เวลาโดนทักว่า “ขาใหญ่” นี่มันเจ็บปวดรวดร้าวจริงๆ ค่ะ อยากแอดมิทให้น้องหมอฉลามช่วยดูใจจริงๆ (ซ้อมบีบน้ำตา) แต่พอลองคิดอย่างจริงจังแล้ว คิดแล้วคิดอีก คิดแบบถอดสูตรยกกำลังสองก็ยังมองไม่เห็นว่ามันเป็นปัญหากับคนอื่นยังไง! แถมบางคนก็ยังมีความเชื่อประหลาดๆ อีกค่ะ ว่าทำแบบนั้นแบบนี้ไงเราเลยขาใหญ่คับซอย ทั้งที่จริงมันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ มาดูกันค่ะว่า มีอะไรที่เรายังเชื่อกันแบบผิดๆ อยู่บ้าง
 

ขาใหญ่ได้แม่

"เราไม่ได้ขาใหญ่นะ แต่แม่เราขาใหญ่ไง มันทำอะไรไม่ได้ป้ะ!” 
          จริงๆ มันทำได้ค่ะลูก ใจเย็นก่อนนนน คืองี้ พี่จะเล่าให้ฟัง จริงๆ แล้วกรรมพันธุ์ทางรูปร่างนั้นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งค่ะ เช่น คุณพ่อคุณแม่สูงประมาณนี้ ลูกก็จะสูงไม่ต่างจากกันไปมาก หรือคุณแม่เป็นคนโครงสร้างใหญ่ ก็เป็นไปได้ที่เราจะได้รับส่วนนั้นมา แต่ก็เป็นเรื่องของกระดูก ไม่เกี่ยวกับไขมันและกล้ามเนื้อค่ะ
          แต่ถ้าเป็นในส่วนของไขมันและกล้ามเนื้อ กรรมพันธุ์จะถูกส่งต่อในเรื่องของระบบเผาผลาญ คือ เราอาจจะเป็นคนอ้วนง่าย เผาผลาญได้ช้า หรืออาจจะเป็นคนเผาผลาญดี จนทำให้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ประมาณนี้ค่ะ
          ดังนั้น ต้นขาใหญ่ เป็นเรื่องของไขมันและกล้ามเนื้อ ที่เราสามารถเผาผลาญออกได้ แต่อาจจะช้าหรือเร็วต่างกัน ก็ขึ้นอยู่กับระบบเผาผลาญของแต่ละคนค่ะ ซึ่งอาจจะมาจากกรรมพันธุ์หรือไม่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งถอดใจนะคะ ฮึบๆ ดูก่อนค่ะ
 


งดแป้งสิ ขาจะได้เล็กลง!

          เรื่องนี้จะว่าผิดก็ไม่ผิด แต่จะถูกก็ไม่ทั้งหมดค่ะ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แป้ง ที่เราเรียกกัน มันก็คือคาร์โบไฮเดรตอย่างหนึ่งค่ะ ซึ่งถ้าเรางดมันไปจริงๆ นั่นแปลว่าร่างกายต้องขาดสารอาหารไปหมู่หนึ่งละ
          พี่โอ๊ตคิดว่าเราต้องทำความเข้าใจกับเรื่องแป้งกันก่อนค่ะ ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด และถ้าเราตัดมันทิ้งไป เท่ากับเรากำลังตัดขุมพลังงานในตัวไปด้วยนะเด้อ เพราะฉะนั้นวิธีที่ถูกในความเชื่อที่ผิดแบบนี้คือ เราต้องเปลี่ยนการกินแป้ง แต่ไม่ใช่งด หรือเลิกไปเลยค่ะ
          คาร์โบไฮเดรตที่เราคุ้นเคยว่ากินแล้วทำให้อ้วนนั้น มันมาจาก น้ำตาลเชิงเดี่ยว (simple carbohydrate) ซึ่งก็อยู่ในน้ำตาล ข้าวขาว เบเกอรี่ต่างๆ น้ำหวาน ของหวาน และเหตุผลที่ทำให้อ้วน เพราะน้ำตาลชนิดนี้มันย่อยง่ายมากๆ ใช้พลังงานในการย่อยน้อย และทำให้เราได้รับพลังงานเร็วโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย ลองสังเกตสิว่าเวลาได้กินน้ำหวานซักแก้ว ร่างกายจะกระปรี้กระเปร่าทันตาเห็นเลย แต่ก็นั่นแหละค่ะ เมื่อเรากินมันเยอะมากเกินไปมันก็จะทยอยไปสะสมตามต้นแขน ต้นขา จนทำให้มันเติบใหญ่จนถึงทุกวันนี้
          การเปลี่ยนที่พี่โอ๊ตบอกคือ เปลี่ยนมากิน น้ำตาลเชิงซ้อน (complex carbohydrate) ที่มีอยู่ใน ธัญพืชต่างๆ, ข้าวโอ๊ต, ข้าวกล้อง, โฮลวีต, โฮลเกรน, กากใยผักผลไม้ (ไฟเบอร์) น้ำตาลเชิงซ้อนนี่แทบจะเป็นคู่ตรงข้ามกับน้ำตาลเชิงเดี่ยวเลยแหละ เพราะว่าย่อยได้ยากกว่า ใช้พลังงานในการย่อยมาก ให้พลังงานช้า ทำให้กินปริมาณน้อย ก็รู้สึกอิ่มได้นาน แถมมีกากใยมาก ทำให้ขับถ่ายคล่องตัวขึ้นด้วยล่ะ
          สรุป ไม่ต้องงดแป้งค่ะ ถ้าอยากกินแป้งจริงๆ ให้เลือกแป้งโฮลวีต ถ้าอยากกินของหวาน ลองดูที่มีส่วนประกอบของธัญพืช และถ้าสามารถคุมอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันให้มีน้ำตาลเชิงซ้อนได้ก็จะดีมากเลยค่ะ เพราะให้พลังงานได้นาน และไม่รู้สึกหิวก่อนเวลาด้วย
 

 

อยากให้ขาเล็กไวๆ กินแต่ผลไม้สิ

          จริงอยู่ว่าการกินผลไม้นั้นได้รับวิตามินก็จริง แต่ไม่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ได้ แถมผลไม้บางชนิดยังมีน้ำตาลสูงอีกด้วย น้องๆ อาจจะพบว่าช่วงที่กินแต่ผลไม้อย่างเดียว โดยไม่กินอย่างอื่นเลย ร่างกายรู้สึกเบาขึ้น น้ำหนักลด แต่สิ่งที่ตามมาก็คือน้องๆ จะเริ่มเบลอๆ ร่างกายไม่ค่อยมีแรง คิดอะไรไม่ค่อยออก นั่นก็เพราะว่าร่างกายขาดสารอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารที่จะไปบำรุงสมองนั่นเองค่ะ
          ถ้าอยากลดความอ้วนด้วยการกินผลไม้ ให้ลองจัดตารางเมนู กินร่วมกับอาหารประเภทอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารครบถ้วนจะดีกว่าค่ะ ซึ่งผลไม้ที่ให้ผลดีในการลดน้ำหนักก็แบ่งได้เป็นหลายชนิดเลย
  • ผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น กล้วย พลัม แพร์ สับปะรด องุ่น มะม่วง และมะเฟือง ผลไม้ประเภทนี้พี่โอ๊ตแนะนำให้ทานในมื้อเช้า เพราะให้พลังงานได้ดีค่ะ
     
  • ผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น แตงโม ลูกพีช ลูกท้อ แอปเปิล และมะละกอ ผลไม้ประเภทนี้ให้พลังงานที่จำเป็นสำหรับหลอดเลือดหัวใจและระบบประสาท มีน้ำในปริมาณสูงจึงช่วยควบคุมระดับอุณหภูมิในร่างกายได้ และยังช่วยขับคอเลสเตอรอลที่ไม่มีประโยชน์ออกจากร่างกายอีกด้วยนะ
     
  • ผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อยที่สุด เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และมะนาว ผลไม้ประเภทนี้จะช่วยล้างพิษหรือสารที่ไม่สามารถย่อยได้ออกจากร่างกาย และที่สำคัญมากๆ คือช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ลดความอยาก ถือว่าเป็นประเภทที่เหมาะกับการควบคุมน้ำหนักที่สุดเลยค่ะ 
     
  • ผลไม้ประเภทที่มีน้ำมาก อย่าง แตงโม แคนตาลูป แตงไทย นอกจากให้น้ำมากแล้ว ยังมีกากใยสูงแต่คาร์โบไฮเดรตต่ำ จึงมีประโยชน์ในการช่วยย่อยอาหาร ขับสารพิษออกจากร่างกาย
     
  • ผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด ถือว่าเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินและเกลือแร่เลยค่ะ การกินผลไม้แห้งและผลไม้สดจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และช่วยล้างพิษในลำไส้ได้อีกด้วยล่ะ
     
 

          หลายคนแอบสงสัยว่าคาร์โบไฮเดรตในผลไม้นั้นมาจากไหน อย่าลืมว่าน้ำตาลก็เป็นส่วนหนึ่งของคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นในผลไม้ที่มีรสหวาน ก็มักจะมีคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานอยู่เหมือนกันค่ะ อย่างกล้วยหอม 1 ลูก ก็ให้พลังงานเกือบ 120 kcal แล้ว (เทียบเท่าข้ามต้ม 1 ถ้วยเลยอะ) ดังนั้นเราก็ควรกินผลไม้ในปริมาณที่พอดี เพื่อไม่ให้น้ำตาลส่วนเกินไปสะสมให้ต้นขามั่นคงยิ่งกว่าเดิม
          พูดมาตั้งนาน ถ้ายังไม่รู้ว่าจะจัดการกับต้นขาตัวเองยังไง ลองเริ่มจากการปรับเมนูอาหารก่อนก็ได้ค่ะ ร่างกายของผู้หญิงต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 1,600 kcal พี่โอ๊ตเลยแอบไกด์เมนูที่ไม่เกิน 200 kcal มาให้ (ซึ่งใน 1 มื้อเราอาจจะกินได้มากกว่า 1 อย่าง แต่รวมแล้วให้อยู่ที่ 500-600 kcal ต่อมื้อ กำลังดีค่ะ) แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดฝืนใจกินแบบนับเป๊ะๆ นะคะ ดูคร่าวๆ แล้วออกกำลังกายดึงไขมันส่วนเกินมาใช้ ทีนี้ขาเล็กเรียวก็ไม่ไกลเกินเอืื้อมแล้ว แถมสุขภาพยังดีอีกด้วย
 

 
ติดตาม NUGIRL บนช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Youtube : nugirldekd
Instagram : @nugirldekd
Twitter : @nugirldekd

ข้อมูลอ้างอิงจาก
https://th.theasianparent.com
https://www.honestdocs.co/table-of-calories-in-food-types
https://sukkaphap-d.com
https://medthai.com

 
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด