ชีวิตนักศึกษา : 30 สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก่อนเรียนจบ (ตอนที่ 1)

 

          หลายคนรอเวลาที่จะเป็นเฟรชชี่มานาน เพราะจะได้เข้าไปใช้ชีวิตแบบใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยซักที แต่บางทีหลายๆ คนก็ลืมไปว่าชีวิตมหาวิทยาลัยมีแค่ 4 ปี เป็นเพียงแค่เสี้ยวชีวิตนึงเท่านั้น จึงใช้ชีวิตแบบปล่อยไปวันๆ พอผ่านมาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เฮ้ย! ทำไมตอนเรียนเราไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลย” แบบนี้เรียกว่าพลาดมากๆ วันนี้พี่มิ้นท์จึงอยากแนะนำน้องๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ควรจะทำให้ได้ก่อนเรียนจบ ให้รู้สึกว่าเราได้ใช้ชีวิตนักศึกษามาแล้วจริงๆ  ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ


            1. รับน้อง เป็นกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ เพื่อแสดงว่าได้เข้ามาสู่ชีวิตนักศึกษาแล้ว ร.ร.มัธยมบางที่อาจจะมีรับน้องแต่รับรองว่าไม่เหมือนกันแน่นอน การรับน้องมหาวิทยาลัยจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต (ถ้าไม่แอบไปซิ่วซะก่อน) เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เท่านั้น แต่จะสร้างความทรงจำไปทั้งชีวิต ดังนั้นพลาดแล้วก็พลาดเลย

            2. เต้นสันทนาการอย่างบ้าคลั่ง กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาในการเรียนมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ใช่เชิงวิชาการ รูปแบบของกิจกรรมก็มักจะมีการสันทนาการ ซึ่งในช่วงเริ่มแรกอย่างปี1 จะเป็นการละลายพฤติกรรม ให้น้องๆ กล้าแสดงออก แต่หลังจากนั้นจะกลายเป็นกิจกรรมที่แสดงตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน การเต้นสันฯ ในช่วงนี้จะไม่มีใครว่าเราบ้าแน่นอน (เพราะบ้าเท่ากันหมด) ดังนั้น มีสันฯ ที่ไหน ต้องเต้นให้มันสุดๆ เพราะอย่าลืมว่าเรียนจบไป เราจะไปเต้นแบบนี้ที่ไหนไม่ได้แล้ว

             3. ปิ๊งดาวเดือนคณะอื่น ดาวเดือนที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย รับรองว่าได้ผ่านการคัดกรองมาระดับนึง ดังนั้นก็จะมีออร่าเปล่งประกาย ถ้าถามว่าทำไมต้องปิ๊งดาวเดือนด้วย คำตอบก็คือ คนกลุ่มนี้จะเด่นและดังในมหาวิทยาลัย ถ้าได้แอบมองหรือเดินสวนกันก็จะแฮปปี้ไปทั้งวัน ยิ่งถ้ารู้จักหรือได้คุยกันด้วย รับรองว่าไปเม้าท์กับคนอื่นได้ทั้งชีวิต มันเป็นช่วงที่มีความสุขมากจริงๆ

           4. รู้เรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยตัวเองให้ถ่องแท้ ไม่มีใครที่จะรู้เรื่องมหาวิทยาลัยตัวเองได้ดีเท่าคนที่เรียนในมหาวิทยาลัยนั้นๆ แต่จะรู้ให้ถ่องแท้ภายในปีนึงอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยระยะเวลา 4 ปี ก็ควรเก็บเกี่ยวเรื่องราวในมหาลัยตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประวัติ เรื่องเล่า ธรรมเนียม ของกิน ฯลฯ จะได้ไม่เสียชาติเกิดที่อุตส่าห์ได้มาเรียนที่นี่ อีกอย่างยังแสดงถึงความภาคภูมิใจในสถาบันตัวเองอีกด้วย

