คุยกับ 'MAME' จากนักเขียนนิยายวาย
สู่การเป็นผู้จัดร่วมใน
'TharnType The Series' 

สวัสดีน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนค่ะ พี่แนนนี่เพนได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักเขียนสาวคนหนึ่งที่มีประวัติน่าสนใจเอามากๆ เธอเขียนนิยายวายมากว่าสิบปี มีผลงานนิยายวายมากกว่า 50 เรื่อง มีวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ศึกษาเกี่ยวกับนักเขียนนิยายวาย และมีซีรีส์วายที่สร้างจากนิยายของเธอเองด้วย โดยซีรีส์เรื่องแรกที่หลายคนน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือซีรีส์ 'บังเอิญรัก Love by Chance' ที่สร้างจากนิยายเรื่อง 'My Accidental Love is You รักนี้บังเอิญคือคุณ' ส่วนอีกเรื่องที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ตอนนี้ก็คือซีรีส์ 'TharnType The Series' ที่ดัดแปลงมากจากนิยายเรื่อง 'TharnType Story: เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ' ซึ่งเจ้าของผลงานเหล่านี้ ก็คือ พี่เมย์ หรือ MAME นักเขียนสาวคนเก่งของเรานั่นเอง 

โดยในครั้งนี้ พี่เมย์พลิกบทบาทครั้งสำคัญในแวดวงนักเขียน ด้วยการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้จัดร่วมในซีรีส์ที่สร้างจากนวนิยายวายของเธอเองด้วย! เรียกได้ว่าลงทุนลงแรงทำทุกอย่างด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น พี่แนนนี่เพนเลยถือโอกาสพาชาวเด็กดีทุกคนมาทำความรู้จักกับพี่เมย์อีกครั้ง มาตามดูกันว่าตั้งแต่ก้าวแรกของการเป็นนักเขียน สู่ก้าวต่อมาของการเป็นผู้จัด.. เป้าหมายของพี่เมย์คืออะไร? ทำไมต้องลงทุนลงแรงมากขนาดนี้? เราค้นหาคำตอบและตามติดชีวิตของพี่เมย์ พร้อมพูดคุยถึงซีรีส์วายเรื่องใหม่กับเหล่านักแสดงและผู้กำกับจาก 'TharnType The Series' กันค่ะ
 

"สวัสดีค่ะ สวัสดีชาวเด็กดีทุกคนนะคะ เมย์ค่ะ
เจ้าของนามปากกา MAME เป็นนักเขียนในเด็กดีมาประมาณสิบปีแล้วค่ะ"

จากนักอ่านสู่การเป็นนักเขียนเพราะถูกเพื่อนชวน

พี่เริ่มอ่านเด็กดีตั้งแต่ประมาณ ม.หนึ่ง ม.สอง พี่เป็นคนชอบอ่านนิยายอยู่แล้ว คืออ่านนิยายในห้องสมุด อ่านเยอะมาก แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากอ่านนิยายที่เป็นนิยายรัก หรือเป็นนิยายที่แบบหาไม่ได้ตามห้องสมุด เราก็เลยมารู้จักเด็กดี เราอ่านนิยายทุกวัน อ่านทุกเรื่อง อ่านทุกอย่างที่มีคนอัป อ่านๆๆๆ ทำแบบนี้จนเกือบๆ ม.หก เพราะช่วงนั้นต้องสอบเข้ามหา’ลัย เลยมีการห่างหายไปบ้าง แล้วก็กลับมาอ่านอีกทีตอนปีหนึ่งปีสองเลย ช่วงเวลานั้นเราได้เจอเพื่อนที่เป็นคอเดียวกัน แล้วเพื่อนก็บอกว่าทำไมเราไม่ลองเขียนดูล่ะ

ค้นพบโลกของสาววายเพราะอ่านแฟนฟิคเอสเจ

การเขียนนิยายวายของพี่เริ่มต้นมาจากแฟนฟิคเอสเจ (Super Junior) ตอนแรกสุดพี่เคยเขียนนิยายชายหญิงมาก่อน ลงเด็กดีด้วยนะแต่พี่จะไม่บอกนามปากกา ปล่อยมันตายไปแล้วกัน (หัวเราะ) เพื่อนคนเดิมที่เคยบอกให้พี่ลองเขียนนิยาย ก็แนะนำให้พี่รู้จักเอสเจ แล้วเมื่อก่อนเอสเจมีสมาชิกสิบสามคน การที่จะจำหน้าผู้ชายให้ตรงกับชื่อมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เพื่อนก็เลยแนะนำให้ลองไปอ่านนิยายดู เราก็เลยเข้าไปอ่านนิยายแล้วก็ติด ติดแบบรู้เลยว่านี่แหละโลกที่เราใฝ่หามาตลอด เพิ่งมารู้ว่าผู้ชายกับผู้ชายพอมันเป็นนิยายมันเป็นแบบนี้นี่เอง แล้วเราก็ชอบ พอชอบเสร็จปุ๊ป อ่านมากๆ เข้าก็อยากเขียน เท่านั้นแหละ นิยายชายหญิงที่เขียนมาก็ทิ้งเลย (หัวเราะ) ก็มาเริ่มเขียนนิยายวาย

