How to ขอวีซ่าไปเรียนต่อที่อังกฤษ(สหราชอาณาจักร)

  
     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com คงมีน้องๆ หลายคนที่กำลังจะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ทั้งที่ไปเรียนและไปเที่ยว แต่ไม่ว่าน้องจะไปด้วยเหตุผลอะไร คนไทยอย่างเราๆ ก็ต้องขอวีซ่าซะก่อน แต่เอ๊ะ!!! การขอวีซ่านี่มันต้องใช้เอกสารอะไร และทำยังไงบ้างนะ วันนี้พี่จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ให้ฟัง การขอวีซ่าอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมเอกสารให้ครบตามเงื่อนไขการสมัคร มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ


 
      ขั้นตอนแรกของการขอวีซ่า คือ เข้าไปที่เว็บไซต์ www.visa4uk.fco.gov.uk เพื่อกรอกข้อมูล ตอบคำถามของการขอวีซ่า (ใช้ข้อมูลจากหนังสือเดินทางที่อยู่ในสหราชอาณาจักร รายละเอียดการเดินทาง อีเมล และข้อมูลสำคัญอื่นๆ) ขั้นตอนต่อไป คือการติดต่อนัดหมายเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์รับคำขอวีซ่าทางเว็บไซต์เพื่อยื่นแบบคำขอ และเพื่อการยื่นโดยระบบไบโอเมตริก (Biometric) ได้ที่ www.vfs-uk-th.com/Appointmant/AppScheduling/AppWelcomethai.aspx ถ้าใครจะไปอยู่เกิน 6 เดือน (นักเรียนที่ไปเรียนปริญญาตรีหรือโททุกคนต้องเกินอยู่แล้ว อันนี้นับเป็นระยะยาวนะคะ ส่วนใครที่วางแผนจะกลับไทยเป็นระยะๆ ไม่เกี่ยวค่ะ) ต้องใช้เอกสารการตรวจวัณโรค IOM ซึ่งต้องไปนัดตรวจและยื่นเอกสารรับรองยืนยันว่าไม่ได้เป็นวัณโรคค่ะ



thaiembassy.com
  
      มาดูเอกสารหลักฐานการขอวีซ่า เอกสารต่างๆ จะเยอะนิดนึง พี่เลยจะขอแยกเป็นเอกสารหลักและเอกสารประกอบ มาเริ่มกันที่เอกสารหลักกันก่อนเลย

1. หนังสือนัดหมายเพื่อการเข้าพบ (ขอแนะนำให้นัดไปก่อนนะคะ ถ้าใครเดินไปแบบดุ่มๆ ไม่ได้นัดไว้เนี่ย ต้องรอคิวนานมากกกกกก เสียเวลาสุดๆ) 
2. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
3. สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก (รวมหน้าต่ออายุ และหน้าที่มีการแก้ไขชื่อ-นามสกุล กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง)
4. หนังสือเดินทางเล่มเก่า (ถ้ามี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องค่ะ)
5. ใบคำขอวีซ่าที่กรอกผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างครบถ้วน (สำหรับวีซ่านักเรียนใช้  VAF9 สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวใช้ VAF1A)
6. เอกสารประกอบการสมัครแยกตามประเภทของวีซ่า สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้จากในเว็บไซต์แล้วกรอกเองค่ะ อย่างเช่น วีซ่านักเรียนทั่วไปใช้ APPENDIX 8: TIER 4 (GENERAL) STUDENT 
7. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ (ต้องเป็นรูปที่มีฉากหลังสีขาว และถ่ายมาไม่นานเกิน 6 เดือน)
8. ค่าธรรมเนียมวีซ่า จ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือ แคชเชียร์เช็ก (Banker’s Draft) สกุลเงินบาท สั่งจ่าย “British Embassy Bangkok” โดยแคชเชียร์เช็กจาก 25 สาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาตามที่ระบุ จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียม (ในกรุงเทพ มีสาขาเพลินจิต สาขาดาวคะนอง สาขาย่อย ปตท. สุขุมวิท 62 สาขาย่อยเจเจมอลล์ และ สาขาแจ้งวัฒนะ 14) 

      ต่อไป มาดูเอกสารประกอบต่างๆ กันค่ะ

1. เอกสารส่วนตัว เช่น สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
2. หลักฐานการทำงาน เช่น หนังสือรับรองการทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน หนังสือจดทะเบียนเจ้าของกิจการ หนังสือรับรองจากสถานศึกษา
3. เอกสารตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย หรือ สถาบันที่น้องกำลังจะเข้าศึกษาเพื่อใช้ในการยื่นวีซ่า (Visa Letter) ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุข้อมูลนักเรียน ข้อมูลสถาบัน หลักสูตร วันที่เริ่มเรียนและวันที่สิ้นสุดคอร์สนั้นๆ ค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และอื่นๆ
4. หลักฐานการเงิน ได้แก่ หนังสือรับรองทางการเงิน สมุดบัญชีธนาคาร Statement จดหมายสปอนเซอร์สำหรับการขอวีซ่าบางประเภท
5. หลักฐานอื่นๆ เช่น หลักฐานจาก IOM ในกรณีที่อยู่เกิน 6 เดือนขึ้นไป จดหมายจากทางมหาวิทยาลัยที่ตอบรับการเข้าศึกษา จดหมายเชิญ เอกสารการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆ 



     สำหรับบุคคลที่อายุ 11 ปีขึ้นไป และจะไปอยู่อังกฤษนานเกินกว่า 6 เดือน ต้องได้รับการตรวจเชื้อวัณโรค โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration – IOM)  ต้องโทรไปนัดก่อน ซึ่งใช้เอกสารดังนี้ 
- หนังสือเดินทางตัวจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด 
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด (สำหรับเด็กอายุระหว่าง 11-15 ปี ต้องแนบใบสูติบัตรตัวจริงพร้อมสำเนาด้วย)
- รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 ใบ 
- ใบรับรองการตั้งครรภ์ หรือ สมุดฝากครรภ์ สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ 
- และสุดท้าย ค่าธรรมเนียมคนละ 2,600 บาท ชำระเป็นเงินสดที่สำนักงาน IOM 

      เมื่อลงทะเบียนก่อนการนัดตรวจ และรวบรวมเอกสารครบแล้ว น้องๆ ก็สามารถโทรศัพท์ไปติดต่อเวลานัดหมายได้ที่ 02 234 7950-5 ระหว่างเวลา 9.00-12.00 และ 13.00-15.00  กรณีที่ไปตรวจตอนเช้าและนำผลมาส่งที่สำนักงานก่อนเวลา 15.00 ถ้าผลการเอกซเรย์ปอดไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร ใบรับรอง IOM จะถูกออกให้ในวันเดียวกับวันที่ตรวจ แต่ถ้าหากตรวจพบสิ่่งผิดปกติ จะต้องรับการเข้าตรวจเพิ่มเติมอีก 3-4 วัน มากไปกว่านั้น ในกรณีที่เข้าข่ายการเป็นวัณโรคจะต้องได้รับการตรวจเพาะเชื้อเสมหะ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเอกสารรับรองที่ได้จาก IOM นี้ ต้องเอาติดตัวขึ้นเครื่องด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตอนเข้าอังกฤษ อาจจะขอเรียกดูค่ะ



      สำหรับหลักฐานทางการเงิน วีซ่านักเรียนกฎใหม่ น้องๆ ต้องเป็นสปอนเซอร์ให้ตัวเอง โดยต้องมีเงินขั้นต่ำเท่ากับค่าเล่าเรียน รวมถึงค่ากินอยู่  ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ในชื่อผู้ขอวีซ่าไม่ต่ำกว่า 28 วัน ก่อนทำการยื่นขอวีซ่า โดยจำนวนเงินมีรายละเอียดดังนี้ 
- คอร์สเรียนน้อยกว่า 9 เดือน ในลอนดอน จำนวนเงินขั้นต่ำค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ 800 ปอนด์ (ประมาณ 37,000 บาท) ต่อเดือน 
- คอร์สเรียนน้อยกว่า 9 เดือน นอกลอนดอน จำนวนเงินขั้นต่ำค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ 600 ปอนด์ (ประมาณ 28,000 บาท) ต่อเดือน 
- คอร์สเรียนมากกว่า 9 เดือน ในลอนดอน จำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับค่าเล่าเรียนปีแรกและค่ากินอยู่ 7,200 ปอนด์ (ประมาณ 332,000 บาท) 
- คอร์สเรียนมากกว่า 9 เดือน นอกลอนดอน จำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับค่าเล่าเรียนปีแรกและค่ากินอยู่ 5,400 ปอนด์ (ประมาณ 249,000 บาท) 



pixabay.com

      ต่อมาเป็นระบบ Points-Based System คือระบบสำหรับการยื่นขอวีซ่า โดยน้องๆ ต้องมีคะแนนสะสมให้ได้เท่ากับ 40 Points ดังนี้ 

-30 Points สำหรับหลักฐาน Visa Letter ที่อนุมัติจากสถาบันที่จดทะเบียนในระบบ Tier 4 
- และอีก 10 Points สำหรับหลักฐานที่พิสูจน์ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ตามที่กำหนด 

       โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ukba.homeoffice.gov.uk

    
     ใครจะสมัครวีซ่า ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง ไม่สามารถฝากคนอื่นไปได้นะคะ เพราะปัจจุบันมีการบันทึกข้อมูลโดยการสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปแบบดิจิทัลด้วย และการขอวีซ่านักเรียนและวีซ่าแบบกลุ่มคณะ 5 คนขึ้นไป ต้องกรอกคำขอผ่านทางเว็บไซต์เท่านั้น แล้วนัดวันยื่นเอกสาร พร้อมสแกนลายนิ้วมือกับถ่ายรูป โดยใช้เวลายื่นเรื่องประมาณ 2-5 วันทำการ น้องๆ สามารถเช็กสภาพใบสมัครทางเว็บไซต์ได้เลย

ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าอังกฤษตั้งอยู่ที่ 
สถานที่: 183 อาคารรีเจ้นท์เฮ้าส์ ชั้น 2 (ติดกับ AUA) ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 
โทรศัพท์: 02 800 8050
วันทำการ: วันจันทร์-วันศุกร์
เวลาในการยื่นคำขอวีซ่า: 08.30 – 15.00
เวลาในการรับหนังสือเดินทาง: 15.00 – 16.30

  
  
      เป็นยังไงบ้างเอ่ย กับวิธีการขอวีซ่า ไม่ได้ยากมากอะไรใช่มั้ยคะ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการขอวีซ่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ อย่างเช่น ค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจจะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี น้องๆ สามารถเข้าไปอัปเดตข้อมูลต่างๆ ได้ที่ www.vfs-uk-th.com/thai และ www.ukvisas.gov.uk/en สุดท้ายนี้พี่ขอให้น้องๆ ขอวีซ่าได้อย่างราบรื่นทุกคนนะคะ
     
ทีมเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด