3 ทริคลับ หยิบจับ ‘ตาราง’ มาสร้างนิยายให้เป๊ะปัง
ฉบับประหยัดเวลาจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา!

สวัสดีค่ะชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน คนที่อัปนิยายลงเว็บเด็กดีบ่อยๆ คงสังเกตเห็นว่า ตอนนี้หน้าแต่งนิยายของเว็บเด็กดีมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อนักเขียนมากขึ้น ไหนมีใครไปเล่นมาแล้วบ้าง รู้มั้ยว่ามีฟังก์ชั่นเก๋ๆ มาซะเพียบ ทั้งสร้างโคว้ท ตั้งเวลา บอกจำนวนคำ แถมยังมีการสร้างตารางด้วยนะ! 

‘ฮะ? สร้างตารางเนี่ยนะ? มันเก๋ตรงไหน’ 

‘ใส่อันนี้มาทำไม ไม่เคยได้ใช้เลย!’

เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงฃคิดแบบนี้ล่ะสิ บางคนอาจสงสัยว่าตารางมีประโยชน์ยังไง? ทำอะไรได้บ้าง? ทำไมถึงใส่ฟังก์ชั่นนี้มา? แต่ช้าก่อน อย่าได้ดูถูกตาราง (Table of Content – TOC) นะจ๊ะ เพราะจริงๆ แล้วตารางทำอะไรได้มากกว่าการเป็นแค่สารบัญฃ! มันช่วยให้นักเขียนประหยัดเวลาและทำให้งานเขียนของเราเป็นระเบียบมากขึ้น ยังไงน่ะเหรอ? งั้นตามมาดู
 

 

อย่างแรกเลย การสร้างตาราง (Table of Content - TOC) กระตุ้นให้เราได้รับแรงบันดาลใจ ทำให้เราได้จดไอเดียต่างๆ ลงในตารางได้อย่างเป็นอิสระ ทำให้ความคิดของเราเป็นจริง เมื่อสร้างตาราง เราจะค้นพบเนื้อหาส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราสามารถเน้นตรงจุดนั้นได้ ในกรณีที่เป็นสารบัญ มันจะช่วยให้นักอ่านพบเนื้อหาที่พวกเขาต้องการได้อย่างง่ายดาย

อย่างที่สอง ตารางทำให้เรามองเห็นมุมมองการตลาดและนักอ่านมากขึ้น ช่วยให้เราตรวจสอบดูว่างานเขียนของเราสอดคล้องกับตลาดเป้าหมายของเรามั้ย มีอะไรต้องปรับปรุงหรือพัฒนาไหม ดังตารางข้างล่าง ซึ่งน้องๆ สามารถก็อปไปใช้ได้
 

 
 

บอกเลยว่านี่เป็นแค่น้ำจิ้ม เพราะตารางมีประโยชน์มากกว่านี้ มันสามารถช่วยให้เราดึงจุดเด่นของนิยายเราออกมาได้ และยังช่วยให้เราประหยัดเวลาในเรื่องข้อมูลด้วย เมื่อเห็นแล้วว่าตารางมีประโยชน์ขนาดนี้ มาดูกันดีกว่าว่า ในฐานะนักเขียน เราจะใช้ตารางให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ยังไงบ้าง ตามมา!!
 

เริ่มต้นจัดระเบียบ

เพื่อพัฒนาตารางของเราให้แข็งแกร่ง เราจะต้องจัดระเบียบเรื่องราวหรือข้อมูลของเราให้เป็นโครงสร้างหนังสือก่อน สิ่งเหล่านี้เรียกว่า “บท” จริงอยู่ที่มีหลายวิธีในการเริ่มเขียนหนังสือ แต่การจัดระเบียบเป็นสเต็ปแรกที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราวางแผนที่จะเขียนสารคดีหรือหนังสือแนว non-fiction 

แต่ถ้าเราเป็นนักเขียนนิยายล่ะ? การจัดระเบียบสามารถเป็นกุญแจสำคัญสำหรับนักเขียนนิยายได้เช่นกันนะ โดยเฉพาะถ้าเรามีตัวละครหรือเหตุการณ์มากมายที่ต้องติดตามในเนื้อเรื่องของเรา การอาศัยความทรงจำของเราเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน สามารถหลงๆ ลืมๆ ตอนเขียนนิยายได้ แต่ถ้าเรามีตาราง ทุกอย่างก็จะเป็นระเบียบ ไม่ต้องจำอะไรมากมายให้ปวดหัว แถมเรื่องราวของเรายังสอดคล้องกับข้อมูลที่มีด้วย
 

...........
 

01 ใช้ตารางสร้างตัวละครให้สมจริง

สำหรับนักเขียนนิยาย ตัวละครถือว่าสำคัญที่สุด ตัวละครของเราควรมีชีวิตชีวาสำหรับผู้อ่าน เพื่อที่นักอ่านจะได้รู้สึกราวกับว่าพวกเขามีตัวตนอยู่จริงๆ การสร้างตารางที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลตัวละครจะทำให้เราเข้าใจตัวละครของเราดีขึ้น และมันยังช่วยให้นักเขียนพัฒนาตัวละครให้น่าเชื่อถือ น่าหลงใหลและไม่เหมือนใคร ข้อมูลในตารางส่วนใหญ่ก็มีทุกอย่าง ตั้งแต่ชื่อจริง ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด ความสนใจ บุคลิกภาพ รูปลักษณ์ ไปจนถึงทัศนคติเลยค่ะ เช่น
 

• ข้อมูลตัวละคร - ชื่อตัวละคร ชื่อเล่น วันเกิด สถานะ เชื้อชาติ
• ลักษณะภายนอก - อายุ น้ำหนัก ลักษณะรูปร่าง สีผิว แผลเป็น รูปหน้า
• ความชอบ - สีที่ชอบ งานอดิเรก หนังสือที่ชอบ อาหารที่ชอบ
• ความสนใจ - สีที่ไม่ชอบ อาหารที่ไม่ชอบ 
• ครอบครัว - ความสัมพันธ์กับแม่ / พ่อ / พี่น้อง ความใกล้ชิดกับคนในครอบครัว
• ทัศนคติ - ปรัชญาการใช้ชีวิต ความล้มเหลวที่เคยเจอ รู้สึกยังไงกับตัวเอง ความฝันคืออะไร
• บุคลิกภาพ - จุดแข็ง จุดอ่อน 
• ลักษณะเด่น - บุคลิกที่ดี แรงกระตุ้น พรสวรรค์ ความลับ
   

ซึ่งด้านล่างนี้คือตัวอย่างของตารางที่นักเขียนสามารถหยิบไปสร้างเป็นเวอร์ชั่นของตัวเองได้ รับรองว่าเราจะเข้าใจตัวละครมากขึ้นแน่นอน แต่ถ้าใครรู้สึกว่าตารางที่ให้ยังไม่จุใจ เพื่อนนักเขียนเด็กดีได้แจกแบบฟอร์มการสร้างตัวละคร ลองคลิกไปดูได้ที่ How To Write :' เคล็ดลับในการเขียนนิยาย XD ของฌามส์ เลยค่ะ
 

ตัวอย่างข้อมูลตัวละคร
 

ตัวอย่างลักษณะภายนอก
 

ตัวอย่างทัศนคติ
 

นอกจากนี้ ตารางยังเป็นประโยชน์สำหรับนักเขียนแนวเกมออนไลน์หรือแนวระบบด้วย เช่นถ้าเราต้องการแสดงค่าพลัง เลเวลของตัวละคร หรือแม้กระทั่งพลังวิเศษ ให้นำข้อมูลทั้งหมดมาใส่ในตางราง แล้วแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อย เวลานักอ่านมาอ่านจะได้ไม่งงค่ะ เช่น
 

 

02 ใช้ตารางสร้างพล็อตให้แข็งแรง

สำคัญพอๆ กับตัวละครเลยก็คือพล็อตนี่แหละ เราควรวางพล็อตนิยายตั้งแต่เริ่มต้น แค่นึกภาพของนิยายทั้งหมดในหัวเราก่อนเริ่มเขียนก็รู้สึกว่ายากแล้วใช่มั้ย ไอเดียทั้งหมดไม่มีทางเป็นไปได้แน่ถ้าปราศจากการลงมือเขียน แต่ถ้าให้เขียนลงกระดาษเลยตรงๆ ก็ดูจะรกรุงรัง ข้อมูลเยอะเกินไป ขาดการจัดระเบียบ งั้นพี่ขอแนะนำให้ใช้ตารางในการสร้างพล็อตเลยค่ะ ง่ายๆ ไม่วุ่นวาย เพราะตารางสามารถช่วยให้เราเข้าใจพล็อตมากขึ้น ลองดูตัวอย่างด้านล่างสิ
 

ง่ายใช่มั้ย? จากนั้นร่างคำตอบของเราลงไปในตารางด้วยคำที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นหมายถึง สูงสุดประมาณ 1-2 ระโยคสำหรับแต่ละหัวเรื่อง แต่ถ้านั่นดูใจร้ายไป อนุญาตให้ใส่ 3 ประโยคก็ได้สำหรับส่วน “การพัฒนา” เพื่อไว้สำหรับจุดที่ต้องการหักมุมหรือพลิกแพลง แต่ที่เราต้องการมากที่สุดไม่ใช่ความซับซ้อน แต่เป็นความเรียบง่าย ท่องไว้ว่านี่เป็นแค่โครงเรื่อง พล็อตคร่าวๆ แล้วไปใส่รายละเอียดทีเดียวตอนเขียนเลย

หากยังนึกภาพตามไม่ออก พี่น้ำผึ้งมีตัวอย่างมาให้ สมมติว่าชื่อของเราคือ เจน ออสเตน และเรามีไอเดียที่อยากจะเขียนนิยายเกี่ยวกับผู้ชายที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์ แต่มีอคติอยู่บ้าง เทมเพลตพล็อตของเราอาจมีลักษณะเช่นนี้
 

 

ไงล่ะ ฟังดูง่ายใช่มั้ย ทั้งหมดนี้คือพล็อตเรื่องหลักของ “Pride and Prejudice” ดูง่ายมากเลยแหละ เราก็แค่ทำสิ่งเดียวกันนี้กับหนังสือหรือไอเดียของเรา และทำให้มันง่ายเข้าไว้ ในความเป็นจริงหากเราพยายามที่จะรู้ทุกสิ่งที่อยู่ในส่วน “การพัฒนา” เราสามารถจดโน้ตเป็นความเห็นไว้ข้างๆ หรือเพิ่มคอลัมน์เป็นชื่อ comment ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นเจน ออสเตน เราอาจเริ่มต้นด้วยการพูดอะไรบางอย่างเช่น “ลิซซี่ห่างกันสักพักกับวิคแฮม เพราะมันดันกลายเป็นว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาทำอะไรล่ะ...เขาฆ่าใครบางคน? ขโมยเงิน หรืออื่นๆ อีก? มีมากมายที่ชวนคิด

โอเค แต่ถ้าใครรู้สึกว่าตารางด้านบนเบสิคไป เราสามารถทำตารางพล็อตย่อยเพิ่มได้นะ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับตารางพล็อตหลักโดยตรง อาจจะออกมาในรูปแบบตารางดังต่อไปนี้
 

 

สมมติว่าเราเป็นเจน ออสเตนอีกครั้ง และมีการจัดการในเรื่องราวของตัวเองอย่างดี เราอาจรวบรวมบางอย่างเช่นนี้ 
 

สังเกตดูดีๆ ว่าเรายังไม่ได้พยายามรวมสิ่งเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ในความเป็นจริงวิธีที่เราทำไป พล็อตย่อยที่ 3 (ซึ่งเกิดขึ้นตรงกลางของหนังสือ) มาหลังจากพล็อตย่อยที่ 2 (ซึ่งมาถึงตอนท้าย) แต่ไม่ต้องกังวล เมื่อเรามีตารางพล็อตย่อย เราจะสามารถโยงเนื้อหาที่ต่างกันให้เข้ากันได้ เริ่มต้นร่างเนื้อหาเรื่องราวของเราอย่างรวดเร็ว เหมือนอย่างที่ออสเตนเพิ่งทำไป จากนั้นผสานทั้งหมดเข้าด้วยกัน จัดระเบียบพล็อต เรียงสิ่งต่างๆ อย่างเป็นลำดับที่ถูกต้อง หาแรงจูงใจของตัวละครที่สอดคล้องกัน แค่นี้ก็พล็อตนิยายที่สมบูรณ์แบบแล้ว

 

03 ใช้ตารางสร้างโลกของเราให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

สร้างโลกนิยายให้สมจริงนี่แหละงานหินที่สุด คนส่วนใหญ่มักละเลยเรื่องนี้เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น แต่ถ้าเราสังเกตงานเขียนของนักเขียนเก่งๆ อย่างโทลคีน เจ้าของเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริง เจ.เค.โรว์ลิ่ง เจ้าของเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือแม้กระทั่งเกมออฟโธรน เราจะพบว่าเซ็ตติ้งและฉากของเรื่องล้วนสมจริง ชวนให้นักอ่านหลุดเข้าไปในนิยายของพวกเขา

ถ้าเราอยากให้นักอ่านหลุดเข้าไปในโลกของเราบ้าง การสร้างตารางใส่รายละเอียดโลกสมมติเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทีนี้จะเขียนฉากแบบไหน แค่หยิบตารางนี้มาอ่านก็นึกภาพในหัวตามได้แล้ว ส่วนด้านล่างนี้คือตารางสร้างโลกคร่าวๆ ที่พี่น้ำผึ้งนำมาฝากค่ะ
 

คุณสมบัติทางกายภาพและประวัติศาสตร์

ทั่วไป
สภาพภูมิอากาศและภูมิศาสตร์	ทรัพยากรธรรมชาติ
ประวัติศาสตร์โลก	ประวัติศาสตร์เฉพาะประเทศ