'ถงถง' สาวสายติสต์ กับชีวิตที่ลุยทั้งงานวาด ดีไซน์เนอร์ บล็อกเกอร์ ยันเจ้าของแบรนด์!

 
 
      สวัสดีค่ะชาว  Dek-D  พบกับคอลัมน์ "เด็กพลังบวก" ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
 
      หลายคนน่าจะเคยเห็นงานศิลปะลายเส้นเอกลักษณ์ของเจ้าของแอค IG @tongtongnapat และ @tongtong.arts หรือ 'ถงถง' ณภัทร นานาชิน สาวสวยชิคๆ อายุ 20 ต้นๆ จบ ป.ตรี จาก ม.เนชั่น ความน่าสนใจคือเธอเคยทำงานมาเยอะมาก อย่าง Artist, Designer, Travel Blogger แถมยังมีธุรกิจในมือที่สื่อความเป็นตัวเองชัดเจนถึง 2 แบรนด์ เดี๋ยวเราจะพาไปอ่านเรื่องราวของเธอ รวมถึงเทคนิคฝึกภาษาและแบ่งเวลาที่น้องๆ อาจนำไปปรับใช้ได้ค่ะ ^^


Photo Credit: @tongtongnapat


เส้นทางสายอาร์ตที่เริ่มตั้งแต่เด็ก
 
      "ถงชอบวาดภาพตั้งแต่ยังเด็กมากๆ และมีคุณแม่เป็นไอดอลด้วยค่ะ กิจกรรมที่ทำด้วยกันประจำจะเป็นพวกพับสีเป่าสี ^^ จำได้ว่าตอนนั้นเป็นยุคช่อง 9 การ์ตูน พอเราดูจบก็จะมานั่งวาดใหม่ ดัดแปลงเป็นคาแรกเตอร์ตัวเอง แต่จะไม่ชอบซื้อสมุดภาพสำเร็จรูปมานั่งระบายสี"
 
      "พอขึ้นมหา'ลัย ถงก็เลือกเรียนนิเทศศิลป์เพราะคิดว่าจะได้วาดรูปบ่อยๆ แต่จริงๆ แล้วเขาเน้นสอนพวกโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือพวก motion ต่างๆ ถึงจะไม่ค่อยได้วาดอย่างที่คิด แต่สิ่งที่เรียนมีส่วนช่วยให้งานเราดูเป็นมืออาชีพขึ้นนะ อย่างเช่นเราสามารถวางงานลงบนแพคเกจจิ้งได้ เข้าใจนามสกุลไฟล์ และการใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งถงว่ามันเหมาะกับยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ค่ะ"
 
      "สำหรับงานสไตล์งานถงจะเป็นแนว Doodle Modern Art มาตั้งแต่แรก และเป็นแนวผู้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สร้างงานทั้งใน paper, canvas, stained glass (แกะกระจก) แต่ถ้างาน decorate ห้างฯ หรือสถานที่ใหญ่ๆ จะยังเป็นงานมืออยู่นะ" ...สามารถชมผลงานได้ที่ IG @tongtong.arts นะคะ ละลานตามาก เลื่อนชมเพลินเลยค่ะ
 

Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin


Photo Credit: @tongtong.arts


Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin


งานชิ้นที่ทำยากที่สุดในชีวิต
 

Forever in our hearts the last piece for my greatest king : ตอนลูกวาดภาพนี้ เหมือนได้เฝ้าพ่อทุกวัน กราบพระบาทส่งเสด็จ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ รักและอาลัยสุดหัวใจ ดีใจที่ได้เกิดใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้เกิดในรัชกาลที่ 9 ได้อยู่บนผืนแผ่นดินทองที่ดีที่สุดในโลก ได้เป็นลูกพ่อ ได้วาดรูปพ่อ จะเดินตามรอยพ่อตลอดไป

A post shared by TONGTONG NANACHIN (ถงถง) (@tongtongnapat) on


       "ถงเคยได้รับเชิญจากห้างฯ นึงให้ไปทำ Solo Art Exhibition ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันพ่อของปีนั้นค่ะ แต่หลังเราได้รับบรีฟเพียง 10 วัน ข่าวร้ายที่คนไทยไม่อยากได้ยินก็เกิดขึ้น นั่นคือพระองค์เสด็จสวรรคต เรารู้สึกแบบ...วาดไม่ได้เลย วาดไปร้องไห้ไป เพราะพระองค์คือบุคคลต้นแบบของเรา แต่สุดท้ายเราก็เปลี่ยนความเศร้าเป็นแรงผลักดัน ใส่ความตั้งใจทั้งหมดลงไปในงานกระจกสีขนาดใหญ่ค่ะ"

      "หลังจากงานนั้น เราโตขึ้นมาอีกนิดนึง ก็เริ่มมีแกลอรีดังๆ เชิญไปร่วมนิทรรศการเป็นศิลปินรับเชิญ และมีโอกาสทำ Solo Art Exhibition ประมาณ 2-3 ครั้ง"


Photo Credit: @tongtong.arts


Photo Credit: @tongtong.arts


Photo Credit: @tongtong.arts

 
ต่อยอดสู่ชิ้นงานที่จับต้องได้!
 
      "ปกติถงจะวาดรูปเล่นๆ ลง IG มาเรื่อยๆ จนวันนึงคิดอยากทำอะไรให้คนจับต้องได้ และมีงานเราในครอบครองโดยไม่ต้องจ่ายแพง  ช่วงใกล้ๆ ขึ้นปี 1 เลยเริ่มทำสมุดกับเคสจากลายงานวาดของเราเอง ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมากๆ อาจจะเพราะคนเห็นเราลายเส้นแปลกไม่ซ้ำใคร มีความหวานๆ เปรี้ยวๆ ชิคๆ ผสมกันอยู่ในนั้น พอเพื่อนอุดหนุนเขาก็ลง IG แล้วเพื่อนของเพื่อนก็มาเห็น ดาราบางคนก็เคยมาอุดหนุนด้วยค่ะ"


Photo Credit: @tongtong.arts

      "ตอนนั้นเรารับงานหลากหลายมาก ทำการ์ด, ออกแบบแพ็กเกจ, แบ็กดร็อป, โลโก้ ฯลฯ พี่ๆ ดาราที่จ้างก็น่ารักมากกก ทั้งให้เครดิตและติดแท็กเราด้วย ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ รายการต่างๆ ก็เชิญไปออก ช่วงมหา'ลัยถงออกแบบโลโก้ให้เกิน 100 แบรนด์เลย"


Photo Credit: @tongtong.arts

 
ถงถง กับบทบาท "Travel Blogger"
ลงคอนเทนต์แรก ยอดผู้ชมล้านแตก!

 
      "เราเปนคนชอบทั้งอ่าน เขียน เที่ยว และถ่ายภาพ เวลาไปเที่ยวจะชอบพกกล้องไปถ่ายภาพและเขียนคอนเทนต์ด้วยค่ะ ผลงานแรกคือที่เวียดนาม แต่ถ่ายภาพออกมาได้ฟีลเหมือนไปยุโรป ผลคือกระแสตอบรับดีมากๆ ยอด Organic Reach ล้านแตก (อธิบายเพิ่มเติม: Organic Reach = ยอดผู้เห็นโพสต์ที่ไม่ได้เกิดจากการจ่ายเงินซื้อโฆษณาให้คนเห็น) หลังจากนั้นเราก็ทำคอนเทนต์มาเรื่อยๆ ค่ะ ลักษณะงานจะเป็นแนวอินเตอร์ๆ ทำไปทำมาก็มีต่างประเทศเชิญเราไปเป็นตัวแทนบล็อกเกอร์จากไทย ออกทริปร่วมกับบล็อกเกอร์จากชาติอื่นๆ ทั่วโลก"
 

 

      "แต่นอกจากเรื่องเที่ยว ถงก็ชอบเขียนเล่าเรื่องลงเฟซบุ๊กเล่นๆ ด้วย เช่น เราเจอแฟนจากอีกซีกโลกได้ยังไง? (≈ 40,000 แชร์) มุมมองความรัก ( 70,000 แชร์) ฯลฯ"

      "ถงอยากบอกหลายๆ คนว่า ทุกวันนี้ยุคสมัยเปลี่ยน แพลตฟอร์มต่างๆ บนโลกเปิดกว้างขึ้น สมัยก่อนเราอาจจะอยากเขียนลงแม็กกาซีน แต่จริงๆ แล้วเราสามารถนำความฝันมา adapt ได้โดยไม่ต้องยึดติดกับรูปแบบเดิม ขอแค่เขียนบ่อย อ่านบ่อย และกล้าเริ่มต้น ก็จะมีโอกาสทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นค่ะ"


Photo Credit: @tongtongnapat
 

แบรนด์ที่ผสมผสานความชอบ
 
       "เรามีร้านเสื้อผ้าใน IG ชื่อ @ms.napat เกิดจากที่เป็นคนชอบแต่งตัวค่ะ ทำมาตั้งแต่เรียนมหา'ลัยเลย เน้นรับเสื้อผ้าสไตล์โบโฮชิค มีความบอยๆ เท่ๆ เน้นใส่แล้วหุ่นดี ถ่ายรูปเอง เช็กสินค้าเองตั้งแต่แรกทุกชิ้น (ถ้าเป็นพวกผ้าบางๆ ซักแล้วเป็นขุย ถงจะไม่เอาเลย) ส่วนราคาก็จับต้องได้ เพราะอยากให้คนได้รับสิ่งดีๆ โดยไม่ต้องจ่ายแพง ^^"


Photo Credit: @ms.napat
 
      "ล่าสุดก็มีอีกแบรนด์คือ @nachibeauty ที่ผสมผสานความชอบเรื่องเที่ยว + ศิลปะ + ความสวยความงาม ผลิตภัณฑ์ตัวแรกคือ ที่เช็ดเครื่องสำอางแบบแท่ง (Nachi travel cleansing stick) พกไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องโหลดขึ้นเครื่องบิน ลายแพ็กเกจจิ้งมาจากงานศิลปะชิ้นนึงที่ถงเคยวาดค่ะ ภาพนั้นคือภาพปีกใหญ่ๆ วาดโดยใช้สีอะคริลิกบนผืนผ้าขนาด 2 เมตร ใหญ่สุดตั้งแต่เคยเพนต์มา คอนเซ็ปต์คือเราเชื่อว่าทุกคนบินได้ เราเอามาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อว่า ผู้หญิงทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้ผู้หญิงยึดติดกับการแต่งหน้ามากเกินไป เผยผิวบ้างให้ผิวได้หายใจ"


Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin


Photo Credit: @nachibeauty

 
ภาษาอังกฤษช่วยเพิ่มโอกาสในชีวิต
(& วิธีฝึกอิ๊งสไตล์ถงถง)

      "ถงไม่เคยเรียนอินเตอร์เลย แต่ชอบดูหนังฝรั่งมากๆ วิธีการฝึกคือเริ่มจากดูซับไทย + เสียงซาวด์แทรค -> ซับอังกฤษ + เสียงซาวด์แทรค -> ปิดซับ จากนั้นก็เลียนแบบสำเนียงของเขา ซึ่งเราต้องชอบและกล้าที่จะพูดด้วยนะ อย่าแคร์เวลาโดนล้อ เพราะสุดท้ายคนที่จะได้ก็คือเรา ไม่ใช่เพื่อน เพื่อนที่เข้าใจเขาจะไม่เหยียดเราเลย อย่างเช่น ตัว r ต้องห่อลิ้น / ตัว l ต้องเอาลิ้นมาแตะหลังฟัน มันจะมีกิมมิกเล็กๆ ที่ต้องเรียนรู้ แต่บางทีถ้าไปพูดในชั้นเรียน คนอาจล้อว่า โห ต้องพูดขนาดนั้นเลยเหรอ? เวอร์ไปมั้ย? ถ้าเราแคร์ สกิลพูดจะไม่พัฒนา"

      "การทำงานของถงต้องดีลกับคนต่างชาติ ถ้าเราสื่อสารไม่ได้ รายได้จากตรงนี้ก็จะหายไปเลยค่ะ ดังนั้นถงว่าภาษาอังกฤษสำคัญมากๆ"


Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin
 

Photo Credit: @tongtongnapat
 

อย่างน้อยต้องผ่านสเต็ปการเรียนให้ได้
 
      ไหนๆ ผู้อ่าน Dek-D ก็เป็นวัยรุ่นวัยเรียนซะส่วนใหญ่ เราเลยขอถามย้อนวัยไปตอนเรียนหน่อยค่ะว่าเราแบ่งเวลายังไง ในเมื่อรับงานหลากหลายขนาดนี้? "ปัจจุบันนี้วุฒิการศึกษายังสำคัญอยู่นะ อย่างน้อยตั้งใจเรียนให้จบก่อน แล้วทั้งเรากับพ่อแม่จะอุ่นใจไป 1 สเต็ป ถ้างานกระทบเรียน เราเลือกที่จะไม่รับก่อน"

      "ยอมรับว่าตอนเรียนก็นอนดึกนิดนึง 5555 ถงเอาเวลามาทำสิ่งที่รัก ทำให้รู้สึกไม่เหมือนทำงานเลย เพราะเราสนุกกับมัน แล้วได้แบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วย ซื้อของที่อยากได้โดยไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่ ทุกวันนี้ก็ยังจัดการเวลาได้ค่ะ ไอเท็มสำคัญคือสมุด planner แล้วเราชอบทำ to do list จดไว้ว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง ทำให้ไม่ตกหล่น เวลาย้อนดูจะได้รู้ว่าต้องจัดการยังไง"


Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin


Photo Credit: Tongtong Napat Nanachin

 

ถ้าให้นิยามคำว่า "โชคดี"
 
      "คำว่า 'โชคดี' สำหรับถง คือการฝึกตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ และเมื่อมีโอกาสเข้ามา เราจะคว้ามันได้ นั่นแหละที่เรียกว่าโชคดี เราไม่อยากให้คนคิดว่าเราโชคดีจังที่ทำนั่นก็ดีทำนี่ก็ดี แต่อยากให้รู้ว่าเราตั้งใจทำมันเหมือนกันนะ" 
 

      นี่ก็เป็นคนเก่งอีก 1 คนที่แสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถสร้างโอกาสสำเร็จให้ตัวเองได้ด้วยการฝึกตัวเองให้พร้อมเสมอ หากชอบอะไรก็ใส่ความตั้งใจลงไปเต็มที่ แล้วการเปิดใจจะช่วยขยายลิมิตความสามารถของตัวเองไปได้อีกไกลเลยค่ะ หากใครที่ตกหลุมรักตัวตน ทัศนคติ และผลงาน สามารถเข้าไปติดตามได้ใน @tongtongnapat (IG หลัก) tongtong.arts (IG งานอาร์ต) หรือเฟซบุ๊ก Tongtong Napat Nanachin ได้เลยนะคะ ^^ 
 
อ่านเด็กพลังบวกตอนก่อนหน้า

วางไมค์ขึ้นวอร์ด: เล่าชีวิตว่าที่คุณหมอ
‘มิณทร์-ยงสุวิมล’ กับชีวิต นศพ.ศิริราช ปี 4
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น