หากวันหนึ่งไอดอลที่เราจิ้นเป็นคู่ชิปกลายเป็นคู่จริงขึ้นมา วันนั้นเราจะรู้สึกยังไงนะ คงจะฟินกันน่าดูเหมือนกับเหล่าชิปเปอร์จากนิยายเรื่อง “ย้อนเวลาเริ่มรัก” ที่กรีดร้องดีใจกันจนเป็นลมที่จู่ๆ คู่จิ้น “จุนซึล” ก็ออกมาประกาศว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบคนรักกัน!
(แค่จินตนาการตามว่าคู่ชิปของเราจะออกมาประกาศความสัมพันธ์กันแบบพระเอกนายเอกเรื่องนี้
ก็ฟินไปยันโลกหน้าแล้วจ้า ฮือออ)
แต่กว่าที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเดินมาถึงจุดนี้ได้นั้น บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย! กูซึลต้องเผชิญกับความเจ็บปวดใจแสนสาหัสจนเกือบที่จะตัดใจจากครั้งนี้ไป! ทว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้กูซึลต้องเจ็บปวด วันนี้พี่หญิงได้รวบรวมแล้วสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดมาให้ทุกคนได้อ่านกันทั้งหมด 10 ข้อด้านล่างนี้แล้วจ้า

ย้อนเวลาเริ่มรัก
คำโปรย
1. เป็นนิยายเกิดมาเพื่อนักอ่านสายติ่งโดยเฉพาะ!
จะไม่ให้จัดนิยายเรื่องนี้เข้าทำเนียบนิยายที่ชาวติ่งคู่ควรที่จะอ่านได้ยังไงไหว ในเมื่อ “ย้อนเวลาเริ่มรัก” คือนิยายที่เล่าถึงเส้นทางการก้าวขึ้นเป็นศิลปินของเหล่าเทรนนี่ในประเทศเกาหลี ผ่านเรื่องราวของ “กูซึล” ไอดอลหนุ่มวัย 27 ปี ที่ย้อนเวลากลับมาอยู่ในของร่างตนเองช่วงอายุ 15 ปี อีกครั้ง จนทำให้เขาต้องเริ่มต้นชีวิตการเป็นเด็กฝึกใหม่ทั้งหมด ก่อนที่จะเริ่มเดบิวท์เป็นศิลปิน
2. แต่การย้อนเวลาครั้งนี้มีสาเหตุ
ในนิยายแนวย้อนเวลาหลายๆ เรื่อง อาจไม่ได้มีการแจ้งสาเหตุการย้อนเวลาของเหล่าตัวเอกไว้ แต่สำหรับเรื่องนี้สาเหตุที่ทำให้กูซึลสามารถย้อนเวลาได้ก็คือ พรวันเกิด!
ในคืนวันเกิดอายุครบ 27 ปี กูซึลได้อธิฐานขอให้ตนเองได้มีโอกาสเริ่มต้นรักใหม่ โดยที่ไม่ต้องลืมรักครั้งเก่า แล้วในเช้าวันถัดมาก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น กูซึลลืมตาขึ้นมาในร่างตัวเองตอนอายุ 15 ปี ช่วงเวลาก่อนการสอบประเมินประจำเดือนของเด็กฝึกเพียงสองสัปดาห์!
3. โลกในอดีตที่ไม่เหมือนเดิม
ทว่าแม้พล็อตของนิยายเรื่องนี้จะเป็นการย้อนเวลากลับมาให้ชีวิตตัวเอง ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่าเหตุการณ์ในอนาคตจะเหมือนเดิมแบบ 100% นะคะ เพราะหลังจากกูซึลฟื้นขึ้นมา แล้วปรับปรุงตัวเองใหม่ ก็เหมือนเกิด butterfly effect ไปเรื่อยๆ เหตุการณ์บางอย่างเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งที่สำคัญกูซึลยังค้นพบความจริงที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เขาเคยรับรู้มาอีกว่าในโลกแห่งนี้การมีความรักระหว่างเพศเดียวกันเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับกันมาเกือบร้อยปีแล้ว!
4. มาลองใช้ชีวิตเป็นเทรนนี่ที่กำลังรอเดบิวท์
อย่างที่ได้เกริ่นกันไปว่า “กูซิล” ย้อนเวลากลับมาในชีวิตตัวเองช่วงที่ยังเป็นเพียงเด็กฝึกธรรมดาของค่ายศิลปินเกาหลี เนื้อหาที่ถูกพูดถึงในเรื่องจึงเป็นเส้นทางชีวิตก่อนเป็นไอดอล เล่าตั้งแต่ชีวิตการเป็นเด็กฝึก การเลื่อนขั้นเป็นเทรนนี่ (เด็กฝึกเตรียมเป็นศิลปิน) จนกระทั้งเดบิวท์ และการทำงานหลังจากนั้น รวมไปถึงมิตรภาพระหว่างเด็กในค่ายที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งในเวลาเดียวกัน จนอ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละคร เข้าใจถึงความยากลำบาก และรู้ว่ากว่าจะเป็นไอดอลนั้นไม่ง่ายเลย!
5. ความอัจฉริยะที่ได้มาเพราะหยาดเหงื่อแรงกาย
การที่กูซึลย้อนเวลามาในอดีตนั้น เขาไม่ได้มาตัวเปล่าๆ แต่ยังพกความสามารถที่ได้ขัดเกลาจากประสบการณ์ในอนาคตมาเต็มเปี่ยม ทำให้กูซึลกลายเป็นเด็กที่มีความโดดเด่นมากกว่าคนในรุ่นเดียวกันจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “อัจฉริยะ” โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่ากว่าที่กูซึลจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้นั้น เขาต้องใช้ความพยายาม ทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดไหน ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่น่าชื่นชมในตัวกูซึลมากๆ เพราะถึงแม้ว่ากูซึลจะเก่งอยู่แล้วแต่เขาก็ไม่เคยทะนงตัว ยังคงฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนคนอื่น ไม่ยอมหยุดพัฒนาตนเอง ทั้งยังใช้ความรู้ที่มีมาคอยช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นๆ ให้มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย //เป็นเด็กที่มีน้ำใจจริงๆ เลย
6. ฟีนอมอินอล คือ 7 เด็กหนุ่มแสนมหัศจรรย์
หลังจากผ่านความยากลำบากของการเป็นเด็กฝึกแล้ว สิ่งที่รอกูซึลและเพื่อนร่วมวงอยู่ก็คือ การเดบิวท์ค่ะ กูซึลได้เดบิวท์กับเพื่อนร่วมวงอีก 7 คน ได้แก่ จุนกอล ฮีวอน วังซอง โอซอง อินซา และซังซู ภายใต้ชื่อ ฟีนอมอินอล ที่หมายถึงความมหัศจรรย์ โดยมีเหล่า “มิราเคิล” (ชื่อแฟนคลับ) เป็นผู้สนับสนุน!
ซึ่งหลังจากอ่านถึงช่วงนี้แล้ว แอบประทับใจในการเก็บรายละเอียดมากๆ นักเขียนทำการบ้านมาดีมาก ใส่ทั้งฉากการจัด Meeting เดบิวท์สเตจ การประกาศบ้านแฟนด้อม ไปจนถึงการเซอร์วิสและการแอบส่องคอมเมนต์แฟนๆ ของเหล่าศิลปินเลยค่ะ
7. เพราะความใกล้ชิด จึงมองข้ามไป
กูซึลแอบรักจุนกอลมาตั้งแต่ในโลกแรก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง ทั้งยังต้องทนอยู่กับความอึดอัดใจมาตลอด 10ปี ทำให้เมื่อมีโอกาสกลับเริ่มต้นชีวิตใหม่ กูซึลจึงเลือกที่จะตัดใจจากความรักครั้งเก่า จัดวางความสัมพันธ์ให้จุลกอนเป็นเพียงแค่พี่ชายที่แสนดี โดยที่ไม่รู้เลยว่าความจริงแล้ว จุลกอนไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ชายเลยสักนิด!
ทีนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงออกมาเป็นคนหนึ่งพยายามเข้าหา ส่วนอีกคนพยายามหนีออกห่าง งานนี้สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะในเกมวิ่งไล่จับนี้ เราต้องไปลุ้นกันเอาค่ะ
8. คนที่ย้อนเวลามาไม่ได้มีเพียงคนเดียว
อ่านแรกๆ เราก็คิดว่าคนที่ย้อนเวลามาน่ะ มีแค่ “กูซึล” คนเดียว แต่พอได้อ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะพบว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิดในตอนแรกเสียแล้ว ไหงยิ่งอ่าน “จุนกอล” พระเอกของเรื่องก็ยิ่งหลุดอะไรแปลกๆ ออกมาให้เราสะกิดใจกันเรื่อยๆ ล่ะ ทั้งคำพูดที่ซ่อนเลศนัย ปฏิกิริยาน่าสงสัย อันชวนให้คิดอย่างยิ่งว่า จุนกอลคนนี้ ไม่ได้เป็นคนในอดีต แต่คือจุนกอลที่มาจากอนาคตเช่นเดียวกับกูซึล! ซึ่งความจริงจะเป็นอย่างที่พี่หญิงคิดหรือเปล่านั้น จุดนี้ขอเชิญนักอ่านทุกคนมาสวมบทนักสืบ แล้วร่วมค้นหาไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
9. จะกล้าที่จะเปิดใจหรือหลบอยู่ในเซฟโซน
เพราะเคยผิดหวังในความรักมาก่อน กูซึลจึงกลัวการมีความรักอีกครั้งมากๆ เขารู้อยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่จุนกอลปฏิบัติกับตัวเองน่ะ มันเกินคำว่า “พี่น้อง” ไปไกล แต่บทเรียนในอดีตที่เคยผิดพลาดได้กลายเป็นตราบาปคอยหลอกหลอนให้เขากลัว กลัวว่าสิ่งที่คิดจะไม่ใช่ความเป็นจริง แต่เป็นสิ่งที่คิดไปเองคนเดียว จนมันอาจจะสร้างความเจ็บปวดให้เขาอีกครั้งได้
ปมสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้เดินมาถึงจุดเปลี่ยนจึงเป็นการก้าวข้ามความกลัวของกูซึล และการพิสูจน์ความรักของจุนกอล ว่าในที่สุดแล้วจุนกอลจะทำให้กูซึลเชื่อมั่นในรักครั้งนี้ จนกล้าเดินออกมาจากเซฟโซนได้หรือไม่นั่นเองค่ะ
10. หากเป็นนักอ่านสายติ่งจะฟินเกินร้อย
ฟินไม่ฟินก็คือดูสิ พี่หญิงอ่านไปก็หวีดไป แต่ละโมเม้นที่นักเขียนได้สอดแทรกเข้ามา คือมันใช่มากๆๆๆๆ โดยเฉพาะฉากที่เล่าถึงโมเม้นต่างๆ ของเหล่าตัวละครที่แสดงออกมา แล้วถูกเหล่าแฟนคลับเอาไปจิ้นต่อนะ คือมันเรียลมาก จนอยากทักไปหานักเขียนเลยว่า… เอาประสบการณ์ตรงจากการตามหวีดไอดอลมาเขียนใช่ไหม ตอบ!
ป.ล. การอ่านนิยายเรื่องจะฟินขึ้น 100% ถ้าหยิบวงไอดอลเมนหลักของเรามาใส่แทนที่ตัวละครในเรื่อง จนอ่านแล้วฟินหนักกระทั่งเผลออุทานออกมาเลยว่า… แผ่นดินไหวแต่ฉันไม่ไหวแล้ววว

อ่านฉากนี้ก็เขินสิ รออะไร อร๊าย พระเอกบอกรักนายเอกทางอ้อมล่ะ
ทิ้งท้ายกันสักนิด
หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้ว พี่หญิงประทับใจในมิตรภาพระหว่างเด็กๆ ในเรื่องนี้มากค่ะ ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อนที่เหล่าเด็กฝึกต้องเจอจะเต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขัน แต่เหล่าตัวละครในเรื่องนี้ ไม่เคยมีความอิจฉาริษยาหรือสะใจเวลาที่เด็กฝึกคนอื่นๆ ถูกตำหนิเลยสักครั้ง (แถมยังช่วยเหลือให้กำลังใจกันอีกด้วย) พวกเขามองว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ทั้งหมดนี้คือการแข่งขันกับตัวเอง เมื่อถูกตำหนิก็พยายามแก้ไขข้อผิดพลาด และพยายามฝึกซ้อมเพื่อก้าวข้ามตัวเองในวันวานไปให้ได้ ซึ่งมองช่างเป็นปณิธานความคิดที่น่าประทับใจ จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักอ่านหลายๆ คนที่อ่านเรื่องนี้ ถึงได้ตกหลุมรักเหล่าตัวละครในเรื่องนัก (รวมถึงพี่หญิงด้วย)
พี่หญิง




.jpg)

0 ความคิดเห็น