สวัสดีครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้!! เชื่อหรือไม่ว่า.. สุดหล่อคนนี้ ปีก่อนเขาคือ เด็ก ม.ปลาย ที่สอบเลขสมาคมได้ 4 คะแนนเต็มร้อย แต่ปีนี้เขาติดรับตรง คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไปแล้วถึง 7 ที่ อะไรคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา ไปติดตามเรื่องราวของเขากันเลยครับ
แนะนำตัวหน่อย ?
สวัสดีคร้าบ อาจจะคุ้นๆ ชื่อผมจากกระทู้เทคนิคเพิ่มคะแนน PAT 1 (ฉบับวิชามาร ได้ผลจริง) www.dek-d.com/board/view/3156666 มาแนะนำตัวกันเลยดีกว่า ชื่อสมประสงค์ หาญไพบูลย์สุข ชื่อเล่นว่า หมู นะค้าบเรียนแผนการเรียนวิทย์คณิต English Program ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า (ยาวเว่อร์) ได้เกรดเฉลี่ย 5 เทอม1 ก็ 3.93 ครับ คณะที่อยากเรียนก็คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ครับ
บอกหน่อยๆ ติดรับตรงมาทั้งหมดกี่ที่บ้าง ?
นับดูก็ประมาณ 7 ที่ครับ เรียงลำดับตามที่ได้ก็จะมี..
1. โควตาเรียนดีวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร (ไม่ได้ไปสัมภาษณ์)
2. วิศวฯ Sirindhorn International Institute of Technology (SIIT) มธ. ทุน25%
3. โครงการTEP/TEPE คณะวิศวกรรมโยธา ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุน100%
4. วิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รอบรับตรง (ไม่ได้ไปสัมภาษณ์)
5. วิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยมหิดล รอบรับตรง (ไม่ได้ไปสัมภาษณ์)
6. วิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รอบรับตรง (ไม่ได้ไปสัมภาษณ์)
7. คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาค Inter ครับ (ISE)
ถามจริงๆ เคยไม่ติดรับตรงบ้างไหมเนี่ย ?
บอกตามตรงว่าไม่เคยจริงๆ อะครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยผิดหวังกับเรื่องแบบนี้นะครับ อย่างเรื่องเรียนเนี่ย ผมผิดหวังบ่อยมาก เพราะส่วนตัวแล้ว ผมไปแข่งขันทักษะวิชาวิทย์ หรือคณิตนอกโรงเรียนบ่อยๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องชนะเสมอไป แพ้บ่อยกว่าชนะครับบอกเลย T T สังคมข้างนอกมันโหดร้าย อย่างตอนไปสอบสมาคมคณิตศาสตร์ ตอน ม.5 ผมทำได้แค่ 4/100 คะแนนเอง ทำให้รู้เลยครับ ว่ากบในกะลามีจริง T^T แต่ถ้าเราล้มแล้วเราก็ควรลุกขึ้นมาครับ อย่าท้อแท้กับมัน พอเรารู้ตัวว่าข้างนอกมันแข็งกว่าที่เราคิดมาก ก็นั่งฝึกฝนมาเรื่อยๆ พอ ม.6 นี่ก็ลองไปสอบใหม่ ก็อัพมาได้ถึง 40/100 ครับ ดังนั้น ถ้า ‘ล้มแล้วต้องลุก’ ครับ
วกมาที่เรื่องรับตรง เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปเท่าไหร่ ?
เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี่ไม่แน่ใจอะครับ เพราะว่ามันก็นานพอสมควรแล้วนับจากวันสมัคร (ประเด็นคือหาใบเสร็จไม่เจอ -*-) คาดว่าน่าจะอยู่ราวๆ 3,000-5,000 บาทนะครับ
รับตรงสนามไหนที่รู้สึกว่ายากที่สุด พร้อมเหตุผล ?
สำหรับของผมในบรรดาที่ติด ผมว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาค Inter หรือ (ISE) ยากสุดแล้ว เพราะมันต้องสอบเก็บคะแนน CU-TEP , CU-AAT , CU-ATS จนกว่าจะผ่าน แล้วบางทีผ่านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องอัพคะแนนให้สูงขึ้นไปอีก จึงเหนื่อยมากๆ เลยสำหรับสนามนี้ สอบมาตั้งแต่เปิดเทอม ยันเดือนสุดท้ายของการยื่นคะแนนเลยครับ เหนื่อยมากๆ
บอกเคล็ดลับพิชิตสนามรับตรงมาหน่อย 3 ข้อ ?
อันนี้คือวิธีเด็ดๆ ที่มาลองวิเคราะห์ดูว่าอะไรที่เป็นตัวแปรสำคัญในสนามสอบรับตรงนะครับ ทุกข้อที่คัดเลือกมาสำคัญหมดเลย แนะนำจริงๆ สำหรับน้องๆ ที่เตรียมสอบปีหน้าว่าอยากให้ทำตามกฎเหล็ก 3 ข้อนี้
1.แม่นยำ เราต้องมีความแม่นยำในบทเรียนครับ อันนี้คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับสนามสอบรับตรง เราควรเก็บข้อมูลต่างๆ ในวิชาที่เราต้องใช้ เราต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะรับตรงส่วนใหญ่ จะเริ่มเปิดตั้งแต่ช่วง ม.6 เทอม 1 ถ้าเราเตรียมพร้อมก่อน เราก็ได้เปรียบกว่าคนอื่น อย่าคิดว่าสนามรับตรงไม่สำคัญ เพราะถ้าเราไม่ติดหลายๆ ที่เข้า มันก็เป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเอง จนมีผลไปถึงการแอดมิชชั่นได้
สำหรับความแม่นยำนี้ ยังรวมไปถึงการทำเกรดที่โรงเรียนให้ดีครับ สนามรับตรงส่วนใหญ่ เขาจะเอาเกรดเฉลี่ยมาพิจารณาเป็นสิ่งแรก ถ้าใครทำเกรดไม่ดีตั้งแต่ที่โรงเรียน เขาคนนั้นก็จะเสียโอกาสไป เราไม่ควรจะมาเสียโอกาสกับเพียงเพราะการทำเกรดที่โรงเรียนนะครับ ถ้าเราหมั่นเตรียมบทเรียนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย สิ่งที่เราต้องเพิ่มขึ้นมากับที่โรงเรียนก็แค่การมีความรับผิดชอบส่งงานให้ครบ เพียงเท่านี้เกรดก็ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ เพราะการอ่านหนังสือเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยนั้น มันก็เหมือนการอ่านบทเรียนในห้องเสริมไปด้วยอยู่แล้ว ถ้าเรารับผิดชอบส่งงานครบอีก รับรองครับ การทำเกรดไม่ใช่เรื่องยาก
2.ฉับไว สำหรับความฉับไวนี่ ในยุคไซเบอร์แบบนี้ เราต้องมีความฉับไวให้ทันคนอื่นมากๆ นะครับ เพราะว่าบางทีรับตรงบางที่เปิดขึ้นมา ไม่กี่วันก็ปิดและ บางคนแบบ "อ้าว ตูเพิ่งรู้ว่ามันมีเปิด" ไรงี้ เราต้องติดตามข่าวสารของแต่ละที่ ที่เราอยากเอาไว้เป็นทางเลือกตลอด ถ้าที่ไหนเปิดปุ๊ป ก็ควรรีบตัดสินใจว่าเราอยากได้ที่นี่มั้ย ถ้าตัดสินใจเสร็จ เราก็ต้องสมัครปั๊ป อย่าทิ้งไว้นาน ไม่งั้นเราก็ลืม ถ้าหากใครขี้เกียจตามข่าวจากทีละมหาลัย เราก็อาจจะสมัคร SMS เด็กดี หรือติดตามจากเว็บไซต์เด็กดี เพราะถือว่าเป็นแหล่งรวมข่าวสารข้อมูล และคอยอัพเดทอยู่ตลอด ว่ามีที่ไหนเปิดบ้าง (โฆษณาเอาใจหน่อยอิอิ)
หรือถ้าใครไม่สะดวกกับการติดตามทางอินเตอร์เน็ต หรือมือถือจริงๆ ก็สามารถสอบถามครูแนะแนวหรือเพื่อนที่สนิทของเราก็ได้ครับ แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ การตรวจสอบด้วยตัวเองถือว่าปลอดภัยที่สุดนะ พอเราสมัครเสร็จ เราก็ควรเช็คข้อมูลให้ครบด้วยนะครับ อย่าละเลยเรื่องเช็คข้อมูล อันนี้สำคัญมาก เนื่องจากหลายคนพลาดมหาวิทยาลัยที่ต้องการ เพียงเพราะส่งข้อมูลไม่ครบ แต่คะแนนสอบถึงอะไรงี้ก็มี อนาคตของเรา เราต้องทำให้มั่นใจทุกขั้นตอนครับ ว่ามันสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วจริงๆ
3.สำรอง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราไปได้ถึงเป้าหมายก็คือ การมีเป้าหมายสำรองอยู่เสมอ ถ้าเป้าหมายสูงสุดที่เราตั้งไว้มันไม่ถึง เราควรจะมีเป้าหมายรองลงมาไว้อยู่ตลอดกันหลุดครับ เพราะในสนามรับตรงส่วนใหญ่ เขาไม่เคยเปิดเผยผลคะแนน เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เราต้องทำให้ได้ประมาณไหน ไม่เหมือนกับแอดมิชชั่น เราจึงควรมีเป้าหมายสำรองไว้ตลอดครับ เพราะถึงเก่งแค่ไหน ถ้าเกิดวันนึงเราเกิดดวงซวยฝนคำตอบหรือทำอะไรพลาดขึ้นมางี้ เราก็ไม่ถึงเป้าหมายครับ แต่ถ้าเรามีเป้าหมายสำรองเอาไว้ เราก็ถึงเป้าหมายได้ครับ มันก็คือเป้าหมายใหม่ที่เราวางเอาไว้นั่นเอง
หากมีคนมองว่าเราไปกักที่ จะอธิบายกับคนนั้นอย่างไร ?
ถ้าเป็นผม ผมอาจจะเล่าที่มาที่ไปให้เขาฟัง ว่าทำไมเราเลือกที่นั่นที่นี่ อย่างของผมนะ บอกเลยว่าผมเป็นคนที่ลังเลมากกับอนาคตของผม ลังเลว่าจะเข้าวิศวะภาคปกติ หรือภาคอินเตอร์ จนถึง ณ จุดที่เล่าเรื่องอยู่ตอนนี้ เราก็ยังฟันธงกับตัวเองไม่ได้ว่าจะเลือกอะไร แต่ใจมันอาจจะเอนไปทางอินเตอร์ เพราะไม่อยากจะทิ้งภาษา ในตอนที่เรายัง 50-50 เราก็เลยตัดสินใจว่าจะสมัคร 2 แนว คือสมัครปกติ กับอินเตอร์ไป เป้าหมาย คือจุฬา แล้วอย่างที่บอกขั้นต้นว่าเราควรจะมีเป้าหมายสำรอง เราจึงสมัครที่ใหญ่ๆ เอาไว้ เพื่อที่จะกันหลุด
อย่าง มศว ที่สมัครไปตอนแรก ยอมรับเลยว่ากะจะลองสนามเฉยๆ เพราะมันเป็นที่แรกที่เปิด แต่เราก็ตัดสินใจไม่ไปสัมภาษณ์ เพราะไม่อยากจะกันที่คนอื่น แล้วพอติดอินเตอร์จุฬา เราก็เลยตัดสินใจไม่ไปสัมภาษณ์ของเกษตรศาสตร์ กับมหิดลเช่นกัน เพราะเราติดที่เราสำรองไว้แล้วก็คือ TEPE กับ SIIT แต่สาเหตุที่เราไปสอบสัมภาษณ์ทั้ง 2 ที่ ก็เพราะว่า มันเปิดในเวลาที่พร้อมๆ กัน ยังไม่รู้ผลของอันไหนก่อน คือของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับเจตนาของคนด้วยครับ เคยเห็นเหมือนกันกับคนที่ติดเป็นสิบที่แล้วไปสัมภาษณ์ทุกที่อย่างนั้นมันก็เกินไป เราต้องคิดบ้างว่า ถ้าเป็นเราที่โดนแย่งที่เราจะทำยังไง ถ้าเรามีโอกาสได้ที่ที่เราอยากได้แล้ว เราก็ควรจะให้คนอื่นบ้าง อย่าเป็นผู้รับฝ่ายเดียว ยังไงเราก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันทั้งหมด เราก็ควรช่วยเหลือกันครับ
บอกข้อดีของการติดรับตรงหลายๆ ที่มา 1 ข้อ
เชื่อว่าถ้าหลายๆ คนเลือกได้ หลายๆ คนก็อยากติดรับตรงหลายที่นะครับ เพราะการติดรับตรงหลายที่มันมีข้อดีร้อยแปดพันเก้าอยู่แล้ว อย่างข้อเด็ดๆ เลยก็คือ เราจะมีทางเลือกให้ตัดสินใจได้หลายทาง ทำให้เราสามารถวางแผนในชีวิตได้ง่ายขึ้น
บอกข้อเสียของการติดรับหลายๆ ที่มา 1 ข้อ
เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียนะครับ การที่เราติดหลายที่เกินไป อาจจะทำให้เกิดความลังเลใจได้นะครับ ว่าจริงๆ แล้วเราอยากเรียนที่ไหนหรือคณะไหนกันแน่ แต่ถ้าวันนึงเราค้นหาตัวเองเจอละก็ ข้อเสียนั้นก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นข้อดีได้นะครับ
ฝากถึงเพื่อนๆ ที่ยังไม่ติด และกำลังรอผลอยู่หน่อย
สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ติดรอบรับตรง ก็อาจจะกำลังรอแอดมิชชั่นอยู่ใช่เปล่า ก็อยากจะบอกเพื่อนๆ ว่าช่วงเวลาที่เหลือก่อนสอบ GAT PAT รอบ 2 เป็นช่วงสุดท้ายของ ม.6 แล้ว จริงๆ และถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของการแอดมิชชั่นอีกด้วย อยากให้ทุกคนโฟกัสการเก็บเนื้อหาเตรียมสอบในโค้งสุดท้ายให้ดีๆ ถ้าเป็นไปได้ควรดูโจทย์เก่ามากๆ และจับเวลาทำเพื่อกำจัดความรนออกไปนะครับ และสำหรับคนที่รอผลรับตรงที่ต่างๆ อยู่ ก็ขอให้อย่าหยุดอ่านหนังสือ ให้เตรียมเนื้อหาต่อไป เพราะถ้าประกาศผลออกมาแล้วเราไม่ได้เราจะไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย แต่ถ้าเราอ่านหนังสือเตรียมพร้อมสำหรับ GAT PAT รอบ 2 เอาไว้ มั่นใจเลยว่า เพื่อนๆไม่หลุดแอดมิชชั่นแน่นอนครับ สู้ๆ :D
โอโห.. สุดยอดมากครับ สำหรับน้องคนนี้ พี่ลาเต้ ขอปรบมือรัวยาวให้เลยครับ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "พอเรารู้ตัวว่าข้างนอกมันแข็งกว่าที่เราคิดมาก ก็นั่งฝึกฝนมาเรื่อยๆ" อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า ต่อให้คนเราเก่งแค่ไหน ก็ต้องเคยผ่านเรื่องที่อ่อนแอมาก่อนอยู่เสมอ เป็นกำลังใจได้อย่างดีเลยครับ จริงไหม ?? สุดท้ายนี้ พี่ลาเต้ ต้องขอบคุณน้องหมู ที่สละเวลามาแบ่งบันประสบการณ์ดีๆ ในครั้งนี้ด้วยคร้าบ





32 ความคิดเห็น
ความพยามความขยันความอดทนช่วยคนที่ไม่เก่งให้เก่งได้ เราก็จะพยายามให้มากกว่านาย
นายเป็นไอดอลของเราไปแล้ว
ฮืม.. พาดหัวเรื่องซะแบบว่าน่าติดตาม!! ได้ 4/100 ถือว่าปกตินะ เพราะมันเป็นข้อสอบสมาคม ยากกว่าแพท 1 ซะอีก!!
เก่งจังเลยค่ะ
เก่งเวอร์
เมพมากครัชพี่ ><
นายเหมือนช้านเลย จะเข้า TEP กับ SIIT เหมือนกัน
#ความฝันที่สุดแหละ
เก่งสุดยอดอะครับพี่ ช่วยรับหนูเป็นศิษย์ด้วยนะคร้าบบบบบบบบบบบ
เทพมาก ครับ
อยาเก่งแบบนี้บ้างจัง
หนูมาดูความหล่อ นี้บอกเลย!!!!
"เพราะพาดหัวเรื่อง เอิ่ม.....ชิวๆกันไป"
เก่งมาก ชื่นชมๆ (ปรบมือๆๆ)