เปิดใจ ‘กลุ่มนักเรียนวัดสุทธิฯ’ กับภารกิจ 2 ชั่วโมงสุดระทึกเพื่อช่วยเหลือชาวจีนที่เตรียมฆ่าตัวตาย!

        หนึ่งในกระแสที่โซฮอตมากๆ และคนไทยพากันชื่นชมคือ กลุ่มนักเรียน ม.ปลาย โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ที่ไปรวมตัวเล่นดนตรีเปิดหมวกแถวท่าเรือแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันนั้นพวกเขาได้ทำความดีใหญ่หลวงอย่างหนึ่งคือการเซฟชีวิตนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เตรียมจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย! สิ่งที่น่าทึ่งคือพวกเขาล้วนไม่เคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อนในชีวิต แต่สามารถคุมสติและจัดการได้ดีมากๆ เดี๋ยวเรามาฟังเรื่องราวจาก “น้องแชมป์” และ “น้องพัน” สองตัวแทนจากกลุ่มพลเมืองดีกลุ่มนี้กันค่ะ! 

 

แนะนำตัว
 

        “สวัสดีครับ ‘แชมป์’ ชยุตพงศ์ ดวงแก้ว กับ ‘พัน’ สิทธิชาติ มลิวัลย์ ครับ เรียนอยู่ ม.6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ในเหตุการณ์วันนั้นพวกเราอยู่ด้วยกัน 9-10 คนเลยครับ เราไปเล่นดนตรีเปิดหมวกหาเงินทำกิจกรรมในโรงเรียนกัน ^^”

 

เอะใจที่ได้เงินจากคนเดียวถึง 1,600 หยวน!
 

        “เหตุเกิดตอนประมาณทุ่มนึงครับ ตอนนั้นชาวจีนคนนึงเดินมาให้เงินในจำนวนที่สูงมาก ประมาณ 1,600 หยวน (ราวๆ 7,600 บาท) พวกผมแปลกใจตรงที่คนเดียวให้เยอะขนาดนี้ เลยตัดสินใจตามไปคุยกับเขาว่าเป็นอะไรรึเปล่า? ตอนแรกชาวจีนคนนั้นพูดอังกฤษกับเราแบบกลัวๆ แล้วหลุดจีนออกมา พอผม (น้องพัน) ได้ยินภาษาจีนก็ฟังออกครับ เลยบอกให้เขาพูดจีนออกมาเลยก็ได้ ผมเลยเริ่มจับได้ว่าเขากำลังจะไปฆ่าตัวตาย ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”

        ส่วนเหตุผลหลักๆ ที่น้องพันสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @moui ได้ Reply ทวีตของ JS100 ว่าน้องพันจบประถมจาก "โรงเรียนจิ้นเตอะ" ที่สอนภาษาจีนกลางมาตั้งแต่อนุบาลนั่นเองค่ะ (ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^) 
 

        กลับมาที่บทสัมภาษณ์ค่ะ ตอนพูดคุยน้องๆ ได้ถามถึงเหตุผลที่ทำให้ชายคนนั้นคิดฆ่าตัวตายหรือไม่? “ผมเริ่มถามชาวจีนคนนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงอยากฆ่าตัวตาย? เขาก็เล่าว่าคุณพ่อกับอากง (ปู่) ของเขาตายที่ไทย เขาเลยอยากตายที่นี่เพราะอยากไปหาพวกเขา ผมก็ชวนเขาคุยว่า พี่คิดดีแล้วเหรอที่ตัดสินใจแบบนี้ พี่คิดว่าถ้าตายไปจะเจอพวกเขาจริงๆ เหรอ แล้วพวกเขาจะดีใจเหรอที่พี่ตาย”
 

โฉมหน้า "น้องพัน" หนึ่งในกลุ่มพลเมืองดี ผู้ทำหน้าที่เป็นล่ามจีนเฉพาะกิจ
Photo Credit: Sittishat Maliwan

 

"พี่ฟังเพลงมั้ย เดี่ยวผมร้องให้ฟัง”
"พี่เชื่อใจผมมั้ย?"
 

        อยากรู้ว่าในเหตุการณ์ 2 ชั่วโมงนั้น มีช็อตไหนมั้ยที่เราสังเกตได้ถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของชายคนนั้น “มันมี 2 จุดครับ จุดแรกคือเขาฟึดฟัดว่าจะไปฆ่าตัวตายให้ได้ ผมก็ถามว่า พี่ฟังเพลงมั้ย เดี๋ยวผมร้องให้ฟัง เขาบอกฟัง แต่ไม่เอาเพลงไทยเพราะฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็โอเคเพลงจีนก็ได้ ปรากฏว่าเขาฟังแล้วร้องไห้ บอกผมว่าอย่าร้องนะ ถ้าร้องต่อเขาจะคิดถึงบ้าน ผมเลยไม่ร้อง”
 

        “จากนั้นสักพักเขาอยากจะไปอีกแล้ว ผมเอามือเขามาวางที่หน้าอกผม แล้วถามเป็นภาษาจีนว่า ‘พี่เชื่อใจผมมั้ย?’ ผมมองตาเขาตลอด เขาก็สงบลงหลังจากนั้น แล้วเจ้าหน้าที่ก็มาพอดีครับ (เราแบ่งหน้าที่ให้เพื่อนคนอื่นโทรแจ้งตำรวจด้วย) พอตำรวจมาอาการเขาเปลี่ยนไปเลยครับ เขาดูไม่เชื่อใจตำรวจ ไม่อยากไป สน. เพื่อนผม 2 คนพยายามอุ้มเขาขึ้นท้ายกระบะ แต่เขาก็กัดลิ้น พยายามทิ้งตัวให้ศีรษะกระแทกขอบกระบะก่อนจะสลบไป จากนั้นตำรวจก็พาไป สน.”
 

        “พอถึง สน. แล้วเขาฟื้นขึ้นมา เขาก็ถามว่า ‘ผมเชื่อใจคุณแล้วทำไมคุณพาถึงผมมาที่นี่?’ ผมก็บอกไปอีกว่า ‘คุณต้องเชื่อใจผม เดินไปกับผมนะ’ แล้วตำรวจก็ล็อกครับ พวกผมเดินตามตลอด จังหวะนั้นเขาหันมามองตลอดว่าพวกผมยังเดินตามอยู่จริงๆ ใช่มั้ย จนเข้าห้องสอบสวน เขาก็จัดล่ามตำรวจท่องเที่ยวมาด้วย แต่คุยกันสักพักชาวจีนคนนั้นก็ทำสัญลักษณ์มือเป็นแบบตัว ‘T’ ครับ แบบไม่คุยแล้ว ไม่ฟังแล้ว ก้มหน้าตลอด ถามอะไรก็ไม่ตอบ ตำรวจก็โอเคพาพวกผมไปส่ง”
 

        “จากนั้นผมก็ไม่ทราบเรื่องจนเที่ยงของวันนี้ (18 ธ.ค.) มีคนโทรมาบอกว่า ตอนนี้คนจีนอยู่โรงพยาบาล เจอไฟล์ทบินที่กลับวันนี้แต่ไม่รู้จะติดปัญหาเรื่องพาสปอร์ตรึเปล่า เลยส่งให้สถานทูตไปตรวจสอบอีกทีครับ” น้องๆ เสริมว่าชาวจีนคนนั้นเหมือนไม่มีญาติพี่น้องเลย เหลือแค่พี่สาวที่ยังติดต่อไม่ได้ค่ะ

"น้องแชมป์" หนึ่งในกลุ่มพลเมืองดีที่เป็นตัวแทนให้สัมภาษณ์กับเรา
Photo Credit: Champ Chayutpong
 

        หลังเกิดเหตุการณ์นี้ แชมป์กับพันบอกว่าตนไม่แน่ใจว่าชาวจีนจะกลับมาพยายามปลิดชีพตัวเองอีกหรือไม่ “เขาเหมือนหมดหวัง เจอทางตัน หาทางออกไม่ได้ จนสุดท้ายเลือกปลิดชีวิตตัวเอง จุดสังเกตนึงคือตอนพูดภาษาอังกฤษเขาจะฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ผมเลยคิดว่าเขาคงอุ่นใจกว่าถ้ามีคนมาพูดภาษาจีนด้วย เขาอาจไว้ใจและรู้สึกเหมือนเพื่อน”
 

        เรารู้สึกยังไงกับกระแสชื่นชมทั้งในโลกความจริงและโลกโซเชียลตอนนี้? “ตกใจนิดนึงครับ ตอนนั้นเราคิดว่าจะให้ความช่วยเหลือปกติ หวังแค่ชาวจีนคนนั้นจะคิดได้และเลิกล้มความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ไม่คิดว่าจะเป็นกระแสขนาดนี้เลย พอผลตอบรับดีขนาดนี้ผมก็ดีใจครับ”

 

อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของภาษา
 

        “อยากให้เห็นความสำคัญของเรื่องภาษาครับ รู้เยอะไว้ดีกว่า เราไม่รู้หรอกว่าในวันนึงเราอาจช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากได้ครับ ถ้ามีโอกาสผมอยากฝากถึงทุกคนจริงๆ”
 

        ไหนๆ น้องก็ใกล้จบ ม.ปลายแล้ว เป้าหมายของเราคือคณะไหนมหาวิทยาลัยไหน? “กลุ่มผมกระจายตัวกันหมดเลยครับ 5555 ผม (พัน) อยากเข้านิเทศจุฬาฯ ส่วนแชมป์อยากเข้าธุรกิจการบิน ม.แม่ฟ้าหลวงครับ ^^” ได้ยินแบบนี้แล้ว พี่ขอเป็นตัวแทนคนไทยส่งกำลังใจให้น้องๆ สอบติดคณะและสถาบันที่ฝันไว้อันดับหนึ่งนะคะ พี่เชื่อว่าน้องๆ ทำได้แน่นอน!

Photo Credit: Sittishat Maliwan
 

        โอ้โหหหหขอชื่นชมเลยว่าน้องๆ ทั้งช่างสังเกตและคุมสติได้ดีมาก!! ถือเป็นโชคดีที่น้องๆ บังเอิญไปรวมตัวยืนร้องเพลงเปิดหมวกแถวนั้น และพากันเอะใจกับจำนวนเงินที่มากผิดปกติ จนในที่สุดพลเมืองดีก็ช่วยยับยั้งข่าวร้ายไปได้ 1 ข่าว ขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ค่ะ สำหรับชาว Dek-D คนไหนที่สังเกตเห็นท่าทีที่ผิดสังเกตของคนรอบตัว อย่าเพิ่งละเลยปล่อยผ่าน ไม่แน่ว่าคนคนนั้นอาจกำลังรู้สึกเหมือนเจอทางตันอยู่ก็ได้ ลองหาโอกาสนั่งข้างๆ แล้วฟังเรื่องราวของเขากันบ้างนะคะ :)