![]() |
ออกจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสักหน่อยที่หลายครอบครัวที่พอพูดกับลูกวัยรุ่นทีไรต้องทะเลาะกันทุกที แต่จริงๆ ก็ดี กว่าไม่ได้พูดกันไปเลยนะคะ มีมุมเล็กๆ ที่ช่วยใหญ่ผู้ใหญ่คลายใจได้หน่อยว่า การเถียงของวัยรุ่นก็เป็นประโยชน์อยู่เหมือนกัน ไม่ได้เป็นปัญหาไปซะทีเดียว ดังนี้เลยค่ะ
จากการศึกษาของ University of Virginia พบว่าวัยรุ่นที่มีการพูดคุยถกประเด็น และโต้แย้งกับคนในครอบครัวเป็นประจำ ส่งผลต่อการปรับตัวในสังคมของลูก วัยรุ่นจะสามารถ
"สอนให้โต้แย้งเป็น ช่วยให้วัยรุ่นกล้าปฏิเสธสิ่งเลวร้าย"
เผชิญปัญหากับเพื่อน หรือป้องกันตัวเองจากปัญหายาเสพติดได้ เสมือนว่าการโต้แย้งกันในครอบครัวเป็นการช่วยให้เด็กเกิดการรับฟัง ยอมรับ และรู้จักการปฏิเสธหลีก เลี่ยงสถานการณ์อึดอัดและไม่เหมาะสมได้ เรียกได้ว่า ไม่ใช่คนหัวอ่อนไปซะทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่สั่งสมได้มาจากครอบครัวที่มีการเลี้ยงดูลูกอย่างเปิดโอกาสให้มีแลกเปลี่ยนความคิด ลูกสามารถคิด และพูดเห็นต่างจากผู้ใหญ่ได้ค่ะ ซึ่งนักวิจัยได้บอกว่าตามหลักการแล้วการรู้จักโต้แย้งก็เป็นกระบวนการเรียนรู้ทักษะหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กสามารถดูแลตนเองได้ด้วย ดังนั้น จึงควรให้โอกาสลูกพูดแย้งตนเองได้บ้างค่ะ
อย่างไรก็ตามพ่อแม่ก็ควรต้องเป็นทั้งแบบอย่าง และสอนลูกเกี่ยวกับการแสดคงสวามคิดเห็น รับฟัง ตอบรับ ปฏิเสธ การแสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยอย่างเหมาะสมด้วย หลีกเลี่ยงการ ใช้อารมณ์ หรือไม่มีเหตุผลเพียงพอในการโต้แย้ง หลีกเลี่ยงการจบบทสนทนาด้วยการทะเลาะเบาะแว้งเพราะเห็นไม่ตรงกัน แล้วเดินหนีกันไป ขังตัวเองในห้อง เลิกพูดกัน ขอให้ใช้การโต้แย้งอย่างมีเหตุผล และได้ผลสรุปที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่ายดีกว่าค่ะ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้วัยรุ่นเป็นคนที่มั่นใจในความคิด ความถูกต้องของตัวเอง ปรับตัว และดูแลตนเองได้ ในยุคสมัยที่มากด้วยสิ่งยั่วยุหลอกล่อใจค่ะ
ใครเป็นลูกช่างเงียบ หรือผู้ใหญ่ช่างสั่ง ถึงเวลาปรับเปลี่ยนกันแล้วล่ะ!
| บทความนี้ มิได้มีเจตนาแนะนำให้วัยรุ่นเถียงผู้ใหญ่นะคะ เพียงแต่เลือกใช้คำว่า เถียง เฉพาะในชื่อบทความเพื่อจูงใจเท่านั้น (ในเนื้อหาจะใช้คำว่า โต้แย้งอย่างมีเหตุผลค่ะ) ดังนั้นน้องๆ ชาว Dek-D ไม่ควร "เถียง" ผู้ใหญ่นะคะ ต้องรู้จักชี้แจง หรือแสดงความคิดเห็นเชิงโต้แย้งอย่างมีเหตุผล และไม่ใช้อารมณ์นำค่ะ |
| มีเรื่องอีกหลากหลายให้วัยรุ่นอ่านก็ได้ ผู้ใหญ่อ่านยิ่งดีใน "มุมผู้ใหญ่ Dek-D.com" | |
|
4 เรื่องที่วัยรุ่นไม่ชอบให้ถามยามเสียใจ |
เด็กไม่ได้ต่างจากผู้ใหญ่ แค่เปลี่ยนไปเพราะสังคม |
![]() อาการพิลึกที่ทำให้ทะเลาะกัน รับรองคุณก็เคยเป็น! |
มันไม่ดีตรงไหน อยากผู้ใหญ่รู้ เปิดใจเด็กติดการ์ตูน |

Twitter @kiatkarine
แหล่งข้อมูล:
- thestar.com/living/parent/article/1254206--teen-s-ability-to-argue-with-parents-makes-them-less-likely-to-give-in-to-peer-pressure-study-finds
- dailyprogress.com/news/article_5f1b89f8-94ab-545f-890c-1b74a63ebfd7.html





67 ความคิดเห็น
แสดงว่าหนูจะปรับตัวไม่ได้สินะ
เราว่านะ การที่พวกผู้ใหญ่ดุเรามันไม่ใช่การ 'ด่า' หรอกค่ะ
โดยเฉพาะถ้ามาจากพ่อแม่ มันก็มาจากความหวังดี 'ลึกๆ' ภายในใจทั้งนั้น
ทางที่ดีเราว่า เราควรแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เช่น ดูข่าวด้วยกันแล้วมาถกประเด็นด้วยกัน
จากการทำอย่างนั้น เราก็จะมองเห็นมุมมองของพ่อแม่ ของคนที่เค้าผ่านน้ำร้อนมาก่อนเราว่าเป็นยังไง และเมื่อครั้งต่อไปที่เราโดนดุ เราก็จะสามารถเข้าใจความในใจของพวกเขาได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่
และจะทำให้เราสามารถมองปัญหาที่กำลังพบเจอทะลุไปถึงผลลัพธ์ของมันได้ว่าจะเป็นอย่างไร
มองง่ายๆเลย เช่น ถ้าเพื่อนมาชวนไปเสพยา เรามองเห็นแล้วว่าการเสพยาจะทำให้ตัวเราเป็นยังไง เราอาจจะเสียเพื่อนกลุ่มนี้ไป แต่ถ้าเราคิดได้ว่าจริงๆแล้วเพื่อนกลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มที่น่าเสียดายเลย อีกอย่าง เราก็จะมองเห็นว่าถ้าเราเป็นอะไรไป จะมีใครเสียใจบ้าง เราจะไม่ทำดีเพื่อตัวเราเองและเพื่อที่คนเหล่านั้นจะได้ไม่เสียใจเลยเหรอ
ถ้ามองทะลุปัญหา เวลาเราเจออะไรก็จะพบว่าปัญหาเหล่านี้มีทางออกเสมอ หรือถึงจะไม่มีทางออกแบบรูปธรรม แต่เราก็มีทางออกของจิตใจตัวเองคือการ 'ปล่อยวาง' ค่ะ
และจะทำให้เราไม่มีทางเป็นคนคิดสั้น รวมทั้งกลายเป็นคนปรับตัวลื่นไหลตามสถานการณ์ด้วยค่ะ
กลยุทธ์ในการอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับคือรอจนกว่าผู้ปกครองจะหมดคำพูดและระหว่างนั้นจงสรรหาคำ หรือเรียกว่าจ้องจับผิดคำพูดก็ได้ แล้วใช้ประโยคนั้นเล่นงานกลับไป แต่ถ้าไม่มั่นใจหรือทำแล้วอาจจะแพ้ อย่าทำเลยจะเป็นการดีกว่า...
ผมเป็นพวกคิดไม่เหมือนชาวบ้านนะ ถ้าจุดประเด็นแนวแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขึ้นมาผมงี้จะแสกกลางมาเลย ก็... ขอบคุณฮะสำหรับความรู้ใหม่ๆ ชอบอ่านจังคอลัมน์นี้น่ะ
เวลาเราบอกผู้ใหญ่ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันเป็นอย่างนี้ต่างหาก
ก็โดนหาว่าเถียงไม่เข้าเรื่อง - -"
พอโดนหลายๆครั้งก็ขี้เกียจพูด ขี้เกียจอธิบาย เออ ช่างเหอะ เข้าใจไรก็เข้าใจไป
ทำเอากลายเป็นเด็กเงียบๆ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอยู่นานสองนานเลย
พอโตขึ้น โชคดีที่เปลี่ยนโรงเรียนใหม่ เปลี่ยนสังคมใหม่
เป็นที่ที่ให้ความสำคัญกับความคิดที่เป็นของตัวเองจริงๆอยู่พอสมควร
ก็เลยได้ฝึกแสดงความคิดเห็นที่ออกมาจากความรู้สึกตัวเองจริงๆ
แล้วมันก็เป็นความคิดเห็นที่มีหลักการ มีเหตุผล และน่าเชื่อถือมากขึ้นมากก
ใช้อารมณ์น้อยลงมากก
เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการ"อธิบาย"ผู้ปกครองแล้วนะ
ที่ต้องระวังก็เป็นแค่อย่ามั่นใจในความคิดตัวเองมากเกินไป อย่าแสดงความคิดเห็นหักหน้าใคร ใช้คำพูดดีๆ ฟังคนอื่นด้วย อะไรประมาณนี้
ป.ล. ครูภาษาอังกฤษเราบอกว่าคนไทยหลายๆคนติดนิสัยไม่แสดงความคิดเห็น เห็นครูเห็นผู้ใหญ่เป็นพระเจ้า ไม่กล้าขัดความคิด ทำให้ถึงเวลาแสดงออกจริงๆ แบบทนไม่ไหว ก็แสดงออกในทางที่ไม่สมควร ใช้ความรุนแรง ประท้วงนู่นนี่ บลาๆ... เราว่ามันก็จริงนะ 555
พอเราพูดก็กลายเป็นเถียง จนกลายเป็นเด็กเก็บกด ไม่ค่อยพูด ไม่เฮฮา
แล้วก็เอาไปใช้กับเพื่อนอีก //อาการหนัก
ตอนนี้น่าจะยังเป็นอยู่มั้ง ไม่ค่อยมีคนสนใจที่เราพูดเท่าไหร่ (จืดจาง TwT)
การพูดมันต้องใจเย็นมากๆ เพราะอีกฝ่ายชอบใช้อารมณ์กับเรา
เราเป็นคนพูดแรงถ้าพูดไม่คิดอาจบ้านแตกก็เป็นได้ ; ; .. เฮ้อออ
ผู้ใหญ่ยิงแยกแยะไม่ออกด้วย -0-
บางทีเด็กก็มีเหตุผลนะ แต่พอพูดหน่อยก็หาว่าเถียงคำไม่ตกฟาก ความยุติธรรมอยู่ทีไหน??
ผู้ใหญ่ส่วนมากถือความคิดตัวเองเป็นหลักตลอด
[ใช่ว่าผู้ใหญ่เข้าใจวัยรุ่น เปิดรับความคิดจะไม่มีนะ... แต่มีน้อยยยยย(เหลือเกินT^T)]
ถึงเราจะพูดอย่างมีเหตุผลไป ยังไงเค้าก็ไม่รับฟังTOT
มีบางทีลังเลใจเหมือนจะยอมรับว่าเค้าเป็นคนเข้าใจผิดไปเอง แต่ก็ไม่ยอมรับ...!!!
(กลัวเสียหน้าหรือไงกันคะU U)
เลือกที่จะเงียบมานานแล้วด้วย ถ้าพูดนี่ที่บ้านเราไม่รอดแน่ๆ
ไม่ฟัง + ไม่พูด + ไม่ทำ = สงบศึก
เพราะต่อให้อยากมีเวทีสำหรับแสดงออกถึงความคิดที่แตกต่างมากเท่าไร
ก็ทำได้แค่เพียงเปิดเวทีนั้นอยู่ในใจและปล่อยให้คนที่เขามี "อำนาจ" มากกว่า
กรอกอะไรก็ไม่รู้เข้าหูเราผ่านไปเรื่อยๆนั่นแหละ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 มีนาคม 2556 / 01:48