จุดประกายนิยายแฟนซี ดาวดวงที่ 6 D-dora

7 Stars Sataporn Fantasy กับเทคนิคการเขียนที่อยากบอกต่อ

การหาข้อมูลก่อนการเขียนในแบบของกัลฐิดา

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมารู้สึกดีใจและอบอุ่นมากๆ ที่ได้เห็นน้องๆ เข้าร่วมการอบรมให้หัวข้อ “เขียนแฟนตาซีอย่างให้สนุก” เพราะว่าได้เห็นไฟของหลายคนและอยากให้รักษาความมุ่งมั่นแบบนี้ไว้ค่ะ

สำหรับสัปหาห์นี้กัลป์มาพูดถึง การหาข้อมูลก่อนการเขียน อันนี้จะคล้ายๆ กับการเตรียมตัวก่อนเขียนนะคะ แต่ขอเพิ่มเติมในเรื่องการหาที่ปรึกษา สำหรับกัล นอกเหนือกจากแหล่งข้อมูลที่เราต้องหาข้อมูลอยู่แล้ว ที่ปรึกษาอีกแบบที่นักเขียนทุกคนควรมีคือ ที่ปรึกษาที่สะท้อนแครัคเตอร์และสามัญสำนึกของนิยายเรา พูดง่ายๆ ก็คือ คนคอมเม้นท์นั่นเอง

คนคอมเม้นท์นิยายในที่นี้ คือ คนที่อ่านนิยายของเราแล้วถกกับเราถึงความเหมาะสมของตัวละคร ความเหมาะสมของเนื้อหา ความสมจริง การสะท้อนอารมณ์ การที่มีที่ปรึกษาแบบนี้เราจะได้ ‘ความเห็นของบุคคลที่สาม’ ที่ไม่ใช่ตัวเรา มันทำให้เรื่องมีมิติแล้วสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นธรรมชาติมากขึ้น

คำถาม : เพราะอะไรถึงต้องมี
คำตอบ : เพราะเราทุกคนถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน การคิด การพูด การตัดสินใจ มารยาทและมาตรฐานการกระทำไม่เท่ากัน แต่นักเขียนต้องเขียนสิ่งที่คนส่วนใหญ่อ่านแล้วยอมรับได้ ดังนั้น จึงจำเป็นมากที่เราจะต้องมีคนคอยตรวจสอบว่า สิ่งที่ตัวละครของเราคิดหรือทำ มันไม่ผิดไปจากมาตรฐานที่ควรจะเป็นจนรับไม่ได้ ไม่อย่างนั้น การสื่อสารก็จะผิดเพี้ยน จนทำให้คนอ่านสะดุดแล้วหลุดออกจากโลกของเรา

อย่าโกรธ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามโกรธที่ปรึกษา การสะท้อนความเห็นจากบุคคลที่สามมีความเสี่ยงมากตรงที่นักเขียนไม่อยากยอมรับว่ามันคือความจริง เราต้องมองว่าเรากำลังทำเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้น ความคิดของเราอาจไม่ดีที่สุดเสมอไป

หลายครั้งกัลเองก็โกรธที่นักอ่านทดลองของกัลแย้งนู้นนี่นั่น ยิ่งเป็นเรื่องที่กัลคิดว่า “มันปกติจะตาย” ด้วยแล้ว ยิ่งหงุดหงิดมาก แต่ทั้งที่หงุดหงิด เราต้องทำใจให้เป็นกลางเพื่อสร้างตัวละครที่เข้าถึงคนอ่านให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ขอแนะนำว่า หากต้องการหาคนเม้นท์แบบนี้ ควรเลือกคนที่เรารักและเคารพความคิดเขามากๆ เพราะสิ่งนั้นช่วยได้เยอะเวลาเราโกรธ >___<

 

Star ดวงที่ 6 D-dora

 

จากเด็กสาวตามกระแสที่เริ่มอ่านนิยายแฟนตาซีเพราะความโด่งดังของ แฮร์รี่พ็อตเตอร์ และคลั่งไคล้นิยายแนวโรงเรียนแบบนี้ถึงขั้นเหมาทุกเรื่องในตลาดมาอ่านจนหมดแผงหนังสือ เมื่อถึงวันที่การอ่านหยุดชะงัก ไม่มีเรื่องใหม่ๆ ให้อ่านอีกแล้ว เด็กสาวคนนั้นก็เลยลุกมาเขียนนิยายเสียเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนักเขียนวัยใส ‘D-dora’ เจ้าของผลงานแฟนตาซีผจญภัย ผลึกสุดท้ายอัญมณีแห่งหายนะ และ BLADE A.X. อภินิหารศาสตราสยบโลก วันนี้เราได้มานั่งคุยแบบสบายๆ ถึงเทคนิคและความเอาจริงเอาจังในงานเขียนของเธอ

ก่อนจะบอกเล่าเคล็ดลับการเขียน เรานึกสงสัยว่าการได้เป็นเจ้าของนิยายแฟนตาซีที่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 2 เรื่องนั้น D-dora เกิดจุดประกายในการเริ่มเขียนนิยายแฟนตาซีได้อย่างไร

แค่เขียนตามแฟชั่นค่ะ เพราะหาหนังสือที่ชอบอ่านไม่ได้ ก็เลยเขียนแนวนี้ แค่นั้นเองเลยค่ะ...สำหรับเรื่องแรกแล้วยอมรับเลยว่าไม่มีอะไรมาจุดประกาย มีแต่แครัคเตอร์ คือนิยายส่วนใหญ่ของหนูเนี่ย แครัคเตอร์ค่อนข้างจะเด่นกว่าตัวพลอตอยู่แล้ว ถ้ามีแครัคเตอร์จุดประกายขึ้นมาว่า เราชอบผู้ชายแบบนี้ ชอบผู้หญิงแบบนี้ เกิดเป็นตัวละครที่ค่อนข้างแปลกในหนึ่งเรื่อง แต่พอมาเรื่องที่สอง คือเหมือนกับเล่มแรกเราเหมือนเด็กเขียน ลองฝึกมือ แต่เล่มที่สองเนี่ยเราเริ่มมีประสบการณ์การเขียน และก็เริ่มมีอะไรมาจุดประกายในชีวิตเรา ทั้งพลอตและตัวละคร

หมายความว่าเรื่อง BLADE A.X. อภินิหารศาสตราสยบโลก เป็นนิยายที่ได้วางแผนโครงเรื่องมาแล้วอย่างดี? เช่นนั้นก่อนจะเริ่มลงมือเขียน เราต้องเตรียมอะไรบ้าง

มากเลยค่ะ เรื่อง BLADE A.X. วางโครงเรื่องอยู่เป็นปีในการเตรียมข้อมูล ตัวละครเราต้องเดินทางไปหลากหลายประเทศมาก การทำข้อมูลมันก็จะยากตรงที่ เมื่อมีการเดินทางไปยังประเทศหนึ่ง สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือ ไทม์ไลน์ ตัวละครไปถึงประเทศนี้ในฤดูอะไร และพอบินข้ามซีกโลกไปอีกประเทศมันจะกลายเป็นฤดูอะไร การบรรยายฉากและสถานที่มันจะส่งผลมาก เราต้องเช็กให้ถูกต้อง แม้ว่าเวลาบรรยายออกมาจริงๆ ในเรื่องมีแค่สองย่อหน้า แต่เราต้องเช็กข้อมูลก่อนรวมๆ กันแล้วเป็นปึ๊ง ต้องเช็กทั้งสภาพอากาศ เช็กทั้งเวลา ภาษา วัฒนธรรม พื้นที่ของประเทศนั้น คือบางทีหนูถึงกับเปิด Google Map แบบดาวเทียมเพื่อส่องลงไปดูที่พื้นตรงนั้นจริงๆ ว่าพื้นตรงนั้นมันเป็นยังไง แล้วก็ดูข้อมูลทางธรณีวิทยาว่าต้องบรรยายพื้นตรงนั้นยังไง คือมันเป็นข้อมูลเบื้องหลังที่เอามาเขียนในนิยายไม่ได้ เพราะว่าถ้าเขียนออกมาเนี่ย นิยายจะกลายเป็นสารคดีค่ะ (หัวเราะ)

ฟังจากที่พูดมาแล้วเหมือนเราจะให้ความสำคัญกับข้อมูลความจริงมาก ถ้าอย่างนั้นความเป็นแฟนตาซีเล่า เอาไปแทรกไว้ตรงไหน

มันเริ่มจากความเหวี่ยงของเราก่อน คือหนูต้องการอะไรที่มันแรง อะไรที่มันสามารถปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกรุนแรงของเราได้เต็มที่ เพราะว่ารสนิยมของหนูคือเป็นคนที่ชอบอะไรแรงๆ ถึงหน้าจะเนิร์ดแต่ชอบฟังเพลง Heavy Metal ยิ่งเราเรียนสายกฎหมายด้วยแล้วเราต้องอยู่อย่างสงบวางตัวนิ่งอะไรอย่างนี้ มันไม่มีจุดให้เราแสดงออกมุมมองด้านความรุนแรงของเรา ฉะนั้นแรงบันดาลใจของการเขียน BLADE A.X. นอกเหนือจากความสนใจเรื่องประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ส่วนตัวแล้วก็คือ ต้องการให้ตัวละครมีนิสัยรุนแรง คือไม่ใช่เป็นคนไม่มีเหตุผลนะคะ แต่หมายถึงการเป็นคนเท่ เชื่อมั่นในตัวเอง สามารถทำเรื่องเหลือเชื่อและเดินทางไปทั่วโลกได้ด้วยตัวเอง คือต้องการจะเสนอมุมมองว่า ต่อให้คุณแตกต่างแต่คุณก็ยังสามารถใช้ความแตกต่างนั้นสร้างจุดยืนในสังคมได้ ตัวละครของหนูจะมีความแปลกแยกอยู่ในตัวเอง พระเอกนางเอกจะมีความคิดที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเท่าไหร่

น้องๆ ที่เขียนนิยายแฟนตาซีส่วนใหญ่นั้นยังอยู่ในช่วงวัยเรียน สำหรับตัว D-dora เองซึ่งเขียนนิยายไปด้วยและยังเรียนนิติศาสตร์นั้น แบ่งเวลาและหน้าที่ให้สองอย่างนี้ยังไง

ตอนปีหนึ่งเราอาจจะมีเรียนทุกวัน แต่ก็จะใช้ช่วงเวลาพักกลางวันมานั่งห้องคอมพิวเตอร์เพื่อเขียน พอเริ่มเรียนปีสูงๆ ไม่ได้เรียนทุกวัน ก็จะใช้เวลาเขียนในวันที่ไม่มีเรียน แต่สำหรับช่วงใกล้สอบเราต้องอ่านหนังสือ ก่อนหน้านั้นก็จะต้องเขียนนิยายล่วงหน้าไว้สำหรับการอัพเดทในเว็บ เพราะหนูเป็นคนลงนิยายต่อเนื่องไม่ให้มันขาดตอน ช่วงสอบเราก็จะไม่แตะนิยายเลยทำหน้าที่แค่อัพเดทอย่างเดียวแต่ไม่เขียน เพื่ออ่านหนังสือเต็มที่ ต้องแบ่งเวลา หาเวลาว่างดีๆ เพราะทุกคนมีเวลาว่างแน่ๆ เพียงแต่เมื่อถึงช่วงหนึ่ง ถ้าเป็นนักเรียนคุณต้องสอบ มันก็จะต้องเหนื่อยกว่าปกติ คุณก็อาจจะได้นอนน้อยกว่าคนอื่น แต่มันก็จำเป็นถ้าคุณอยากจะเขียน

แม้จะหาเวลาว่างเพื่อมาเขียนนิยายได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเขียนออกมาได้ทันที เรามีโมเมนต์ที่พอว่างปุ๊ปก็นั่งลงเขียนนิยายทันทีได้อย่างไร

เมื่อก่อนทำไม่ได้ แต่พอทำไปสักพักมันจะทำได้เอง มันจะบังคับตัวเองจนเขียนออกมาจนได้ แต่นักเขียนทุกคนต้องรีไรท์นิยายตัวเองหลายรอบกว่าจะส่งสำนักพิมพ์ พอคุณบังคับให้เขียนออกมาได้แล้ว มารีไรท์รอบสองรอบสามมันก็จะปรับแก้ไปเอง แต่การจะบังคับให้เขียนออกมาได้คุณก็ต้องมีพลอตแล้วนะคะ ก่อนที่คุณจะเขียนนิยายทุกเรื่องคุณต้องวางพลอตให้แน่นแล้ว เพื่อให้เป๊ะว่าคุณอยากจะเขียนอะไร แล้วพลอตย่อยๆ มันจะค่อยๆ ทยอยมาเอง หนูใช้วิธีอ่านทวนน่ะค่ะ เพราะหนูเขียนนิยายเพื่ออ่านเองด้วย ไปเอาตอนเก่าๆ มานั่งอ่านบิวต์ให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับนิยายของเราเอง พอเรามีอารมณ์ร่วมกับนิยายของเราแล้วมันจะพอเขียนต่อได้ค่ะ มันอาจจะไม่มีคุณภาพเท่ากับตอนที่มีไฟเต็มที่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรแล้วปล่อยทิ้ง อ้างว่าไม่มีอารมณ์ ไม่มีไฟ เพราะตันก็เลยไม่เขียน

คำถามสุดท้ายเพื่อฝากไปถึงน้องๆ และนักเขียนรุ่นใหม่ สำหรับการจะเป็นนักเขียนที่ดีของ D-dora คิดว่าควรจะเป็นแบบไหน

หนูยังบอกไม่ได้เพราะยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นนักเขียนที่ดี หนูเป็นแค่คนเขียนนิยายได้จบคนหนึ่ง และสำนักพิมพ์ให้โอกาส มีแฟนที่คิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นแนวเดียวกับที่เขาชอบอ่านก็เลยสนับสนุน หนูยังไม่ใช่มืออาชีพก็คงบอกไม่ได้ว่านักเขียนที่ดีต้องเป็นยังไง แต่อย่างหนึ่งที่หนูคิดว่าทุกคนต้องมีไม่ว่าจะทำอะไร ก็คือ ความรับผิดชอบ หนูเห็นนิยายในเว็บเยอะมาก หนูเข้าใจว่ากำลังใจจากคอมเมนต์แฟนคลับเป็นสิ่งสำคัญ คุณอาจจะเขียนนิยายไปแล้วไม่มีใครคอมเมนต์ ไม่มีคนอ่าน ก็เลยบอกว่ารู้สึกท้อแท้แล้วก็เลิกไป ไม่อยากให้ทำอย่างนั้น คุณควรเขียนให้จบไม่ว่ายังไงก็ตาม มันเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง อย่าลืมสนุกกับมัน เขียนแล้วให้รักมันด้วยอย่าทิ้งขว้างมันนะคะ แล้วมันจะเป็นความทรงจำหนึ่งที่ประทับใจไม่ว่าคนอื่นจะรู้กับเราหรือไม่รู้กับเรา แต่ตัวเรารู้กับตัวเองดีที่สุด

ไม่น่าเชื่อว่าจากคนที่เริ่มเขียนนิยายเพราะแฟชั่น จะกลายเป็นนักเขียนที่จริงจังและมีความรับผิดชอบกับผลงานของตัวเองได้ขนาดนี้

ครั้งต่อไป Season Cloud หนุ่มสัตวแพทย์ เจ้าของผลงาน ความลับแห่งทวีปสาบสูญ ที่จะมาเผยเคล็ดลับการเขียนในแบบของเขา

จากนักอ่านถึงนักเขียน D-dora

“เรื่องนี้จะต้องบอกว่าทั้งรั่วและแนวเลยล่ะค่ะ -/ฮา เพราะว่าบุคลิกพระเอกกับนางเอก บาเรส และประธายซาโอะของเรารวมถึงตัวละครหลายๆตัวช่าง... เกินคำบรรยายจริงๆ orz

เรื่องนี้แบบเอาใจคนชอบรั่วและถล่มไม่ยั้งมือจริงๆ ! (ก็เธอไม่ใช่เราะ) ช่างเป็นสไตล์ที่เยี่ยมยอดค่ะ >_<

ท่านโดร่าเขียนได้ดีมากๆค่ะ ชอบ~ (แอบอยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากกว่าผลึกนิดนึง) ฮะๆ เพราะว่ามีทั้งมุขและมากมายก่ายกอง =_= อ่านแล้วอดฮาตามไม่ได้

อยากรู้ว่าเรื่องนี้พระเอกและนางเอกจะหัวช้าเหมือนเรมี่กันหรือเปล่า ฮ่าๆ เรื่องนี้เกินคำบรรยายจริงๆค่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เพราะมัน "เกินคำบรรยาย" ชอบมากค่ะ ขอบคุณท่านโดร่านะคะ ^^”

Larte' Fristo , Lightness Master

 กิจกรรม Workshop เขียนแฟนตาซีอย่างไรให้สนุก จบลงแล้ว
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
พี่น้องมีเก็บตกภาพกิจกรรมมาฝาก ไปดูกันที่บทความนี้เลย

7 Stars

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Luchia Member 17 ต.ค. 56 10:27 น. 4

ตามมาอวยค่ะ เอ๊ย ไม่ใช่ๆ 

เห็นบทความนี้ ก็รู้สึกอยากแต่งนิยายขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ^______^ 

ขอบคุณสำหรับการให้กำลังใจล่วงหน้าค่ะ 

ยังหวังว่าสักวันหนูจะขึ้นแท่นเป็นเหมือนพี่ให้ได้ซักวันนึงค่ะ เขิลจุง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
iSnow Member 19 ต.ค. 56 23:08 น. 6

ความรับผิดชอบในการแต่งให้จบนี่สำัคัญจริงๆ... จะว่าไป น่าจะสำคัญมากกว่าทุกอย่างที่เหลือเลยละมั้ง  = =b

แต่งให้มันสนุก ...ง่ายกว่าแต่งให้จบอีก 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด