ใครรู้จักอาชีพนี้บ้างง O.o ???
ตั้งกระทู้ใหม่
การท่องเที่ยวบนเรือสำราญ...?
วันนี้มีอีก 1 อาชีพมาแนะนำค่ะ เป็นอาชีพที่เงินดีมากกกกกกกกและได้เดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลก แต่กลับไม่ค่อยมีคนพูดถึงอาชีพนี้เท่าไหร่ นั่นก็คือ "งานบริการบนเรือสำราญ" ค่ะ เราลองมาทำความรู้จักงานนี้กันดีกว่า รับรองว่าน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ
เป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งการท่องเที่ยวบนเรือ
แผนก Housekeeping หรือแผนกแม่บ้าน ต่อให้มีประสบการณ์ล้นฟ้ามาจากไหน แทบทุกคนจะต้องเริ่มจากตำแหน่ง Hotel Steward ก่อนค่ะ หน้าที่งานก็คือทำความสะอาดห้องพักหรือบริเวณอื่นๆ บนเรือให้สะอาด รายได้อยู่ที่ประมาณ 550-700 USD ต่อเดือน หากผลงานเข้าตากรรมการ ก็มีโอกาสเลื่อนขึ้นไปเป็น Assistant Stateroom Steward หรือผู้ช่วยหัวหน้าแผนกแม่บ้าน รายได้อยู่ที่ 1000-1400 USD ต่อเดือน และตำแหน่งใหญ่สุดของแผนกนี้ก็คือStateroom Steward ก็คือหัวหน้าของแผนกนั่นเองค่ะ รายได้เบาๆ ก็แค่ 3000-4000 USDเหยียบแสนเท่านั้นเอ๊งงงงง (คูณ 30 นะจ๊ะ)
แผนก Bar หรือบาร์ที่ขายอาหารและเครื่องดื่ม ตำแหน่งเริ่มต้นคือ Bar Steward หน้าที่คือยืนประจำอยู่ที่บาร์ รับออเดอร์จากแขกค่ะว่าต้องการจะสั่งอะไร รายได้อยู่ที่ 550-700 USD หากได้เลื่อนขั้นก็จะเป็น Bar Waiter / Bar Waitress ซึ่งจะไม่ได้ยืนประจำที่บาร์เฉยๆ แต่จะมีหน้าที่เสิร์ฟ รายได้อยู่ที่ 1000-3000 USD และหากได้เลื่อนขั้นอีก ทีนี้ก็จะเป็นBartender(บาร์เทนเดอร์) รายได้อยู่ที่ 2500-3500 USD!!! (เพิ่งรู้ว่าบาร์เทนเดอร์เงินดีขนาดนี้)
นอกจากนี้ แผนกนี้จะทำงานคล้ายๆ เซลส์ค่ะ คือถ้าขายเครื่องดื่มและอาหารได้เยอะ เราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายด้วย ขอบอกว่าเงินไม่น้อยเลยนะ ขั้นต่ำก็ 5% แล้ว สมมติสั่งไวน์ขวดละหมื่น เราก็ได้ตั้ง 500 บาทแล้ว (น้ำลายไหล 555)
แผนก Dining Room หรือห้องอาหาร เริ่มต้นที่ตำแหน่ง Restaurant Steward ก็คือพนักงานที่คอยดูแลห้องอาหาร เก็บโต๊ะ เก็บจาน ทำความสะอาด รายได้อยู่ที่ 800-1400 USDอื้อหือ เสิร์ฟเฉยๆ ได้ตั้งหลายหมื่นแน่ะ
1. อายุ 21-35 ปี เด็กไปเดี๋ยวผู้ปกครองเป็นห่วง อายุมากไปเดี๋ยวมีปัญหาสุขภาพ
เป็นยังไงบ้างกับงานน่าสนใจที่นำมาฝาก^^ ดังนั้นน้องๆ ที่สนใจอยากทำงานบนเรือสำราญ ก็อย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งๆ นะคะ ถ้าให้ แนะนำ น้องๆ ควรลองไป Work&Travel ที่อเมริกาดูก่อนสัก 3 เดือน จะได้เก็บไว้เป็นประสบการณ์เบื้องต้น เวลาไปสมัครทำงานบนเรือจะได้ผ่านฉลุย......ถือเป็นอีกอาชีพสุดท้าทายสำหรับ คนรักภาษาและชอบการท่องเที่ยวค่ะ มีใครสนใจอยากทำงานนี้บ้าง ขอเสียงหน่อยจ้า!!
ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัย ศรีปทุม เปิดสอนสาขา การบริการธุรกิจเรือสำราญแล้วนะ น้องๆ คนไหนสนใจ คลิกไปดูรายละเอียดได้ที่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งการท่องเที่ยวบนเรือ
สำราญนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดัง นั้นธุรกิจนี้จึงต้องการพนักงานที่มีความสามารถและเซอร์วิสดีขั้นเทพจริงๆ ค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวที่ยอมจ่ายแพง(ค่าขึ้นเรือหลักหมื่น + ค่าใช้จ่ายบนเรือ = รวมๆ แล้วบางคนอาจใช้จ่ายถึงหลักแสน) ก็หวังที่จะได้รับบริการและความพอใจขั้นสุดยอดอยู่แล้ว แถม การท่องเที่ยวบนเรือสำราญนั้นมีการแข่งขันสูง เพราะนอกจากจะแข่งกันเองระหว่างธุรกิจเรือสำราญด้วยกันแล้ว ยังต้องแข่งกับธุรกิจท่องเที่ยวบนฝั่งอีกด้วย ดังนั้นจึงมีการคัดคนหรือพนักงานที่จะขึ้นไปทำงานบนเรืออย่างเข้มงวดที เดียว!!
Disney Line เส้นทางในการเดินเรือ เช่น
Carnival Line มีเส้นทางในการเดินเรือที่ใหญ่มาก ทั้งในอเมริกา เกาะฮาวาย แคนาดา เบอร์มิวดา อเมริกาใต้ ยุโรป สแกนดิเนเวีย ยุโรป ทะเลแคริบเบียน
Norvegian Line เส้นทางในการเดินเรือจะอยู่ในเขตประเทศนอร์เวย์ โดยสามารถเดินทางออกจากท่าเรือกว่า 30 ท่าเลยทีเดียว
สำหรับธุรกิจเรือสำราญ(Cruise Line) ที่มีชื่อเสียงนั้น ได้แก่
Disney Line เส้นทางในการเดินเรือ เช่น
- Greek Islands Cruises เส้น ทางนี้ก็จะเที่ยวตามเกาะต่างๆ ของประเทศกรีซ ออกเดินทางจากท่าเรือที่ตุรกี โครเอเชีย หรือเมืองเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ ใช้เวลาล่องเรือ 7-21 คืน
- Alaska Cruises เส้นทางนี้จะล่องไปยังอะลาสก้า(อเมริกา) ส่วนมากออกเดินทางจากแคนาดา ใช้เวลา 7-12 คืน
- Mexico/Central America Cruises เส้นทางนี้จะไปยังทะเลในเม็กซิโกหรือประเทศอื่นๆ ในแถบอเมริกากลาง ออกเดินทางจากเม็กซิโก ใช้เวลา 3-14 คืน
- Mediterranean Cruises เส้นทางนี้ล่องผ่านหลายประเทศ เช่น สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี และสิ้นสุดที่กรีซ ใช้เวลา 7-14 คืน
Carnival Line มีเส้นทางในการเดินเรือที่ใหญ่มาก ทั้งในอเมริกา เกาะฮาวาย แคนาดา เบอร์มิวดา อเมริกาใต้ ยุโรป สแกนดิเนเวีย ยุโรป ทะเลแคริบเบียน
แผนก Housekeeping หรือแผนกแม่บ้าน ต่อให้มีประสบการณ์ล้นฟ้ามาจากไหน แทบทุกคนจะต้องเริ่มจากตำแหน่ง Hotel Steward ก่อนค่ะ หน้าที่งานก็คือทำความสะอาดห้องพักหรือบริเวณอื่นๆ บนเรือให้สะอาด รายได้อยู่ที่ประมาณ 550-700 USD ต่อเดือน หากผลงานเข้าตากรรมการ ก็มีโอกาสเลื่อนขึ้นไปเป็น Assistant Stateroom Steward หรือผู้ช่วยหัวหน้าแผนกแม่บ้าน รายได้อยู่ที่ 1000-1400 USD ต่อเดือน และตำแหน่งใหญ่สุดของแผนกนี้ก็คือStateroom Steward ก็คือหัวหน้าของแผนกนั่นเองค่ะ รายได้เบาๆ ก็แค่ 3000-4000 USDเหยียบแสนเท่านั้นเอ๊งงงงง (คูณ 30 นะจ๊ะ)
แผนก Bar หรือบาร์ที่ขายอาหารและเครื่องดื่ม ตำแหน่งเริ่มต้นคือ Bar Steward หน้าที่คือยืนประจำอยู่ที่บาร์ รับออเดอร์จากแขกค่ะว่าต้องการจะสั่งอะไร รายได้อยู่ที่ 550-700 USD หากได้เลื่อนขั้นก็จะเป็น Bar Waiter / Bar Waitress ซึ่งจะไม่ได้ยืนประจำที่บาร์เฉยๆ แต่จะมีหน้าที่เสิร์ฟ รายได้อยู่ที่ 1000-3000 USD และหากได้เลื่อนขั้นอีก ทีนี้ก็จะเป็นBartender(บาร์เทนเดอร์) รายได้อยู่ที่ 2500-3500 USD!!! (เพิ่งรู้ว่าบาร์เทนเดอร์เงินดีขนาดนี้)
นอกจากนี้ แผนกนี้จะทำงานคล้ายๆ เซลส์ค่ะ คือถ้าขายเครื่องดื่มและอาหารได้เยอะ เราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายด้วย ขอบอกว่าเงินไม่น้อยเลยนะ ขั้นต่ำก็ 5% แล้ว สมมติสั่งไวน์ขวดละหมื่น เราก็ได้ตั้ง 500 บาทแล้ว (น้ำลายไหล 555)
แผนก Dining Room หรือห้องอาหาร เริ่มต้นที่ตำแหน่ง Restaurant Steward ก็คือพนักงานที่คอยดูแลห้องอาหาร เก็บโต๊ะ เก็บจาน ทำความสะอาด รายได้อยู่ที่ 800-1400 USDอื้อหือ เสิร์ฟเฉยๆ ได้ตั้งหลายหมื่นแน่ะ
1. อายุ 21-35 ปี เด็กไปเดี๋ยวผู้ปกครองเป็นห่วง อายุมากไปเดี๋ยวมีปัญหาสุขภาพ
2. ร่างกายแข็งแรง บุคลิกดี แน่ นอนค่ะว่างานบริการที่ไหนๆ ก็อยากได้คนที่บุคลิกดี ไม่ต้องถึงกับหล่อสวยเริด (ขนาดนั้นก็ไปเป็นดาราเถอะ) บุคลิกดีที่ว่าคือยิ้มแย้มแจ่มใส มั่นใจ ดูสง่าผ่าเผยนั่นเอง
3. ภาษาอังกฤษดีถึงดีมาก หลายคนอาจสงสัย ไม่เก่งอังกฤษจะไปได้มั้ยคะ? ไม่เก่งอังกฤษก็ต้องไปฝึกให้เก่งค่ะ เพราะ กว่าจะได้ทำจริงๆ นั้น น้องๆ ต้องเจอการสัมภาษณ์ที่เข้มข้นมาก หากจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานบนเรือแต่กลับใช้ภาษาได้ไม่ดีและอยากลาออก ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นงาน Contract ที่มีสัญญาหลายเดือน ออกก่อนก็ถือว่าผิดสัญญา จะหนีก็ไม่ได้อีก เพราะเรือล่องอยู่กลางทะเลนะเออ = =" ดังนั้นอย่าถามค่ะว่าไม่เก่งอังกฤษทำได้มั้ย ไม่เก่งก็ต้องไปฝึกให้เก่งนะ!
4. ควรมีประสบการณ์งานบริการมาบ้าง เช่น หากใครเคยทำงานโรงแรมมาก่อน ก็มีโอกาสได้รับการคัดเลือกมากกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย หรือน้องๆ คนไหนเรียนจบการโรงแรมก็ถือว่าได้เปรียบมากเลยค่ะ
1. เก็บเงินได้เยอะ(มาก) เพราะ ไม่มีอะไรล่อตาล่อใจให้เราช้อปปิ้งมาก ก็อยู่บนเรือนี่เนาะ 555 กินอยู่ก็ฟรีบนเรือ วันๆ แทบไม่ต้องใช้เงินเลย สมมติได้เงินเดือนเดือนละ 50,000 บาท บางคนอาจจะมีจ่ายจิปาถะเล็กน้อยและเหลือเก็บมากถึง 45,000 บาทต่อเดือน ทำแป๊บเดียวก็เก็บเงินได้เยอะมากๆๆ แล้วค่ะ เคยได้ยินว่ามีบางคนทำงานไม่กี่ปีก็เก็บเงินไปเรียนการโรงแรมที่สวิสได้แล้ว อะ!
