สวัสดีค่ะน้องๆชาว Dek-D.com พบกับ พี่สตางค์ และการแนะนำคอร์สปริญญาโทที่น่าสนใจกันอีกเช่นเคยค่ะ ^^ ในวันนี้ พี่สตางค์ มีคอร์สสำหรับคนที่รักและชื่นชอบในเสียงดนตรี โดยเฉพาะการนำเสียงดนตรีไปใช้ในสื่อชนิดต่างๆ กับสาขาวิชา "การออกแบบเสียง" หรือ "Sound Design" นั่นเองค่ะ ^^
วิชาการออกแบบเสียง หรือ Sound Design นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลงานทางดนตรี เพลงประกอบ เสียงเอฟเฟ็ค หรือการใช้เสียงในด้านต่างๆสำหรับสื่อหลายๆชนิด เช่น โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ละครเวที วิดีโอเกมส์ โฆษณา อินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยนักศึกษาจะได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์และซอฟท์แวร์ชนิดต่างๆ รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้กันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมการดนตรีและการออกแบบด้านเสียง นอกจากนี้สาขาวิชานี้ยังสนับสนุนการพัฒนาสร้างวิธีการใหม่ๆ และรวมถึงการตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบเสียง และการนำแนวความคิดต่างๆทั้งในด้านดนตรีและศิลปะไปประยุกต์ใช้ค่ะ
ความสำคัญของเสียง
บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เสียงนั้นนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากๆในสื่อชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรี (music) เสียงซาวด์เอฟเฟ็ค (sound effect) เสียงฉากหลังหรือสิ่งแวดล้อม (Ambience) ฯลฯ ซึ่งช่วยเพิ่มทำให้เราได้มีอารมณ์ร่วมไปกับสื่อเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น พี่สตางค์มีคลิปตัวอย่างมาให้เราได้ดูกันด้วยค่ะ ว่าเสียงนั้นจริงๆแล้วสำคัญมากๆๆเลย

จากคลิปนี้ เราจะเห็นได้เลยใช่มั้ยล่ะคะว่าเสียงนั้นเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญแค่ไหน เพราะถ้าหากขาดเสียงในการสร้างอารมณ์ให้กับภาพแล้ว ฉากที่ควรจะน่ากลัวก็ไม่น่ากลัว ฉากแอ็คชั่นก็ไม่มันส์สะใจ ฉากซาบซึ้งก็ซึ้งไม่ออก ฉากตลกขบขันดูยังไงก็ไม่ฮา... เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะใช้เรื่องของเสียงให้เป็นนั้น จึงเป็นอะไรที่สำคัญจริงๆเลยล่ะค่ะ ^^

หลักสูตรการเรียนวิชา Sound Design

หลักสูตรด้านการออกแบบเสียง เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับใครที่สนใจที่จะศึกษาในเรื่องของเสียงในแง่มุมที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของเสียงที่ใช้ในสื่อ (media) นักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะของตนเองในด้านของมัลติมีเดีย การผลิตในด้านของเสียง ทั้งการแต่งและการตัดต่อ รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆเพื่อประยุกต์ใช้ในการออกแบบเสียง ซึ่งหลังจากที่จบหลักสูตรนี้แล้ว นักศึกษาก็จะคุ้นชินกับเทคโนโลยีต่างๆจนสามารถที่จะหยิบจับเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ วิชาการออกแบบเสียงยังจะให้นักศึกษาได้ฝึกฝนการปฏิบัติจริงภายใต้กรอบ หรือกฎเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งจะเป็นการฝึกตอบโจทย์นั้นๆให้ได้ โดยจะต้องคำนึงถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ ผลตอบรับ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการใช้เสียงเหล่านั้นด้วย จึงนับเป็นการเรียนรู้ทั้งในด้านของการปฏิบัติ การสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการศึกษาในเรื่องของทฤษฎีและการวิพากษ์วิจารณ์ค่ะ
ตัวอย่างวิชาเรียน
การออกแบบเสียงขั้นสูง
(Advanced sound design)-
เสียงและวีดิโอแบบดิจิติล
(Digital audio and video) -
การผสมเสียง (Audio mixing)
-
การตัดต่อเพลง (Music editing)
-
การบันทึกเสียงด้วยอุปกรณ์ต่างๆ
(Recording equipment) -
วิศวกรรมเสียง (Audio engineering)
-
เสียงในงานละครเวที
(Theatrical acoustics) -
เสียงในงานเอนิเมชั่น
(Animation orchestration) -
การแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์และโทรทัศน์ (Movie and TV scoring)
-
ความสัมพันธ์ระหว่างเสียงและภาพ (Relationship Between Sound and Image)
-
การออกแบบเอฟเฟ็คเสียง และเอฟเฟ็คภาพ (Audio Effects and Visual Effects)
-
เสียงบรรยากาศ และเสียงรอบทิศทาง (Spatial Audio and Surround Sound)
-
โครงสร้างคลื่นเสียง (Sonic Structures)
คุณสมบัติผู้สมัคร
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อในสาขาวิชาออกแบบเสียงนั้น สามารถจบปริญญาตรีในสาขาใดก็ได้ (คือไม่จำเป็นต้นจบสาขาที่เกี่ยวกับดนตรีหรือการออกแบบก็ได้) แต่ควรมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสาขานี้ หรือมีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากเป็นกรณีอย่างหลังนั้นควรจะต้องมีผลงาน (portfolio) ในการยื่นสมัครเข้าเรียนด้วย และอาจจะมีการเขียนเรียงความถึงแรงจูงใจในการเรียน รวมถึงการเรียกสอบสัมภาษณ์ด้วยค่ะ
แนวทางอาชีพ
ถึงแม้ว่างานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์จะค่อนข้างมีการแข่งขันที่สูง แต่นักออกแบบเสียงรวมถึงเอฟเฟ็คต่างๆก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญไม่เพียงแต่ในเรื่องของการใช้เทคนิค อุปกรณ์และซอฟท์แวร์ต่างๆ แต่ยังต้องการผู้ที่ที่ความรู้ในเรื่องของแนวคิด การดำเนินเรื่อง และการประยุกต์ใช้ต่างๆเพื่อเพิ่มระดับและส่งเสริมการชมของผู้ชมอีกด้วย นอกจากนี้ ในวงการของวิชาการเองก็ยังต้องการนักวิจัยและนักวิชาการ ที่มีความรู้ในเรื่องของการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ และการประยุกต์ใช้อุปกรณ์นั้นในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่มีความแปลกใหม่และหลุดออกไปจากกรอบเดิมๆค่ะ
ผู้ที่จบการศึกษาในสาขานี้ สามารถทำงานได้ทั้งเป็นผู้ควบคุมเรื่องของซาวด์และเอฟเฟ็คต่างๆ ทั้งเป็นผู้ออกแบบและตัดต่อเสียง ในวงการภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ โฆษณา ละครเวที วิดีโอเกมส์ ฯลฯ รวมถึงเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของมัลติมีเดีย เป็นที่ปรึกษาดูแลเรื่องเสียงต่างๆ และยังสามารถทำงานเป็นนักวิจัย และนักวิชาการในสถาบันการศึกษาต่างๆได้อีกด้วย
ตัวอย่างสถาบันที่เปิดสอนในต่างประเทศ
| สหราชอาณาจักร | University Of York Royal College of Art University Of Sheffield University Of Edinburgh Edinburgh College Of Art Glasgow School Of Art Royal Academy Of Dramatic Art Leeds Metropolitan University |
| สหรัฐอเมริกา | University of California- San Diego Savannah College of Art and Design Purdue University California Institute of The Arts Carnegie Mellon University Kansas State University University of Southern Mississippi |
| ออสเตรเลีย | University of Melbourne Queensland University of Technology Canberra Institute of Technology Berklee College of Music |
ถ้าหากเราเป็นคนหนึ่งที่สนใจด้านเทคโนโลยีดนตรีหรือเสียง (sound or music technology) หรือต้องการทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเสียง ทั้งเป็นผู้แต่ง เป็นศิลปิน หรือผู้ออกแบบซาวด์ต่างๆ และต้องการที่จะพัฒนาทักษะความสามารของตนเองให้ยิ่งสูงขึ้น การเรียนสาขา "Sound Design" ก็นับเป็นคอร์สที่ตรงทางของเรามากๆทีเดียวเลยล่ะค่ะ ^^
>> ย้อนอ่านสาขาอื่นๆ ที่น่าสนใจ <<
วิชาศิลปะบำบัด (Art Therapy) |
วิชาการ์ตูนญี่ปุ่น (Manga & Anime) |
วิชาการจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management) |
วิชาศิลปะบำบัด (Art Therapy) |
ข้อมูลประกอบ : www.ed.ac.uk, york.ac.uk
ภาพประกอบ : unreelsound.com, flickriver.com

4 ความคิดเห็น
แต่ดูท่าจะยากอ่ะนะ