10 วรรณกรรมยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นเพราะนักเขียนอยู่ในคุก! (ภาคแรก)
สวัสดีค่ะชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน ขึ้นชื่อว่า “คุก” หรือ “ห้องขัง” หลายคนก็คงกลัวแล้ว แต่จะรู้มั้ยนะว่ามีนักเขียนชื่อดังหลายคนแจ้งเกิดจากที่นี่ น้องๆ รู้หรือเปล่าว่าหนังสือหลายเล่มในโลกที่มีอิทธิพลสุดๆ ต่อวงการวรรณกรรมของเราเนี่ย ถูกเขียนขึ้นตอนที่นักเขียนถูกจองจำอยู่ในคุกนะ ซึ่งหนังสือหลายเล่มที่พี่หยิบมาฝากน้องๆ ในบทความ “10 วรรณกรรมยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นเพราะนักเขียนอยู่ในคุก! (ภาคแรก)” นั้น บอกเลยว่าไม่ใช่หนังสือแนวการเมืองหรือศาสนาที่เขียนขึ้นเพื่อคิดจะปฏิรูปประเทศ หรือสร้างความเป็นอมตะให้ตัวเองผ่านการเขียนหนังสือ แต่มันเป็นที่หนังสือเรียบง่าย อ่านแล้วทรงพลัง แถมชนะใจคนทั่วโลกด้วยค่ะ จะมีเรื่องอะไรนั้น ตามมาดูกันเลยดีกว่า
A Hymn To The Pillory, แดเนีล เดโฟ
แดเนียล เดโฟ (1660-1731) โด่งดังจากหนังสือนวนิยายชื่อกระฉ่อนโลกอย่าง “โรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe)” แต่ในชีวิตจริง เขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการเป็นนักรณรงค์และนักเขียนระหว่างความตึงเครียดทางการเมืองและศาสนาหลังตากการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในปี 1688
ในปี 1702 เดโฟได้ตีพิมพ์หนังสือโดยไม่ระบุชื่อผู้แต่งเรื่อง “ทางที่สั้นที่สุดกับพวกนอกรีต (The Shortest Way with the Dissenters)” ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เสียดสีขุนนางแองกลิคันระดับสูงในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีแอนน์ผู้ไม่ชื่นชอบพวกโปรเตสแตนท์นอกรีตอย่างเดโฟ ในนั้น เขาได้เลียนแบบตัวตนของพวกเขาและเสนอว่า แทนที่จะกำหนดกฎหมายเพื่อต่อต้านพวกนอกรีตของศาสนา ฆ่าพวกเขาทั้งหมดนั้นดูจะเป็นหนทางที่ง่ายกว่า
ในตอนแรก ขุนนางแองกลิคันจำนวนมากถูกตรวจสอบอย่างจริงจัง แต่ไม่นานนัก เดโฟก็ถูกจับกุมในปี 1703 ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท เดโฟจึงได้กล่าวว่า “อยู่ในขื่อถึงสามครั้งเพื่อจ่ายค่าปรับ และยังคงอยู่ในคุกนิวเกตจนกว่าเขาจะได้รับการรองรับว่ามีพฤติกรรมที่ดีถึง 7 ปี”
ในคุกนิวเกต เดโฟได้เขียนเรื่อง A Hymn to the Pillory ซึ่งถูกวางขายตามท้องถนนระหว่างที่เขาถูกใส่ขื่อคา ด้วยความที่บทกวีนี้ชนะใจผู้คน ทำให้เขาโชคดี แทนที่จะถูกขว้างปาด้วยอาหารอันเน่าเสียหรือถูกตัดหู ผู้คนกลับประดับประดาขื่อคาของเขาด้วยดอกไม้
ผู้เขียนชีวประวัติของเดโฟกล่าวว่า “ไม่มีใครในอังกฤษยกเว้นเดโฟที่อยู่ในขื่อคา แต่เขากลับได้ดอกกุหลาบและชื่อเสียงมากมาย”
ปริศนาธรรม (The Pilgrim’s Progress), จอห์น บันยัน
ตลอดช่วงชีวิตของพิวริตัน (พิวริตันคือชาวอังกฤษที่เคร่งศาสนามากๆ) ผู้เคร่งศาสนาอย่างจอห์น บันยัน เขาต่อสู้เพื่อกองทัพรัฐสภาในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ ซึ่งหลังจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในคุกเนิ่นนานถึง 12 ปี ด้วยเพราะไม่ยอมหยุดเทศนาข้อความที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย
ในคุก บันยันได้เขียนอัตชีวประวัติของเขาเรื่อง “ผู้อุปการคุณแก่หมู่คนบาป (Grace Abounding to the Chief of Sinners)” ในปี 1666 และเริ่มเขียนหนังสือเรื่อง “ปริศนาธรรม (The Pilgrim’s Progress)” นิทานเปรียบเทียบของชาวคริสเตียนชื่อดังที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี 1678
หนังสือเรื่องปริศนาธรรมนี้เป็นเรื่องราวของตัวเอกชื่อว่า “คริสเตียน” ผู้ซึ่งเดินทางจากเมืองที่ถูกทำลายล้าง (โลก) ไปยังเมืองแห่งสวรรค์ (สวรรค์) และในช่วงที่สองของหนังสือก็เกี่ยวกับภรรยาของคริสเตียนที่ชื่อว่า คริสเตียน่า ซึ่งดำเนินเรื่องคล้ายคลึงกันเพียงแต่เป็นหลักธรรมของโปรเตสแตนท์ค่ะ แน่นอนว่าหนังสือเล่มนี้ขายดีและดังมากๆ
ยุคสมัยของเหตุผล (The Age Of Reason), โทมัส เพน
บุคคลที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า "ผู้ผลิตคอร์เซทเพื่อการพาณิชย์ นักข่าววิชาชีพ และนักโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้คนชื่นชอบ" อย่าง โทมัส เพน (1737-1809) ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของสองความสำเร็จทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเรืองปัญญา อย่าง “การปฏิวัติอเมริกา” และ “การปฏิวัติฝรั่งเศส”
เขามีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติอเมริกาด้วยหนังสือเล่มเล็กๆ ชื่อว่า “สามัญสำนึก (Common Sense)” ที่แนะนำให้อเมริกาเป็นเอกราชต่อบริตินใหญ่ ดังนั้น เพนจึงได้รับการตัดสินให้ถูกลงโทษในข้อหาหมิ่นประมาทต่อรัฐบาลอังกฤษหลังจากปกป้องการปฏิวัติฝรั่งเศสในสิทธิของมนุษย์ในปี 1791
เขาหนีไปฝรั่งเศส ซึ่งในไม่ช้าเขาก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมการประชุมแห่งชาติฝรั่งเศสแม้ว่าจะพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ก็ตาม จนกระทั่งสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัวได้เริ่มต้นขึ้น เพนถูกจับเข้าคุกในกรุงปารีสตามคำสั่งของมักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยในสาธารณะ
แม้จะอยู่ในคุก แต่เพนยังเขียนผลงานล่าสุดของเขาเรื่อง “ยุคสมัยของเหตุผล (Age of Reason)” ซึ่งท้าทายอำนาจของศาสนาที่จัดระเบียบและสนับสนุนเรื่องลัทธินิยมนิยม ถึงอย่างนั้นเพนก็สามารถหลีกเลี่ยงการประหารชีวิตได้อย่างหวุดหวิดตลอด จนกระทั่งเขาได้รับการปล่อยตัวหลังจากรอแบ็สปีแยร์ล่มสลาย ก่อนกลับไปอเมริกาด้วยคำเชิญของเจฟเฟอร์สัน
120 วันที่โซโดม หรือโรงเรียนของผู้รักอิสระ
(The 120 Days Of Sodom, Or The School Of Libertinism),
มาร์กี เดอ ซาด
120 วันแห่งเมืองโซโดมเขียนขึ้นโดยขุนนางฝรั่งเศส มาร์กี เดอ ซาดบนกระดาษทิชชูยาว 12 เมตรและใช้เวลาเพียงแค่ 37 วัน ซึ่งนวนิยายเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นในปี 1785 ระหว่างที่ซาดอยู่ในคุกแห่งบาสตีย์ จนกระทั่ง 4 ปีต่อมาคุกบาสตีย์ก็ถูกทลายลง งานเขียนของเขาถูกยึดไป ซาดกล่าวว่าเขาร้องไห้เป็นสายเลือดตอนที่ต้นฉบับสูญหาย เขาได้ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของเขาอย่างทุกข์ทรมานเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับงานเหล่านั้นและเสียชีวิตลงใน 1814 ก่อนที่ผลงานชิ้นนี้จะได้รับการตีพิมพ์ในปี 1905
ซาดเรียกนวนิยายที่ยังเขียนไม่จบของตัวเองว่า "เรื่องเล่าที่แย่ที่สุดที่เล่ามาตั้งแต่เริ่มมีโลกของเรา" ในนวนิยายได้บอกเล่าเรื่องราวตลอดระยะเวลาห้าเดือนของขุนนางสี่คนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในปราสาทยุคกลางที่ห่างไกลกับเหยื่ออีก 50 คนซึ่งพวกเขาลักพาตัวมาเพื่อบำเรอตนเอง ชายเหล่านั้นหลงระเริงในความเลวทรามทุกอย่างที่ทำกับเด็กหญิงและเด็กชายวัยหนุ่มสาว อายุราวๆ 12 ปีตามตัณหา 4 ประการ อันได้แก่ ความเรียบง่าย ความซับซ้อน อาชญากรรมและฆาตกรรม งานต้นฉบับเดิมถูกขายในราคาล้านยูโร และคำว่า "ซาดิสม์" และ "โสเภณี” ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากเขาค่ะ
พบถิ่นอินเดีย (Discovery Of India), ชวาหะร์ลาล เนห์รู
“เป็นที่รู้กันดีว่าอินเดียเป็นดินแดนแห่งความไร้เดียงสาและความไม่มั่นใจของวัยเด็ก เป็นความหลงใหลและการละเลยในวัยเยาว์ และเป็นพุทธิปัญญาของวัยผู้ใหญ่ที่มาจากประสบการณ์อันยาวนานของความเจ็บปวดและความสุขสม หลังจากนั้นก็เป็นอีกครั้งที่เธอได้ย้อนกลับไปสู่วัยเด็กและวัยเยาว์ของเธอ”
(ข้อความบางส่วนที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้)
ถ้าหากมหาตมะคานธีเป็นบิดาแห่งอินเดีย ชวาหะร์ลาล เนห์รูก็ย่อมเป็นบุตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกัน ภายใต้การให้คำปรึกษาจากคานธี ทำให้ชวาหะร์ลาล เนห์รูกลายเป็นผู้นำที่โดดเด่นในขบวนการอิสรภาพของอินเดีย ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มแบ่งแยกอินเดียก่อนจะกลายเป็นเอกราชจากการปกครองของอังกฤษในปี 1947
แต่ในช่วงระยะเวลาหลายปีสู่การเป็นอิสระของอินเดีย เนห์รูถูกจับเป็นนักโทษเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในระหว่างการถูกจองจำช่วงปี 1942 - 1946 เขาได้เริ่มต้นเขียนหนังสือเรื่องพบถิ่นอินเดีย โดยได้รับเงินสนับสนุนจากเพื่อนนักโทษการเมืองในป้อมอาเหม็ดนาการ์
หนังสือเล่มนี้นำผู้อ่านไปสู่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และปรัชญาของอินเดีย โดยผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวครอบคลุมเกือบทุกแง่มุมของชีวิตชาวอินเดีย ก่อนจะกล่าวว่าอินเดียมีสิทธิที่จะปกครองอย่างอธิปไตย
ชวาหะร์ลาล เนห์รู ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศหลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1964 พบถิ่นอินเดียจึงกลายเป็นหนังสืออันเป็นที่รักมากที่สุดของชาวอินเดีย เนื่องจากทำให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับมุมมองของรัฐบุรุษอินเดีย
เป็นยังไงบ้างคะกับเรื่องราวที่พี่น้ำผึ้งนำฝากวันนี้ บอกเลยว่านี่แค่น้ำจิ้ม เพราะครั้งหน้ายังมีอีก 5 นักเขียนที่เหลือที่สร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมอันทรงอิทธิพลต่อโลกของเราในตอนที่พวกเขาถูกจองจำอยู่ในห้องขัง กระซิบก่อนว่าเด็ดและพีคไม่แพ้กับ 5 คนที่พี่หยิบยกมาฝากวันนี้ค่ะ ห้ามพลาดเลยนะคะ
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณข้อมูลจาก
The Life of Daniel Defoe: A Critical Biography By John Richetti
http://ahymntothepillory.blogspot.com/p/a-hymn-to-pillory.html
https://www.biography.com/people/daniel-defoe-9269678
http://www.todayinliterature.com/stories.asp?Event_Date=7/16/1703
http://ahymntothepillory.blogspot.com/2013/04/the-context-of-hymn-to-pillory.html
http://ahymntothepillory.blogspot.com/p/a-hymn-to-pillory.html
http://www.bl.uk/learning/timeline/item126922.html
http://www.gutenberg.org/ebooks/39452?msg=welcome_stranger
https://www.history.com/this-day-in-history/robespierre-overthrown-in-france
https://www.newyorker.com/magazine/2006/10/16/the-sharpened-quill
https://www.history.com/this-day-in-history/king-louis-xvi-executed
https://www.smithsonianmag.com/history/who-was-marquis-de-sade-180953980/?all&no-ist
https://www.nytimes.com/2013/01/22/books/frances-national-library-hopes-to-buy-sades-120-days.html?_r=0
https://www.theguardian.com/world/2014/apr/03/marquis-de-sade-scroll-120-days-sodom-paris
http://en.rfi.fr/culture/20140403-sades-120-days-sodom-return-france-after-two-centuries-wandering
https://www.britannica.com/biography/Jawaharlal-Nehru
http://www.pmindia.gov.in/en/former_pm/shri-jawaharlal-nehru/
http://www.bbc.co.uk/history/historic_figures/nehru_jawaharlal.shtml






1 ความคิดเห็น
ไทย - นึกออกแต่สุนทรภู่
สุนทรภู่เคยติดคุกในสมัยรัชกาลที่ 2 เพราะกินเหล้าเมาไปชกต่อยญาติผู้ใหญ่
ได้แต่งเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม
มีคุณจิตร ภูมิศักดิ์เพราะโดนข้อหากระทำการอันเป็นการคอมมิวนิสต์ในสมัยสงครามประชาชนด้วยนะครับ แต่เป็นนิยายแปลของแมกซิม กอร์กี คือเรื่อง "แม่" ครับ