ข้อเสียของการทำงานบนเรือสำราญ
1. ไกลบ้านนานมาก เหงาแน่นอน การ ทำงานแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการไปเรียนเมืองนอกเลยล่ะค่ะ เพราะอยู่ห่างไกลบ้านนานมากเกือบปีแน่ะ ดังนั้นใครเป็นคนติดบ้านหรือขี้เหงาขั้นสูงสุด คงไม่เหมาะกับงานนี้เท่าไหร่นะ
ข้อดีของการทำงานบนเรือสำราญ
1. เก็บเงินได้เยอะ(มาก) เพราะ ไม่มีอะไรล่อตาล่อใจให้เราช้อปปิ้งมาก ก็อยู่บนเรือนี่เนาะ 555 กินอยู่ก็ฟรีบนเรือ วันๆ แทบไม่ต้องใช้เงินเลย สมมติได้เงินเดือนเดือนละ 50,000 บาท บางคนอาจจะมีจ่ายจิปาถะเล็กน้อยและเหลือเก็บมากถึง 45,000 บาทต่อเดือน ทำแป๊บเดียวก็เก็บเงินได้เยอะมากๆๆ แล้วค่ะ เคยได้ยินว่ามีบางคนทำงานไม่กี่ปีก็เก็บเงินไปเรียนการโรงแรมที่สวิสได้แล้ว อะ!
2. ได้ประสบการณ์ขั้นสุดยอด ไม่ ใช่ใครก็ได้ที่จะมีโอกาสได้ทำงานบนเรือสำราญและมีโอกาสเดินทางไปยังอีกซีก โลกหนึ่ง หากใครอยากไปเที่ยวอเมริกาใต้ คงต้องใช้เงินขั้นต่ำเป็นแสน แต่หากทำงานบนเรือล่ะก็ มีโอกาสได้เดินทางไปฟรีๆ ดีจัง^^
3. ได้วันหยุดยาว เพราะเราต้องทำงานติดกัน 6-8 เดือน แต่เวลาหยุดทีก็ได้ 2-3 เดือนเชียวนะ! เข้าทำนอง Work hard, Play harder
ข้อเสียของการทำงานบนเรือสำราญ
1. ไกลบ้านนานมาก เหงาแน่นอน การ ทำงานแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการไปเรียนเมืองนอกเลยล่ะค่ะ เพราะอยู่ห่างไกลบ้านนานมากเกือบปีแน่ะ ดังนั้นใครเป็นคนติดบ้านหรือขี้เหงาขั้นสูงสุด คงไม่เหมาะกับงานนี้เท่าไหร่นะ
2. งานหนัก การทำงานบนเรือ "ต้องทำทุกวัน" แทบไม่มีวันหยุด บางวันก็ตก 10 ชั่วโมงค่ะ (แต่วันไหนที่เรือจอดที่ฝั่ง และนักท่องเที่ยวลงไปเที่ยว เราก็ว่าง ไม่ต้องทำงานหนัก) นักท่องเที่ยวก็เยอะ เรือบางลำจุได้ถึงหลักพัน ถึงเงินจะเยอะแต่ความรับผิดชอบก็เยอะมากทีเดียว มีคนพูดไว้ว่า ถ้าเราทำงานบนเรือได้ เราก็สามารถทำงานที่ไหนๆ บนโลกก็ได้ (เพราะถึกมาก)
- ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยังประเทศที่เรือออกเดินทาง เช่น น้องได้ทำสัญญาทำงานกับ Norvegian Line เราก็ต้องเดินทางไปขึ้นเรือที่นอร์เวย์ ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 4-5 หมื่นบาท (แต่แว่วมาว่า ในบางครั้งทางเรือก็เป็นคนออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เราด้วยล่ะค่ะ!!)
เอาล่ะ มาถึงค่าใช้จ่ายบ้าง การที่เราจะไปทำงานบนเรือได้นั้น แน่นอนว่าก็ต้องมีการดำเนินการนั่นนี่ค่อนข้างเยอะ ลองมาดูดีกว่าว่า ต้องใช้เงินเท่าไหร่นะ
- ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยังประเทศที่เรือออกเดินทาง เช่น น้องได้ทำสัญญาทำงานกับ Norvegian Line เราก็ต้องเดินทางไปขึ้นเรือที่นอร์เวย์ ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 4-5 หมื่นบาท (แต่แว่วมาว่า ในบางครั้งทางเรือก็เป็นคนออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เราด้วยล่ะค่ะ!!)
- ค่าวีซ่า ขอวีซ่าก็ไม่ยากค่ะ เพราะหากเรามีใบสัญญาทำงาน แค่นำใบสัญญานี้ไปขอวีซ่าเป็นอันจบ เสียเงินไม่เกินหมื่น
- ค่าตรวจสุขภาพ สุขภาพที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานบนเรือ เพราะเราทำงานทุกวันแทบไม่มีวันหยุด ใครสุขภาพไม่ดีได้ป่วยออดๆ แอดๆ แน่ๆ ในส่วนนี้จะเสียค่าใช้จ่ายอีก 4-5 พัน ไม่น่าเกินนี้ค่ะ นอกจากนี้หากน้องๆ ทำงานจนครบสัญญา ทางเรืออาจจะจ่ายเงินส่วนนี้คืนมาให้ด้วยนะ!
เป็นยังไงบ้างกับงานน่าสนใจที่นำมาฝาก^^ ดังนั้นน้องๆ ที่สนใจอยากทำงานบนเรือสำราญ ก็อย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งๆ นะคะ ถ้าให้ แนะนำ น้องๆ ควรลองไป Work&Travel ที่อเมริกาดูก่อนสัก 3 เดือน จะได้เก็บไว้เป็นประสบการณ์เบื้องต้น เวลาไปสมัครทำงานบนเรือจะได้ผ่านฉลุย......ถือเป็นอีกอาชีพสุดท้าทายสำหรับ คนรักภาษาและชอบการท่องเที่ยวค่ะ มีใครสนใจอยากทำงานนี้บ้าง ขอเสียงหน่อยจ้า!!
มาจาก http://www.dek-d.com/content/studyabroad/30933/
>>> http://www.spu.ac.th/liberal-arts/
ขอบอกก... อาชีพนี้เงินดีแล้ว ยังได้เดินทางท่องเที่ยวไปสถานที่ต่างๆ อีกด้วย นอกจากนั้น!! ถ้าไม่ได้ทำงานบนเรือแล้ว ยังสามารถนำความรู้ไปทำงานด้านการโรงแรมได้ด้วย โอ้โห้ O.o
bowriribbon
2 เม.ย. 57 เวลา 10:08 น.
2,311
views
9 ความคิดเห็น
น่าทำนะคะ แต่โง่ภาษาสุดๆ55 โดเรมอนขอวุ้นแปลภาษาหน่อยย#ไม่เกี่ยว
ช่ายย ได้เที่ยวไปด้วย ได้ไปในประเทศต่างๆ ที่เหลือจอด
บาร์เทนเดอร์เงินดีจริงๆนะค่ะ มันมีหลักสูตรให้เรียนเป็นปีๆเลย
จะออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนโชคชะตาไม่เข้าใจ =,.=
v
v
v
v
ทำ ไม ต้อง เรียน ที่ ศรีปทุม เพราะ ?
- เรียนกับมืออาชีพที่ผ่านการทำงานบนเรือ
- เน้นเรียนการจัดการบริการด้านโรงแรมใน 3 ด้าน ด้านสำนักงานส่วนหน้า (Front Office) ด้านห้องพัก (Housekeeping) และด้านบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Service)
- เรียนโดยเน้นการฝึกปฏิบัติ
- ในหลักสูตรมีการเรียนความรู้พื้นฐานคนประจำเรือ 4 หลักสูตร
1) การดำรงชีพในทะเล (Personal Survival Techniques)
2) การป้องกันและดับไฟ (Fire Prevention and Fire Fighting)
3) การปฐมพยาบาลเบื้องต้น (Elementary First Aid)
4) ความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคม (Personal Safety and Social Responsibility)
กับโรงเรียนเดินเรือสากล ซึ่งจะได้รับ Certificar ในแต่ละหลักสูตรเพื่อขอรับ “หนังสือคนประจำเรือ (Seaman Book)” กับกรมเจ้าท่าได้โดยตรง
- มีการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบภาษาอังกฤษสำหรับคนเรือ (Marlins English Test)
- มีความร่วมมือกับบริษัท Triple C Academy เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในการสมัครงานบนเรือสำราญที่มีชื่อเสียงของโลก
ไม่ต่างจากเป็นแอร์เท่าไหร่ ^^
ใช่แล้วว แต่เรียนธุรกิจเรือสำราญ ได้ทั้งแอร์ ได้เรือสำราญ ได้การโรงแรม
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?