ทำไมผู้หญิงถึงมาเขียนนิยายวาย? คือวิทยานิพนธ์ที่ศึกษาชีวิตนักเขียนของสาววาย

จริงๆ มันมีจุดเริ่มต้น ตอนที่พี่เรียนปริญญาโท พี่เรียนวารสารฯ ธรรมศาสตร์ แล้วพี่เรียนวิชาหนึ่ง อาจารย์ให้ลองเขียนบทที่หนึ่งถึงบทที่สามดู ว่าเราสนใจอยากทำธีสิส (Thesis) เรื่องอะไร เราบอกอาจารย์ตรงๆ ตั้งแต่คาบแรกเลยว่า เป็นนักเขียนนิยายนะคะ เขียนนิยายวายด้วย อาจารย์ก็เลยถามว่าแล้วทำไมไม่ลองทำธีสิสที่เกี่ยวกับนิยายวายดูล่ะ เราเลยบอกว่าอยากทำ แต่ไม่รู้ว่าจะทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร อาจารย์ก็เลยบอกว่า ธีสิสที่ทำเกี่ยวกับนิยายมีเยอะแล้ว แต่ยังไม่มีใครทำเกี่ยวกับการเป็นผู้ส่งสารเลย เราก็เลยรู้สึกว่า ใช่ มันคือตัวตนของเรา เราเป็นนักเขียนนิยายวาย เรารู้เกี่ยวกับนิยายวาย เรารู้เกี่ยวกับคนผลิตผลงานนิยายวาย แล้วทำไมเราไม่ลองเอาสิ่งที่เรารู้มาทำธีสิสดูล่ะ (อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ 'เปิดวิทยานิพนธ์ 'MAME' เผยที่มาของผู้หญิงหัวใจ 'วาย (Yaoi)' ผ่านอาชีพนักเขียนนิยายชายรักชาย')

นิยายวายดึงดูดนักอ่านผู้หญิงด้วยอุปสรรคเรื่อง ‘เพศ’

ด้วยความที่พี่เป็นผู้หญิงใช่ไหม เรามีกรอบบางอย่างที่เราไม่สามารถเข้าไปในแวดวงของผู้ชายได้ มันก็เลยทำให้เราอยากรู้ว่า ในตรงนั้น ในจุดนั้น ถ้าเขามีความรักกัน มันจะเป็นยังไง แล้วพี่เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนชอบเรื่องความรัก แล้วการที่ความรักมีอุปสรรคมันทำให้ความรักสวยงาม แล้วชายกับชาย อุปสรรคที่พี่มองเห็นก็คือเรื่องเพศ ผู้หญิงหลายคนก็เลยชอบที่จะเข้าไปอ่าน อยากรู้ว่าเขาก้าวผ่านอุปสรรคไปได้ยังไง

 

สาววายกลายเป็นนักเขียนเพราะชื่นชอบความรักของชายกับชาย

ผู้หญิงที่เข้ามาเขียนนิยายวายบางส่วนหรือส่วนใหญ่เป็นสาววาย คือชื่นชอบความรักของผู้ชายด้วยกัน ผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปในกรอบของผู้ชายได้ สิ่งที่สามารถดึงเราเข้าไปได้คือ ‘จินตนาการ’ คือการสร้างตัวละคร และโลกที่เราเป็นคนสร้าง ที่เราเป็นคนเขียนขึ้นมา

ความรักมักประกอบไปด้วยเรื่อง ‘เพศ’ - ไม่ใช่แค่นิยายวาย

นิยายวายกับ NC (Not suitable for Children) พี่ว่าแยกกันยาก พี่พูดตรงๆ ว่าแยกกันยาก ด้วยความที่นิยายวายก็คือผู้ชายสองคน ว่ากันตามตรง ไม่ได้ลามกนะ (หัวเราะ) พี่รู้สึกว่าการที่นิยายวายมีฉาก NC เป็นเรื่องปกติ แล้วเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรักทุกอย่างมันประกอบไปด้วยเรื่องเพศ เรื่องบนเตียง จะระเบียง ห้องนอน หรืออะไรก็แล้วแต่ พี่คิดว่ามันประกอบไปด้วยส่วนนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความรักชายหญิง หรือชายชาย พี่ว่ามันมีหมด เพียงแต่ผู้ชายกับผู้ชายอาจจะนำเสนอชัดเจน แล้วก็บ่อยครั้งมากกว่า

นิยายวายก้าวพ้นอุปสรรคเรื่อง ‘เพศ’ และได้รับการยอมรับมากขึ้น

นักเขียนรุ่นใหม่ไม่ได้มองเรื่องเพศแล้ว ในช่วงสิบปีนี้ที่ผ่านมาจากตอนที่พี่เขียนนิยายวายตอนแรก ช่วงปีแรกๆ กับช่วงสิบปีนี้ พี่ว่าการยอมรับ หรือการเปิดกว้างมันต่างกัน พี่ว่าในสมัยที่พี่เขียน นิยายวายแทบทุกเรื่องจะมีเรื่อง ‘พ่อแม่กีดขวางเรื่องความรัก’ ‘เราเป็นผู้ชายด้วยกันไม่สามารถรักกันได้’ แต่ปัจจุบันพี่คิดว่ามีการนำเสนอที่แตกต่างขึ้น มีการยอมรับว่าเพศชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน ก็เป็นเพศหนึ่ง เป็นรสนิยมอย่างหนึ่งที่ไม่ผิด  

