ตำนานหลอน "บ้านพิษณุโลก" บ้านประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย ที่อยู่ได้ไม่เกิน 2 คืน


          สวัสดีครับ เชื่อว่าหลายคนๆ ต้องคุ้นหูชื่อของ "บ้านพิษณุโลก" บ้านที่หลายคน หรือนักข่าวสายการเมืองหลายๆ รุ่นเล่าสืบต่อกันว่า เป็นบ้านประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนกล้าเข้ามาอยู่ หลายคนมองว่า อาจเป็นเพราะบ้านหลังนี้ไม่สะดวกสบายเท่าบ้านจริงของท่าน แต่ก็มีหลายคนมองว่า เพราะที่นี่ "เจ้าที่แรง" รวมไปถึงมักจะมีเสียงแปลกๆ ที่มาจากรูปปั้นต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน เราไปย้อนรอยบ้านหลังนี้กันเลยครับ

          บ้านพิษณุโลกที่ว่านี้ ตั้งอยู่ในกรุงเทพครับ (ที่เรียกว่าบ้านพิษณุโลก เพราะตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก) บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ออกแบบและสร้างโดย มาริโอ ตามานโญ สถาปนิกประจำราชสำนักสยามชาวอิตาลี มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน แต่เดิมชื่อว่า "บ้านบรรทมสินธุ์"

 

บ้านบรรทมสินธุ์ ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2489 ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย


ภาพ "บ้านบรรทมสินธุ์" หรือ "บ้านพิษณุโลก" ในปัจจุบัน
โดยชื่อบ้านบรรทมสินธุ์นั้นมาจากปฎิมากรรม "นารายณ์บรรทมสินธุ์" ที่ปรากฏในรูป
ส่วนชื่อใหม่ว่า "บ้านพิษณุโลก" เรียกตามที่ตั้งซึ่งอยู่บนถนนพิษณุโลก



(ภาพซ้าย) พลตรีพระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) ผู้เป็นเจ้าของบ้านเดิม
(ภาพกลาง) บ้านบรรทมสินธุ์ ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2489
(ภาพขวา) ป้ายบ้านพิษณุโลก บริเวณประตูทางเข้า

           บ้านหลังนี้มาประวัติความเป็นมายาวนาน โดยจุดกำเนิดเกิดขึ้นครั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้สร้างบ้านพักอาศัยเพื่อพระราชทานให้กับมหาดเล็กส่วนพระองค์ 4 ท่าน คือ....

- บ้านบรรทมสินธุ์ พระราชทานแก่ พลตรีพระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)
- บ้านนรสิงห์ พระราชทานแก่ พลเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)
- บ้านมนังคศิลา พระราชทานแก่ มหาเสวกเอก พระยาอุดมราชภักดี (โถ สุจริตกุล)
- บ้านพิบูลธรรม พระราชทานแก่ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล)

           ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นตรงกับรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ทำการซื้อบ้านหลังนี้จากเจ้าของเดิมเพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นซื้อไปเป็นสถานทูต เนื่องจากบ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับกองพันทหารราบที่ 3 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ โดยหลังจากซื้อแล้วรัฐบาลสมัยนั้นได้ใช้บ้านนรสิงห์ เป็นทำเนียบรัฐบาล (ภายใต้ชื่อ "ทำเนียบสามัคคีชัย") สำหรับบ้านบรรทมสินธุ์นั้น ในช่วงแรก ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านไทยพันธมิตร" ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น "บ้านพิษณุโลก" เนื่องจากบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก ข้างโรงพยาบาลมิชชั่น ได้ใช้เป็นที่ต้อนรับแขกเมืองสำคัญของรัฐบาลมาจนปัจจุบัน

- บ้านบรรทมสินธุ์ ปัจจุบันคือ บ้านพิษณุโลก
- บ้านนรสิงห์ ปัจจุบันคือ ทำเนียบรัฐบาล
- บ้านมนังคศิลา ปัจจุบันคือ ที่ตั้งสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
- บ้านพิบูลธรรม ปัจจุบันคือ กระทรวงพลังงาน

 

หากดูจากแผนที่ทางอากาศ บ้านทั้ง 4 หลังนี้จะถูกปลูกไว้อยู่ใกล้ๆ กัน
โดยเฉพาะบ้านบรรทมสินธุ์ และบ้านนรสิงห์ สถาปัตยกรรมจะคล้ายกันมาก

            สำหรับบ้านพิษณุโลกนั้น ภายหลังรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม รัฐบาลยุคต่อมาได้ปรับปรุงบ้านพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มปรับปรุงทั้งหมด 2 ปี มาแล้วเสร็จในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในปี พ.ศ. 2524 พลเอกเปรม ได้ย้ายเข้าไปพัก แต่ก็อยู่ได้เพียง 2 วัน จึงย้ายออกไปพักที่บ้านพักเดิมคือ "บ้านสี่เสาเทเวศร์"

            บ้านพิษณุโลกแห่งนี้ มีกิตติศัพท์ร่ำลือกันว่าผีดุจนเป็นเหตุให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พักได้เพียง 2 วันเท่านั้นก็ย้ายออกไป แต่เมื่อสื่อมวลชนไปสัมภาษณ์ พล.อ.เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา ซึ่งเป็นทายาทของพระยาอนิรุทธเทวา ซึ่งเคยพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เมื่อสมัยเด็กก็ได้รับการยืนยันว่า "ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องผีดุแต่อย่างใดทั้งๆ ที่ตนอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กจนหนุ่ม" จนกระทั่งรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซื้อบ้านหลังนี้ไปแต่กิตติศัพท์เรื่องผีดุนี้ก็ได้รับการตอกย้ำ จนไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดย้ายเข้าไปพักอย่างเป็นทางการ แม้แต่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ยังได้ใช้บ้านหลังนี้เป็นเพียงที่รับแขกเท่านั้น

             มีเพียงแต่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่พำนักอยู่ในบ้านหลังนี้ได้นานที่สุดคือ นายชวน หลีกภัย เนื่องจากบ้านพักในซอยหมอเหล็งของนายชวนนั้นค่อนข้างเล็กและคับแคบ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงได้ย้ายเข้ามาพำนักในบ้านพิษณุโลก อย่างเป็นทางการทั้งสองสมัย โดยนายชวน หลีกภัยได้ใช้โซฟาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน และไม่ได้มีการใช้เตียงนอนภายในห้องนอนของบ้านแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นให้เกียรติเจ้าของบ้าน จึงเป็นที่พูดถึงความอาถรรพ์ของบ้านหลังนี้ และหลังจาก นายชวน หลีกภัย แล้ว ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดใช้บ้านหลังนี้เป็นที่อาศัยอีกเลย จนถึงปัจจุบัน มีเพียงแต่ใช้เป็นที่ประชุมและรับแขกเท่านั้น

 

คุณยุวดี ธัญญสิริ ผู้สื่อข่าวอาวุโสการเมือง เล่าติดตลกว่า...
"เคยสัมภาษณ์ท่านชวน นายกที่อยู่ในบ้านหลังนี้นานที่สุด ท่านบอกไม่มีอะไร
เลยไปแอบถามคนสนิทท่าน ก็ได้ความมาว่า
ขนาดท่านไม่กลัว แต่ตอนเข้าไปอยู่ใหม่ๆ ต้องทำพิธีครบ 3 ศาสนาเลย"


หุ่นม้าทองแดง ตัวนี้ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ก่อตั้งบ้านหลังนี้
ซึ่งปัจจุบันถูกร่ำลือมากว่าตอนดึกๆ จะได้ยินเสียงม้าวิ่ง

            อีกเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมาคือช่วงที่ นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น คุณหญิงพจมาน ผู้เป็นภริยาก็ได้นำคนเข้ามาทำความสะอาดของครั้งใหญ่ที่บ้านพิษณุโลกแห่งนี้ ในระหว่างที่กำลังปัดกวาดเช็ดถู คนงานหญิงคนหนึ่งก็ล้มตัวลงนั่ง จากนั้นมองไปรอบๆ ก่อนพูดออกมาเป็นเสียงคล้ายคนแก่ "อะไรๆ ก็รกหูรกตาไปเสียหมด อะไรๆ ก็สกปรก ไม่ยอมทำความสะอาดกันเลย" จนมีการนำน้ำมนต์และสร้อยพระมาคล้อง เธอจึงกลับมาเป็นตัวเธออีกครั้ง

           อีกหนึ่งเรื่องที่ยังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มนักข่าวรุ่นเก่าแก่ ที่เกิดขึ้นในสมัยนายกบรรหาร ศิลปอาชา ในสมัยนั้นท่านไม่ได้เข้ามาพักในบ้านหลังนี้ แต่ก็ได้ใช้เป็นที่ประชุมเรื่อยๆ โดยครั้งหนึ่ง ท่านได้ใช้เป็นที่ประชุมเหล่าสมาชิกผู้ทรงเกียรติของพรรค แล้วในระหว่างที่กำลังประชุมอยู่นั้น นายพวงเล็ก บุญเชียง ส.ส.ของพรรคในขณะนั้น ได้ลุกขึ้นยืนก่อนจะกราดนิ้วชี้ไปยังใบหน้าของผู้ร่วมสมาชิกพรรคทั้งหลายว่า "พวกแกมาทำอะไรกันที่นี่!"

           ทั้งหมดนี้คือเรื่องอาถรรพณ์ที่เล่าลือต่อๆ กันมา แต่ไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นจริงหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องที่มักจะมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากรูปปั้นต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน เช่น ม้า รูปปั้นโรมัน ซึ่งคนงานที่เคยมาอาศัยต่างยืนยัน และมักจะได้ยินกันบ่อยๆ หลายคนตั้งข้อสงสัยไว้หลายอย่าง

            ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังนี้ต้นไม่เยอะ ประกอบกับมองจากด้านนอกดึก จะรู้สึกน่ากลัวเลยคิดกันไปเอง หรือการที่นายกหลายๆ ท่านไม่มาพักที่นี่เพราะอาจไม่สะดวกสบายเท่าบ้านเดิม หรืออีกประเด็นที่ว่าตามประวัติบ้านหลังนี้ เจ้าของจำใจต้องขายให้กับรัฐบาล จึงยังมีความผูกพันจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับ บ้านนรสิงห์ ที่ปัจจุบันคือ ทำเนียบรัฐบาล ที่ถูกขายพร้อมกันก็มีเรื่องราวชวนขนหัวลุกลักษณะนี้เช่นกัน

 
ดูคลิปข้อมูลและบรรยากาศภายในบ้านพิษณุโลก
และสัมภาษณ์ผู้คนที่เคยเข้าไปบ้านหลังนี้ จากรายการ "เบื้องหลังคน เบื้องหลังข่าว"




 
ขอขอบพระคุณข้อมูล และภาพประกอบทั้งหมดจาก
- รายการเบื้องหลังคน เบื้องหลังข่าว ตอนบ้านพิษณุโลก
- วิกิพีเดีย
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

พี่เมก้า Member 24 มี.ค. 60 18:10 น. 2

ไม่อยากจะบอก แต่ขอบอก? ตอนเลื่อนลงมาเจอภาพม้า นึกว่าม้าจริงค่ะ พออ่านคำบรรยายใต้ภาพนี่อยากร้องไห้เลย "หุ่นม้าทองแดง ตัวนี้ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ก่อตั้งบ้านหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันถูกร่ำลือมากว่าตอนดึกๆ จะได้ยินเสียงม้าวิ่ง" แง้ แม่จ๋าาาาา T T

0
กำลังโหลด
noo-na Member 2 ก.ค. 60 13:34 น. 7

"โดยนายชวน หลีกภัยได้ใช้โซฟาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน และไม่ได้มีการใช้เตียงนอนภายในห้องนอนของบ้านแต่อย่างใด"


อ่านแล้วก็น่าสงสารอยู่นะคะ นอนโซฟาทุกวันนี่คงจะไม่สบายซักเท่าไหร่

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
พี่เมก้า Member 24 มี.ค. 60 18:10 น. 2

ไม่อยากจะบอก แต่ขอบอก? ตอนเลื่อนลงมาเจอภาพม้า นึกว่าม้าจริงค่ะ พออ่านคำบรรยายใต้ภาพนี่อยากร้องไห้เลย "หุ่นม้าทองแดง ตัวนี้ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ก่อตั้งบ้านหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันถูกร่ำลือมากว่าตอนดึกๆ จะได้ยินเสียงม้าวิ่ง" แง้ แม่จ๋าาาาา T T

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
noo-na Member 2 ก.ค. 60 13:34 น. 7

"โดยนายชวน หลีกภัยได้ใช้โซฟาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน และไม่ได้มีการใช้เตียงนอนภายในห้องนอนของบ้านแต่อย่างใด"


อ่านแล้วก็น่าสงสารอยู่นะคะ นอนโซฟาทุกวันนี่คงจะไม่สบายซักเท่าไหร่

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด