แนะนำ 10 ทักษะชีวิตที่ควรมีครบตั้งแต่ ม.ปลาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่!

    

    

การเดินทางไปไหนมาไหนเองได้ เป็นหนึ่งในทักษะชีวิตที่ช่วยให้เราเอาตัวรอดได้ในหลายๆ สถานการณ์ ซึ่งเป็นการฝึกให้น้องๆ มีความรอบคอบและชำนาญเส้นทางมากขึ้น และถ้าใครมีความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะอย่าง จักรยาน จักรยานยนต์ รถยนต์ ก็ยิ่งช่วยให้เราเดินทางได้สะดวกมากขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ ว่าแต่ถ้าใครขับรถเป็นแล้วก็อย่าลืมไปทำใบขับขี่ตามกฎหมายด้วยนะจ๊ะ 

แม้ว่าชีวิตประจำวันของทุกคน อาจไม่ต้องพึ่งพาการคมนาคมทางน้ำเหมือนสมัยก่อน แต่การว่ายน้ำ ก็ยังคงเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับทุกคนอยู่ดี เพราะนอกเหนือจากความสนุกที่เราสามารถพยุงร่างกายแหวกว่ายในสระน้ำหรือทะเลให้ชื่นใจแล้ว การว่ายน้ำยังช่วยลดความเสี่ยงในการจมน้ำตายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ ใครที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นอยู่ ถ้ามีเวลาก็ควรฝึกว่ายให้เป็นด้วยนะคะ พี่ส้มเป็นห่วง ^^

    

    

ใครๆ ก็รู้ว่าทักษะการสื่อสารและการใช้ภาษา มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ได้รอบด้าน น้องๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยทั้งในระดับไม่เป็นทางการ กึ่งทางการ และทางการ เพื่อความเหมาะต่อสมกาลเทศะและผู้คนที่เราสื่อสารด้วย นอกจากนี้น้องๆ ยังควรฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาที่สองและภาษาที่สามไว้เช่นกัน เพราะในปัจจุบันภาษาต่างประเทศได้เข้ามามีอิทธิพลต่อเรื่องการเรียนและการทำงานมาก ถ้ายังปล่อยตัวเองให้รู้แบบ สเนคๆ ฟิชๆ อยู่ ก็พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ นะจ๊ะ สู้เขาจ้า!

    

การเกิดและเติบโตในเมืองไทยที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยสตรีทฟู้ดทุกตรอกซอกซอยนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องละทิ้งวิชาแม่ครัวหัวป่าก์แล้วคว้ากระเป๋าเงินออกไปซื้อเขากินเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะทักษะชีวิตในการทำอาหาร จะช่วยน้องๆ ให้อยู่รอดได้ในช่วงวันหยุดยาวที่แม่ค้าต่างพากันปิดร้าน และช่วยให้น้องๆ ได้ฝึกฝนงานครัว ที่ต้องคิดวางแผนและใช้ความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย ไม่แน่นะว่าทักษะเหล่านี้อาจกลายเป็นพื้นฐานของอาชีพเชฟในอนาคตของน้องๆ เลยก็ได้ ฮ่าๆๆ

     

การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ เรียกได้ว่าเป็นหน้าที่สำคัญที่เราต้องรับผิดชอบต่อตัวเองอยู่แล้วค่ะ ซึ่งวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้ก็คือการออกกำลังกาย อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการชะลอความเสื่อมของระบบร่างกาย และช่วยผ่อนคลายความเครียด ใครเริ่มเบื่อจะทำตัวติดเตียงแล้วอยากเปลี่ยนมาเป็นหนุ่มสาวเฮลท์ตี้ พี่ส้มก็ขอเชียร์สุดใจ เพราะถ้ายิ่งผลัดวันประกันพรุ่งออกไป รู้ตัวอีกทีก็อาจจะมีโรคยอดฮิตมาติดพันจนรักษายากแล้วก็ได้นะจ๊ะเด็กๆ

    

    

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ และสังคมในช่วงชีวิตวัยรุ่น ส่งผลให้น้องๆ หลายคนรู้สึกขัดเขินกับบุคลิกภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งกาย ที่หลายคนกังวลว่าควรเลือกเสื้อผ้าแบบไหนดี มันเด็กไปมั้ย? แก่ไปรึเปล่า? การเข้าหาผู้ใหญ่ ที่ดูเหมือนว่าเราพูดหรือทำอะไรก็ดูขัดตาท่านไปหมด ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือการสร้างความมั่นใจด้วยการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง ที่อาจทำได้จากการหาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่เป็นตัวอย่างในการวางตัวเหมาะสม แล้วลองนำข้อดีของพวกเขามาปรับใช้กับพฤติกรรมของตนเองดูก็ได้ค่ะ

    

    

ยิ่งโตขึ้นมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งสัมผัสได้ว่าแต่ละวันช่างมีแต่เรื่องเข้ามาให้เราได้คิด ตัดสินใจ หรือขัดใจเราอยู่ได้เรื่อยๆ ซึ่งถ้าหากน้องๆ สามารถควบคุมความรู้สึกและการแสดงออกที่เหมาะสม โดยเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะคารมณ์ แล้วใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาได้มากเท่าไหร่ น้องๆ จะได้เรียนรู้ทักษะการจัดการกับอารมณ์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ในระยะแรกนั้นอาจดูเครียดและอึดอัดใจสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าน้องๆ สามารถลอยตัวอยู่เหนือปัญหาได้เมื่อไหร่ น้องจะสามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำให้ตัวเองมีความสุขได้ แม้ชีวิตจะเจอสถานการณ์แย่ๆ เข้ามาก็ตาม

   

    

การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสังคมที่เราต้องพบปะกับผู้คนที่หลากหลาย ทำให้น้องๆ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งทักษะการเข้าสังคมนั้นถือเป็นประตูบานสำคัญที่เราสามารถเปิดออกไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ความรู้ใหม่ๆ มิตรภาพ หรือได้เรียนรู้การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเรียนและทำงานที่เราต้องรู้จักปรับตัวและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ทำให้เรามีทัศนคติที่เปิดกว้างขึ้น เพื่อนำข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆ มาพัฒนาตนเองต่อไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง

    

    

ในการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองนั้น วินัยทางการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสักวันหนึ่งในอนาคตที่น้องๆ มีความมั่นคงในอาชีพการงาน ก็คงไม่ต้องอาศัยค่าขนมจากที่บ้านอีกต่อไป การฝึกบริหารค่าใช้จ่ายของตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บออม หรือฝึกทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ก็สามารถช่วยให้เรามองเห็นลักษณะนิสัยในการใช้เงินได้ชัดเจนขึ้น และช่วยให้เราสามารถวางแผนการใช้และออมเงินในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเราได้อีกเช่นกัน ซึ่งถ้าน้องๆ เป็นคนที่มีวินัยทางการเงิน ไม่ใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นนิสัย ยังไงก็ไม่ขัดสนง่ายๆ หรอกนะจ๊ะ

    

   

ถ้าคนเราเกิดมาเพื่อเรียนแล้วหางานทำเพียงเท่านั้น ก็คงเป็นชีวิตที่ขาดสีสันและเงียบเหงาแน่ๆ ทุกคนจึงต้องมีงานอดิเรกไว้เป็นมุมผ่อนคลายที่ให้เราได้แสดงตัวตนของเราออกมา ไม่ว่าน้องๆ จะชอบ สนใจ หรือมีความสุขกับสิ่งไหน ก็ขอให้ลองลงมือทำดูสักครั้ง เพราะถ้าเรารักและเต็มที่กับมันได้มากจริงๆ ล่ะก็ สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวน้องๆไป ซึ่งสามารถจุดประกายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นอาชีพ หรือช่องทางในการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมรอบข้างได้อีกด้วยจ้า