดเรื่อยมา







บ่อจระัเข้ที่วัดจักรวรรดิมีสองบ่อ ตัวที่อยู่ในบ่อข้างหลังตัวใหญ่มาก ไม่แน่ใจว่าใช่อ้ายบอดรึเปล่า แต่คือตัวใหญ่จริงๆ ผมรู้สึกว่าบ่อแคบมากสำหรับตัวมัน (ล่าสุดที่ผมไปมา บ่อเล็กข้างหน้าไม่มีจระเข้แล้ว มีแต่
ปลา แต่เจ้าตัวยักษ์นี้ยังอยู่)


 จบแล้วครับ สำหรับวัดบพิตรพิมุข และวัดจักรวรรดิ ส่วนวัดราชบุรณะ เชิญติดตามได้ที่ด้านล่างครับ

 กระทู้อื่นๆ ในหมวดนี้

ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดสุทัศนเทพวราราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดบวรนิเวศวิหาร
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดสระเกศ
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดราชนัดดาราม และ วัดเทพธิดาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดราชบพิธ และ วัดราชประดิษฐ์
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดปทุมวนาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดราชโอรสาราม
ะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพิชัยญาติ และ วัดอนงคาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดไตรมิตรวิทยาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดอรุณราชวราราม และ วัดโมลีโลกยาราม

ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดราชาธิวาส
ตะลุยวัดในกรุงเืทพฯ ตอน วัดอินทรวิหาร



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 มกราคม 2556 / 00:30
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 12 มกราคม 2556 / 00:36
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 12 มกราคม 2556 / 00:46
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 24 มกราคม 2556 / 23:44
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:56
แก้ไขครั้งที่ 6 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:46

แสดงความคิดเห็น

5 ความคิดเห็น

Lord_Lucifer 11 ม.ค. 56 เวลา 23:35 น. 1

ขอบคุณมากเลยค่ะ ^^


PS.  I Love Kaew x Fang , KFLism ซึมซับอยู่ในสายเลือด // ชอบสไปเดอร์แมนเป็นชีวิต
0
ซูบารุโย 11 ม.ค. 56 เวลา 23:49 น. 2
          มาถึงวัดราชบุรณะ บ้างครับ วัดนี้คือ วัดราชบุรณราชวรวิหาร นะครับ ไม่ใช่วัดราชบูรณะ ผมยึดตามป้ายบอกทางและป้ายชื่อของวัด

             วัดราชบุรณะนี้ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีัอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดจีนเลี๊ยบ เพราะมีชาวจีนชื่อ เลี๊ยบ มาค้าขายในเมืองไทย และมักจอดเรืออยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายหลังเมื่อร่ำรวยขึ้น ก็ได้สร้างศาลาให้คนเข้ามาทำบุุญและพักผ่อน จนต่อมาภายหลังก็มีคนมาสร้างวิหาร สร้างอะไรต่ออะไรเพิ่มเติม ต่อมา คำว่าจีนหายไป เหลือแต่เพียง วัดเลี๊ยบ และกลายเป็น วัดเลียบ ในที่สุด
               ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเทพหริรักษ์ ซึ่งเป็นพระราชนัดดา ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้  และรัชกาลที่ ๑ ได้ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า วัดราชบุรณะ ตามธรรมเนียมการสร้างราชธานี ที่จะต้องมีวัดสามวัด คือ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และวัดราชประดิษฐ์
                สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ วัดนี้ถูกระเบิดทางอากาศเสียหายหมด จนมีประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้ยุบเลิกวัดนี้เีีีสีย จนภายหลัง หลวงพ่อคุณาจารวัตรและผู้ที่เคยอุปการะวัดนี้ได้ร่วมกันบูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่อีกครั้ง จึงมีการยกเลิกคำสั่งยุบวัด และวัดนี้ก็ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน แต่พระอุโบสถ หรือสิ่งก่อสร้างที่เห็นในปัจจุบัน ก็เป็นของใหม่เกือบหมด
                นอกจากนี้ ขรัวอินโข่ง พระภิกษุผู้มีชื่อเีสียงด้านการวาดภาพ ก็เคยจำพรรษาที่วัดนี้ และสำหรับแฟนคลับของกัน เดอะสตาร์ ก็คงจะืทราบดี ว่าตอนที่กันเรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ก็มาอาศัยที่วัดนี้




พระอุโบสถ แน่นอน ว่าเป็นหลังใหม่ เพราะหลังเก่าถูกระเบิดเสียหายหมด ในพระอุโบสถหลังเก่า จะมีจิตกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโ่ข่งอยู่ด้วย






ซุ้มใบเสมา





พระพุทธมหาราช พระประธานในพระอุโบสถ











บานหน้าต่างพระอุโบสถ แกะสลักเป็นเรื่องทศชาติชาดก




หน้าบันพระอุโบสถ เป็นรูปเทพเจ้าองค์ต่างๆ ในภาพนี้คือ พระอินทร์












ศาลาเทพหัสดิน ณ อยุธยา ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก กรมหลวงเทพหริรักษ์ ผู้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้






พระพุทธปรางค์ เป็นสิ่งที่รอดจากระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง











สี่มุมขององค์พระปรางค์ จะมีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่





สุสานญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสองสิ่งที่รอดจากระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ป้ายเขียนไว้ว่า 日本人納骨堂 (นิฮ่งจิ้นโนโคะทสึโด) ในป้ายจะเขียนให้อ่านจากขวาไปซ้าย นิฮ่งจิ้น ก็หมายถึง ชาวญี่ปุ่น โนโคะทสึโด ความหมายจะประมาณว่า ที่เก็บกระดูก ที่เก็บศพ อะไรอย่างนั้น





วัดนี้อยู่ตรงเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า มองออกไปจึงเห็นสะพานพระพุทธยอดฟ้า

 จบแล้วครับ กับวัดราชบุรณะ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 มกราคม 2556 / 00:00
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:53
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 18:03
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2556 / 00:03
0
toona 4 ก.พ. 56 เวลา 09:24 น. 3

ได้ความรู้มากๆเลย เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่จบจาก มทร รัตนโกสินทร์ บพิตพิมุข จักวรรดิ์ ไม่เคยทราบเกี่ยวกับข้อมูลเลย&nbsp  ขอบคุณมากๆครับฟม

0
ซูบารุโย 21 ก.พ. 56 เวลา 23:08 น. 4
    ช่วงนี้ วัดจักรวรรดิมีงานครับ พระอุโบสถ และวิหารต่างๆ เปิดให้ประชาชนเข้าไปสักการะพระพุทธรูปภายในนั้น ผมจึงได้ไปเก็บภาพมาฝากกัน








พระนาก หรือ หลวงพ่อนาก ประดิษฐานในวิหารพระนาก (ที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง)






พระประธานในพระวิหาร






วิหารพระพุทธไสยาสน์ ยอดเป็นสถูป







พระพุทธไสยาสน์










ในนั้นยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ไว้ด้วย



0