5
ข้อแตกต่างของ "ภาคพิเศษ" กับ "ภาคปกติ"
13
รับเพิ่มที่นั่งแอดมิชชั่น 57 ของคณะ/มหาวิทยาลัย
สวัสดีค่ะ อีกไม่กี่วันเท่านั้นกับการสมัครในระบบแอดมิชชั่น ..... แป๊บเดียวเองเนาะ >< น้อง ๆ หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า ทำไมนะบางสาขาถึงมีวงเล็บต่อท้ายว่า ภาคพิเศษ มันคืออะไร แล้วมันต่างจากที่ไม่มีวงเล็บต่อท้ายอย่างไร รวมทั้งรับตรงบางโครงการก็จะมีบอกไว้ว่าเป็นภาคพิเศษ แล้วภาคพิเศษกับภาคปกติต่างกันอย่างไร พี่แป้ง พร้อมที่จะคลายข้อสงสัยน้อง ๆ แล้วค่ะ ตามมาดูกันเลย
Question : ภาคปกติ กับ ภาคพิเศษ แตกต่างกันอย่างไร?
Answer : จริง ๆ เริ่มต้นแล้วไม่ได้แบ่งเด็กภาคพิเศษกับภาคปกตินะคะ คือ จะมีภาคเดียวนั่นแหละ แต่ต่อมาประมาณนิสิต/นักศึกษาเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าจำนวนที่นั่งที่มีมันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในแต่ละคลาสนั้นจะต้องจำกัดจำนวนนิสิต/นักศึกษาเพื่อให้การสอนเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ จึงเกิดภาคพิเศษ หรือ ภาคสมทบขึ้น โดยจะเป็นภาคที่เรียนในเวลาอื่น เป็นอีกคลาสนึงที่เกิดขึ้นค่ะ เช่น ภาคปกติจะเรียนเช้า-เย็น ส่วนภาคพิเศษจะเป็นเย็น-ค่ำ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เรียนสาขานี้เพิ่มขึ้นและสามารถผลิตบุคลากรได้มากขึ้นค่ะ
Question : ภาคปกติ กับ ภาคพิเศษได้รับการเรียนการสอนเหมือนกันไหม?
Answer : เหมือน กันเลยค่ะ หลักสูตรของภาคพิเศษกับภาคปกติจะเรียนเหมือนกันเป๊ะ ๆ แต่ต่างกันที่คลาสและเวลาเรียนค่ะ อาจารย์ที่มาสอนเรานั้นเป็นอาจารย์ชุเดียวกันเลยค่ะ เนื้อหาเหมือนกัน อาจารย์บางท่านอาจจะตัดเกรดรวมด้วยค่ะเพราะถือว่าเป็นนิสิต/นักศึกษาเหมือน กัน เหมือนกับว่าปกติแล้วสาขานี้เปิดแค่ห้องเดียว แต่ว่าห้องเดียวมันไม่พอเลยต้องเปิดห้องที่สอง โดยห้องที่สองก็คือเด็กภาคพิเศษนั่นเองค่ะ
Question : เคยได้ยินว่าภาคพิเศษมีแต่เด็กซิ่วหรือคนที่ไม่ได้เรียนตามเกณฑ์ จริงหรือไม่?
Answer : ไม่ จริงเสมอไปนะคะ แต่ว่าภาคพิเศษจะมีเพื่อนที่หลากหลายกว่า จะมีทั้งเพื่อน ๆ ที่ซิ่วมา หรือบางคนเรียนต่อต่างประเทศแล้วกลับมาไม่สามารถเข้าภาคปกติได้ก็จะเลือก เรียนภาคพิเศษค่ะ การรับเข้าเรียนภาคพิเศษจะมีเกณฑ์ที่ยืดหยุ่นกว่าภาคปกติ เช่น เกรดอาจจะน้อยกว่า หรือเปิดรับเด็กซิ่วในขณะที่ภาคปกติไม่เปิดรับ ภาคพิเศษจึงเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับการศึกษาค่ะ
Question : ค่าเทอมของภาคปกติและภาคพิเศษต่างกันอย่างไร?
Answer : ใน ส่วนของค่าเทอมนั้นภาคพิเศษจะแพงกว่าภาคปกติในสาขาเดียวและมหาวิทยาลัยเดียว กันประมาณ 1-2 เท่าค่ะ เหตุผลเนื่องจากว่าภาคพิเศษนั้นจะได้รับการเรียนการสอนนอกเวลาทำการ(ราชการ) เพราะฉะนั้นการจ้างอาจารย์ผู้สอนจะจ้างในอัตราพิเศษ รวมถึงเรื่องห้องที่ใช้ในการเรียนด้วยค่ะจะมีอัตราค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าใน เวลาปกติ นอกจากนี้บางมหาวิทยาลัยจะไม่ได้รับเงินสนุบสนุนในส่วนของภาคพิเศษจากภาครัฐ และจะจัดอยู่ในประเภทโครงการพิเศษ ซึ่งจะเป็นโครงการที่ต้องดูแลตัวเอง ค่าใช้จ่ายในการศึกษาจึงสูงกว่าปกติค่ะ แต่รับรองได้เลยว่าหลักสูตรหรือวิชาเรียนไม่ต่างจากภาคปกติแน่นอนค่ะ
Question : จะมีอารมณ์ว่าโดนเหยียดจากภาคปกติหรือไม่?
Answer : โอ๊ย!!!! ใครบอกมาว่าภาคพิเศษจะโดนเหยียดจากภาคปกติ บอกเลยว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้นะคะ การที่เรียนภาคพิเศษไม่ได้หมายความว่าเราจะฉลาดน้อยกว่าภาคปกติหรือเป็นภาค ที่เด็กมีปัญหา แต่ภาคพิเศษก็เหมือนกับการเปิดห้องพิเศษขึ้นมารองรับปริมาณนิสิต/นักศึกษา ที่เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเรียนของทั้ง 2 ภาคไม่มีวัฒนธรรมที่จะเหยียดกันนะคะ มีแต่ได้เพื่อนต่างห้องเพิ่มขึ้นซะอีก ดีจะตาย ต่างคนต่างมีความฝันร่วมกันที่จะเรียนในสาขานั้น ๆ เพราะฉะนั้นรับรองเลยว่าไม่มีการเหยียดค่ะ เว้นแต่ว่าจะทำตัวดูถูกคนอื่น ขี้อิจฉา >< ปากเสีย อันนี้รับรองเลยว่านอกจากจะโดนเหยียดแล้วยังถูกแบนออกจากสังคมแน่ ๆ
Question : ภาคพิเศษเข้าเรียนได้ง่ายกว่าภาคปกติ จริงหรือ?
Answer : อย่าง ที่พี่แป้งบอกไปข้างต้นว่า ภาคพิเศษเปรียบเหมือนการเปิดห้องเพิ่มเพื่อให้คนที่ชอบในสาขานั้น ๆ ได้มีโอกาสในการเรียนเพิ่มมากขึ้น การคัดเลือกจะมีการยืดหยุ่นกว่าภาคปกติแต่ว่าไม่ต่ำกว่ามาตราฐานแน่นอนค่ะ เช่น ภาคปกติรับที่ GPAX 2.75 และรับเฉพาะ ม.6 เท่านั้น ภาคพิเศษก็จะรับที่ GPAX 2.75 เหมือนกัน แต่อาจจะรับทั้ง ม.6 เด็กซิ่ว และ ปวช. แต่จะไม่ใช่ประเภทมีเงินก็เรียนได้แน่นอนค่ะ เพราะว่าคนที่จะเข้าเรียนในสาขานั้น ๆ ทางคณะกรรมการคัดเลือกจะต้องเห็นว่ามีพื้นฐานความสามารถที่จะสามารถเรียนใน สาขานั้น ๆ จนจบ ถ้ารับมั่วซั่วแล้วเรียนไม่ไหวก็จะเสียค่าใช้จ่ายและเครดิต(ชื่อเสียง) ของสาขานั้น ๆ ด้วยค่ะ
Question : ต้องมีเรียนรวมกับภาคปกติหรือไม่?
Answer : แต่ ละสาขาและมหาวิทยาลัยจะมีการจัดการเรียนการสอนไม่เหมือนกันค่ะ บางที่จะจัดห้องแยกเลย แต่บางที่จะมีบางวิชาที่เรียนรวมกันค่ะ อาทิเช่นวิชาพื้นฐานตอนปี 1 ที่สามารถเรียนรวมกันได้ เรียนแต่ทฤษฎี จะมีการสอนห้องใหญ่ประมาณ 300 คนขึ้นไป แต่ถ้าเป็นวิชาเฉพาะแล้วส่วนใหญ่จะไม่เรียนรวมกันค่ะ เพราะว่าจะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพลดลงได้ อาจารย์จะดูนิสิต/นักศึกษาไม่ทั่วถึง และบางสาขาอาจมีเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์มาเกี่ยวข้อง การที่มีจำนวนนักศึกษามาก ๆ แล้วเครื่องมือไม่พอแน่ ๆ จึงแยกกันเรียนค่ะ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนด้วยกันแต่ว่าการทำกิจกรรมต้องเข้าร่วม ด้วยกันแน่นอนค่ะ
Question : กิจกรรมต่าง ๆ ต้องเป็นเฉพาะของเด็กภาคพิเศษใช่หรือไม่ สามารถเข้าร่วมกับเพื่อนภาคปกติได้หรือไม่?
Answer : ใน ส่วนของกิจกรรมนั้นจะมีส่วนที่แยกและส่วนที่รวมกันค่ะ อธิบายง่าย ๆ ว่าภาคพิเศษเปรียบเสมือนห้องเรียนที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นมาแต่อยู่ในโรงเรียนเดิม เพราะฉะนั้นก็จะมีกิจกรรมที่เป็นเฉพาะห้องนั้น ๆ และเป็นกิจกรรมรวมของโรงเรียนประมาณนี้ พูดง่าย ๆ ว่ากิจกรรมส่วนของคณะและมหาวิทยาลัยจะต้องทำร่วมกันแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าวัน ๆ จะเจอแต่เพื่อนกลุ่มเดิม บอกเลยว่าเมื่อเข้าไปเรียนแล้วจะไม่ค่อยแยกเด็กภาคปกติกับเด็กภาคพิเศษ แต่เหมือนจะแยกว่าเป็นเด็กห้อง 1 ห้อง 2 มากกว่า มีความรู้เหมือนกัน ได้เรียนเหมือนกัน ได้ทำกิจกรรมเหมือนกัน และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันค่ะ
Question : วันรับปริญญาจะต้องแยกมาเป็นภาคพิเศษด้วยหรือไม่?
Answer : ไม่ แยกค่ะ การรับปริญญานั้นจะเรียงตามชื่อของว่าที่บัณฑิตนะคะ บางมหาวิทยาลัยจะแยกสาขาแต่บางมหาวิทยาลัยก็ไม่แยกค่ะ รวมทีเดียวทั้งคณะเลย ถ้าน้อง ๆ อยากรู้ว่าตอนรับปริญญาเพื่อนซ้ายขวาของเราจะเป็นใคร อย่างเเรกไปถามรุ่นพี่ก่อนค่ะว่ามหาวิทยาลัยนั้นแยกสาขาหรือไม่ อย่างที่ 2 คือตามหาเพื่อที่มีชื่ออักษรเดียวกับเรา เริ่มที่อักษร ก.ไก่ ส่วนใครชื่อ อ.อ่าง หรือ ฮ.นกฮูกก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนนะคะ ตอนสมัครงานรับที่ความสามารถไม่ใช่ชื่อเหมือนรับปริญญานะคะ อย่าซีเรียส
Question : จบภาคพิเศษจะมีงานทำหรือไม่?
Answer : การ ที่มีงานทำนั้นไม่เกี่ยวว่าจะเรียนภาคปกติหรือภาคพิเศษ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ถ้าคนนึงเรียนภาคปกติแต่จบมาด้วยเกรดเกือบไม่รอด กิจกรรมก็ไม่ทำ ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีระเบียบวินัย ไม่มีความสามารถ แบอีกคนเรียนภาคพิเศษเกรดสวยงาม ทำกิจกรรมเป็น รู้จักการวางแผน มีความรับผิดชอบ แบบนี้ถ้าเป็นฝ่ายบุคคลก็ต้องรับคนที่เรียนภาคพิเศษอยู่แล้ว และอีกอย่างในใบปริญญาบัตรจะไม่ได้บอกนะคะว่าภาคปกติหรือภาคพิเศษ ทุกคนจะได้รับใบปริญญาบัตรหน้าตาเหมือนกัน ต่างกันที่ชื่อกับคนที่ได้เกียรตินิยมแค่นั้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นเรียนให้เต็มที่ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยให้เต็มที่เพื่อเป็นบุคลากรที่ดี รับรองว่าที่ไหน ๆ ก็พร้อมที่จะรีบเข้าทำงานค่ะ
เคลียร์กันไปครบทั้ง 10 คำถามแล้วนะคะเกี่ยวกับภาคปกติและภาคพิเศษ บอกแล้วว่ามีการเรียนการสอนเหมือนกันแน่นอน ใครที่กลัวว่าเรียนภาคพิเศษแล้วจะได้ความรู้หรือระสการณ์น้อยกว่าเก็บความ คิดนั้นไปเลยค่ะ ถึงแม้จะมีการเรียนการสอนเหมือนกัน แต่ใครจะโกยความรู้และประสบการณ์กลับไปมากน้อยขึ้นอยู่กับตัวเองเลย ตั้งใจมากก็ได้มาก ตั้งใจน้อยก็ได้น้อย บทความหน้าของเทศกาลแนะกันให้ติดชัวร์จะเป็นบทความอะไรนั้น รอดูได้เลยค่ะ พรุ่งนี้ มาแน่!!!
18 ความคิดเห็น
ขอค้านข้อที่ 5 มีแน่นอน ไม่ต้องห่วงหรอก
พี่ครับและถ้าเป็นภาคพิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถสอบใบ กว.ได้ตามปกติเหมือนภาคปกติไหมครับๆๆ
เราเป็นคนนึงค่ะ ที่เรียนภาคพิเศษ ที่ SSRU อาจารย์ที่นั่นสอนดีมากค่ะ ให้ความรู้เท่าภาคปกติทุกอย่าง เราเรียนเวลา 17.00 - 20.00 น. ค่ะ ช่วงกลางวันทำงานบริษัทแห่งหนึ่งได้เงินเดือนหมื่นต้นๆ ด้วยวุฒิปวช. ที่เราจบมาค่ะ ตอนนี้ทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ ที่สำคัญภาคพิเศษเรียนจบในระยะเวลาเท่าภาคปกตินะคะไม่ต้องกังวลค่ะ ขยันมากๆ เป็นพอ ตอนนี้รู้สึกดีใจและคิดไม่ผิดเลยค่ะ ที่เลือกเรียนภาคพิเศษ ปีหน้าก็ขึ้นปี 4 แล้วค่ะ
แล้วโครงการสมทบพิเศษ ของ มจพ. เหมือนกันกับ ภาคพิเศษหรือป่าวครับ