สวัสดีค่ะ เผลอแปบเดียวเข้าสู่เดือนกรกฎาคมแล้ว เปิดเทอมมาเดือนกว่า เป็นอย่างไรกันบ้างคะ โดยเฉพาะน้องๆ ม.6 ที่จะเรียนมัธยมเป็นปีสุดท้ายแล้ว ทั้งเรียนที่โรงเรียน ทั้งเรียนพิเศษ ทั้งกิจกรรม ไหนจะเตรียมสอบอีก มาแบบรัวๆ เลย ที่สำคัญอีกไม่นานจะเปิดรับสมัคร GAT PAT รอบแรกแล้วด้วย แปบเดียวจริงๆ เนอะ
ก่อนที่จะไปสู้ในนามสอบต่างๆ พี่แป้งขอปฐมนิเทศ #dek60 สักหน่อย ช่วงนี้เริ่มมีรับตรงออกระเบียบการมาแล้ว เช่น แพทย-ทันตะฯ ม.ขอนแก่น, รับตรงหลายโครงการ ม.สงขลาฯ ซึ่งมีรูปแบบการตัดสิทธิ์ รับตรง-แอดมิชชั่น 60 ที่แตกต่างกัน เวลาสมัครต้องเช็กดีๆ นะคะ วันนี้พี่แป้งเลยจะมาบอกรูปแบบการตัดสิทธิ์ รับตรง-แอดมิชชั่น 60 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมกันหรือยังคะ? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
รับตรงที่ไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น
เริ่มที่รับตรงที่ไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น เป็นรับตรงที่ใครๆ ก็ชอบ เพราะเมื่อสมัครไปแล้ว สอบติดแล้ว ยืนยันสิทธิ์และจองที่นั่งเรียนแล้ว จนไปถึงได้รหัสนักศึกษาแล้ว ก็ยังสามารถสมัครแอดมิชชั่นได้ค่ะ ถ้าติดในรอบแอดมิชชั่นในคณะที่ใช่กว่า ก็มาทำเรื่องลาออกในรับตรงที่ติดไว้ ถ้าไม่ติดแอดมิชชั่นก็ไปเรียนในที่ติดรอบรับตรงได้ อย่างน้อยก็มั่นใจว่ามีที่เรียนแล้วแน่ๆ รับตรงแบบที่ไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นจะพบทั้งใน ม.รัฐ และ เอกชน อย่างเช่น รับตรง 60 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร, รับตรง ม.บูรพา รอบ 2, รับตรงหลักสูตรนานาชาติ, รับตรงภาคพิเศษ, รับตรงหลังแอดฯ, รับตรง ม.ราชภัฏฯ เป็นต้น
รับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์
หลายคนคงได้รู้จักระบบเคลียริงเฮาส์ไปแล้ว ซึ่งเป็นระบบกลางที่ให้น้องๆ ที่ติดรับตรงไปแล้วเลือกเรียนเพียงคณะ/โครงการเดียว ส่วนที่นั่งที่เหลือก็จะไปเพิ่มในรอบแอดมิชชั่น แน่นอนว่ารับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ทุกโครงการจะเป็นรับตรงที่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น เราสามารถเช็กได้ว่ารับตรงนั้นเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์หรือไม่ โดยการดูที่ระเบียบการ โครงการไหนเข้าร่วมจะระบุไว้ท้ายระเบียบการเลย หรือจะเช็กจากประกาศของ สอท. ก็ได้ว่าในปีนี้มีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เข้าเคลียริงเฮาส์
แต่ก็มีรายละเอียดลงไปอีก ทุกโครงการที่เข้าเคลียริงเฮาส์คือตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น แต่ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยที่เข้าเคลียริงเฮาส์ หรือแม้แต่รับตรงในมหาวิทยาลัยนั้นก็ไม่ใช่ทุกโครงการที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ไม่ว่าจะติดรับตรงที่ไหน ช่วงเวลาที่ต้องยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์ก็เข้าไปในระบบเช็กดูเลยค่ะ ถึงแม้จะติดแค่โครงการเดียว แต่โครงการนั้นเข้าเคลียริงเฮาส์ น้องๆ ก็ต้องเข้าไปยืนยันว่าจะเรียน ไม่งั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ ที่นั่งจะเด้งไปรอบแอดมิชชั่นทันที
รับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ เช่น รับตรงระบบ กสพท., รับตรง จุฬาฯ, รับตรงเคลียริงเฮาส์ มจธ., รับตรง ม.ธรรมศาสตร์, รับตรง มศว เป็นต้น รู้แบบนี้แล้วเข้าไปเช็กก่อนปลอดภัยกว่านะคะ ถึงแม้รับตรงที่เราติดจะไม่ได้เข้าเคลียริงเฮาส์ ดีกว่าปล่อยผ่านละหลุดไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีใครช่วยได้นะจะบอกให้
รับตรงที่ตัดสิทธิ์กันเองในสถาบัน
อีกรูปแบบการตัดสิทธิ์ที่น้องๆ ปีก่อนมักจะมองข้าม ในบางมหาวิทยาลัย จะมีรับตรงออกมาหลายโครงการ หรือ ในโครงการชื่อเดียวกันนั่นแหละ แต่ออกมาหลายรอบ การที่มีรับตรงออกมาหลายโครงการแบบนี้ก็มีความทับซ้อนกันเรื่องสิทธิ์ที่เรียน เช่น ติดทั้งรับตรงโครงการที่ 1 คณะ A ของ ม.B และโครงการที่ 2 คณะ A ของ ม.B คณะเดียวกัน ม.เดียวกัน แต่ช่วงวันสมัครและคัดเลือกคาบเกี่ยวกัน ก็เลยมีโอกาสติดทั้ง 2 โครงการ ถ้ายืนยันทั้ง 2 โครงการ ก็มีปัญหาเรื่องการมีสิทธิ์ซ้ำซ้อน งงเข้าไปอีก
วิธีการแก้ปัญหาคือ ต้องตัดสิทธิ์ถ้าสมัครในสถาบันเดียวกัน ในระเบียบการจะบอกไว้ ว่าถ้าติดโครงการนั้นและจะสมัครโครงการนี้ไม่ได้ อย่างเช่นรับตรงพิเศษ กับ รับตรงปกติ จุฬาฯ ถ้าใครติดในโครงการรับตรงพิเศษแล้ว ก็จะไม่มีสอทธิ์สมัครในโครงการรับตรงปกติ ยกเว้นแต่ว่าจะทำเรื่องสละสิทธิ์เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะสมัครโครงการไหนก็ดูให้เรียบร้อยนะคะว่าไปทับซ้อนกับโครงการไหนหรือเปล่า
รับตรงที่ตัดสิทธิ์ในคณะเดียวกัน
เมื่อมีติดในสถาบันเดียวกันแล้ว ก็จะมีในรูปแบบของการติดในคณะเดียวกันแต่คนละสถาบันด้วย อย่างเช่น รับตรง 60 คณะแพทยศาสตร์-ทันตแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนเลยว่า ถ้าติดรับตรงคณะแพทยศาสตร์-ทันตแพทยศาสตร์ ของ ม.ขอนแก่น แล้วจะถูกตัดสิทธิ์ในระบบ กสพท. ด้วย เพราะถือว่าได้เป็นนักศึกษาแพทย์แล้ว ถ้าจะไปลุ้นในรอบ กสพท. ก็ต้องสละสิทธิ์สถานเดียว เป็นการตัดทางการกันที่เพื่อกระจายโอกาสให้คนอื่นด้วยค่ะ อย่าโกรธเลยเนาะ ฮ่าๆ
รับตรงที่ไม่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ แต่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น
มีรับตรงที่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์ ไปแล้ว ก็ต้องมีรับตรงที่ไม่เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์เหมือนกันค่ะ เป็นโครงการรับตรงที่ถ้าสอบติดและยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นทันที ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าในระบบเคลียริงเฮาส์ก็ตาม ทางโครงการนั้นๆ จะส่งชื่อไปทาง สอท. โดยตรงเลยค่ะ ถ้าอยากได้สิทธิ์แอดมิชชั่นก็ต้องไปทำเรื่องของคืนสิทธิ์กันเอาเองนะคะ
รับตรงที่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น
อันนี้เป็นอะไรที่ชัดเจนมากเลยค่ะ กับรับตรงที่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น ง่ายๆ ก็คือ ถ้าสมัครแล้วผ่านการคัดเลือกหรือสอบติด ก็จะถูกตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น ซึ่งไม่ต้องแคร์ว่าจะเข้าร่วมเคลียริ่งเฮ้าส์หรือไม่เข้าร่วมเคลียริ่งเฮ้าส์ก็ตาม บอกเลยว่ารับตรงส่วนใหญ่จะตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น ถ้าจะรอรับตรงที่ไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น แนะนำให้รอรับตรงที่จะเปิดรับสมัครในช่วงเดือน เม.ย. เป็นต้นไป มีเยอะมากที่ไม่ตัดสิทธิ์แอดฯ แต่ขอย้ำอีกนิดนะคะว่าให้เช็กดีๆ ว่ารับตรงที่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นที่เราสอบติดนั้นเข้าร่วมเคลียริงเฮาส์หรือไม่ ถ้าเข้าก็ไปยืนยันสิทธิ์ด้วย บอกเลยว่าแต่ละปีมีคนหลุดไปแอดมิชชั่นเยอะมากเพราะไม่ยืนยันสิทธิ์เคลียริงเฮาส์นี่แหละ
นี่แค่เรื่องการตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นนะคะ ยังวุ่นวายขนาดนี้ ยิ่งตอกย้ำไปอีกว่าเป็นเด็กแอดฯ 60 มันเหนื่อยรู้มั้ย สอบก็เยอะ การตัดสิทธิ์ก็เยอะ การแข่งขันก็สูง นอกจากจะต้องมาเล็งว่ารับตรงนั้นตัดหรือไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่น ก็ต้องดูต่อว่า 1.เข้าร่วมเคลียริงเฮาส์หรือเปล่า 2.ตัดสิทธิ์โครงการอื่นในคณะหรือสถาบันเดียวกันหรือไม่ กว่าจะเลือกได้ว่าจะยืนยันสิทธิ์เรียนก็ต้องผ่านหลายด่านเหมือนกันนะ
ดูเหมือนเรื่องการตัดสิทธิ์รับตรง-แอดมิชชั่นจะเป็นเรื่องที่ยังอีกไกล แต่เอาจริงๆ มันแปบเดียวเองนะ ตอนนี้เริ่มมีรับตรง 60 ออกมาด้วยแล้ว ต้องเริ่มเตรียมวางแผนที่จะสอบกันแล้วล่ะค่ะ ต้องสอบ GAT PAT วิชาอะไรบ้าง วิชาสามัญต้องสอบหรือเปล่า หรือต้องสอบพิเศษอื่นๆ อีก เช่น TU STAR ที่เพิ่งเปิดปีแรก หรือการสอบอื่นเช่น TOEFL, TU-GET, CU-TEP, IELTS, SAT บอกเลยว่าสนามรับตรงใครพร้อมกว่าก็ได้ไปก่อน ลองถามตัวเองดูว่าตอนนี้พร้อมแค่ไหนแล้ว??
8 ความคิดเห็น
คือสอบได้ แต่ถ้าถ้าติดจะตัดสิทธิ์ใช่ไหมคะ งงจัง สับสนว่าจะเลือกอันไหนดี
ถ้าสมัคร แพทย์ ทอ. จุฬา แล้ว ยังสามารถสมัคร จุฬา-ชนบท ได้ไหมครับ ช่วยตอบที ถามใครก็ตอบไม่ได้ ตัดสินใจไม่ถูก
คือ โครงการรับตรง gat pat ของ บางมด มันประกาศหลังเครียริ่งเฮ้า แต่ผมติดเกษตร ไปแล้วมีรหัสเคลียร์ริ่งเฮ้า
คำถาม ถ้าผมยืนยันสิทธิ์เคลียริ่งเฮ้า รหัสเกษตรไปแล้ว แล้วผมติดบางมดแล้วผมจะเรียนบางมดจะได้ไหม
ขอบคุณครับ