จุดเริ่มต้นของนักเขียนมาจากการเป็น ‘นักอ่าน’

พี่ว่านักเขียนทุกคนนะ เริ่มต้นมาจากการอ่าน เพราะว่าการอ่านทำให้เรารู้สึกอยากเขียน เราอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวที่คนอื่นไม่เคยถ่ายทอด หรือถ่ายทอดในรูปแบบที่เราไม่ชอบ หรือเราอยากถ่ายทอดอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา การที่เราเป็นนักอ่านมาก่อนทำให้เรามีประสบการณ์ มีคลังคำ หรือมีรูปแบบการเขียนที่รู้ว่าแบบนี้แหละคือ ‘รูปแบบของนิยาย’ พอเราเริ่มต้นลงมือเขียน เราจะมีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้

อยากเป็น ‘นักเขียน’ ต้องเริ่มจากการอ่านและลงมือเขียน

พี่คิดว่าส่วนหนึ่งคือการอ่านสำคัญ เมื่อเราอ่านแล้วให้เราค้นหาว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร เราอยากเขียนเรื่องอะไร มีแนวที่เราชอบไหม ถ้าเราหาเจอก็อยากให้ลอง ลองเขียนดู อย่าคิดแค่อยาก ความอยากไม่สามารถสร้างนิยายเล่มหนึ่งขึ้นมาได้ เราต้องลองมือเขียน

การเขียนนิยายคือการ ‘เริ่มต้นใหม่’ ทุกครั้ง

คือพี่มีอาจารย์คนหนึ่งชื่อ ‘กัลฐิดา’ อาจารย์กัลฐิดาสอนพี่มาจะสิบปีละ สิ่งสำคัญที่สุดของการเขียนนิยายก็คือ ‘เราลงมือเขียน’ เราเขียนพันคำ หมื่นคำ ล้านคำ ทุกครั้งที่เราเขียนมันคือการพัฒนา เราอาจจะค่อยๆ คลานไปยังจุดมุ่งหมายว่าเราต้องการภาษาแบบนี้ แต่เราทำไม่ได้ในเล่มแรก เล่มต่อไปก็พยายามสิ ทำใหม่สิ ‘การเขียนนิยายคือการเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง’ เมื่อเรารู้สึกว่าเล่มนี้เราทำไม่ได้ เรามีโอกาสครั้งต่อไปในการเขียนเล่มต่อไป มันไม่ใช่ความล้มเหลว มันคือการพัฒนาอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่อยากจะฝากถึงนักเขียนทุกคนคือ สู้นะคะ เขียนต่อไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เขียนให้จบค่ะ

กระแสนิยายวายมาแล้วก็ไป แต่ความมุ่งมั่นและความพยายามจะคงอยู่ตลอดไป

ถ้าเรารัก เราชอบที่จะเขียนนิยายวาย ก็จงเขียน พี่คิดว่ากระแสเป็นสิ่งที่มาแล้วก็ไป แต่ว่าถ้าเรามีความมุ่งมั่นมากพอ เราพยายามกับทุกผลงานที่เราทำ เมื่อเราทำดีที่สุดแล้ว เชื่อเถอะค่ะว่านักอ่านจะรับรู้ความพยายามของเรา รับรู้ว่าเราพยายามเต็มที่กับตรงนั้น แล้วเขาจะรักนิยายของเราเอง

   

อย่างที่พี่เมย์บอกเลยค่ะ กระแสนิยายวายมาแล้วก็ไป แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของนักอ่านก็คือผลงานและความพยายามของนักเขียนค่ะ ซึ่งพี่แนนนี่เพนเชื่อว่ากระแสนิยายวายจะยังอยู่ในประเทศไทยอีกนาน เพราะฉะนั้น ใครที่อยากเป็นนักเขียนนิยายวายก็ต้องมุ่งมั่นและไม่ละความพยายามนะคะ.. มาต่อกันที่นวนิยายที่กำลังจะสร้างเป็นซีรีส์กันค่ะ 'TharnType Story: เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ' เป็นพล็อตที่น่าสนใจมาก บางคนก็บอกว่าโลกสวยไปไหม คนเกลียดกันจะรักกันได้ยังไง ความรักของชายกับชายจะเกิดขึ้นท่ามกลางความเกลียดได้จริงเหรอ? เรามาหาคำตอบจากพี่เมย์กันเลยค่ะ 

'ธารไทป์' เป็นเรื่องราวของรุ่นพี่จากเรื่องบังเอิญรัก

จริงๆ แล้วธารไทป์เป็นรุ่นพี่ของบังเอิญรักค่ะ ถ้าบังเอิญรักเป็นตอนที่เอ้พีทอยู่ปีหนึ่ง ธารไทป์เนี่ยจะอยู่ปีสี่ เพราะฉะนั้นเป็นการเล่าย้อนมาตอนที่พวกเขาสองคนอยู่ปีหนึ่งนั่นเอง

เมื่อคนเกลียดเกย์ต้องมาอยู่ห้องเดียวกับเกย์!

ธารไทป์เป็นเรื่องราวของผู้ชายสองคนที่ต่างขั้วกันค่ะ ผู้ชายคนหนึ่งมีอคติกับเกย์ แต่อีกคนหนึ่งคือเกย์ตัวพ่อเลย เมื่อพวกเขามาเจอกัน แล้วก็ต้องมาอยู่ร่วมกันในห้องเดียวกัน เมื่อคนเกลียดกันสองคนมาเจอกัน อยู่ด้วยกันในห้องเดียวกัน พวกเขาจะรักกันยังไง นี่คือจุดสำคัญของเรื่องนี้

'ผู้ชายชอบผู้ชายไม่ได้เลวร้ายทุกคน'

คือจริงๆ แล้วต้องบอกว่า ‘ไทป์’ เขามีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาเกลียดเกย์ ตอนสมัยที่เขายังเป็นเด็กเขาถูกล่วงละเมิดทางเพศ มันก็เลยทำให้เขาฝังใจแล้วเขาก็ใช้กรอบของคำว่า ‘เกลียด’ มาแสดงออก มาร้ายใส่คนที่เป็นรักร่วมเพศ หรือคนรักเพศเดียวกัน ขณะที่ ‘ธาร’ เป็นผู้ชายที่เป็นเกย์ ยอมรับเลยว่าตัวเองชอบผู้ชาย แล้วธารเป็นคนที่เข้ามาทำให้ไทป์เปลี่ยนทัศนคติว่า ‘ผู้ชายชอบผู้ชายไม่ได้เลวร้ายทุกคน’

กำแพงความ 'เกลียด' พังได้เพราะ 'ความดี' 

ต้องบอกว่าน่าจะเป็น 'ความดี' ของพระเอกค่ะ พระเอกของเราถึงแม้ว่าภายนอกจะมองว่าใครก็ได้หมด แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่โหยหาความรัก เขาอยากได้คนที่รักใครแล้วก็รักจริง รักเขาจริงๆ เพราะว่าเขาเคยผิดหวังเรื่องความรักมาแล้ว ไม่ว่าคบใครก็ไม่เคยคบได้นาน ก็เลยอยากได้ใครสักคนที่เข้าใจเขาจริงๆ และรักเขาจริงๆ แล้วไทป์เป็นคนที่เข้าไปดูแล เข้าไปปกป้องจนรู้สึกว่าอยากได้คนๆ นี้มารักเขา

ความรักของชายกับชาย 'เป็นไปได้' บนโลกใบนี้ 

คิดว่ามันเป็นเรื่องยาก มีโอกาสน้อยที่จะเกิดขึ้นจริง แต่ถามว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยไหม พี่ว่าไม่น่าใช่ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้บนโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นการที่ผู้ชายแท้ๆ คนหนึ่งจะเปลี่ยนตัวเองไปรักไปชอบผู้ชายด้วยกัน.. ก็ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมคะ (หัวเราะ)

ความรักคือการเติมเต็มซึ่งกันและกัน

มันคือความแตกต่างที่ลงตัวค่ะ เมื่อผู้ชายคนหนึ่งที่สุดขั้ว ขั้วหนึ่ง มาเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่สุดขั้ว อีกขั้วหนึ่ง เมื่อเขามาอยู่ตรงกลาง หาจุดร่วมร่วมกัน นั่นคือส่วนที่ทำให้พวกเขามารักกันค่ะ เมื่อธารต้องการผู้ชายคนหนึ่งที่รักเขาจริง แล้วเมื่อมาเจอไทป์ที่มอบหัวใจให้แล้ว เขาทำทุกอย่างนะ ทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายคนนี้ แม้ว่าภายนอกไทป์จะปากร้าย อารมณ์ร้อนก็ตาม แต่เขาก็ทำเพราะรักธาร ในขณะที่ธารเองแม้ว่าจะเป็นผู้ชายที่โหยหาความรัก แต่ว่าข้างในเขาก็มีความอ่อนแอ แต่เมื่อเขาเจอกับไทป์ ก็เป็นความลงตัวที่แตกต่าง

แค่เพียง 'เปิดใจก็จะเห็นมุมมองที่มากกว่าความ 'อคติ'

คนอ่านน่าจะได้เกี่ยวกับเรื่องทัศนคติค่ะ บางสิ่งบางอย่างเมื่อเราเปิดใจแล้ว เราจะรู้ว่า ‘สิ่งที่เราเคยเกลียดอาจจะดีกว่าที่คิด’ หรือ ‘สิ่งที่เราไม่ชอบอาจจะมีข้อดีบางอย่าง’ มีมุมมองบางอย่าง หรือขณะที่ผู้ชายคนหนึ่งที่แสดงทัศนคติแย่ๆ ทำไมไม่ลองมองให้ลึกลงไปล่ะ ว่าจริงๆ แล้วทำไมเขาถึงมีทัศนคติแบบนั้น เขาอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เก็บไว้ข้างในก็ได้


มิว - กลัฟ นักแสดงนำผู้รับบท ธาร - ไทป์ จาก TharnType The Series

ผันตัวมาเป็นผู้จัดร่วมใน TharnType The Series เพราะอยากทำนิยายออกมาเป็นซีรีส์ให้ดีที่สุด 

คือจริงๆ แล้วสาเหตุที่พี่อยากทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ด้วยตัวเอง แล้วก็มีส่วนกับการเป็นผู้จัดด้วย เพราะว่าพี่อยากเห็นนิยายที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบที่พี่อยากเห็นในหัว เป็นสิ่งที่เราอยากทำให้เกิดขึ้นจริง โดยที่ยังคงกลิ่นอายของธารไทป์เอาไว้อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่เราสามารถกำหนดได้ ควบคุมได้ แล้วอยากทำความฝันนี้ให้เป็นจริงด้วยตัวเอง

ทำให้เต็มที่! แม้จะกดดันจากซีรีส์บังเอิญรัก 

พี่คิดว่า.. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนพี่ก็กังวลนะ แล้วก็มีความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญรัก หรือธารไทป์ หรือเป็นบังเอิญรักซีซั่นสอง ถ้าได้ทำ พี่ก็จะมีความกังวลเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเคยทำแล้วโด่งดังมีชื่อเสียงมาก่อน แต่ว่าการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็แล้วแต่ มันมีความกดดันทั้งนั้น มันมีความคาดหวังทั้งคนดู ทั้งคนที่เคยอ่านนิยาย พี่คิดว่าสิ่งที่เราทำได้ก็คือทำให้เต็มที่ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เรารอดูผลกันตอนนั้น แต่เราขอทำแค่ตรงจุดนี้ให้เต็มที่ก่อน

จากใจนักเขียน นักแสดงตรงตามคาแรกเตอร์ที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว!

มีแคสติ้งนักแสดง ดูคาแรกเตอร์ เขียนบท แล้วก็เข้าไปดูเวิร์คชอปค่ะ เอาจริงๆ ก็ดูหลายอย่าง เรียกว่าควบคุมหลายอย่างเลยค่ะ ค่อนข้างชอบนะคะ ก็จะเป็นโจทย์ให้น้องๆ ว่าจะทำยังไงให้เป็นคาแรกเตอร์ที่พี่อยากเห็น ซึ่งอันนี้ก็ต้องคาดหวังว่าน้องๆ จะทำออกมาได้เต็มที่ค่ะ แต่ถ้าให้พูดถึงบุคลิกภายนอก  พี่คิดว่าตรงที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว

คาดหวังฉาก 'จูบกันครั้งแรก' เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก

ฉากที่พี่คาดหวังมากที่สุดคือ ฉากในร้านเหล้าที่เขาจูบกันครั้งแรกอย่างเต็มใจ เป็นครั้งแรกที่ไทป์ยอมเงยหน้าขึ้นไปรับจูบธาร ซึ่งครั้งนั้นคือการเปิดใจของเขาเต็มที่ ไม่ใช่การบังคับ ไม่ใช่การเอาอารมณ์ร้ายๆ มาใส่กัน มันคือจุดเริ่มต้นของความรักจริงๆ พี่อยากเห็นฉากนั้นออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ฝากซีรีส์ TharnType The Series กับชาวเด็กดี

ขอฝากชาวเด็กดีด้วยนะคะกับซีรีส์เรื่องนี้ TharnType The Series จากนวนิยายเรื่อง TharnType Story เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ พวกเราทีมงาน นักแสดง ผู้จัด ทุกคนเต็มที่มากๆ ก็ขอฝากซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
 

หลายคนที่ติดตามผลงานของพี่เมย์มานาน น่าจะทราบกันดีว่า เอ้-พีท จากซีรีส์บังเอิญรักกับ ธาร-ไทป์ จากธารไทป์เดอะซีรีส์ เป็นเพียงเรื่องราวในจักวาลเดียวกันเท่านั้น ไม่นับว่าเป็นภาคต่อ ซึ่งทางผู้จัดได้มีการคัดเลือกนักแสดงกันไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง และวันนี้พี่เมย์ในฐานะผู้จัดร่วม ก็ได้พานักแสดงและผู้กำกับมาร่วมพูดคุยกับเราในวันนี้ด้วย แอบกระซิบว่าแต่ละคนน่ารักมาก (กอไก่ล้านตัวเลยจ้า) มาตามดูกันเลยค่ะ

'การเมืองเรื่องเพศ' กับ ตี๋-บัณฑิต สินธนภารดี ผู้กำกับธารไทป์เดอะซีรีส์

ผมเคยผ่านงานเขียนบท หนังสั้น หนังยาว เอ็มวีมาบ้าง แต่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้รับโอกาสเข้ามาทำครับ ด้วยความที่ผมเป็น LGBT ก็จะเข้าใจมุมมอง ทัศนคติ ความรักในเพศเดียวกัน เข้าใจอยู่ประมาณหนึ่ง ผมอยากให้มองว่ามันเป็นความลื่นไหลทางเพศมากกว่า อยากให้มองว่าทุกคนลื่นไหลได้ ทุกคนสามารถรักกันได้ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ใช้ใจในการรักคนๆ หนึ่งอยู่แล้ว ฉะนั้น ถ้าคุณเอาแต่มองเรื่องเพศ ผมว่ามันค่อนข้างจะกำหนดกรอบตัวเองไปหน่อย ถ้าคุณจะรักใครสักคนก็รักไปเลย 

สำหรับธารไทป์เดอะซีรีส์.. ผมมองว่าซีรีส์เรื่องนี้มีความเป็นการเมืองเรื่องเพศประมาณหนึ่งเลยครับ คือ มันเป็นการดำรงอยู่ในหอเดียวกันของคนที่เกลียดเกย์ แล้วก็คนเป็นเกย์ คือเป็นการเถียงกันระหว่างคนสองคน สองทัศนคติ ซึ่งผมว่าตรงนี้มันมีความต่างบางอย่างอยู่ มันไม่ใช่แค่การขายจิ้นขายวายอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องของทัศนคติของคนสองคน มันเป็นเรื่องของตัวตนของเรามากกว่า ว่าจริงๆ แล้วตัวตนของเราต้องการอะไร ผมว่าต้องไปดูในซีรีส์ครับ มันจะมีหลายๆ อย่างที่ทำให้เราเข้าใจตัวละครมากขึ้น มันสนุกประมาณหนึ่งเลยเท่าที่ผมอ่านมาจากในนิยาย 

มิว - ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ กับความท้าทายในบท 'ธาร' เกย์ตัวพ่อที่ต้องมาอยู่ร่วมห้องกับคนเกลียดเกย์ 

ตอนรู้ว่าได้รับบท 'ธาร' ดีใจมากครับ เป็นโอกาสที่ดีที่ผมได้มารับบทธาร ผมว่าบทนี้ท้าทายมากครับ ตัวละครมีทั้งความที่เหมือนผมและก็มีส่วนที่ไม่เหมือน ธารเป็นคนรักเดียวใจเดียว มีความสุขุม ใจเย็น คล้ายๆ กับผม แล้วก็ข้างในจะมีความเรื่องมากในบางเรื่อง ตัวละครธารจะทุ่มเทกับสิ่งที่ชอบมาก ในเรื่องธารจะทุ่มเทไปทางดนตรีอย่างเดียวเลย เหมือนผมที่เป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับการแสดง เวลาที่ผมได้ดูซีรีส์ ได้ดูหนัง ผมก็มีความสุขละ การที่ผมได้มาเล่นซีรีส์ ได้มาถ่ายงาน ผมก็รู้สึกแฮปปี้มากแล้วครับ 

ส่วนที่ยากในตัวละครนี้คือ เขาเรียนดนตรีมา เรียนมหา'ลัยดนตรี เขามีความสามารถทางดนตรีสูงมาก ตีกลองชุดเก่งมาก เล่นกีตาร์เก่ง เล่นเปียโนเก่ง ตรงนี้ผมต้องไปทำการบ้านหมดเลย ซึ่งผมก็ต้องรอเวิร์คช็อปกลอง เพราะคงหากลองชุดที่บ้านไม่ได้ ที่ฝึกเองได้ก็มีเปียโน กับกีตาร์ครับ อย่างกีตาร์ก็พอเล่นได้บ้าง คือฝึกเองอยู่แล้ว ส่วนเปียโนก็ต้องหาเวลาฝึก อีกฉากที่ยากสำหรับผม เป็นฉากที่ตัวละครธารรู้สึกอกหักครับ เขาไม่ใช่คนที่จะร้องไห้โฮออกมาให้ใครเห็น มันคือความรู้สึกแบบเก็บอยู่ข้างในลึกๆ แล้วเราไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ตามตัวละคร ก็ต้องเข้าถึงตัวละครมากกว่านี้ 

ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากมีความจิ้นตามสไตล์ของพี่เมย์ที่เขียนฉากจิ้นได้ดีมากๆ แล้วก็มีเรื่องต่างๆ ที่สามารถสอนได้ ทั้งเรื่องการเหยียดเพศ อย่างไทป์ที่เกลียดเกย์มากๆ ถึงขั้นเหยียดเลย แต่ธารเป็นคนที่ค่อยๆ ทำให้ไทป์พัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ จากคนที่เหยียดเพศ.. แล้วในอนาคตจะเป็นยังไงก็อยากจะให้ติดตามดูครับผม 

กลัฟ - คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ กับตัวตนที่ค่อนข้างตรงกับคาแรกเตอร์ของ 'ไทป์' 

การได้มาเล่นในซีรีส์วายถือเป็นการเปิดประสบการณ์เราไปด้วย เพราะว่าเราก็ไม่เคยมีผลงานด้านซีรีส์มาก่อน แล้วซีรีส์เรื่องแรกก็เป็นซีรีส์วายเลย ก็เป็นความท้าทายอีกแบบหนึ่งเหมือนกันครับ 

ตัวไทป์จะเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง หัวร้อนง่าย มีความเป็นผู้นำสูงครับ แล้วก็เล่นกีฬาเก่ง ถามว่าเหมือนผมไหม? ผมเป็นคนชอบเตะบอลอยู่แล้ว ก็จะตรงกับคาแรกเตอร์ของไทป์ ส่วนหัวร้อน ขี้หงุดหงิด ก็จะมีบ้างครับ ใจร้อนนี่ก็ถือว่าตรงนะครับ (หัวเราะ) เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่ไม่ชอบเพศที่สาม แต่ตอนสุดท้ายได้มาลงเอยกับเพศที่สาม ถ้าใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงก็ฝากติดตามธารไทป์เดอะซีรีส์ด้วยครับผม 

ก้าวหน้า - กิตติภัทร แก้วเจริญ รับบท 'หลง' เฟรนด์โซนที่แอบรักธารอยู่ฝ่ายเดียว 

ตอนที่ก้าวรู้ว่าก้าวได้รับบทหลงคือดีใจมากๆ ครับ เพราะเรายังไม่มีผลงานด้านการแสดงมาก่อน ก้าวคิดว่าบทหลงเป็นบทที่ท้าทายแล้วก็ยากมากเลยครับ เพราะว่ามิติของตัวละครลึกมาก ทั้งการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเป็นยังไง ภายในจิตใจเราเป็นยังไง มันตรงข้ามกันไปหมดเลยครับ มันทำให้เราต้องทำการบ้านหนักมากๆ เพื่อที่จะเล่นบทนี้ เพราะว่าหลงเป็นคนที่ร้องเพลงเก่งครับ เป็นนักร้องนำของวงดนตรีที่อยู่กับธาร เป็นคนที่รักเพื่อนมากๆ แล้วก็คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอดแต่พอมีธารเข้ามาทำให้รู้สึกว่าธารนี่แหละที่จะอยู่กับเราไปตลอด ก็เลยจะรักเพื่อน หวงเพื่อนมากครับ หลงเป็นคนที่แอบหลงรักธารอยู่ฝ่ายเดียวครับ เฟรนด์โซนนิดๆ (หัวเราะ) ก้าวคิดว่าแรกๆ คนดูน่าจะชอบตัวละครนี้นะครับ อยากให้ติดตามครับว่าจริงๆ แล้วหลงเป็นคนแบบไหน 

ต๋อง - ธนายุทธ  ฐากูรอรรถยา รับบท 'ธร' พี่ชายที่เข้าใจความรู้สึกของธาร

ผมไม่ได้มาจากการออดิชันเพราะฉะนั้นตอนที่ได้รับบทเลยรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายและน่าสนใจมากๆ เลยครับ ตัวธรจะเป็นพี่ชายคนโตของบ้านครับ เป็นคนที่รักครอบครัว รักน้อง เขาจะต้องมีความรับผิดชอบที่ต้องดูแลน้อง ก็เลยต้องสุขุม มีความนิ่งเป็นผู้ใหญ่นิดหนึ่งครับ ตัวผมเองก็มีน้องสาวอยู่ เพราะงั้นก็จะมีความใกล้เคียงกับตัวละครนี้อยู่บ้าง ตัวธรจะเป็นคนที่ดูแลธารมาตั้งแต่เด็ก ก็จะรับรู้ความรู้สึกของธาร ผมว่าตัวละครทุกตัวมีมิติของมันอยู่แล้ว เขาจะมีความคิดและทัศนคติที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เขาจะมีปูมหลังต่างกันหมดเลย แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านเพราะปูมหลังของตัวละครต่างกันหมดเลย แล้วธรเนี่ยก็จะมีปูมหลังเหมือนกัน อยากฝากให้มาลองติดตามดู 

ตี๋มายด์ - สุทธิณัฐ อึ้งตระกูล รับบท 'เทคโน' ตัวละครที่จะทำให้ทุกคนรู้จักคำว่าเพื่อนแท้ 

ตอนรู้ว่าได้บทคือดีใจที่ได้รับโอกาสครับ บทที่ผมได้รับไม่ค่อยเหมือนกับคนอื่นเลย เรียกว่าไม่เหมือนเลยดีกว่า คนอื่นเขาจะมีมุมสุขุมนุ่มลึก เบื้องลึกเบื้องหลังเยอะแยะ แต่บทที่ผมได้ก็ค่อนข้างตรงกับผมเยอะอยู่นะ เทคโนเป็นคนรักเพื่อน เป็นคนที่แบบเฟรนด์ลี่ตลอดเวลา เป็นที่รู้จัก เป็นที่รักของทุกคน ในซีรีส์เรื่องนี้เรียกว่ามีบทบาทเยอะอยู่เหมือนกัน ธารไทป์เป็นเรื่องเกี่ยวกับมหาลัย ถ้าตัดเรื่องความรักความใคร่ออกไป มันก็จะเป็นความรักของเพื่อนที่เกิดขึ้นเยอะมากๆ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้จะสอนให้รู้ว่าการรักเพื่อนมันคือความรักที่แท้จริงมากๆ ครับผม 

โบ๊ท - ณภัทร สีนาคล้วน รับบท 'แชมป์' กามเทพของธารไทป์

ตอนที่ได้รับบทคือดีใจมากครับ เพราะว่าเป็นผลงานชิ้นแรกด้วย ตัวละครที่ได้รับมีบทที่ค่อนข้างสบายๆ ครับ เป็นคนที่รักเพื่อน ไปไหนไปกัน แล้วก็อดีตเป็นนักมวยก็จะชอบต่อยตีนิดหนึ่ง ซึ่งบทที่ได้รับคือน้อยมากที่จะเหมือนตัวผม (หัวเราะ) ด้วยตัวละครแชมป์เป็นตัวละครที่ค่อนข้างชิลมาก เป็นหนึ่งในตัวเชื่อมไทป์กับธาร ให้พวกเขามารักกัน แต่เราอาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังในหลายๆ เรื่อง ก็เลยรู้สึกว่าบทนี้ยากอยู่เหมือนกันครับ 

ไฮเตอร์ - ณัฏฐ์ธรรศ คุณากรเกียรติ รับบท 'ตั้ม' พี่ชายที่รักน้องมาก

ตอนที่รู้ว่าได้รับบทตั้มคือเซอร์ไพรซ์มากครับ ตื่นเต้นหน่อยๆ เพราะว่าตั้มเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีเสน่ห์ในตัว มีเอกลักษณ์ครับ ตั้มเป็นพี่ชายของต้า ซึ่งต้าจะเป็นแฟนเก่าของธาร แล้วธารจะเป็นเพื่อนสนิทของเราที่เคยทำวงดนตรีร่วมกันมาก่อน เรารู้สึกว่าเราต้องทำการบ้านหนักๆ เลย เพราะว่าตั้มเป็นตัวละครที่ไฮรู้สึกว่าเขามีความพิเศษครับ มีความยากในแบบที่เราอาจจะไม่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน 

ตัวตั้มเนี่ย จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะขรึมๆ เงียบๆ เป็นคนที่รักครอบครัวมาก รักน้องชายมาก แต่ในใจลึกๆ แล้วเขาเป็นคนสนุกสนานร่าเริง มีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อนครับ แต่ภายนอกที่เขาแสดงออกมาทำให้คนคิดว่าเขาหยิ่ง ซึ่งต่างกับไฮอยู่เหมือนกัน เพราะไฮเป็นคนที่ค่อนข้างร่าเริง สนุกสนาน ตลอดเวลาครับ แต่ว่าตัวตั้มเวลาที่เขาต้องอยู่กับคนทั่วไป หรือคนที่เขาไม่รู้จัก จะค่อนข้างเงียบขรึม พูดน้อย แต่เราจะค่อนข้างเป็นคนพูดมาก (หัวเราะ) ก็อยากให้ทุกคนลองดูซีรีส์เรื่องนี้ ในแบบที่เคยเป็นนิยายกับในแบบที่เป็นซีรีส์ จะสนุกสนานแตกต่างกันยังไง ก็ฝากติดตามด้วยครับ 

ก๊กเลี้ยง - ปริญญา อังสนันท์ รับบท 'ต้า' ตัวป่วนของพี่ธาร

ตอนที่รู้ว่าได้บทต้าก็ร้องอู้หูเลยครับ (หัวเราะ) เพราะต้าเป็นเด็กคนหนึ่งที่เคยเป็นแฟนเก่าของพี่ธาร ก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตพี่ธารบ่อยเหมือนกัน บทต้ามีตรงกับผมอยู่เหมือนกันครับ แต่ที่ไม่ค่อยตรงคือประสบการณ์ที่ต้าเจอ เพราะในเรื่องก็จะลึก แล้วก็ยากอยู่นะ (หัวเราะ) ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปเจอได้ครับ ถึงบทของต้าจะออกมาไม่เยอะ แต่ผมก็ทำการบ้านไปเยอะเหมือนกัน ก็อยากฝากถึงความตั้งใจของพวกเราไว้ด้วยครับผม

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ทางพี่เมย์และสำนักพิมพ์ Deep จากเครือสถาพรมีหนังสือมาแจกฟรีถึง 5 เรื่อง 5 รางวัลกันเลยทีเดียว เพียงเข้ามาดูคลิปด้านล่างนี้ ก็ร่ร่วมสนุกลุ้นหนังสือนิยายที่อยากอ่านได้ง่ายๆ เพียงแค่ 

1. กด Like & Share คลิป "คลินิกนักเขียน EP.5 ตอน MAME: ทำไมผู้หญิงถึงมาเขียนนิยายวาย?" ในเพจนักเขียนเด็กดี Dek-D Writer (คลิกได้เลย)
2. คอมเมนต์ชื่อนิยายเรื่องที่อยากได้มากที่สุด 

  • ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันพุธที่ 27 มีนาคม - วันพุธที่ 3 เมษายน 2562 ภายใน 23.59 น.
  • ประกาศผลวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2562 ภายใน 17.00 น. 
     

ติดตามรายชื่อนิยายได้จากในคลิปค่ะ

Clip

ทำไมผู้หญิงถึงมาเขียนนิยายวาย

***สงวนสิทธิ์สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมภายในคลิปนี้เท่านั้น ผู้โชคดีที่ไม่มายืนยันตัวภายใน 3 วัน ทางทีมงานขอสละสิทธิ์มอบรางวัลให้กับผู้โชคดีคนต่อไปนะคะ***

อ่านครบจบในบทความเดียว! รู้จักพี่เมย์ตั้งแต่เริ่มเป็นนักเขียนจนกระทั่งบทบาทการเป็นผู้จัดร่วม ที่มีส่วนช่วยในซีรีส์แทบทุกส่วน ไม่ต้องกลัวว่านักแสดงจะไม่ตรงตามจินตนาการ เพราะพี่เมย์บอกแล้วว่านักแสดงทุกคนตรงที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว! แถมน้องๆ นักแสดงแต่ละคนก็น่ารักกันมากๆ เลยใช่ไหมคะ พี่แนนนี่เพนจะตั้งตารอ 'TharnType The Series' แน่นอน! เพราะจากการพูดคุยกับพี่เมย์ นักแสดง และผู้กำกับในวันนี้ ทำให้พี่เห็นถึงความตั้งใจจริงของทุกคนที่อยากจะสร้างผลงานดีๆ ออกมา ซึ่งพี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ และหวังว่าชาวเด็กดีจะมีความสุขเมื่อได้อ่านบทความนี้ค่ะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ 

พี่แนนนี่เพน

หน่วยกล้าวาย นักเขียนที่กล้าเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง! เพราะอยากให้คนรู้จัก 'เกม'

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด