ชวนอ่าน! 5 เรื่องน่าทึ่ง
ของเหล่านักเขียนคนดัง


สวัสดีน้องๆ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคนค่ะ สำหรับบทความในวันนี้พี่นัทตี้ก็มีเรื่องน่าทึ่งของนักเขียนคนดังมาฝากกัน บอกเลยว่าแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เรื่องของบางคนอ่านแล้วถึงกับอ้าปากหวอ เพราะง่วง เอ้ย เพราะทึ่ง! และพี่ก็เชื่อว่านักเขียนในเด็กดีของเรานั้นก็อาจจะมีเรื่องน่าทึ่งไม่แพ้กัน ไหนใครมีเรื่องอะไรแวะมาเม้าท์มอยทางนี้กันได้ อะๆ กลับเข้าเรื่องกันก่อน (ก่อนจะออกทะเลกันไปมากกว่านี้) เรามาดูกันดีกว่าว่าเรื่องทึ่งๆ ของนักเขียนที่พี่ว่านั้นจะมีอะไรกันบ้าง….?

 

via GIPHY


 
อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพหนึ่งที่มีเสน่ห์มาก เพราะพวกเขาจะใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ตัวละครรวมถึงเรื่องราวที่สามารถชักนำให้คนอ่านอย่างเราเข้าไปทำความรู้จักโลกส่วนตัวของพวกเขา แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งนักเขียนก็เป็นอาชีพที่ปิดกั้นตัวตนออกจากโลกภายนอกอย่างเห็นได้ชัด และการปิดกั้นตัวตนนี้นี่แหละที่จะทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลอันน่าสนใจเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขา


 

เอดการ์ แอลลัน โพ

 

เอดการ์ แอลลัน โพ เคยแต่งงานกับญาติวัย 13 ปีของเขา!

เอดการ์ แอลลัน โพ นักเขียน กวี และนักวิจารณ์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการวรรณกรรม โดยผลงานส่วนใหญ่ของเขามักจะเป็นเรื่องแนวสืบสวน ฆาตกรรม เรื่องลึกลับเหนือจินตนาการ แถมเขายังได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนคนแรกที่เขียนเรื่องแนวสืบสวน อีกทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับนักเขียนรุ่นหลังๆ อีกด้วย
 
โดยหญิงสาวที่พูดถึงคนนั้นก็ได้แก่ เวอร์จิเนีย เคลมม์ เขาและเธอแต่งงานกันเมื่อปีค.ศ. 1835 ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุ 26 ปี ส่วนเวอร์จิเนียนั้นมีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น! เอดการ์และเวอร์จิเนียใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาได้ราวๆ 11 ปี ก่อนที่เวอร์จิเนียจะเสียชีวิตลง โดยสาเหตุนั้นมาจากอาการเลือดคั่งในปอด
 
ซึ่งใครจะไปรู้ล่ะว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเอดการ์กับเวอร์จิเนียก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานกันนั้น เวอร์จิเนียเคยทำหน้าที่เป็นคนส่งจดหมายรักให้กับหญิงสาวหลายคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่ไม่รู้ว่าไปๆ มาๆ จากคนที่ทำหน้าที่ส่งจดหมายถึงได้กลายเป็นคนรักขึ้นมาได้นะ แถมยังมีอายุห่างกันถึงรอบนึงเลยด้วย!


 

ลูอิส แคร์รอล

 

ลูอิส แคร์รอล เกือบจะได้แต่งงานกับอลิซตัวจริง!

ลูอิส แคร์รอล หรือ ชาลส์ ลุทวิดจ์ ดอดจ์สัน นักเขียนนวนิยาย นักคณิตศาสตร์ และศิลปิน ผู้มีผลงานโดดเด่นนั่นก็คือ อลิซผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ หรือ Alice’s Adventures in Wonderland ที่เรารู้จักกัน ต้องบอกเลยว่าเป็นผลงานอันสร้างชื่อ รวมถึงยังเป็นผลงานที่ทำให้เด็กๆ ทั่วโลกรักเขาอีกด้วย
 
แถมที่มาที่ไปของอลิซผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์นั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ซึ่งพี่นัทตี้ก็เคยทำเป็นบทความกันมาแล้วกับ “ทำความรู้จัก อลิซ ลิดเดลล์ เด็กหญิงผู้เป็นต้นกำเนิดเรื่องราว อลิซผจญภัยในแดนมหัศจรรย์” ถ้าใครได้เข้าไปอ่านกันแล้วจะต้องสัมผัสได้ถึงความทะแม่งๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างลูอิสกับอลิซเหมือนพี่อย่างแน่นอน ซึ่งตัวของอลิซนั้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่ลูอิสเนี่ยสิ! บอกเลยว่าถ้าใครได้เจอก็คงจะกลัวไปตามๆ กัน
 
โดยความสัมพันธ์ที่ลูอิสเรียกว่า “ความเอ็นดู” นั้น เกือบจะทำให้เขาได้แต่งงานกับเด็กสาววัย 11 ปีอย่างอลิซเข้าแล้ว แต่โชคดีที่ทางครอบครัวของเด็กสาวนั้นไหวตัวทันเสียก่อน แถมสถานการณ์ตอนนั้นก็เป็นที่ไม่ยอมรับในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะคนในสังคมจะมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เพราะอลิซนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ แถมเขายังจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเฒ่าหัวงูอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามลูอิสก็ไม่พ่ายแพ้ต่อความรัก เขาพยายามจะเอาใจอลิซด้วยการเขียนหนังสือให้กับเธอ ซึ่งใครจะไปรู้ล่ะว่าหนังสือเล่มนั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขาจนถึงทุกวันนี้!


 

สตีเฟน คิง

 

เจ้าพ่อนิยายแนวสยองขวัญ สตีเฟน คิง แท้จริงแล้วกลัวเลข 13 มาก!

สตีเฟน คิง นักเขียนนวนิยายแนวสยองขวัญชาวอเมริกัน ที่เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขา รวมถึงผลงานของเขา ด้วยความคลุกคลีกับเรื่องแนวสยองขวัญกลับทำให้หลายคนแอบอึ้งเมื่อได้รู้ความจริงที่ว่า เขากลัวเลข 13 เป็นอย่างมาก! แล้วทำไมสตีเฟนถึงต้องกลัวเลข 13 ขนาดนั้น เรามาดูกัน
 
เพราะเลข 13 เป็นตัวเลขของจำนวนคนที่รับประทานอาหารมื้อสุดท้ายร่วมกับพระเยซูคริสต์ที่คนตะวันตกเรียกกันว่า "The Last Supper" แถมยังเป็นวันที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนอีกต่างหาก คนส่วนใหญ่จึงถือว่าตัวเลขนั้นเป็นตัวเลขของความอัปมงคล โดยความเชื่อนี้ได้ส่งผลรุนแรงมากจนถึงขนาดที่มีเมืองหลายเมืองไม่มีถนนสาย 13 ตึกหลายหลังไม่มีชั้น 13 แถมวันใดที่ตรงกับวันที่ 13 จะถูกถือว่าเป็นวันแห่งความโชคร้ายไปในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งศุกร์ 13 
 
โดยความเชื่อนี้ก็ได้ส่งผลกับเจ้าพ่อนิยายแนวสยองขวัญอย่างสตีเฟน คิงเหมือนกัน โดยเวลาที่เขาขึ้นบันไดเขาจะไม่เหยียบขั้นที่ 13 แถมเขายังไม่อ่านหนังสือในหน้าที่เกี่ยวข้องกับเลข 13 เช่น หน้า 94, 193, 382 และอื่นๆ ส่วนใครสงสัยว่ามันเกี่ยวกับเลข 13 ยังไงก็ลองบวกลบคูณหารกันดู และยิ่งไปกว่านั้นเขายังหวาดกลัว (อันนี้เรียกว่าทั้งปี) กับปีที่ครบรอบ 13 ปีพอดิบพอดี เช่น ครบรอบวันแต่งงานปีที่ 13, วันเกิดลูกที่มีอายุครบ 13  รวมถึงหนังสือลำดับที่ 13 ของเขาที่ได้รับการตีพิมพ์ เรียกได้ว่าแทบจะทุกอย่างในชีวิต ถ้ามีเลข 13 พ่วงอยู่ด้วยแล้ว ป๋าคิงก็จะกลัวมากๆ เลยจ้า


 

บราม สโตกเกอร์

 

บราม สโตกเกอร์ บ้าคลั่งกับทฤษฏีสมคบคิดเอามากๆ

บราม สโตกเกอร์ นักเขียนและนักอ่านช่างฝัน ผู้ชื่นชอบในเรื่องราวในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแวมไพร์ น้องๆ คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าบราม สโตกเกอร์ชอบถึงขนาดที่เอาเรื่องราวมาเขียนเป็นนวนิยายแนวสยองขวัญอย่าง “แดรกคิวลา” ออกมาเลย แถมยังได้รับการขนานนามว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิกอันทรงคุณค่า และยังเป็นต้นแบบให้กับวรรณกรรมหลายเรื่องในปัจจุบันซึ่งใครจะไปรู้ล่ะว่าจุดเริ่มต้นนั้นมาจากความชอบเรื่องแวมไพร์ล้วนๆ เลย
 
แล้วทฤษฏีสมคบคิดที่ว่านั้นคืออะไร ทฤษฏีสมคบคิด หรือ Conspiracy Theory คือ แนวคิดและทฤษฏีที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคนกลุ่มหนึ่ง โดยเป็นการนำเอาเหตุการณ์ต่างๆ มาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งมีการหยิบเอาข้อเท็จจริงบางส่วนมาประกอบให้เรื่องราวดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ก่อนจะนำไปเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ซึ่งสามารถให้ทั้งคุณและโทษได้ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อเรื่องสึนามิที่มีคนอ้างว่ามีสาเหตุมาจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในอินเดีย หรือที่บอกว่ามีมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์สำเร็จนั้นเป็นเรื่องโกหก ซึ่งแหล่งที่เราจะค้นพบเรื่องแนวๆ นี้ได้นั้นก็หนีไม่พ้นอินเตอร์เน็ต, จดหมายลูกโซ่ รวมถึงคำบอกเล่าจากบุคคล เป็นต้น
 
ซึ่งบอกเลยว่าชีวิตจริงของบราม สโตกเกอร์นั้นคลุกคลีอยู่กับเรื่องเหล่านี้เยอะมากในชีวิตประจำวัน ซึ่งจุดประสงค์อาจจะมาจากความอยากพิสูจน์ว่าเรื่องที่ได้รู้หรือได้ยินมานั้นเป็นความจริงหรือไม่ แต่บางทีก็อาจจะดูเยอะไปจนทำให้คนรอบข้างมองว่าเขาเป็นคนแปลกๆ และน่ากลัวเอามากๆ เลย


 

มาร์ก ทเวน

 

มาร์ก ทเวน แท้จริงแล้วเป็นคนประดิษฐ์สายบรา!

มาร์ก ทเวน นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน งานถนัดของเขาคือการเป็นนักเขียน นักบรรยาย รวมถึงยังเคยฝากผลงานเอาไว้กับเรื่องขบขันที่มีชื่อเสียงหลากหลายเรื่อง ซึ่งมาร์กได้ฝากผลงานอันเป็นที่น่าจดจำไว้ให้กับคนที่รักเขาไว้อย่างมากมาย ซึ่งในบั้นปลายชีวิตของเขา มาร์กได้ถูกยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์ที่มีอารมณ์ขันมากที่สุดในอเมริกา โดยผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขาหลักๆ เลยก็คือ หนังสือเรื่อง การผจญภัยของทอม ซอว์เยอร์ และ ฮัคเคิลเบอรี่ ฟินน์ ผจญภัย

 

 
แต่ใครจะไปรู้ว่านักเขียนมากความสามารถคนนี้ยังชอบประดิษฐ์คิดค้นสิ่งของหลายอย่างยามที่เขาว่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกเลยว่าสร้างความประหลาดใจให้กับพี่อย่างมากมาย นั้นก็คือ สายบราของสาวๆ นั่นเอง โดยความคิดแรกที่เกิดขึ้นกับมาร์กก็คือ เขาอยากจะทำให้เสื้อผ้าที่เราสวมใส่กันนั้นไม่หลุดออกมาง่ายๆ ซึ่งเขาคิดว่าถ้ามีบางสิ่งบางอย่างยึดมันเอาไว้ก็จะมีประโยชน์กับการสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างมาก นอกจากความปลอดภัยแล้วสิ่งที่เขาคำนึงถึงก็คือความสะดวกรวดเร็วเวลาถอด คือต้องไม่ยากจนเกินความพยายาม แถมอีกนัยนึงก็คือจะต้องทำให้เรามีความรู้สึกว่าปลอดภัยเวลาสวมใส่เช่นเดียวกัน โอ้โห เห็นทีว่าสาวๆ อย่างเราจะต้องกราบขอบพระคุณพี่มาร์กงามๆ เลยนะจ๊ะ ฮุๆ

 

-------------------------

 
เป็นยังไงกันบ้างล่ะ อ่านแล้วอึ้ง ทึ่งกันเลยใช่ไหม คนที่พี่นัทตี้ทึ่งที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นมาร์ก ทเวนนักเขียนมากความสามารถคนนี้นี่แหละจ้ะ ต้องบอกว่ามากความสามารถจริงๆ เพราะนอกจากเขาจะเป็นนักเขียน นักบรรยาย นักประดิษฐ์แล้ว เขายังเป็นนักขับเรือไอน้ำ นักสำรวจ นักผจญภัย โอ๊ย เยอะแยะเต็มไปหมด เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ ยังไงพี่ก็หวังว่าน้องๆ ที่เข้ามาอ่านบทความนี้กันคงจะได้รับความสนุก และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อย เอาไว้เรามาเจอกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้ต้องไปแล้ว สวัสดีจ้า
 
พี่นัทตี้ :)

ขอบคุณแหล่งที่มาและภาพประกอบจาก
http://listverse.com/2017/05/06/top-10-shocking-facts-about-famous-writers/ http://listverse.com/2014/07/07/10-shocking-sides-of-famous-authors/
https://www.biography.com/people/edgar-allan-poe-9443160
http://www.womenhistoryblog.com/2012/08/virginia-clemm.html
https://www.biography.com/people/lewis-carroll-9239598
http://mentalfloss.com/article/23266/13-reasons-people-think-number-13-unlucky 
https://www.biography.com/people/bram-stoker-9495731 
https://www.theatlantic.com/technology/archive/2011/07/celebrity-invention-mark-twains-elastic-clasp-brassiere-strap/241267/

 
พี่นัทตี้
พี่นัทตี้ - Columnist บุคคลผู้เสพติดการดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น