แนะวิธีตอบ: "เห็นภาพตัวเองเป็นยังไงในอีก 5 ปี" ให้โดนใจคนสัมภาษณ์

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com การสอบสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะสัมภาษณ์ทุนใหญ่ๆ หรือสัมภาษณ์งานมักเป็นด่านหินของใครหลายๆ คน ไหนจะความตื่นเต้น การต้องคุยกับผู้ใหญ่ แล้วยังจะคำถามวัดแนวคิดต่างๆ อีก หนึ่งในคำถามที่ทำเอาหลายๆ คนตกม้าตายเลยก็คือ "คุณเห็นภาพตัวเองเป็นยังไงในอีก ...... ปี" ฉะนั้นวันนี้มาลองวิเคราะห์คำถามข้อนี้ และดูแนวทางการตอบกันค่ะ


  เห็นภาพตัวเองเป็นยังไงในอีก ....... ปี  
  Where do you see yourself in ...... years?  


วิเคราะห์คำถาม


     เชื่อว่าถ้าอยู่ๆ น้องๆ เห็นคำถามนี้ หลายคนคงจะลองคำนวณจำนวนปีดูแล้วว่าตัวเองน่าจะไปอยู่ตรงไหน สมมติว่าคำถามคือ 5 ปี ถ้าจะสมัครทุน ป.ตรี ก็อาจจะเห็นตัวเองเรียนปีสุดท้ายอยู่ เพราะทุนรัฐบาลจะให้ไปเริ่มเรียนปีหน้า ถ้าสมัครทุน ป.โท ก็อาจจะเห็นตัวเองกลับมาทำงานใช้ทุน หรือทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เรียน หรือถ้าสมัครงาน ก็คงจะเห็นภาพตัวเองขยับเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นจากตำแหน่งที่กำลังมาสมัครอยู่ใช่มั้ยคะ

     แต่จริงๆ แล้วผู้ถามคำถามนี้ไม่ได้ต้องการจะรู้ว่าในอีก 5 ปีหรือ 10 ปีข้างหน้า น้องจะไปทำอะไรอยู่ตรงไหน สิ่งที่คำถามนี้หมายความจริงๆ คืออยากรู้ว่าน้องสนใจจริงจังในทุนหรืองานที่กำลังสมัครอยู่มั้ย และถ้าเขาลงทุนกับน้องไปแล้ว เขาจะคุ้มหรือไม่


     ถ้าเป็นทุนรัฐบาลไทยที่ต้องกลับมาทำงานใช้ทุน แม้ตัวสัญญาจะบอกว่าให้มาทำงานเป็น 2 เท่าของระยะเวลาทุน แต่ถึงยังไงฝั่งรัฐก็คาดหวังว่าน้องจะกลับมาทำงานด้วยนานกว่านั้นอยู่ดีค่ะ หรือถ้าเป็นทุนต่างประเทศ แม้ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องทำงานใช้ทุน แต่ในข้อสัญญาก็มักระบุว่าจะต้องนำความรู้ความสามารถที่ไปร่ำเรียนมากลับมาพัฒนาประเทศตัวเองให้ดีขึ้น ฉะนั้นผู้ให้ทุนก็คาดหวังว่าจะเห็นน้องทำงานที่ช่วยพัฒนาประเทศจริงๆ ไปอีกนานเช่นกัน หรือถ้าครบแล้วจะไปเรียนต่ออีกใบ ก็ต้องวนกลับมาช่วยพัฒนาประเทศให้ได้อยู่ดี

     หรือถ้าสมัครงาน นายจ้างต้องลงทุนหลายอย่างไปกับการจ้างพนักงานใหม่ ไหนจะตัวเม็ดเงินที่จ่ายให้แบบชัดๆ อุปกรณ์ของออฟฟิศ ไหนจะเวลาที่พนักงานเก่าต้องใช้มาสอนงาน ซึ่งจะกระทบกับการทำงานของตัวพนักงานเก่าเองด้วยอีก ฉะนั้นออฟฟิศก็คาดหวังเช่นกันว่าจะได้พนักงานที่ทำงานยาวๆ ไม่ใช่มาแป๊บๆ แล้วออกไปเพราะเจองานในฝันจริงๆ ในอีก 5 เดือนต่อมา


ฉะนั้นให้ตอบว่า "เห็นตัวเองทำงานที่ ........." เหรอ?


     ก็ไม่เชิงค่ะ จริงๆ ไม่ได้ต้องการชื่อหน่วยงานหรือชื่อตำแหน่ง แต่สิ่งที่ต้องการคือตัวเนื้องาน ทักษะ และความรับผิดชอบมากกว่าค่ะ ลองมาเทียบการตอบของผู้สมัครงาน 2 คนนี้ในตำแหน่งพนักงานการตลาดของบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง

     คำถาม: คุณเห็นภาพตัวเองเป็นยังไงในอีก 5 ปีข้างหน้า?

     คนที่หนึ่ง: ฉันเห็นตัวเองในตำแหน่งหัวหน้าแผนกการตลาดของบริษัทนี้

     คนที่สอง: ฉันอยากจะเห็นตัวเองเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในการรับผิดชอบโครงการกับลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำงานที่บริษัทนี้จะต้องทำให้ฉันได้มีโอกาสทำในสิ่งนั้นแน่นอน

     แม้ทั้งคู่จะตอบว่าเห็นภาพตัวเองทำงานที่นี่อยู่ในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่คนที่สองพูดถึงรายละเอียดของเนื้องานที่อยากทำ และน่าจะสืบค้นมาแล้วด้วยว่าบริษัทแห่งนี้รับลูกค้าแนวไหนบ้าง แบบนี้ก็ดูน่ารับกว่าคนแรกใช่มั้ยล่ะคะ


     หรือถ้าคำถามเป็นเรื่อง 10 ปี และเราคิดว่าไม่น่าทำที่ไหนได้นานต่อเนื่อง 10 ปีแน่นอน เราก็ไม่จำเป็นต้องโกหกไปว่าอีก 10 ปีก็อยู่ที่นี่ก็ได้ค่ะ แต่ว่าต้องรู้จักพูด นำคำพูดในสไตล์ของคนที่สองมาปรับให้เหมาะกับตัวเอง และต่อยอดออกไปข้างนอกต่อให้ได้ก็ยังเป็นคำตอบที่ดีอยู่นะคะ เผลอๆ จะฟังดูดีกว่าคนที่ตอบว่าอีก 10 ปีก็ยังทำงานที่เดิม แต่ให้รายละเอียดถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้าไม่ได้ซะอีก

     สำหรับการขอทุน ถ้าเป็นทุนที่มี "เวลา" เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นต้องกลับมาทำงานใช้ทุนหน่วยงานเป็น 2 เท่า หรือกลับมาทำงานในประเทศตัวเองเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ก็อย่าลืมบวกเวลาเรียนและเวลาที่ต้องทำงานตามสัญญาไปด้วยนะคะ สมมติไปเรียนปริญญาโทที่อเมริกาเป็นเวลา 2 ปี กลับมาใช้ทุนที่เป็นข้อบังคับอีก 4 ปี ก็กลายเป็น 6 ละ ฉะนั้นถ้าคำถามถามว่าอีก 10 ปีจะอยู่ที่ไหน ก็อย่าลืมมองถึง 6 ปีแรกนี้ด้วยนะคะ


ถ้ายังไม่มีแผนการในอนาคตแน่ชัด จะตอบอย่างไร


     ไม่ใช่เรื่องผิดเลยค่ะถ้าเรายังไม่มีแผนการแน่ชัด หรือเรายังไม่เคยคิดภาพตัวเองชัดๆ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ขอแค่รู้จักพูดให้ฟังออกมาดูไม่หลักลอยจนเกินไป เช่น ถึงแม้จะยังไม่เห็นภาพตัวเองแบบชัดๆ ในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ก็คิดว่าการได้ทำงานที่นี่น่าจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกเส้นทางในอนาคตได้ เพราะตำแหน่งงานนี้จะทำให้ได้ฝึกทักษะทั้งด้านการสื่อสารและการจัดการ ซึ่งต่างก็เป็นทักษะที่ตัวน้องอยากพัฒนาให้ดียิ่งกว่าเดิมอยู่แล้วด้วย ตัวน้องก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้และฝึกฝน และน้องก็จะได้เห็นภาพความรับผิดชอบที่ชัดเจนมากขึ้นด้วยว่างานไหนต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นน่าจะช่วยให้เลือกเส้นทางเดินต่อได้อย่างมั่นใจ อะไรประมาณนี้ค่ะ


สรุปภาพรวมของสิ่งที่ควรตอบ


1. ตอบเป็นเป้าหมายที่น่าจะทำได้จริง

     สิ่งที่ต้องหาข้อมูลมาก่อนเลยคือเส้นทางอาชีพในสายงานนั้นๆ ค่ะ ลองดูว่าเวลา 5 ปีในสายอาชีพนั้นไปได้ถึงประมาณไหน คนส่วนใหญ่จะมองว่าตั้ง 5 ปีก็ควรได้เป็นผู้จัดการแผนกแล้วมั้ย แต่ลองคิดถึงหลักความเป็นจริง อาชีพส่วนมากต้องใช้เวลาเป็นสิบๆ ปีกว่าจะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ๆ 5 ปีนี่บางงานอาจไปได้ถึงแค่รองหัวหน้าทีมย่อยเท่านั้นเองนะคะ อีกเรื่องที่ต้องมองคือ บริษัทมีผู้จัดการและคนตำแหน่งสูงๆ มากมายหลายคนอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องผ่านอีกหลายขั้นเลยกว่าจะถึง ตอบเป็นตัวงานและความรับผิดชอบที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะดีกว่าพูดชื่อตำแหน่งไปเลยค่ะ

2. ความมุ่งมั่น

     อย่างที่บอกไว้ว่าถึงจะไม่มีภาพตัวเองชัดๆ ใน 5-10 ปี แต่ก็ต้องพอมีอะไรให้พูดได้บ้างค่ะ และสิ่งนั้นก็ควรแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในเส้นทางนั้นๆ ด้วย เช่น มุ่งมั่นว่าจะต้องเชี่ยวชาญด้านนั้นด้านนี้ได้แล้วภายในเวลานั้น นอกจากนี้จะตอบย่อยเป็นระยะ 2 ปีแรกกับ 3 ปีหลังจากคำถาม 5 ปีก็ได้นะคะ เช่นใน 2 ปีแรกควรจะรับผิดชอบอะไรถึงไหน แล้วพอปีที่ 3 จะเริ่มรับผิดชอบอะไรที่ท้าทายมากขึ้นบ้าง ให้เห็นว่ามีพัฒนาการมากขึ้นๆ ในแต่ละช่วง


3. การเติบโต

     อย่าตอบอะไรที่พูดไปซักพักแล้วรู้สึกว่ามันมาถึงทางตันของเส้นทางชีวิตค่ะ ไม่ว่าจะสัมภาษณ์ขอทุนเรียนต่อ หรือสัมภาษณ์งาน ยังไงภาพในอนาคตก็ต้องลากไปถึงชีวิตการทำงาน ฉะนั้นอย่าตอบอะไรที่มันไปต่อไม่ได้นะคะ ต้องมองก่อนว่าสายงานที่เลือกมีที่ให้เติบโตได้มั้ยและยังไง นอกจากนี้ก็ต้องระวังไม่ตอบให้ดูว่าเราเก่งมากเกินไปด้วย ไม่งั้นจะดูเหมือนไม่อยากเรียนรู้อะไรเพิ่ม แล้วก็จะตัน

4. ระยะเวลาที่จะอยู่

     อย่างที่บอกไปว่าการตอบว่าอีก 10 ปีก็จะยังอยู่ที่นี่ ไม่ได้ฟังดูน่าให้ทุนมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ เพราะถ้ามีอีกคนที่บอกว่าอยู่น้อยกว่า แต่ตอบได้เป็นฉากๆ เลยว่าแต่ละปีจะพัฒนาอะไรและจะรับผิดชอบหน้าที่เพิ่มยังไงในแต่ละปี คนที่อยู่น้อยกว่าก็น่าเลือกกว่าค่ะ (ถ้าเป็นสมัครทุนอย่าลืมนับปีที่ต้องไปเรียนเข้าไปด้วย)


     ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำคร่าวๆ ของการตอบคำถามข้อนี้นะคะ จริงๆ การตอบมีหลากหลายมากๆ แถมสไตล์การพูดและทัศนคติของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย ฉะนั้นอย่าลืมตอบให้ฟังดูเป็นตัวเองมากที่สุด ไม่เฟค ไม่พยายามเอาใจกรรมการจนเกินไป แต่ไม่ลืมรายละเอียดต่างๆ ที่ควรใส่ในคำตอบ เท่านี้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกแล้วค่ะ
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Smooth As Silk Member 9 เม.ย. 61 14:15 น. 2

ขออนุญาตเสริมนะคะ ที่เขาถามว่าเราเห็นภาพตัวเองยังไงในอีก 5 ปี ข้างหน้า คำถามนี้เขาถามเพื่อจะดูว่า เราจะทำงานที่เดิมนานไหมและ เราเองจะเปลีย่นงานไหมในอนาคต ซึ่งคำถามนี้เป้นคำถามง่ายๆแต่ก็ทำให้ผู้สมัครบางคนตกรอบมาเยอะแล้ว


คำตอบที่ควรตอบคือ เราควรบอกไปว่าเราจะทำงานกับบริษัทนี้ ในอีก5ปี คงจะได้เป็น Supervisor หรือไม่ก็ Manager



อย่าตอบว่า อีก 5 ปี คงไปอยู่ที่ใหม่ แบบนี้ ปัดตกรอบค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด