“วัยรุ่นเงินล้าน มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ”
“ยังเรียนอยู่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้ยังไง”
“ทุนไม่หนา เป็นเจ้าของธุรกิจไม่ได้หรอก”
ถ้ายึดติดกับกรอบเดิมๆ แล้วสามารถก้าวสู่ความสำเร็จแซงหน้าคนอื่นได้ เราคงจะเห็นนักธุรกิจเงินล้านเดินกันเต็มท้องถนน แต่เมื่อในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ทางเลือกก็อยู่ในมือน้องๆ เองแล้วล่ะ
ทุกเป้าหมาย ย่อมเริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอ ตั้งแต่มัธยมปลาย เราเริ่มมีโอกาสเลือกเรียนในสิ่งที่ถนัด และเมื่อก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย ก็ถึงเวลาที่เรา จะเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่จะช่วยสร้างพื้นฐานสู่อาชีพในอนาคตของเราได้ ระยะเวลา 4 ปี มีความสำคัญมาก หากหลงผิดทาง ก็เหมือนเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
หากเป้าหมายของน้องๆ คือการเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการรู้จักคิดแบบสร้างสรรค์ (Creativity) และคิดแบบเจ้าของ (Entrepreneurship) ทำไมสองสิ่งนีจึงสำคัญ?
• คิดแบบสร้างสรรค์ (Creativity) คือพื้นฐานที่ทำให้เรามองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น รู้จักริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่าง เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเอง รู้จักแก้ปัญหาในทางบวก และนำเสนอความคิดในรูปแบบที่น่าสนใจ
• คิดแบบเจ้าของ (Entrepreneurship) โดยปกติ เมื่อเรารู้สึกมีความเป็นเจ้าของในสิ่งใด เราจะดูแลเอาใจใส่สิ่งนั้น อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ เราย่อมมุ่งมั่น ตั้งใจในการทำให้ธุรกิจของเราก้าวหน้า และ “การคิดแบบเจ้าของ” ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น มันคือการคิดอย่างมีวิสัยทัศน์ มีการวางแผนที่รอบคอบ และบริหารกิจการทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ
ข่าวร้ายคือ สองสิ่งนีไม่ได้มีอยู่ในตำราที่แค่ตั้งใจอ่านก็ทำได้เลย แต่เป็นกระบวนการทางความคิดที่เกิดจากความเข้าใจ การฝึกฝน และทดลองทำ และข่าวดีคือ ตอนนี้ หลักสูตรดีๆ แบบนี้มีให้น้องๆ เลือกแล้วที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ!
ที่ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (BUSEM) นับเป็นหลักสูตรที่แหวกแนวจากคณะบริหารธุรกิจทั่วไปที่มีอยู่ในทุกสถาบัน เพราะที่นี่มุ่งเน้นการสร้างเจ้าของธุรกิจที่มีคุณภาพ ให้ความสำคัญกับ “วิธีคิด” มากกว่าความรู้ในตำราเพราะถ้านักศึกษา “รู้จักคิด” แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรู้ใดๆ ก็จะสามารถนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ พูดได้เลยว่า นี่คือหนึ่งในหลักสูตรปริญญาตรีที่ดีที่สุดในประเทศไทย พูดลอยๆ ใครก็พูดได้ แต่เรามาพร้อมตัวอย่างจริง! กับ 3 รุ่นพี่ที่นำเอาการคิดแบบสร้างสรรค์ คิดแบบเจ้าของ มาทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จตั้งแต่ในวัยเรียน
ทั้ง พี่อิ่มแปร้ เจ้าของธุรกิจรับจัดอีเว้นท์เจ๋งๆ อย่าง Pool Party DJ
ทั้ง พี่อิ่มแปร้ เจ้าของธุรกิจรับจัดอีเว้นท์เจ๋งๆ อย่าง Pool Party DJ
พี่บ๊วย ทายาทกิจการ B52 ที่พัฒนารีสอร์ทของครอบครัวให้เป็น Ecosystem แหวกแนวฟูลมูนปาร์ตี้บนเกาะพงัน
และพี่เฟลม เจ้าของธุรกิจกาแฟขี้ชะมด Blue Gold Coffee ที่ปลดหนี้ให้ครอบครัวกว่า 50 ล้านได้สำเร็จ
เพราะทางเลือกอยู่ในมือของน้องๆ เอง เลือกเรียนในสิ่งที่ใช่ อย่ามัวแต่ตามเพื่อน ตามกระแส หรือยึดติดกับกรอบเดิมๆ รับรองว่าอนาคตเจ้าของธุรกิจเงินล้าน อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
2 ความคิดเห็น
เอาจริงๆ เราเป็นคนหลายใจนะ อยากเรียนนั้นอยากเรียนนี้ คือ เส้นทางมันอีกยาวไกลอ่ะ เพราะตอนนี้อยู่แค่ม.ต้น กำลังจะเข้าม.ปลาย แต่ส่วนตัวเป็นคนชอบเงินไง เคยคิดว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสักอย่างที่ตัวเองชอบอ่ะ แต่ก็คิดอีกว่า เฮ้ย! ไม่มีเงินจะทำได้ไงว่ะ!? แต่มาดูแล้วรู้เลย ไม่จำเป็นต้องมีเงินเสมอไป จับกันเป็นกลุ่มก็ได้ ช่วยๆ กันไป ความฝันมันก็ไม่ไกลเกินเอือม คติประจำใจที่ไม่เคยเปลี่ยนและไม่เคยลืมคือ เป้าหมายจะอยู่สูงซะแค่ไหน แค่ทำมันออกมาให้ดีที่สุด เรียนรู้จากความล้มเหลว และพัฒนาไปทีละนิด มันก็จะถึงฝั่งฝันในสักวัน อย่ายอมแพ้ และแน่นอนให้คิดในแง่บวกเข้าไว้