มาดูกัน! 10 ธรรมเนียมเพี้ยนๆ ของสถาบันในอเมริกา!

2. Virginia Tech : สงครามปาบอลหิมะระหว่านักเรียนนายร้อย vs พลเรือน
                              (Cadet Vs Civilian Snowball Fight)

       ที่ Virginia Tech นั้นเคยเป็นศูนย์ฝึกทหาร หรือ Reserve Officer Training Corps (ROTC) มาก่อน  ดังนั้นทุกวันนี้จึงมีนักศึกษาที่แบ่งออกเป็นสองพวก คือพวกหนึ่งที่เป็นนักเรียนทหาร และพวกหนึ่งที่ไม่ได้เป็น คำถามก็คือ...แล้วสองพวกนี้เขาสานสัมพันธ์กันยังไง? คำตอบนั้นง่ายมาก...พวกเขาทำ "สงคราม" กันค่ะ! ซึ่งสงครามที่ว่านี้เป็นสงครามที่อนุญาตให้ใช้อาวุธเพียงชนิดเดียวนั่นก็คือ "บอลหิมะ" ค่ะ ที่นี่เรียกประเพณีการปาบอลหิมะนี้ว่า "สงครามปาบอลหิมะระหว่างนักเรียนนายร้อย vs พลเรือน"  (Cadet Versus Civilian Snowball Fight) ซึ่งจะมีขึ้นเมื่อหิมะแรกของทุกๆปีตกลงมา ดังนั้นหากใครไปเรียนที่ Virginia Tech และได้เห็นหิมะแรกตกลงมา หากได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นแล้วล่ะก็ ไม่ต้องตื่นตกใจไปค่ะ เพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าการปาบอลหิมะได้เริ่มขึ้นแล้ว!

                     เล่นกันจริงจังมาก - -"

3. Georgetown University : หอนตอนเที่ยงคืน (Healy Howl)

        หลายๆคนคงจะรู้จักภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง The Exorcist กันดีอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักจะทราบว่าภาพยนตร์เกี่ยวกับการถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงร่างของเด็กสาวเรื่องนี้ จะถ่ายทำกันที่มหาวิทยาลัย Georgetown นี่เอง! ดังนั้น ทุกๆวันฮาโลวีนที่ Georgetown จะมีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้กันทุกปี ซึ่งภาพยนตร์ก็จะจบตอนประมาณช่วงเที่ยงคืน นักศึกษาหลังจากที่ดูภาพยนตร์กันจบแล้ว ก็จะพากันไปยังสุสานใกล้ๆตึก "Healy Hall" ของมหาวิทยาลัย เพื่อทำการ "หอน" ที่เรียกว่า "Healy Howl" ร่วมกัน! เป็นประเพณีที่หลอนจริงๆเลยนะเนี่ย > <

         
4. Tufts University : วิ่งเปลือยหมู่ (Naked Quad Run)

        ที่มหาวิทยาลัย Tufts มีประเพณีขึ้นชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือการวิ่งเปลื้องผ้าของนักศึกษา! (อั๊ยย่ะ!) โดยในคืนช่วงอ่านหนังสือสอบในฤดูหนาว (เฮือก! วิ่งเปลือยกันในหน้าหนาวเนี่ยนะ - -") นักศึกษาของ Tufts จะวิ่งจากตึกใต้ West Hall ไปยังตึก Residential Quad โดยถอดเสื้อผ้าของพวกเขาออกไปด้วยตลอดทาง! ซึ่งต้นกำเนิดของประเพณีนี้นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ในช่วงต้นปี 1900 เมื่องครั้ง Tufts ยังเป็นมหาวิทยาลัยชายล้วน นักศึกษาได้มีการวิ่งแบบเปลือยเปล่าเพื่อประท้วงการรวมสถาบันกับ Jackson College ซึ่งเป็นวิทยาลัยหญิงล้วนค่ะ (แต่สุดท้ายก็รวมอยู่ดี 555+) จากนั้นการวิ่งเปลื้องผ้านี้ก็กลายเป็นประเพณีที่ทำกันประจำทุกปี แต่มีข่าวมาว่าเร็วๆนี้ได้มีการห้ามไม่ให้มีประเพณีนี้แล้วจ้า ใครยังขืนออกมาวิ่งเปลื้องผ้าโดนพักการเรียนแน่นอน~

          
5. Clark University : วันแห่งความสนุกสนาน (Spree Day)

        ที่มหาวิทยาลัย Clark University มีประเพณีดี๊ดี... คือดีในที่นี้หมายถึงว่า น่าอิจฉามากๆๆ > < คือในแต่ละปีจะมีวันวันหนึ่งที่คณะกรรมการของมหาวิทยาลัยจะเลือกขึ้นมา และจะยกให้เป็นวันแห่งความสนุกสนาน (Spree Day) ที่อาจารย์จะงดสอนทุกชั่วโมงทั้งวัน! และนักศึกษาก็ออกมาร่วมฉลองและเล่นสนุกกันรอบๆมหาวิทยาลัย ซึ่งบางครั้งก็มีวงดนตรีมาจัดแสดง มีบอลลูนขนาดใหญ่ มีสไลเดอร์ยักษ์ มีรถอาหารมาขาย และความสนุกสนานอื่นๆอีกมากมาย โดยวันที่จัดนั้นจะถูกเก็บไว้เป็นความลับในแต่ละปี แบบว่า... อยากจะให้นักศึกษาเซอร์ไพร้ส์ว่าวันนี้งดเรียนนะจ๊ะ... แต่ความลับก็มักจะรั่วไหล และนักศึกษาก็มักจะรู้ก่อนทุกทีว่าปีนี้วันไหนจะเป็น Spree Day แต่พวกเขาก็ยังดีใจและออกมาร่วมสนุกกันทุกปีค่ะ (ซึ่งเกณฑ์การเลือกวันของคณะกรรมการนั้น ก็แสนจะเป็นอะไรที่จริงจังมาก... คือสุ่มเลือกเอา - -")

                   นี่มันวันหยุดพักผ่อนดีๆนี่เอง > <

6. Duke University : ข้อกำหนดในการจบการศึกษาอย่างไม่เป็นทางการ
                                 (Unofficial Graduation Requirements)

        กว่าจะเรียนจบได้ นอกจากการเรียนครบหน่วยกิต สอบผ่าน และทำงานครบถ้วนทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่ที่ Duke University นักศึกษาจะยังไม่ถือว่าเรียนจบ (อย่างไม่เป็นทางการ) หากไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้!  ปีนหอประชุม Baldwin Auditorium (ตรงส่วนที่เป็นโดมข้างบน : ตามภาพ), เข้าไปให้ถึงท่อส่งไอน้ำของมหาวิทยาลัย (ตึกต่างๆในมหาวิทยาลัยนั้นเชื่อมต่อกันโดยท่ออุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งจะมีประตูทางเข้ากระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ แต่แน่นอนว่าเป็นประตูที่ล็อคเอาไว้), ขับรถถอยหลังรอบมหาวิทยาลัยเป็นวงกลมสองรอบ ฯลฯ ซึ่งเป็นประเพณีที่นักศึกษาจะทำให้สำเร็จกันก่อนการจบการศึกษา (แบบเป็นทางการ) ค่ะ

7. University of Idaho : ถนนคนเดินทักทาย (Hello Walk)

       ในช่วงประมาณปี 1920 อัลเฟรด อัพแฮม (Alfred Upham) อาจารย์ใหญ่ของมหาวิทยาลัยในตอนนั้น ยืนกรานที่จะยืนต้อนรับและทักทายทุกๆคนที่เขาเดินผ่านระหว่างทางจากบ้านของ เขา (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นตึก Christian Center) มายังตึกอำนวยการ (Administration Building) ซึ่งเขาทำอยู่เป็นประจำและบอกว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ทำให้ทุกวันนี้ หลายๆคนจึงยังสืบทอดธรรมเนียมแสดงความเป็นมิตรนี้ของเขาอยู่ และเส้นทางเดินนั้นก็ถูกเรียกว่า Hello Walk นั่นเองค่ะ 

8. Reed College : วันครบ 7 รอบของไนโตรเจน (7th Annual Nitrogen Day)

        ข้ออ้างสำหรับการมีวันหยุดหรือวันแห่งความสนุกสนานนั้นอาจจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ที่สถาบัน Reed College คนที่นี่ได้ยกเกียรตินี้ให้กับ "ไนโตรเจน" เจ้าธาตุอันดับที่ 7 ในตารางธาตุที่ครอบคลุมว่า 75% ของชั้นบรรยากาศของโลกนี่แหละค่ะ โดยในทุกๆปี นักศึกษาชาว Reed College จะรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองให้กับธาตุไนโตรเจน ซึ่งในวันนี้ทุกคนก็จะได้สนุกสนานกัน มีทั้งอาหารฟรี และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไนโตรเจน เช่น ทำไอศกรีม หรือทำของแช่แข็งกันด้วยไนโตรเจนเหลว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เพื่อร่วมฉลอง "วันครบ 7 รอบของไนโตรเจน" และทุกๆวันไนโตรเจน จะเป็นวันครบ 7 รอบไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ... งงใช่มั้ยล่ะคะ? จริงๆแล้วที่บอกว่าครบ 7 รอบ ก็เพราะเลขอะตอมของไนโตรเจนคือ 7 ก็เลยเป็นที่มาของชื่อวันฉลองนั่นเอง

9. Occidental College : ทุ่มลงน้ำในวันเกิด

        สำหรับที่อื่นๆ การฉลองวันเกิดอาจจะหมายถึง เค้ก ของขวัญ และการพบปะปาร์ตี้ระหว่างเพื่อนฝูง แต่ที่ Occidental College นั้นกลับแตกต่างออกไปค่ะ เพราะสำหรับที่นี่การฉลองวันเกิดหมายถึง การที่เจ้าของวันเกิดจะถูกเพื่อนๆรุมกันจับตัวออกไปโยนเราลงในสระน้ำพุ Oxy Fountain (ชื่อน้ำพุที่ Occidental College : ในภาพ) ที่เย็นเจี๊ยบอย่างไม่มีการปราณี! ส่วนที่น่าสนุกของประเพณีนี้ก็คือ ตัวเจ้าของวันเกิดจะไม่มีวันรู้ได้เลยว่าพวกเพื่อนๆจะมาลากไปเมื่อไหร่ อาจจะโดนลากออกจากเตียงไปโยนลงน้ำตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่, ลากออกไปจากห้องเรียนทั้งๆที่อาจารย์กำลังสอนอยู่, หรือเมื่อใกล้ๆจะสิ้นสุดวัน (และคิดว่าเรารอดแล้วแน่ๆ) แต่ก็กลับถูกลากออกไปโยนลงน้ำได้ในวินาทีสุดท้าย เพราะมันเป็นที่แน่นอนว่า "วันเกิดใคร คนนั้นโดนแน่ๆ!"

10. Carnegie Mellon University : ทาสีรั้วคอนกรีต

        ที่กลางมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University มีรั้วคอนกรีตตั้งอยู่รั้วหนึ่ง (ตามภาพ) ซึ่งเป็นรั้วที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาทาสีแต่งแต้มรั้วนี้กันได้เต็มที่ (อนุญาตให้ใช้แปรงทาสีเท่านั้น ห้ามใช้สีชนิดสเปรย์พ่น และห้ามใช้แปรงแบบลูกกลิ้ง) โดยช่วงเวลาที่นักศึกษาจะสามารถเข้ามาระบายสีรั้วกันได้นั้น ก็คือช่วงระหว่างเที่ยงคืนถึงสว่างเท่านั้น (เวลาอื่นห้ามนะจ๊ะ) ซึ่งตัวรั้วนั้นแต่เดิมเป็นรั้วไม้ธรรมด๊าธรรมดา แต่ตอนนี้กลายเป็นรั้วคอนกรีตที่ได้ลงบันทึกในกินเนสบุ๊คไปแล้วว่าเป็น "รั้วที่ได้รับการทาสีบ่อยที่สุดของโลก" ซึ่งบ่อยครั้งที่เราจะพบเห็นเด็กนักศึกษามาตั้งแคมป์ใกล้ๆรั้วแห่งนี้เป็นอาทิตย์ๆ เพื่อที่จะดูแลรักษาผลงานของพวกเขาเอาไว้ไม่ให้ใครมาทาทับ แต่เรื่องโรแมนติกสุดๆนั้นต้องขอยกให้กับนักศึกษาคนหนึ่ง ที่มาเขียนข้อความขอแฟนสาวแต่งงานที่รั้วแห่งนี้นี่ล่ะค่ะ > <