โรงเรียนแบบไหนที่เหมาะกับลูกเรา?

          การหาโรงเรียนให้ลูกเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ต่างพยายามหาคำตอบที่ใช่ การเลือกหลักสูตรที่จะเตรียมความพร้อมให้ลูกสำหรับอนาคตเป็นสิ่งที่ท้าทายและเป็นสิ่งที่เราในฐานะผู้ปกครองเองไม่ได้รู้ดีไปเสียทั้งหมด การเลือกโรงเรียนอนุบาลหลายคนอาจตอบตามตรงว่าเชื่อเพื่อน อาจด้วยความสะดวก บ้านใกล้ และโรงเรียนสภาพแวดล้อมดี เลยตัดสินใจเช่นนั้น

          พอลูกเริ่มจะเข้าประถมเข้าใจว่าพ่อแม่หลายๆ คนคิดมากขึ้นอยากให้ลูกได้ทุกอย่าง หลักสูตรที่ดี สภาพแวดล้อม สังคม เรื่องการปรับตัว ไม่อยากให้เค้าอยู่ในระบบการเรียนที่ไม่สอนให้คิด ไม่สอนให้แก้ปัญหาหรือท่องจำเป็นหลัก

          จากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่เห็นว่าประเทศไทยรั้งท้ายตามหลังเวียดนามจึงยิ่งทำให้คิดหนักว่าลูกเราจะโตขึ้นมาแบบไหน สังคมเค้าจะเป็นอย่างไร จะทำงานกับชนหลายชาติได้มั้ย รับมือกับการปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน แน่นอนอยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีที่สุด การศึกษาเป็นเสมือนการลงทุนและสิ่งสำคัญที่สุดที่พ่อและแม่จะมอบให้ลูกได้รวมถึงภาษาที่ถือว่าเป็นกุญแจแห่งการเปิดโลกกว้าง

          คุณพ่อคุณแม่หลายคนจึงอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนหลักสูตรไทย อินเตอร์ หรือทวิภาษา เพื่อให้เค้าเอาตัวรอดได้ อยู่ได้ ประสบความสำเร็จได้ และที่สำคัญคือมีความสุข 
 

 

โรงเรียนที่ตอบโจทย์ สอนให้ลูกก้าวล้ำทันโลก และมีความสุขในการเรียนมีอยู่จริง?

           วันนี้เลยได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม โรงเรียนทวิภาษาที่เป็นเครือของ Cambridge ซึ่งแปลว่าลูกเราเมื่อจบและสอบผ่านจะสามารถผ่านเกณฑ์การศึกษาของ Cambridge ถ้าเค้าอยากไปเรียนต่อในต่างประเทศ อันนี้เป็นสิ่งที่เราสนใจอยู่เหมือนกัน และเมื่อทราบว่าหลักสูตรทวิภาษาอินเตอร์นี้ทำให้เข้าเรียนคณะแพทย์หรือพยาบาลได้ด้วยในเมืองไทยทำให้เริ่มสนใจมากขึ้น ด้วยความที่ครอบครัวเรามีคุณพ่อเป็นหมอทางบ้านเลยอยากให้หลานเรียนแพทย์

           ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยผู้บริหารและครูของโรงเรียนทั้งไทยและฝรั่งทำให้ค้นพบว่า ที่นี่เป็นโรงเรียนทวิภาษาแห่งแรกในประเทศไทยที่นำระบบการเรียน Primary Years Programme หรือ PYP ของIB  เข้ามาใช้ในระดับอนุบาลถึงประถม5 ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นระบบการศึกษาขั้นประถมวัยที่ดีที่สุด บวกกับอยากให้ลูกเรียนสองภาษา ซึ่งครูและผู้บริหารได้อธิบายว่าการเป็น bilingual ที่แท้จริงไม่ได้ประโยชน์เฉพาะพูดภาษาอังกฤษได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถคิด วิเคราะห์มีทักษะการบริหารจัดการ ความเข้าใจคนและวัฒนธรรมที่ดีกว่าคนที่พูดได้เพียงภาษาไทย อันนี้ผมว่าน่าสนใจเพราะสมัยนี้รวมถึงอนาคตด้วยความรู้จากหนังสือไม่พอแล้ว ต้องมีความรู้เรื่องคนด้วย สมัยนี้ EQ สำคัญมากพอๆกับ IQ นะครับ
 

จะดีแค่ไหนถ้าลูกเรารักการเรียน อยากไปโรงเรียนทุกวันและการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์โดยไม่แยกเป็นรายวิชา?

            นอกจากนี้ผมว่าการที่ลูกอยากไปโรงเรียนและมีความสุขสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นการเรียนในโรงเรียน จะเห็นว่าตัวอย่างการเรียนแบบในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ฟินแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่นจะเน้นเรื่องการให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ชั่วโมงเรียนไม่มาก มีการเรียนนอกห้องเรียนและเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ นักเรียนในระบบประถมของสาธิตรังสิตซึ่งเน้นการเรียนแบบผ่านกระบวนการและเน้นการมีปฏิสัมพันธ์ของนักเรียนจึงเป็นรูปแบบที่น่าสนใจ ประกอบกับการศึกษาในรูปแบบของ PYP มองว่าการเรียนเป็นรายวิชาไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียนที่จะให้เป็นคนที่คิดเป็น ค้นคว้าข้อมูลได้ในเชิงลึก การเรียนรู้ที่ครบวงจรคือการที่นักเรียนสามารถทำการเชื่อมโยงเนื้อหาของทุกวิชาเข้าด้วยกันและใช้ในชีวิตจริงเพื่อความรู้ที่ยั่งยืนที่สุดการเรียนในระบบ PYP จะไม่ได้แบ่งการเรียนแยกตามรายวิชาแบบที่ผมเคยเรียนมาแต่จะเรียนผ่าน theme (transdisciplinary) พัฒนาการที่เราเห็น คือนักเรียนสนุกกับการเรียนที่ไม่เครียดจนเกินไป โดยเชื่อมโยงความรู้วิชาต่างๆ เข้าด้วยกัน วิธีการเรียนแบบไม่ท่องจำทำให้นักเรียนจดจำเนื้อหาได้ตลอดชีวิตและสามารถปรับใช้ได้ในชีวิตจริงตั้งแต่ปัจจุบันรวมไปถึงอนาคตด้วย ที่นี่ยังปลูกฝังให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกกับการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ เรียนโดยเป็นนักสืบค้น (Inquiry based) ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เมื่อถามถึงสิ่งที่นักเรียนบอกครูที่โรงเรียนเหมือนกันคือทุกคนอยากมาโรงเรียนและไม่รู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

 

 

นักเรียนมีทางเลือกที่มากขึ้นในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย?

           เพราะแนวทางการสอนในระดับมัธยมของสาธิตรังสิตที่เพิ่มโอกาสที่มากกว่าให้นักเรียน ในระดับชั้น ป.6 – ม.6 เป็นหลักสูตรทวิภาษาอินเตอร์ในเครือของ Cambridge  ซึ่งเน้นคุณลักษะสำคัญคือการให้นักเรียนมีความมั่นใจ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น สามารถสะท้อนความคิดในฐานะผู้เรียน มีนวัตกรรมในการเรียนรู้ และมีปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่นและสังคม และพร้อมจะเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะเปลี่ยนโลกให้ดีได้ในอนาคต ทั้งนี้ในชั้นมัธยมนักเรียนเน้นเรื่องการเรียนในเชิงลึก เพื่อสืบค้นความรู้ในเชิงลึก เป็นเจ้าของการเรียนของตนเอง เริ่มการเรียนรายวิชา

           ปัจจุบันสาธิตรังสิตเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเคมบริด์จ ประเทศอังกฤษดังนั้นนักเรียนที่สนใจจะเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ หรือ มหาวิทยาลัยไทยหลักสูตรนานาชาติก็สามารถ “เลือก” สอบ IGCSE: International General Secondary Certificate Of Secondary Education และ AS & A Levels ในระดับ ม.4 และ ม.6 เพื่อได้รับวุฒิจาก Cambridge International School ซึ่งนำไปใช้สมัครเรียนต่อได้ เพิ่มเติมจากวุฒิระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ได้รับจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศให้กับนักเรียนตามที่เค้าต้องการ

 

 
นักเรียนมีความเป็นไทยแม้จะเป็นหลักสูตรทวิภาษาที่ค่อนข้างอินเตอร์

          ผมรู้สึกชอบมารยาทและความเป็นไทยของนักเรียนที่นี่ นักเรียนรู้จักไหว้ แต่สามารถคุยกับครูต่างชาติได้อย่างลื่นไหล นี่คงเป็นคุณสมบัติเด่นชัดที่มองเห็นได้

          ต้องบอกเลยครับว่านักเรียนสาธิตรังสิตโชคดีจริงๆ เพราะภายในโรงเรียนมีความกว้างขวาง จัดแบ่งเป็นสัดส่วน อาคารเรียนดูทันสมัย แถมยังมีพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมของเด็กๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬากลางแจ้ง สนามกีฬาในร่ม รวมถึงโรงยิมให้นักเรียนได้เล่นกีฬา และได้วิ่งเล่นกันเต็มที่ จนสังเกตได้ว่าเด็กๆ ดูแข็งแรงก็คงเพราะได้ออกกำลังกายกันเต็มที่ มีน้องๆ หลายคนวิ่งเล่นกันแก้มแดงเป็นลูกตำลึงเลยทีเดียว หากมีโอกาสลองแวะเข้ามาเยี่ยมชมสาธิตรังสิตกันอ้อ นอกจากที่กรุงเทพฯ แล้วยังมีที่เชียงใหม่ด้วยนะ แล้วดูว่าคุณจะคิดเหมือนผมมั้ย

          รายละเอียดเพิ่มเติม www.sbs.ac.th โทร.0-2792-7500-4