           5. แต่งตัวให้ถูกระเบียบซักครั้ง ชีวิตมหาวิทยาลัยเปรียบเสมือนชีวิตทีหลุดออกจากกรงขังของกฎระเบียบ ชีวิตที่เก็บกดก็เลยทำให้มาแต่งตัวตามใจฉันตอนเรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละ ซึ่งการแต่งให้ผิดระเบียบย่อมง่ายและเต็มใจกว่าแต่งให้ถูกระเบียบ ดังนั้นในช่วงระยะเวลา 4 ปี ขอให้มีซักวันที่น้องๆ ได้แต่งตัวให้ถูกระเบียบบ้าง (ทุกวันยิ่งดี) เพื่อแสดงว่าเราภูมิใจนะที่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบนี้ อย่าลืมว่าเครื่องแบบนี้เราใส่ได้แค่ 4 ปีเท่านั้นนะ

 

            6. ใช้ชีวิตหอในให้เต็มที่ โดยทั่วไปหอจะมีสองแบบ คือ หอใน(มหาวิทยาลัย) และหอนอก(มหาวิทยาลัย) จะให้ดีในชีวิต นศ. ต้องลองอยู่หอให้ได้ในซักปีนึง ให้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กหอ ซึ่งหอในอาจจะไม่สะดวกสบายเท่าหอนอก แต่ว่ามันจะทำให้ชีวิตน้องๆ มีสีสันและสร้างความทรงจำดีๆ ได้เยอะกว่า ที่สำคัญอยู่หอในทั้งทีลองทำกิจกรรมที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเด็กหอ เช่น กินมาม่า ไม่อาบน้ำ ปีนหอ (เอ๊ะ! ไม่ค่อยดี) หรือทำอะไรที่ตื่นเต้นๆ เช่น เดินไปอาบน้ำตอนตี2  เป็นต้น

            7. ทำตัวเองให้เป็นที่รู้จักในมหาวิทยาลัย อาจจะดูเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วไม่ยากเลย ไม่ต้องสวย หล่อ คนก็รู้จักได้ แค่ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอย่างการเข้าชมรม หรือทำตัวให้โดดเด่น เช่น เป็นลีด เป็นนักกีฬาคณะ เป็นต้น คิดดูว่าเราเดินไปไหนก็มีเพื่อนให้คุย มีคนรู้จัก ชื่นชมเรา จะแฮปปี้ขนาดไหน

            8. หาเพื่อนคณะอื่น เป็นผลพลอยได้ของการทำกิจกรรม การมีเพื่อนต่างคณะไม่ได้ได้แค่เรื่องมิตรภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างคอนเนคชั่นในอนาคต และยังทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือได้รู้มุมมองของคนที่เรียนคนละสายกับเรา รับรองว่าถ้าเรามีเพื่อนต่างคณะเยอะๆ ชีวิต นศ. 4 ปีจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก

            9. ออกค่าย เป็นกิจกรรมที่สำคัญมาก เพราะในชีวิตวัยอื่นจะไม่มีอะไรที่โหด มันส์ ฮาได้เท่านี้ ค่ายในที่นี้ หมายถึงค่ายสร้าง ค่ายที่บำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม เช่น สร้างโรงเรียน สร้างฝาย ซ่อมแซมโรงอาหาร เป็นต้น เป็นค่ายที่ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ซึ่งจะใช้เวลานานเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆ ส่วนใหญ่คนที่ได้ไปจะคอนเฟิร์มว่าได้อะไรดีๆ กลับมามากมาย (ยังทำให้ได้เพื่อนคณะอื่นด้วย)

 

            10. ทำรายงานอดหลับอดนอน เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย อะไรๆ ก็หนักขึ้น เรียนหนักขึ้น ตัวหนักขึ้น (ไม่เกี่ยว!! แต่เรื่องจริง) รายงานก็หนักขึ้นและจะไม่ง่ายเหมือนมัธยม เพราะรายงานต้องมีคุณภาพมากขึ้น จะก็อปเน็ตมาแปะไม่ได้แล้ว ดังนั้นชีวิตนักศึกษาจะต้องมีช่วงเวลาที่อดหลับอดนอนเพื่อปั่นรายงานที่จะต้องส่งวันรุ่งขึ้นค่ะ

            11. เรียนให้ได้ A ซักตัว หา A (เกรด4) ในมัธยมว่ายากแล้ว หา A ในมหาวิทยาลัยนั้นยากกว่ายิ่งกว่าเข็มในมหาสมุทร เพราะมาตรฐานการตัดเกรดที่สูงขึ้น คนร่วมแย่งเกรดเยอะขึ้น เรียนก็ยากขึ้น มีอย่างเดียวที่น้อยลงคือความรู้ 555+ บางคนเรียนมาสร้างมาตรฐานของตัวเองได้แค่ C+ ก็มี เพราะฉะนั้นลองตั้งใจคว้า A มาให้ได้ซักตัวในชีวิต พยายามให้มากหน่อย แต่รับรองได้ว่าจะสร้างขวัญและกำลังใจได้สุดๆ ยิ่งเป็นวิชาหินยิ่งภูมิใจ เรียกได้ว่าได้เกรด A ตอนปี 1 แต่อวดได้ยันปี 4 หรืออวดยันรุ่นลูกรุ่นหลานเลย

           12. ลองเรียนให้ได้ครบทุกเกรด (ยกเว้น F) เพราะคุณค่าของเกรดมหาวิทยาลัย จะแตกต่างจากโรงเรียนสิ้นเชิง เกรด 1 ตัวจะมีผลทางจิตใจค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้าเราลองได้ครบทุกเกรดจะถือเป็นประสบการณ์และทำให้เราได้รับรู้ในทุกๆ อารมณ์ของทุกเกรด เช่น ได้ A จะดีใจมากยิ่งกว่าถูกหวย ได้ D จะรู้สึกเสียวๆ ว่าจะโดนไล่ออกมั้ย เป็นต้น

           13. ช่วยเพื่อนให้หลุดจากการโดนรีไทร์  “รีไทร์” คือการโดนไล่ออก นอกจากจะทำผิดกฎของมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งที่จะทำให้โดนไล่ออกได้อีกก็คือ ผลการเรียนไม่ได้ตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยติดต่อกันหลายเทอม เช่น ได้ต่ำกว่า1.75 ติดต่อกัน 3 เทอม หรือทีเรียกว่า “ติดโปรสูง/โปรต่ำ” เป็นต้น ซึ่งในแต่ละรุ่นก็จะมีกลุ่มเสียงที่มีอาการร่อแร่ ดังนั้นหน้าที่ของเพื่อนจะต้องช่วยเพื่อน ด้วยการติวให้ จับเข้าทำงานกลุ่ม ฯลฯ ถ้าเพื่อนรอดได้ รับรองว่าได้ใจกันไปเต็มๆ

           14. บูมคณะ/มหาวิทยาลัยให้เป็น บูมเป็นสิ่งที่แสดงถึงพลังและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่ง แต่ละคณะ/มหาวิทยาลัยจะมีบูมประจำเป็นของตนเอง และจะเป็นสิ่งที่ทุกคนภาคภูมิใจมาก ส่วนมากมักจะใช้ในเหตุการณ์สำคัญๆ เช่น บูมเพื่อรับน้องเพื่อแสดงว่ารับเป็นน้องแล้ว บูมหลังทำกิจกรรมเสร็จเพื่อแสดงว่าสำเร็จแล้ว ฯลฯ บูมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบูมกันเล่นๆ ไม่ได้ ดังนั้นในชีวิตนักศึกษาต้องเรียนรู้และบูมให้เป็นเพราะเป็นถือเป็นเอกลักษณ์และเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจมากๆ ค่ะ

 

          15. รักสายรหัสยิ่งชีพ เมื่อได้เข้ามหาวิทยาลัย จะมีอีกเรื่องที่น่าลุ้น คือ สายรหัส ลุ้นว่าใครจะได้เป็นน้อง/พี่เรา เค้าจะดีมั้ย เค้าจะซิ่วมั้ย จะหล่อ/สวยมั้ย จะเทคแคร์เราดีมั้ย ฯลฯ สายรหัสจะเป็นสิ่งที่ช่วยเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ทั้งเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิต หลายๆ ครั้งก็มีคนโชคร้ายที่สมาชิกในสายซิ่ว จนต้องอยู่อย่างหงอยเหงา ในขณะที่บางสายก็เหนียวแน่น นัดรวมสายได้เป็น 10 รุ่น เป็นต้น ดังนั้นหน้าที่อีกอย่างนึงในวัย นศ. คือการดูแล เทคแคร์สายรหัสเราให้ดีๆ เพราะเป็นการสร้างคอนเนคชั่นที่ดีให้กับเราในอนาคตด้วย

 

        เป็นยังไงบ้างคะน้องๆ ชีวิตมหาลัยน่าสนุกมั้ย นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งนะ ยังเหลืออีก 15 ข้อแน่ะ ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่ต้องทำก่อนเรียนจบที่เหลืออีก 15 ข้อมีอะไรบ้าง ต้องติดตามกันในตอนที่ 2 ด้วยนะ ^^

 

คลิกอ่าน "ชีวิตนักศึกษา: 30 สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก่อนเรียนจบ (ตอนที่2)" 

รูปภาพประกอบwww.learners.in.th

www.volunteerspirit.org

www.thaidphoto.com 

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

อิอิ 31 พ.ค. 54 19:11 น. 9
กพส

สุดยอด ทำมาจะหมดแล้ว

ข้อสิบห้า โดนใจมาก

ดูแลกันดีมากเกินไป เป็นแฟนกับพี่รหัสไปแล้ว อิอิ

0
กำลังโหลด

34 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อิอิ 31 พ.ค. 54 19:11 น. 9
กพส

สุดยอด ทำมาจะหมดแล้ว

ข้อสิบห้า โดนใจมาก

ดูแลกันดีมากเกินไป เป็นแฟนกับพี่รหัสไปแล้ว อิอิ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Sesshoumaru Member 1 มิ.ย. 54 10:01 น. 15
1,2,3,6 นี่ทำไม่ได้จริงๆ ออกค่ายทำแล้ว (น้ำพักน้ำแรงตัวเอง แถมไม่คุ้มค่าเหนื่อย) เพื่อนคณะอื่นเยอะกว่าเพื่อนในคณะอีก เป็นที่รุ้จักในคณะ (โดนเพื่อนที่เป็นเพศที่สามตะโกนชื่อเท่านั้นล่ะ รู้จักกันหมด) รักสายรหัส แน่นอน พี่รหัสกินแต่เหล้า แต่น้องรหัสโดนเราติวประจำ เกรด A ต้องมีทุกเทอม (ไม่งั้นโดนด่า แค่เจอ D+ มาบ้านแทบแตก)

ปล. น้องๆคะ เกรดน่ะ อย่าไปเครียดมากนะคะ หลายๆคนบอกมาแล้วว่า "รสชาดชีวิต" อย่าทำแบบเรานะ จะโดดตึกหลายรอบแล้ว (ถ้าอาจารย์ทำให้ไม่สบายใจ ถามอาจารย์ไปตรงๆว่า ถ้าหนูทำอะไรผิดหนูอยากให้อาจารย์อโหสิกรรมให้หนูนะคะ ยังไงซะหนูเรียนแค่ไม่กี่ปีก็จบ หนูอยากเรียนแบบสบายใจ)
0
กำลังโหลด
Vioruntae Member 1 มิ.ย. 54 15:18 น. 16
 ยังเหลืออีกสองปี คงจะได้ทำในสิ่งที่เหลืออยู่เนอะ 

ออกค่าย และเต้นอย่างบ้าคลั่ง  อิอิ 

แต่ก็ไม่อยากได้ทุกเกรด 

C,D 

มันน่ากลัวเกินไป 


= = ' 
0
กำลังโหลด
Scenery View Member 1 มิ.ย. 54 17:30 น. 17
 มีเกือบทุกข้อค่ะ
แต่ทีทำมากที่สุดเป็นข้อ6ค่ะ  อาบน้ำตอนตี3ยังทำมาแล้ว ถ้าอยู่บ้านคงไม่กล้าอาบหรอก55+
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด