อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D แถวนี้มีน้องๆ คนไหนที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีบ้างมั้ยครับ? วันนี้ พี่วุฒิ มีซีรีส์น้ำดีที่มีกระแสแรงมากในแดนกิมจิมาแนะนำให้น้องๆ ตามไปดูกัน (ความจริงบางคนอาจจะดูอยู่แล้ว 5555) ซึ่งเรื่องที่กำลังพูดถึงก็คือ ‘SKY Castle’ ยอมรับตามตรงว่าปกติพี่เป็นคนไม่ค่อยดูซีรีส์เกาหลีเลย แต่เรื่องนี้ดังมากกกกก จนต้องตามไปดูให้หายสงสัย และผลคือตอนนี้ติดงอมแงมเลยครับ T___T ว่าแต่ซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรดีถึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามอง? และมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านกันเลยจ้า (อาจมีสปอยล์นิดนึง ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ)

 

 

       SKY Castle (SKY 캐슬) เป็นละครแนวดราม่าเสียดสีสังคมเกาหลี ออนแอร์ทางช่อง JTBC ตอนแรกเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แรกเริ่มแล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นละครที่ผู้คนไม่ได้สนใจมากนัก ด้วยความที่เป็นละครจากช่องเคเบิล แถมยังฉายช่วงเวลา 5 ทุ่มซึ่งไม่ใช่เวลาไพร์มไทม์ที่คนดูเยอะ โดยในตอนแรกเรตติ้งของละครเรื่องนี้เปิดตัวไปแค่ 1.7% เท่านั้น แต่ด้วยความเข้มข้นของละครที่ค่อยๆ ทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละตอนที่ออนแอร์ ทำให้เกิดกระแสปากต่อปากมากขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งก็ค่อยๆ ทะยานเพิ่มขึ้น จนตอนล่าสุด SKY Castle ได้กวาดเรตติ้งไปเกือบร้อยละ 20 มีคนชมสดมากกว่า 2 ล้านคน แถมยังขึ้นแท่นเป็นละครช่องเคเบิลที่มีเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลอีกด้วย!   
 

 

 

       SKY Castle เป็นชื่อของหมู่บ้านหนึ่งของกลุ่มครอบครัวชั้นชนสูงที่ยืนอยู่แถวหน้าในสังคม แต่ละครอบครัวที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ล้วนมีหน้าที่การงานดี ผู้คนล้วนนับหน้าถือตา ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มาจากการที่พวกเค้าพยายามสืบสานความเป็นแถวหน้าของสังคมมาจากคนรุ่นก่อนนั่นแหละ ในมุมมองของคนดูจะสังเกตได้ว่าความจริงแล้วสังคมในหมู่บ้าน SKY Castle นั้นเปรียบเสมือนโลกจำลองชีวิตจริงที่ตีแผ่ด้านต่างๆ ของมนุษย์ โดยเล่าผ่านตัวละครหลักทั้ง 5 ครอบครัวที่มากด้วยดีกรีและไม่มีใครยอมใคร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแพทย์แนวหน้าในวงการ หรือไม่ก็เป็นศาสตรจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเกาหลี

 

 

         หลายคนน่าจะพอรู้กันมาบ้างว่าที่ประเทศเกาหลีนั้นมีการแข่งขันสูงมากกก โดยเฉพาะกับเรื่องเรียน เรามักได้ยินว่าคนที่นี่เรียนกันโหดสุดๆ แถมความกดดันจากสังคมรอบข้างก็ค่อนข้างสูง ต้องบอกเลยว่าถ้าได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็จะยิ่งอินมากกว่าเดิมไปหลายเท่าเลยครับ เพราะว่ามันจะมีฉากตีแผ่ที่คนดูแบบเราเองก็แอบเซอร์ไพรซ์เหมือนกันว่า พวกเค้าต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ? ซึ่งจากละครเรื่องนี้ หลักๆ แล้วแต่ละครอบครัวล้วนมีลูกสาว ลูกชายที่พวกเค้าคาดหวังว่า เด็กๆ เหล่านี้จะต้องมีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งก็คือการเรียนเป็นแพทย์ในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศอย่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล (Seoul University) ที่มีอัตราการสอบเข้าที่ยากมาก ในแต่ละปีจะมีเด็กนักเรียนที่สามารถสอบเข้าได้เพียง 0.01% เท่านั้น ยิ่งยาก ยิ่งท้าทาย และถ้ายิ่งคว้าตำแหน่งที่หลายคนมองว่าเป็นจุดสูงสุดของสังคมมาได้ แน่นอนว่าทั้งครอบครัวและผู้คนรอบข้างก็ต้องชื่นชมและยอมรับกับความสำเร็จของพวกเค้า 
 

      โดยส่วนตัวพี่แอบคิดว่าแค่ชื่อละครของเรื่องก็แอบเสียดสีระบบการศึกษาในประเทศแล้ว เพราะว่าจากชื่อเรื่อง สังเกตได้ว่าเค้าใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ในคำว่า SKY ซึ่งในความหมายที่คนเกาหลีทั่วไปเข้าใจก็คือ เป็นชื่อย่อของ 3 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศ อย่าง Seoul University, Korea University และ Yonsei University นั่นเอง อย่างในละครก็พูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซลอยู่บ่อยครั้ง

 

 

       และเพื่อให้ลูกของตัวเองได้ยืนอยู่บนจุดพีระมิดสูงสุด เหล่าบรรดาแม่ๆ ของแต่ละครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นตัวละครหลักของเรื่อง พวกเธอล้วนสรรหาสารพัดวิธีเพื่อผลักดันลูกของตัวเองให้ไปอยู่ในจุดนั้นให้ได้ และจากความทะเยอะทะยานเหล่านี้ บางคนก็ได้เผยด้านต่างๆ ที่ซ่อนไว้ในจิตใจออกมา เพียงเพราะอยากให้ทำให้คนรุ่นก่อนภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นการรักษาหน้าตาทางสังคมของครอบครัวตัวเองเอาไว้ ซึ่งไม่รู้ว่าจุดนี้เป็นสิ่งที่ลูกของเค้าต้องการ หรือว่าพวกเค้าต้องการกันแน่ เมื่อความกระหายความสำเร็จที่ส่งตรงถึงตัวลูกยิ่งทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเค้าเองก็ไม่อาจรู้ตัวว่าความหวังดีที่ยัดเยียดให้นั้น ตอนนี้มันได้สร้างบาดแผลไปมากมายเท่าไหร่แล้ว 

 

 

       ในซีรีส์เรื่อง SKY Castle นอกจากจะพูดถึงประเด็นเรื่องการศึกษา และความเหลื่อมล้ำในสังคมเกาหลีแล้ว ส่วนตัวพี่รู้สึกว่าเรื่องนี้พูดถึงประเด็นครอบครัวได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะกับเรื่องการเลี้ยงดูลูกของแต่ละครอบครัว แต่นั่นก็อาจเป็นแค่เสี้ยวนึงที่เก็บได้จากซีรีส์เรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เด่นชัดและเชื่อว่าคนดูจะได้รับก็คือ การเข้าถึงส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ ถึงแม้ว่าคนดูแบบเราอาจจะไม่ดูในระดับหรือในสังคมเดียวกับตัวละคร แต่ก็แอบรู้สึกว่าเหตุการณ์บางอย่างมันอาจเกิดขึ้นกับมนุษย์ธรรมดาแบบบเราได้เช่นกัน และไม่ใช่แค่ในเกาหลีเท่านั้น เพราะตัวอย่างแบบนี้ก็แอบมีให้เห็นในสังคมไทยเหมือนกันนะครับ (บางทีอาจเกิดกับเรานี่แหละ แต่แค่ไม่รู้ตัว…)

 

 

       การที่ซีรีส์เรื่อง SKY Castle ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ ส่วนสำคัญที่สุดต้องยกเครดิตให้กับบทละครเลยครับ เพราะต้องบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีพระเอกนางเอกเหมือนซีรีส์ทั่วไป คนที่รับบทนำก็ล้วนเป็นนักแสดงเบอร์รอง หรืออาจเป็นนักแสดงสมทบที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ เมื่อบทดีบวกกับการคัดเลือกนักแสดงที่มีคาแรกเตอร์ตรงตามบท ไม่ได้เน้นดาราที่อยู่ในกระแส และแต่ละคนที่มาสวมบทบาทไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่หรือรุ่นเด็กก็แสดงออกมาได้ดีมากกกก คนดูเลยยิ่งอินเข้าไปใหญ่ และแต่ละตอนดำเนินเรื่องดีมากครับ มีเรื่องให้เซอร์ไพรซ์ตลอด ช่วงจบแต่ละตอนก็เหมือนทิ้งระเบิดให้คนดูอยากดูต่อไปอีก คือดีมาก! ไม่อยากสปอยล์มากกว่านี้แล้วอ่ะ ต้องไปดูกันนะครับ 

 

 

         อีกเรื่องที่พี่รู้สึกประทับในซีรีส์ SKY Castle คือเรื่องการกำกับภาพในแต่ละฉากนี่แหละ บอกเลยว่าภาพละครสวยมากกก สามารถแคปออกมาเป็นภาพนิ่งสวยๆ ได้เลย และในแต่ละฉากคือรู้เลยว่าทีมงานตั้งใจมาก ทั้งมุมภาพ การใช้สัญลักษณ์เพื่อสื่อถึงสถานการณ์และอารมณ์ของตัวละคร คือทำออกมาดีมาก ยิ่งซาวนด์ประกอบฉากที่เน้นใช้ดนตรีคลาสสิกก็สื่ออารมณ์ได้ดีสุดๆ ส่วนเพลงประกอบละครก็เรียกว่าไม่ผิดหวังเลย โดยเฉพาะกับเพลง We All Lie ถือว่าเป็นเพลงที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดของละครเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ เลยครับ
 

 

        อ่านมาถึงตรงนี้ น้องๆ คงคิดว่าพี่อวยเยอะมากกก (ก็ยอมรับตามตรงครับว่าอวยจริง 55555) ส่วนตัวคิดว่าปีนี้ SKY Castle ต้องกวาดรางวัลไปเพียบเลยล่ะ ใครที่ไม่อยากพลาดซีรีส์ดีๆ ต้องตามไปดูเรื่องนี้กันนะครับ ส่วนน้องๆ ที่ดูเรื่องนี้อยู่แล้วประทับใจฉากไหน หรือประเด็นอะไรในซีรีส์เรื่องนี้ อย่าลืมคอมเมนต์กันมาด้วยน้า พี่รออ่านรีวิวอยู่ ><