สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com ตั้งแต่เด็กจนโต เชื่อว่า น้องๆ หลายคน ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเรียนให้ทันเวลา และการต้องตื่นแต่เช้า คงหนีไม่พ้นอาการง่วงนอนที่มักเกิดขึ้นตอนบ่ายๆ
น้องๆ หลายคน อาจตั้งคำถามว่า เราต้องเข้าเรียนเช้าขนาดนี้เลยหรือไม่ และมีความเป็นไปได้ไหม ที่จะไปเข้าเรียนได้สายกว่านี้ (จะได้นอนได้มากกว่าเดิมหน่อย) วันนี้ พี่พริ้ม ได้ลองรวบรวมข้อเสนอของการปรับเวลาเข้าเรียนให้สายกว่าเดิม ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาเรื่องนี้กันมานาน และเชื่อว่าหากเด็กๆ ได้ไปเข้าเรียนสายขึ้น จะส่งผลดีต่อการเรียน และสุขภาพจะดีขึ้นด้วย
น้องๆ หลายคน อาจตั้งคำถามว่า เราต้องเข้าเรียนเช้าขนาดนี้เลยหรือไม่ และมีความเป็นไปได้ไหม ที่จะไปเข้าเรียนได้สายกว่านี้ (จะได้นอนได้มากกว่าเดิมหน่อย) วันนี้ พี่พริ้ม ได้ลองรวบรวมข้อเสนอของการปรับเวลาเข้าเรียนให้สายกว่าเดิม ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาเรื่องนี้กันมานาน และเชื่อว่าหากเด็กๆ ได้ไปเข้าเรียนสายขึ้น จะส่งผลดีต่อการเรียน และสุขภาพจะดีขึ้นด้วย
เปลี่ยนเวลาเรียนให้สายขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น?
ปลายปีที่แล้ว ที่สหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่ผลวิจัยชิ้นหนึ่งของ Dr.Paul Kelley และทีมงานจาก Open University ค่ะ มีการทดลองด้วยการเก็บข้อมูลของเด็กๆ อายุ 13-16 ปี เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี โดยปีแรกเด็กๆ กลุ่มนี้ เริ่มเข้าเรียนตอน 8.50 น. และขยับมาเข้าเรียนในเวลา 10.00 น. ตอนปีที่ 2 และ 3 พอเข้าสู่ปีที่ 4 จึงปรับกลับมาเป็นเวลาเดิมคือ 8.50 น. โดยพบว่า การปรับเวลาเริ่มเรียนเป็น 10.00 น. ช่วยลดอัตราการป่วยของเด็กนักเรียน และเด็กๆ มีผลการเรียนที่ดีขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ Dr.Paul Kelley และทีมงานเคยนำเสนอผลการวิจัยที่บอกว่า เด็กมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเด็กอายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป ควรเข้าเรียนเวลา 11.00 หรือเที่ยง เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนที่ดีขึ้น เพราะเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ ต้องการการพักผ่อนนอนหลับ ที่มากกว่าวัยผู้ใหญ่นั่นเอง
เด็กๆ ควรเข้าเรียนหลัง 8.30 น.
ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ยังนำเสนองานวิจัยจาก American Academy of Pediatrics หรือ สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา ที่แนะนำว่า เด็กๆ ทั้งหลายในช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย ควรเข้าเรียนหลัง 8.30 น. เพื่อให้ได้มีเวลานอนมากขึ้น แต่ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เด็กๆ ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ล้วนต้องเข้าเรียนก่อน 8.30 น. ทั้งนั้น (บางโรงเรียนให้เข้าเรียนประมาณ 7.00 หรือ 7.30 น. ค่ะ เช้ามากกกกกกก)
นอนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพและการเรียนที่ดีขึ้น
ส่วนบัณฑิตยสถานการแพทย์การนอนหลับอเมริกัน หรือ American Academy of Sleep Medicine ยังบอกอีกด้วยว่า เด็กๆ อายุระหว่าง 13-18 ปี ควรนอน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี ถ้าหากนอนไม่พอ ก็จะเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน, การเจ็บป่วยจากโรคซึมเศ้รา, มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาเสพติด ไปจนถึงการทำให้ผลการเรียนตกต่ำ ซึ่งการนอนอย่างเพียงพอ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการหลับใน และสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้มากขึ้นด้วย (เด็กมัธยมส่วนหนึ่งของสหรัฐฯขับรถไปเรียนนะจ๊ะ)
‘Start School Later’ ปรับเวลาเข้าเรียนใหม่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
การผลักดันเรื่องกานรปรับเวลาเข้าเรียนให้สายขึ้นเป็นเรื่องที่มีการเรียกร้องกันจริงจัง ถึงขนาดกับเกิดการรวมกลุ่มที่มีชื่อว่า "Start School Later" ขึ้นมา เพื่อเคลื่อนไหวเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยมีความพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา หากว่าเด็กๆ ยังต้องไปเข้าเรียนตั้งแต่เช้าตรู่
ซึ่งขณะนี้ เริ่มมีโรงเรียนหลายแห่ง ที่ปรับเวลาเข้าเรียนเป็น 8.30 น. และโรงเรียน Solebury ในรัฐเพนซิลเวเนีย ก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่หันมาใช้เวลาเริ่มเข้าเรียนใหม่เป็น 8.30 น. และ 9.00 น. ทุกวัพุธ ซึ่งผลตอบรับจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นไปในทางบวกมากๆ ทั้งผู้ปกครองและเด็กๆ ก็แฮปปี้สุดๆ โดย Rick Tony ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและครูคณิตศาสตร์ของโรงเรียน Solebury เล่าว่า เด็กๆ ตอบสนองกับการเรียนในแต่ละวันดีขึ้น และพวกเขาก็มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นในช่วงกลางคืนอีกด้วย
เข้าเรียนสาย ดีต่อใจ ดีต่อกาย ดีต่อเศรษฐกิจ
ไม่เพียงแค่ประโยชน์ทางด้านสุขภาพเท่านั้นนะคะ ใครจะไปเชื่อ ว่าการขยับเวลาเข้าเรียนให้สายขึ้น ยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เพราะสถาบัน RAND Corporation และ RAND Europe ได้เปิดเผยผลการวิจัยที่บอกว่า หากโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายทั่วทั้งสหรัฐฯ ปรับเวลาเข้าเรียนเป็น 8.30 น. จะช่วยเพิ่มเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 9,300 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ และอีก 83,000 ล้านดอลลาร์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า
โดยนักวิจัยได้นำข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลของโรงเรียนใน 47 รัฐของสหรัฐฯที่เริ่มปรับเวลาเข้าเรียนใหม่ พร้อมกับคาดการณ์จากรายได้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากเด็กนักเรียนเรียนจบ หักลบกับรายจ่ายที่ต้องเสียไป หากเด็กๆ เหล่านี้ เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ หรือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อันเป็นผลจากการนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งพวกเขามองว่า ในระยะยาว การเปลี่ยนเวลาเข้าเรียนให้สายขึ้น จะมีแต่ได้กับได้ เพราะไม่เพียงแค่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพกาย สุขภาพจิตของเด็กและผู้ปกครองเท่านั้น แต่ยังช่วยลดรายจ่ายและสร้างรายได้มหาศาลในอนาคตอีกด้วย
แม้ว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา จะยังกำหนดเวลาเข้าเรียนแบบเช้าตรู่ตามมาตรฐานเดิมอยู่ แต่ก็มีอีกหลายโรงเรียนที่มีแนวโน้มจะปรับเปลี่ยนในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนในยุโรปนั้น โรงเรียนส่วนใหญ่กำหนดเวลาเข้าเรียนไม่ค่อยตรงกันค่ะ อย่างเช่นอังกฤษ โรงเรียนส่วนมากก็จะเริ่มเรียน 8.30 น. เป็นต้นไป บางโรงเรียนก็ 9.00 น. ที่ฝรั่งเศสส่วนมากก็จะเริ่มเรียน 8.30 น. เช่นเดียวกัน ส่วนที่เยอรมนี บางโรงเรียนเข้าเรียนกันตอน 7.30 น. หรือ 8.15 น. ถ้าฝั่งเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ บางโรงเรียนจะเริ่มเข้าเรียนกันตั้งแต่ 7.30 น. ส่วนญี่ปุ่นก็จะเริ่มเรียนกันตอนประมาณ 8.30 น. ค่ะ
ส่วนบ้านเรา โรงเรียนหลายแห่งก็จะเริ่มเรียนตั้งแต่ 8.30 เป็นต้นไปค่ะ แต่น้องๆ ก็ต้องไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.30 น. ไม่เกิน 8.00 น. อยู่ดี แต่ถ้าสามารถเปลี่ยนเวลาเข้าเรียนได้ น้องๆ อยากเข้าเรียนกันกี่โมงดีคะ? ถ้าถามพี่ 9.00 น. กำลังดีเลยค่ะ ^^
7 ความคิดเห็น
เป็นหนู หนูเอาซัก10โมงค่ะ เพราะเป็นคนตื่นสาย
ในไทยอ่ะ เข้าเรียน 8.30 จริงแต่เรื่องตื่นมีตั้งแต่ ตี 4 ไปจนถึง 7 โมง เช้าส่วนหนึ่งเพราะระยะทางกับการจราจร แต่ก็ส่วนใหญ่จะตื่น 5-6 โมง เพราะตอนเช้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ทานข้าว แล้วก็ไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.00-7.30
เรียนหลัง8ครึ่ง ประจำ ไทยเราก็ทำอยู่นี่คะ เขาบอก เข้าเรียน ไม่ใช่ไปถึงโรงเรียน
ใช่ การพักผ่อนก็สำคัญนะ
ใครว่ายิ่งเรียนเยอะยิ่งฉลาด (เพราะมันจะเบลอ)
ยิ่งพักเยอะยิ่งฉลาดต่างหาก
วันนี้ทำไม่ไหวก็ไปนอน อีกวันตื่นมาสมองโล่ง ทำได้ดีกว่าเดิมด้วย
อยากให้ประเทศปรับหลักสูตรให้เหมาะกับเด็กในประเทศ สามารถพัฒนาได้ทุกด้านตามแต่ความถนัดและมีมาตราฐานเท่ากันทุกโรงเรียนทั่วประเทศ แต่คงจะยาก อีก 100 ปียังไม่รู้จะสำเร็จหรือป่าว เพราะผู้ใหญ่ในประเทศมองว่าการศึกษาไม่ใช่เรื่องใหญ่ เฮ้อออออ
หลังเที่ยงเลยได้ไหม ตื่น10โมง กว่าจะแต่งตัว ออกนอกบ้านรถติดอิก ถึงโรงเรียนเม้าส์มอย ......